ช่วงพลบค่ำ ซิงเฟยใส่หน้ากากเพื่อเปลี่ยนรูปลักษณ์ แล้วก็มุ่งหน้าไปที่หอไป่เต้า เพื่อจำหน่ายตราทองให้กับหอไป่เต้า ในราคาน้ำชี่ทิพย์จำนวนสองหมื่นหยด
จากนั้น ก็ไปซื้อร้านค้าที่ตลาดทางตอนใต้ของเมือง แล้วก็รีบทำการจัดเก็บร้านโดยเร็วที่สุด
วันรุ่งขึ้น ก็ได้ไปซื้อวัตถุดิบบางชนิดมาอีก แล้วนำไปให้กับหลินหยุนที่วิมาน หลินหยุนก็ได้หลอมเครื่องรางทิพย์ชั้นต้นออกมาอีกหนึ่งชิ้น และเครื่องรางทิพย์ชั้นกลางหนึ่งชิ้น
เครื่องรางทิพย์สองชิ้นได้เตรียมพร้อมไว้แล้ว
วันที่สาม ก็ได้แขวนป้ายชื่อของร้านขึ้น ซึ่งซิงเฟยเป็นคนเขียนขึ้นเอง
โดยเป็นตัวอักษรที่ไม่ค่อยจะบรรจงเท่าไร—- หอเครื่องรางทิพย์!
ตัวอักษรไม่สวยงาม ร้านค้าก็มีขนาดเล็ก และก็ไม่ได้ตกแต่งอะไรมากมาย ทุกอย่างเรียบง่ายอย่างที่สุด
แต่ชื่อร้านนี้กลับไม่ธรรมดา ค่อนข้างจะโอ้อวด ค่อนข้างจะทรงอิทธิพล
ดังนั้น ขณะที่นำป้ายชื่อที่อัปลักษณ์นี้แขวนขึ้น ก็ดึงดูดสายตาของผู้คนจำนวนมากในทันที
หอเครื่องรางทิพย์?
หมายความว่าอะไร?
จำหน่ายเครื่องรางทิพย์โดยเฉพาะ?
ใครกันที่กล้าหาญมากขนาดนี้?
ดังนั้น ไม่นานก็มีคนที่อยากรู้อยากเห็นและจิตใจแฝงไปด้วยความเหยียดหยาม เดินเข้ามาในร้าน แน่นอนว่าหลังจากที่เห็นเครื่องรางทิพย์สองชิ้นที่ใช้สำหรับจำหน่ายภายในร้านนั้นแล้ว ต่างก็พูดอะไรไม่ออกเลย
สินค้าจำนวนน้อยมากอย่างน่าสงสาร!
แต่เขาไม่ได้พูดโกหก โดยจำหน่ายเครื่องรางทิพย์จริง ๆ
ดังนั้นชื่อหอเครื่องรางทิพย์นี้ ก็ได้แพร่กระจายไปทั่วอย่างรวดเร็ว
ผู้ที่เข้ามาในร้านมีจำนวนมากขึ้น ไม่นานพวกยอดฝีมือบางคนก็ได้รับรู้ถึงข่าวสารนี้
รวมถึงหอไป่เต้าก็รับรู้ด้วยเช่นกัน
ช่วงหัวค่ำของวันที่สาม ก็มีบุคคลยิ่งใหญ่จำนวนไม่น้อยทยอยกันมายังทางตอนใต้ของเมืองที่เดิมทีสงบเงียบเป็นอย่างมาก
โดยล้วนมากันที่หอเครื่องรางทิพย์
จางฟาฉายเดินเข้ามาด้านใน แล้วก็ยกมือแสดงความเคารพต่อซิงเฟย และพูดขึ้นว่า ที่แท้ก็คือแม่นางท่านนี้เอง คิดไม่ถึงจริง ๆ ว่า แม่นางเพิ่งจะจำหน่ายเครื่องรางทิพย์ชั้นต้นหนึ่งชิ้นให้กับพวกเราหอไป่เต้า และก็ได้นำออกมาเพิ่มอีกสองชิ้นแล้ว อีกทั้งยังมีหนึ่งชิ้นที่เป็นเครื่องรางทิพย์ชั้นกลางด้วย!
ซิงเฟยพูดขึ้นว่า คุยกันได้! สหายจางยังต้องการเครื่องรางทิพย์สองชิ้นนี้ของเราอีกใช่ไหม? ถ้าหากต้องการจริง ๆ ก็พูดคุยราคากันได้!
ขณะที่พูด ซิงเฟยก็หัวเราะขึ้นเบา ๆ โดยสายตามองไปที่พวกผู้คนที่ยืนอยู่ด้านหลังจางฟาฉาย
ทุกท่าน หากใครต้องการก็เสนอราคาออกมากันได้เลย เพียงแค่ราคาเหมาะสมก็สามารถซื้อได้!
สินค้าของหอเครื่องรางทิพย์ของเรา ล้วนแต่เป็นสินค้าชั้นยอดของจริงทั้งนั้น!
สินค้าวางอยู่ตรงนี้แล้ว สหายทุกท่านคงจะมองกันออกอย่างแน่นอน!
ไม่รอให้คนอื่นพูด จางฟาฉายก็พูดขึ้นอย่างยิ้มแย้มว่า สหายคนนี้พูดได้ถูกต้อง สินค้าของหอเครื่องรางทิพย์นั้น ล้วนเป็นสินค้าชั้นยอดที่หาได้ยาก หอไป่เต้าต้องการอยากได้แน่นอน!
หอไป่เต้าเปิดกิจการไปทั่วโลกคุนชาง กิจการครอบคลุมไปทั่วทุกมุมของโลกคุนชาง เมื่อพบเจอเครื่องรางทิพย์แบบนี้ คงเป็นที่ต้องการอย่างแน่นอน
พูดถึงวันก่อนที่ซิงเฟยได้ขายเครื่องรางทิพย์ชั้นต้นชิ้นนั้นให้กับเขา ภายในขอบเขตของเครื่องรางทิพย์ชั้นต้นแล้ว ถือได้ว่าเป็นชิ้นที่เยี่ยมยอดอย่างมาก และสูงส่งอย่างมากด้วย
เวลานี้ เครื่องรางทิพย์สองชิ้นในหอเครื่องรางทิพย์นี้ ก็เช่นเดียวกัน
เมื่อหอไป่เต้าเป็นผู้ครอบครอง ก็จะเพิ่มมูลค่าได้มากขึ้นไปอีก
อย่าได้มองว่าเป็นเพียงเครื่องรางทิพย์ชั้นต้นและเครื่องรางทิพย์ชั้นกลาง แต่ทั่วทั้งโลกคุนชางนี้ ผู้ที่ต้องการมีอยู่มากมาย ซึ่งไม่ใช่ว่ายอดฝีมือยาทองแต่ละคน จะมีเครื่องรางทิพย์ไว้ใช้
สิ่งเหล่านี้ได้มาโดยบังเอิญเพราะมีโชควาสนาเท่านั้น
สำนักต้วนเสินหนึ่งในเก้าสำนักใหญ่ มีคนในสำนักน้อยมาก แม้ว่าพลังบำเพ็ญของเจ้าสำนักจะไม่ได้สูงส่งอะไรนัก แต่สำนักก็มีสถานะอยู่ในอันดับที่สามของเก้าสำนักใหญ่
ทำไมถึงได้มีสถานะที่สูงส่งเช่นนี้ ก็เป็นเพราะ ทั่วทั้งโลกคุนชาง ไม่ว่าจะเป็นสำนักใหญ่ที่แข็งแกร่งสำนักไหน หรือจะเป็นผู้ฝึกอิสระที่แข็งแกร่งคนไหน ต่างก็ต้องขอความช่วยเหลือจากพวกเขาเพื่อทำการหลอมเครื่องราง
ทั้งหาวัตถุดิบ ให้น้ำชี่ทิพย์ และยังจะต้องเป็นหนี้บุญคุณขนาดใหญ่อีกด้วย
ดังนั้น ในโลกคุนชางมีคำกล่าวที่แพร่หลายคำหนึ่งที่ว่า ล่วงเกินใครก็ได้แต่ห้ามล่วงเกินสำนักต้วนเสินเด็ดขาด
นี่เป็นเพราะว่าเครื่องราง เครื่องรางทิพย์นั้น มีความต้องการอย่างมากเลยทีเดียว
หอไป่เต้าที่สามารถยืนหยัดอยู่ได้มาเป็นเวลานานนี้ ก็เพราะพวกเขาเองมีความสามารถในการแข่งขันหลัก ก็คือมีอาจารย์หลอมเครื่องรางของตนเอง และมีอาจารย์กลั่นยาของตนเอง
แต่เพราะความต้องการสูง หอไป่เต้าจึงไม่สามารถที่จะทำขึ้นอย่างเพียงพอได้
ดังนั้นจางฟาฉายต้องการที่จะครอบครองเครื่องรางทิพย์สองชิ้นนี้ให้ได้
ถ้าหากเขารู้ว่า เครื่องรางทิพย์กี่ชิ้นนี้ ถูกหล่อหลอมขึ้นอย่างง่ายดาย ราวกับว่าดื่มน้ำอย่างไรอย่างนั้น เกรงว่าคงจะตกตะลึงจนอ้าปากค้าง
ขณะนั้นเอง ด้านหลังของจางฟาฉาย ผู้อาวุโสคนหนึ่งในชุดคลุมยาวสีน้ำตาลก็ได้พูดขึ้นว่า ไอ้จาง หอไป่เต้าของนายอย่าได้โลภมากขนาดนั้น แบ่งโอกาสให้กับคนอื่นบ้างไม่ได้เหรอ?
จางฟาฉายหันหน้ามองไปที่ผู้อาวุโส หัวเราะเหอะเหอะ และพูดว่า ท่านฉี ท่านพูดอะไรแบบนี้ ถ้าหากท่านฉีต้องการ อย่างนั้นก็ให้โอกาสกับท่านฉีก่อน พวกเราคนกันเองพูดคุยกันได้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?
ฉีเยว่ ผู้อาวุโสเก้าแห่งสำนักเทียนหยุน มีสถานะที่สูงศักดิ์มาก
จางฟาฉายไม่กล้าที่จะล่วงเกินอย่างแน่นอน
ได้ยินจางฟาฉายพูดแบบนี้ ฉีเยว่ก็หัวเราะขึ้น พยักหน้าอย่างพึงพอใจ
ซิงเฟยพูดขึ้นว่า ทุกท่าน หอเครื่องรางทิพย์ของเรานั้นจำหน่ายเครื่องรางทิพย์ก็จริง แต่ไม่รับน้ำชี่ทิพย์ รับเพียงแค่สิ่งของแลกเปลี่ยน!
พูดให้เข้าใจง่ายขึ้นก็คือ ต้องการแค่สมบัติทั่วฟ้าดิน ซึ่งต้องเป็นสมบัติทั่วฟ้าดินของจริงเท่านั้น!
อีกทั้ง พวกเรายังสามารถที่จะหลอมเครื่องรางทิพย์ให้เหมาะสมตรงตามความต้องการของทุกท่านได้อีกด้วย!
ไม่ว่าจะเป็นเครื่องรางทิพย์ชั้นต้น เครื่องรางทิพย์ชั้นกลาง หรือว่าเครื่องรางทิพย์ชั้นสูง รวมไปถึงเครื่องรางทิพย์ชั้นยอด ก็สามารถที่จะทำการหลอมให้กับทุกท่านได้!
เพียงแค่ทุกท่านนำสมบัติทั่วฟ้าดินมาแลกเปลี่ยน ทุกอย่างก็ไม่ใช่ปัญหา
ได้ยินซิงเฟยพูดแบบนี้ ทุกคนต่างก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปโดยพลัน สายตาก็แสดงอาการที่ตกตะลึงขึ้น
แม้แต่ผู้ที่มีประสบการณ์อย่างจางฟาฉาย รวมถึงฉีเยว่ผู้อาวุโสเก้าแห่งสำนักเทียนหยุนต่างก็พากันสูดลมหายใจลึก
จางฟาฉายพูดขึ้นอย่างตื่นเต้นว่า แม่นาง เธอพูดว่าหอเครื่องรางทิพย์นั้นแม้แต่เครื่องรางชั้นสูง ไปจนถึงเครื่องรางชั้นยอดก็สามารถหลอมขึ้นได้ใช่ไหม?
ซิงเฟยพยักหน้าอย่างไม่ได้สนใจ และพูดขึ้นว่า แน่นอน ถ้าสหายทุกท่านต้องการ ก็สามารถมาที่หอเครื่องรางทิพย์ของฉันได้เลย!
ฉีเยว่ดวงตาเป็นประกาย สูดหายใจลึกและพูดขึ้นว่า แม่นาง ที่เธอพูดนี้เป็นความจริงใช่ไหม?
ซิงเฟยพูดขึ้นว่า เป็นความจริงแน่นอน! ผู้อาวุโสท่านนี้ไม่จำเป็นต้องสงสัยอะไร ถ้าหากต้องการก็มาที่หอเครื่องรางทิพย์ของฉันได้เลย
แต่ฉันขอย้ำอีกครั้งนะว่า หอเครื่องรางทิพย์ของเรารับเฉพาะสมบัติทั่วฟ้าดินเท่านั้น ไม่รับน้ำชี่ทิพย์!
ฉีเยว่เปลือกตากระตุก และพูดขึ้นว่า แม่นาง ที่ฉันทราบมานั้นทั่วทั้งโลกคุนชาง ผู้ที่สามารถหลอมเครื่องรางทิพย์ชั้นยอดได้น่าจะมีเพียงแค่สามคน!
ในจำนวนนี้อยู่ที่สำนักต้วนเสินสองคน และที่หอไป่เต้าอีกหนึ่งคน
ไม่ทราบว่าอาจารย์หลอมเครื่องรางของหอเครื่องรางทิพย์ของเธอนี้ คือผู้ใด?
ซิงเฟยได้ยินดังนั้นก็หัวเราะเหอะเหอะ มองไปที่ฉีเยว่และพูดขึ้นว่า ผู้อาวุโส เรื่องนี้ฉันไม่สามารถที่จะบอกให้ทราบได้ อาจารย์ของฉันเพียงแค่สั่งให้ฉันเปิดหอเครื่องรางทิพย์ขึ้นที่นี่ เรื่องอื่นนั้นฉันไม่กล้าที่จะพูดมากเกินไป!
ได้ยินซิงเฟยพูดขึ้นแบบนี้ จางฟาฉายกับฉีเยว่ก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปอีกครั้ง โดยที่ทั้งสองคนมองหน้าสบตาซึ่งกันและกัน
จางฟาฉายพูดขึ้นว่า ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ฉันเองก็จะไม่สอบถามอะไรอีกแล้ว! ครั้งนี้หอไป่เต้าของเราก็ใจกว้างหน่อยแล้วกัน เครื่องรางทิพย์สองชิ้นนี้ ปล่อยให้ทุกท่านได้เลือกสรรตามสบายเลย!
ถ้าหากใช้น้ำชี่ทิพย์ในการซื้อแล้ว เขาเองไม่มีทางที่จะปล่อยให้หลุดมือไปแน่
แต่การที่จะนำสมบัติมาแลกเปลี่ยนนั้น ก็ถือว่าเป็นอีกเรื่องหนึ่งไปเลย
จางฟาฉายหันหลังเดินจากไป
ฉีเยว่เองก็ยกมือแสดงความเคารพต่อซิงเฟย และพูดขึ้นว่า แม่นาง ฉันก็ขอตัวกลับก่อนแล้ว!
สามารถที่จะสั่งทำขึ้นได้ ย่อมจะต้องดีกว่าสิ่งของที่ทำขึ้นแล้วอย่างแน่นอน
ส่วนคนอื่น ๆ ที่กำลังมองดูเครื่องรางทิพย์สองชิ้นนี้ก็ได้แต่ถอนหายใจทำอะไรไม่ได้
หากเป็นน้ำชี่ทิพย์บางทีพวกเขาอาจจะสามารถนำออกมาได้บ้าง แต่สมบัติล้ำค่า โดยเฉพาะสมบัติล้ำค่าที่สามารถนำมาแลกเปลี่ยนได้นั้น พวกเขาไม่มีจริง ๆ