เวลานี้ ยอดฝีมือจำนวนไม่น้อยต่างพากันออกมาที่นอกเมือง โดยยืนอยู่กันกลางอากาศ
ทุกคนต่างก็มองไปยังหลินหยุนกับเสิ่นปิงชิงด้วยความตื่นเต้นระทึกใจ
แม้ว่าหลินหยุนจะดูค่อนข้างน่าสงสารเวทนา แต่ว่าก็ยังทำให้ทุกคนที่อยู่โดยรอบนั้น ตกใจตื่นตะลึงอย่างที่สุด
ไอ้หนุ่มนี้ช่างน่ากลัวยิ่งนัก!
เมื่อครู่ที่แผ่นหยกระเบิดขึ้น พลังอานุภาพที่แสดงออกมานั้น จะต้องเป็นพลังบำเพ็ญขั้นยาทองระดับแปดของผู้บำเพ็ญเซียนชั้นยอดอย่างแน่นอน ถึงจะสามารถแสดงพลังอานุภาพออกมาได้อย่างน่าสะพรึงกลัวขนาดนี้
อย่างไรก็ตาม ภายใต้พลังการโจมตีที่น่ากลัวนั้น อิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ของหลินชางฉองที่ได้แสดงออกมานั้นก็ยังไม่เคยได้ยินได้เห็นมาก่อนเลยเช่นกัน โดยคิดไม่ถึงว่าอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์นั้น จะสามารถต้านทานตอบโต้การโจมตีของพลังขั้นยาทองระดับแปดกลับไปได้
ช่างน่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก!
นี่ก็คือหลินชางฉองที่ไปก่อเรื่องจนทำให้สำนักเทียนหยุนอลหม่านวุ่นวาย และบาดเจ็บสาหัสกันไปหมดอย่างนั้นเหรอ?
ชื่อเสียงของคนผู้นี้ ในช่วงก่อนหน้านี้นั้น ได้แพร่กระจายโด่งดังไปทั่วโลกคุนชางเลย
แต่ไม่มีใครพบเจอกับตัวตนที่แท้จริงของเขา และมีไม่กี่คนที่จะรู้สึกถึงความน่าสะพรึงกลัวนั้น!
ได้ยินว่า วันนั้นสามารถหลบหนีการไล่ล่าสังหารของรองเจ้าสำนักเทียนหยุนได้สำเร็จด้วย!
ตอนนี้ดูเหมือนว่า จะน่ากลัวมากจริง ๆ เลยทีเดียว!
ยังมีคำร่ำลือกันอีกว่า หลินชางฉองนั้นเป็นยอดฝีมืออาวุโสที่มีความแค้นบาดหมางอย่างหนักกับสำนักเทียนหยุน!
ตอนนี้ดูเหมือนว่า จะไม่ใช่ยอดฝีมืออาวุโสอะไรที่พูดกัน คนผู้นี้มีลมหายใจของชีวิตที่ยังเด็กอยู่มาก นั่นคงจะไม่ใช่ยอดฝีมืออาวุโสอะไรอย่างแน่นอน แต่เป็นยอดฝีมือที่เก่งกาจไร้เทียมทานที่แท้จริง มิน่าล่ะที่คนผู้นี้ถึงได้ปลอมตัวเป็นบุตรอริยสัจแห่งสำนักอริยสัจ!
ผู้ที่อายุน้อยขนาดนี้ และมีพลังบำเพ็ญที่น่าสะพรึงกลัวขนาดนี้ คิดไม่ถึงว่าจะสามารถต้านทานการโจมตีของยอดฝีมือขั้นยาทองระดับแปดได้ ต่อให้เป็นถึงบุตรอริยสัจแห่งสำนักอริยสัจตัวจริง ก็คงจะไม่เกินไปกว่านี้แล้วล่ะ!
น่าเสียดายจริง ๆ!
คนผู้นี้อาศัยว่าตนเองมีความเก่งกาจ มีพลังบำเพ็ญที่แข็งแกร่ง แม้แต่สำนักเทียนหยุนที่ยิ่งใหญ่ก็ยังกล้าที่จะไปก่อเรื่องสร้างความวุ่นวายได้!
ไม่เพียงเท่านี้ ยังกล้าที่จะปลอมตัวเป็นท่านบุตรอริยสัจแห่งสำนักอริยสัจอีก ช่างกล้าหาญบ้าบิ่นยิ่งนัก!
ดูกันไปเถอะ เกรงว่าอีกไม่นานยอดฝีมือของสำนักเทียนหยุนก็จะมาถึงกันแล้ว!
หากว่าไอ้หนุ่มนี้ไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ก็ยังมีโอกาสที่จะหลบหนีเอาตัวรอดไปได้บ้าง!
แต่ตอนนี้……
ในเวลานั้น ฉวี่เทียนซินและผู้อาวุโสสำนักกวางยักษ์สองคน ก็กำลังมองดูสถานการณ์นี้อย่างหวั่นวิตกอยู่กลางอากาศ
ผู้อาวุโสหนึ่งในนั้น เห็นว่าเสิ่นปิงชิงกำลังอยู่ภายใต้การควบคุมของหลินหยุน
โดยที่สามารถลงมือสังหารเสิ่นปิงชิงได้ตลอดเวลา
ขณะที่เขากำลังจะลงมือนั้น ก็ได้ถูกฉวี่เทียนซินขัดขวางเอาไว้
ผู้อาวุโสพูดขึ้นว่า คุณชาย ทำไมต้องขัดขวางฉันด้วย? คุณชายมองไม่เห็นหรืออย่างไรว่า นางฟ้าปิงชิงนั้นมีโอกาสที่จะถูกเทพสังหารหลินชางฉองนั้นลงมือสังหารได้ทุกเมื่อ แล้วพวกเราจะทนดูกันอยู่แบบนี้เหรอ?
หากว่านางฟ้าปิงชิงเสียชีวิตลงไปจริง ๆ คุณชาย ที่นี่คือด้านนอกของเมืองกวางใหญ่นะ!
นางฟ้าปิงชิงคนนี้ เป็นถึงหนึ่งในอัจฉริยะสูงสุดที่แท้จริงในจำนวนไม่กี่คนของสำนักอริยสัจ หากว่าเสียชีวิตลงที่นี่จริง ๆ สำนักกวางยักษ์ของเราจะรอดพ้นจากความเกี่ยวข้องนี้ไปได้เหรอ?
ฉวี่เทียนซินสูดหายใจลึก ได้ยินดังนั้นแล้วก็พูดขึ้นด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึมว่า ฉันรู้แล้วว่าจะมีสถานการณ์แบบนี้ขึ้นแน่นอน! แต่ว่าอาสาม ท่านรู้เบื้องลึกของหลินชางฉองบ้างไหมว่า? คนผู้นี้ยังจะมีไพ่เด็ดใบสุดท้ายอะไรอีกไหม?
นี่……คุณชาย ไม่ว่าคนผู้นี้จะมีเบื้องลึกอย่างไร ก็คงจะไม่สามารถเทียบเคียงกับสำนักอริยสัจได้ไม่ใช่เหรอ?
สถานการณ์ในตอนนี้ สำหรับสำนักกวางยักษ์ของเราแล้วนั้น ก็เปรียบได้กับการขึ้นขี่หลังเสือแล้วลงยาก!
ไม่ว่าทางซ้ายหรือขวาก็จะต้องล่วงเกินฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง!
ฝ่ายหนึ่งคือหลินชางฉองที่ไม่ทราบสถานะชัดเจน อีกฝ่ายหนึ่งคือสำนักอริยสัจที่ยิ่งใหญ่!
การเลือกตัดสินใจนี้ คงไม่ใช่เรื่องยาก!
ฉวี่เทียนซินสูดหายใจลึก ครุ่นคิดชั่วครู่ และพูดเสียงแข็งขึ้นว่า ใช่สิ เลือกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ก็ยังดีกว่าไม่เลือกฝ่ายใดเลย! หากไม่เลือก จะล่วงเกินทั้งสองฝ่าย หากเลือก ก็จะล่วงเกินเพียงแค่ฝ่ายเดียว!
ผู้อาวุโสพยักหน้าและพูดว่า ก็คือเหตุผลนี้!
ฉวี่เทียนซินพูดขึ้นว่า ตกลง อย่างนั้นก็เชิญอาสามลงมือเถอะ!
ผู้อาวุโสพูดขึ้นว่า คุณชายลงมือลุยอย่างเต็มที่เลย ถ้าหากเกิดพลาดพลั้ง คนของสำนักเทียนหยุนอีกไม่นานก็คงจะมาถึงแล้ว! ไอ้หนุ่มนี้ ไม่ว่าจะมีไพ่เด็ดอะไร วันนี้ก็คงต้องตายสถานเดียว!
สำหรับการที่ลงมือต่อหลินหยุน ช่วยเหลือเสิ่นปิงชิงนั้น เมื่อสำนักเทียนหยุนมาถึง สำนักเทียนหยุนก็คงจะขอบคุณพวกเขาอย่างที่สุดแน่นอน
ในขณะเดียวกัน สำนักอริยสัจเองก็เช่นกัน!
ลงมือกระทำการเพียงอย่างเดียว ก็สามารถที่จะเชื่อมสัมพันธ์กับสองสำนักในเก้าสำนักใหญ่เลยทีเดียว
โอกาสเช่นนี้ ไม่สามารถที่จะปล่อยให้หลุดมือผ่านไปได้ เรียกได้ว่าเป็นโอกาสที่หาได้ยากมากเลย! ดังนั้น เมื่อพูดจบลง ผู้อาวุโสก็ย่ำขึ้นไปในอากาศแล้วเหาะเหินไป มาถึงที่เบื้องหน้าของหลินหยุนกับเสิ่นปิงชิง
ในขณะเดียวกันนี้ ฉวี่เทียนซินก็ได้หันหลังมองไปที่ผู้อาวุโสด้านข้างพร้อมกับพูดขึ้นว่า อาสี่ เวลานี้หลินชางฉองได้รับบาดเจ็บสาหัส คงจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอาสามอย่างเด็ดขาด!
มองเห็นผู้หญิงที่มาด้วยกันกับเขาที่อยู่ในอากาศคนนั้นไหม รบกวนอาสี่ช่วยไปจับตัวผู้หญิงคนนั้นมาให้หน่อย!
ในเมื่อคิดจะลงมือแล้ว ก็จะต้องกระทำให้ถึงที่สุดไปเลย!
ต่อให้หลินชางฉองจะมีไพ่เด็ดที่ร้ายกาจมากแค่ไหน แต่หากมีผู้หญิงคนนี้อยู่ในมือแล้ว สำนักกวางยักษ์ของเราก็คงจะไม่พ่ายแพ้เป็นแน่!
ผู้อาวุโสได้ยินดังนั้น ก็เคลื่อนสายตา พร้อมกับพยักหน้า
สูดลมหายใจลึก และพุ่งตรงเข้าไปหาซินเฟย
ซินเฟยในเวลานี้ เห็นว่าหลินหยุนกำลังรับบาดเจ็บสาหัส ก็ไม่กล้าที่จะเข้าไปหาในทันที
เธอไม่ได้กลัวสิ่งอื่นใด แต่กลัวว่าจะสร้างปัญหาให้กับหลินหยุน
ไม่สามารถช่วยเหลือได้ แต่กลับจะกลายเป็นตัวถ่วงไปอีก แบบนี้คงจะไม่ได้อย่างเด็ดขาด!
แต่ว่าในขณะที่เธอกำลังวิตกกังวลเกี่ยวกับหลินหยุนอยู่นั้น เงาร่างที่แข็งแกร่งก็ได้พุ่งตรงมาหาเธออย่างรวดเร็ว
ซินเฟยตื่นตกใจขึ้นอย่างกะทันหัน
ซึ่งคิดไม่ถึงว่า จะมีคนที่ลงมือกับเธอด้วย
เธอนึกว่าเพียงแค่ระมัดระวังคนของสำนักเทียนหยุนก็เพียงพอแล้ว
แต่ในเวลานี้คนของสำนักเทียนหยุนยังไม่ได้ปรากฏตัว ยังจะมีคนที่คิดจะลงมือกับเธออีก ซึ่งเรื่องนี้เธอเองก็คาดคิดไม่ถึงจริง ๆ
โดยได้หันหลังเพื่อที่จะหลบหนีอย่างรวดเร็ว
แต่มือยักษ์ที่มองไม่เห็น ก็ได้ปิดกั้นและรั้งตัวเธอเอาไว้อยู่ตรงกลางทันที……
ส่วนอีกฝั่งหนึ่ง
ผู้อาวุโสสามสำนักกวางยักษ์ก็ได้เหาะเหินมาในอากาศ
พร้อมกับตวาดใส่หลินหยุนที่อยู่ด้านล่างว่า หลินชางฉอง ถึงตอนนี้แล้ว นายยังจะลุ่มหลงยืนกรานในความผิดพลาดของตนอยู่อีกเหรอ? รีบปล่อยตัวของนางฟ้าปิงชิงแห่งสำนักอริยสัจออกมาโดยเร็ว! แล้วสำนักกวางยักษ์ของเราก็จะไม่ลงมือปะทะต่อสู้อะไรกับนายอีก!
ถ้าหากนายลงมือสังหารนางฟ้าปิงชิงตรงนี้ นายจะทำให้สำนักกวางยักษ์ของเราตกอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบากขนาดไหน?
ฉันขอเตือนนายว่าอย่าได้ทำให้ตัวเองต้องผิดพลาด!
ปล่อยตัวนางฟ้าปิงชิงไปซะ! แล้วทุกอย่างก็จะคลี่คลายลงไปได้บ้าง!
ได้ยินที่เขาพูด เสิ่นปิงชิงก็ยิ่งกำเริบเสิบสาน ไม่หลงเหลือแม้แต่ความหวาดกลัวเพียงเล็กน้อย
เธอหัวเราะเยาะใส่หลินหยุน และพูดเยาะเย้ยขึ้นว่า เป็นอย่างไร? ฉันได้เคยเตือนนายเอาไว้ก่อนล่วงหน้าแล้ว! ลำพังแค่คนกระจอกไร้ยางอายอย่างนายนี้ ยังจะกล้าทำอะไรกับฉันได้ล่ะ!
ยังไม่รีบที่จะปล่อยตัวของฉันไปอีก!
ไม่อย่างนั้นแล้ว ฉันจะให้ผู้อาวุโสสำนักกวางยักษ์คนนี้ลงมือสังหารนายทิ้งเดี๋ยวนี้!
ในที่สุดชี่ลมหายใจของหลินหยุนก็เป็นปกติดีขึ้นบ้างแล้ว ร่างกายที่สั่นเทานั้นก็ไม่ได้รุนแรงเท่าไรแล้ว!
เงยหน้ามองขึ้นไปยังผู้อาวุโส และพูดว่า สำนักกวางยักษ์ของนายต้องการเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ คิดดีแล้วหรือยัง?
ผู้อาวุโสได้ยินดังนั้น ก็แสยะยิ้มและพูดขึ้นว่า หลินชางฉอง นายก็คือไอ้ปีศาจ แรกเริ่มได้ลงมือสังหารลูกศิษย์อัจฉริยะและผู้อาวุโสอีกหลายคนของสำนักเทียนหยุน จากนั้นก็ยังปลอมตัวเป็นบุตรอริยสัจแห่งสำนักอริยสัจหลอกลวงคนอื่นไปทั่ว!
ปีศาจที่หน้าด้านไร้ยางอายอย่างนายนี้ จะต้องถูกสังหารให้สิ้นซาก!
เมื่อถึงตอนนั้น ยังจะกล้ามาสร้างสถานการณ์ขู่ขวัญตบตา ข่มขู่คุกคามสำนักกวางยักษ์ของเราได้อีกเหรอ?
ฉันขอเตือนนายอีกครั้ง!
รีบปล่อยตัวนางฟ้าปิงชิงซะ ไม่อย่างนั้น ตอนนี้ฉันจะลงมือสังหารนาย เพื่อกำจัดภัยร้ายให้กับโลกคุนชาง!