หลินหว่านมาถึงห้องทำงานของอู๋ชง เธอรู้สึกเกร็งอยู่ตลอด ตั้งแต่เข้าบริษัทมาจนถึงห้องทำงานเธอพยายามรักษามารยาทอย่างมาก
“คุณหลินหว่านคะ ท่านประธานกรรมการของเราให้คุณรออยู่ที่นี่สักครู่ก่อนค่ะ อีกสักครู่เขาจะมาถึง” เลขาพูดจบก็เดินออกไป
หลินหว่านมองไปรอบๆ แอบผ่อนลมหายใจยาว มีเวลาให้เธอได้เตรียมตัวสักหน่อยพอดีเลย
ตอนนั้นเอง อู๋ชงเดินเข้ามา เขาพูดกับหลินหว่านว่า “ผมรับปากคุณก็ได้ ที่ว่าจะให้ร่วมมือกับบริษัทของเซียวจิ่งสือ และนี่จะช่วยให้พวกคุณผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปได้”
อู๋ชงยังพูดไม่ทันจบ หลินหว่านก็ลุกพรวดขึ้น พูดเสียงดังอย่างตื่นเต้น “จริงเหรอคะ ต้องขอบคุณ คุณมากๆ เลยค่ะ ฉันเชื่อว่าความร่วมมือครั้งนี้จะทำให้คุณรู้สึกดีมากแน่ๆ ค่ะ ขอถามหน่อยได้ไหมคะว่าทำไมจู่ๆ ก็เปลี่ยนใจมารับปากฉันกะทันหันอย่างนี้ละคะ”
หลินหว่านในตอนนี้ดีใจจนแทบตัวลอยอยู่แล้ว เหมือนเธอนึกถึงขนมเค้ก ขนมเค้กก็หล่นลงมาให้เธออย่างนั้น คราวนี้คงมีเทวดาแม่ทูนหัวมาคอยดูแลเธออยู่เป็นแน่
หลินหว่านคิดว่าก่อนหน้านี้อู๋ชงอาจทดสอบหยั่งเชิงเธอ พอเห็นความพยายามโดยไม่ย่อท้อของเธอแล้วจึงตัดสินใจช่วยเธอในที่สุด
อันจี๋ถิงไม่ได้บอกหลินหว่านเรื่องที่เธอส่งคนไปเจรจากับอู๋ชง อันจี๋ถิงรู้ว่าหลินหว่านไม่อยากให้เธอเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องของเธอ และถ้าหากหลินหว่านรู้ว่าเธอเข้าไปมีส่วนร่วมด้วย หลินหว่านคงไม่รู้สึกภาคภูมิใจในความสำเร็จเป็นแน่
หลินหว่านกล่าวขอบคุณอู๋ชงมากมาย เธอรู้ว่าอู๋ชงมีงานยุ่งวุ่นวายตลอดทั้งวัน จึงไม่อยากรบกวนเขา คิดจะออกจากห้องทำงานเขาแล้วกลับไปบอกข่าวดีนี้กับเซียวจิ่งสือ
หลินหว่านเดินมาตรงหน้าอู๋ชงอย่างดีใจมาก กำลังจะกล่าวลา
อู๋ชงพูดขึ้นช้าๆ ว่า “คุณอย่าเพิ่งดีใจไป ผมมีข้อแม้นะ เมื่อครู่ผมบอกว่ามีความเป็นไปได้ว่าจะร่วมมือกับคุณ แต่ตอนนี้ผมยังไม่ได้รับปากแน่นอน”
หลินหว่านนิ่งงันไปเลย แต่ในเมื่อมีข้อแม้ หลินหว่านก็จะพยายามทำตามที่เขาร้องขอมาให้ได้ ในเมื่อเรื่องดำเนินมาถึงจุดนี้แล้ว เธอต้องคว้าโอกาสนี้ไว้ให้ได้
“เงื่อนไขอะไรคะ ฉันจะพยายามทำให้คุณพอใจได้แน่ค่ะ แต่ขอให้คุณอย่าตั้งเงื่อนไขที่ยากเกินไปนักนะคะ” หลินหว่านพูดเสียงอ่อนลงไปเรื่อยๆ
หลินหว่านไม่มั่นใจเลย เธอกลัวว่าตัวเองจะทำตามคำขอของเขาไม่ได้ แต่เธอไม่มีทางเลือก ได้แต่รับปากไปก่อน
อู๋ชงหยิบร่างแบบเสื้อผ้าแฟ้มหนึ่งออกมาจากลิ้นชัก วางลงตรงหน้าหลินหว่าน
หลินหว่านถามอู๋ชงด้วยสีหน้าสงสัย “คือต้องการให้ฉันทำอะไรเหรอคะ?”
“ออกแบบชุดเสื้อผ้าที่ทำให้ผมพอใจ นี่ผมไม่ได้จงใจสร้างความลำบากให้คุณนะ ขอให้คุณเชื่อผม ถ้าคุณออกแบบชุดให้ผมพอใจได้จริง เรื่องความร่วมมือก็พูดง่ายแล้ว นี่คือเงื่อนไขของผม หวังว่าคุณจะทำได้สำเร็จ” อู๋ชงพูดด้วยสีหน้าราบเรียบไร้ความรู้สึก
หลินหว่านฟังคำพูดเขาจบก็ไม่รู้ว่าจะรู้สึกอย่างไรดี แม้จะบอกว่าการออกแบบเสื้อผ้าไม่ใช่คำขอที่ยากอะไรนัก และเธอก็เรียนมาบ้าง แต่เธอไม่รู้เลยว่าอู๋ชงชอบเสื้อผ้าแบบไหน ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่เป็นบททดสอบชนิดหนึ่ง หลินหว่านรู้ว่าตอนนี้เธอต้องรับปากเท่านั้น เธอมีเพียงโอกาสนี้ที่จะได้ตามต้องการ ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไรก็ตาม เธอก็อยากจะลองดูจะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจทีหลัง
“ได้ค่ะ ฉันรับปากคุณ ฉันจะรีบออกแบบเสื้อผ้าที่คุณพอใจให้เร็วที่สุด ขอให้คุณวางใจได้ ฉันจะทุ่มเทอย่างสุดกำลังทีเดียวค่ะ” หลินหว่านพูดจบก็โค้งคำนับอู๋ชงแล้วจากไป
หลินหว่านกลับมาที่บ้าน หยิบแบบเสื้อผ้าที่อู๋ชงให้เธอออกมา หลินหว่านเคยเรียนออกแบบมาก่อน แต่นั่นมันนานมาแล้ว ตอนนี้เธอลืมไปเกือบหมดแล้ว หลินหว่านไม่รู้ว่าจะเริ่มลงมือจากตรงไหน
วันหนึ่งผ่านไป สองวันผ่านไป หลินหว่านรู้สึกร้อนใจมากแต่กลับไม่รู้จะทำอย่างไร เธอไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรจึงจะทำให้อู๋ชงพอใจ
หลินหว่านดาวน์โหลดวิดีโอจากอินเทอร์เน็ตเพื่อเรียนรู้การออกแบบอีกครั้ง ความทรงจำตอนที่เธอเรียนออกแบบก่อนหน้านี้ค่อยๆ กลับมาอีกครั้ง เธอเคยเรียนการออกแบบนี้มาก่อน จึงคุ้นเคยได้เร็วกว่าคนอื่น
หลินหว่านรู้สึกกลัดกลุ้มใจมาก เธอรู้ว่าครั้งนี้เป็นโอกาสเพียงครั้งเดียวของเธอ แต่เธอกลับไม่มีแรงบันดาลใจเอาเสียเลย
ตอนค่ำ หลินหว่านนอนอยู่บนเตียงแต่นอนไม่หลับ ในหัวของเธอคิดแต่ว่าจะออกแบบอย่างไร จู่ๆ หลินหว่านก็นึกถึงเซียวจิ่งสือ เธอรู้สึกวาบขึ้นมา หลินหว่านรีบลุกขึ้นมานั่ง เธอไปที่ห้องหนังสือเริ่มออกแบบชุดที่เมื่อครู่เธอเพิ่งคิดออกมา
หลินหว่านคิดถึงเซียวจิ่งสือ เธอใช้ภาพลักษณ์ของเขามาออกแบบเสื้อผ้าชุดนี้
หลายชั่วโมงผ่านไป หลินหว่านทำได้สำเร็จในที่สุด เธอมองดูผลงานของตัวเอง รู้สึกพอใจอย่างมาก เธอเชื่อว่าอู๋ชงจะชอบผลงานนี้เช่นกัน
หลินหว่านมองดูเวลา ตอนนี้เพิ่งจะตีสี่ เธอยังสามารถพักผ่อนอีกหลายชั่วโมง หลินหว่านนอนลงบนเตียง เธอนอนหลับได้สนิทที่สุดในหลายวันที่ผ่านมาเลย
ตอนเช้า หลินหว่านแต่งตัวแล้วไปที่ห้องทำงานของอู๋ชง หลินหว่านสวดอ้อนวอนไปตลอดทาง หวังว่าจะได้รับการชื่นชมจากอู๋ชง หลินหว่านคิดว่าครั้งนี้เธอจะต้องทุ่มเทความสามารถทั้งหมดเพื่อมาช่วยเซียวจิ่งสือให้ได้
หลินหว่านมาถึงห้องทำงานของอู๋ชง อีกฝ่ายดูเหมือนจะรู้ล่วงหน้าว่าหลินหว่านจะมา เขายิ้มแล้วพูดกับเธอว่า “หลินหว่าน คุณออกแบบเสร็จแล้วเหรอ ผมตั้งตารอดูผลงานของคุณอยู่นะ”
อู๋ชงแม้ปากจะพูดแบบนี้ แต่ที่จริงแล้วในใจเขาไม่แน่ใจว่าหลินหว่านจะออกแบบเสื้อผ้าแบบไหนออกมา อู๋ชงรู้ว่าหลินหว่านไม่ใช่มืออาชีพ จึงไม่ได้ตั้งความหวังอะไรกับเธอนัก
“ตอนนี้เสื้อผ้าออกแบบเสร็จแล้ว หวังว่าคุณจะพอใจนะคะและหวังว่าคุณจะให้โอกาสฉันได้ทำความร่วมมือกับคุณสักครั้ง” หลินหว่านพูดไปก็โค้งคำนับอีกครั้ง
หลินหว่านวางผลงานออกแบบของตัวเองลงตรงหน้าอู๋ชง เธอรู้สึกปั่นป่วนว้าวุ่นใจมาก ฝ่ามือมีเหงื่อออกชุ่ม หลินหว่านรู้ว่าตัวเองจะช่วยเซียวจิ่งสือได้หรือไม่ก็ขึ้นกับนาทีนี้แล้ว
อู๋ชงหยิบแบบร่างชุดเสื้อผ้าของหลินหว่านออกมา อันที่จริงเขาไม่ได้ตั้งความหวังกับหลินหว่านนัก แต่เมื่อหยิบออกมาแล้ว เขากลับตาเป็นประกายวาววับ อู๋ชงมองหลินหว่านด้วยสายตาชื่นชม เขาคิดไม่ถึงว่าหลินหว่านจะทำให้เขาพอใจได้อย่างมาก
อู๋ชงยิ้มแล้วพูดว่า “หลินหว่าน บอกตรงๆ เลยนะ ครั้งนี้ผมพอใจมาก เสื้อผ้าชุดนี้ได้ให้ไอเดียในการออกแบบชุดต่อไปของบริษัทเรา คิดไม่ถึงว่าคุณจะมีความเป็นมืออาชีพขนาดนี้ ผมจะทำมันออกมาให้เป็นเสื้อผ้าที่ทำให้รู้สึกงดงามสมบูรณ์แบบที่สุดเลย” อู๋ชงพูดด้วยรอยยิ้ม
หลินหว่านรู้สึกทั้งดีใจและปลื้มใจ เธอรู้สึกว่าครั้งนี้ได้ทำเพื่อเซียวจิ่งสือมากมาย ได้รับผลอย่างในตอนนี้ไม่ใช่ได้มาโดยง่าย
“ขอบคุณนะคะที่ชื่นชอบ อย่างนั้นคุณคงจะทำตามคำที่ให้ไว้ก่อนหน้านี้ ช่วยบริษัทของเซียวจิ่งสือให้ผ่านพ้นวิกฤตใช่ไหมคะ” หลินหว่านยิ้มพลางพูดขึ้น เธอพยายามห้ามใจไม่ให้ตื่นเต้นเกินไป
อู๋ชงผงกศีรษะ
หลินหว่านวางใจได้ในที่สุด เธอสามารถไปจากเซียวจิ่งสือได้แล้ว
เซียวจิ่งสือต้องเผชิญกับสภาพความพลิกผันของบริษัทตัวเองโดยไม่ทันได้ตั้งตัว ตอนนี้บริษัทตกอยู่ในภาวะวิกฤต เซียวจิ่งสือกังวลใจมาก แล้วยังต้องคอยระวังคนของกลุ่มบริษัทบ้านตระกูลอันอีก