“งั้นเหรอ? หว่านหว่าน” เซียวจิ่งสือฟังคำอธิบายของหลินหว่านแล้ว ไม่เชื่อเลยสักครึ่งคำ
เขามองดูหลินหว่านที่มีพิรุธอย่างเห็นได้ชัดเอามากๆ แอบยิ้มเยาะในใจ “เสียแรงที่หลินหว่านเป็นนักแสดง แค่จะโกหกยังมีพิรุธขนาดนี้”
เซียวจิ่งสือถามอีกว่า “หว่านหว่าน งั้นคุณบอกหน่อยซิว่าคุณดูหนังเรื่องอะไร เตรียมตัวจะไปท่องเที่ยวที่ไหน แล้วทำไมถึงมาอยู่กับเสิ่นหนานยวนได้”
หลินหว่านตอบอึกๆ อักๆ ว่า “ค…คือว่า เอาเป็นว่า เดิมทีฉันไปถึงสนามบินแล้ว แต่ว่าฉันเห็นข่าวบ้านตระกูลอันจับมือกับบ้านตระกูลหรงเพื่อสู้กับบ้านตระกูลเซียวแล้ว กลัวว่าคุณจะสู้พวกเขาไม่ได้ ก็เลยไปขอความช่วยเหลือจากคุณเสิ่นหนานยวนผู้ยิ่งใหญ่แห่งวงการธุรกิจไงล่ะ”
นาทีนั้นเซียวจิ่งสือแยกไม่ออกว่าคำพูดไหนของหลินหว่านจริงหรือเท็จ เขากำลังคิดจะเค้นถาม ก็ได้ยินเสียงเรียกเขาจากโทรศัพท์มือถือของเขาดังขึ้น
เซียวจิ่งสือรับสายอย่างไม่พอใจนัก เป็นสายจากผู้ช่วยเขาโทรมา บอกว่าทางบริษัทมีเรื่องที่ต้องรอให้เขาตัดสินใจ
พอเซียวจิ่งสือวางสาย คว้ามือหลินหว่านได้ก็ลากเธอออกไปด้านนอก หลินหว่านรู้สึกเจ็บ เธอขมวดคิ้วถามว่า “เซียวจิ่งสือ คุณทำอะไรน่ะ”
“คุณกลับบริษัทไปกับผม” เซียวจิ่งสือพูดเสียงเย็น
ในเมื่อหลินหว่านกลับมาข้างกายเขาแล้ว งั้นคราวนี้ เขาจะไม่ยอมให้เธอไปจากเขาอีกเด็ดขาด!
กลับถึงบริษัท เซียวจิ่งสือก็ให้หลินหว่านคอยตามติดเขาอยู่ในห้องทำงานตลอด เขากลัวการสูญเสียเธอไปอย่างที่สุด หลินหว่านทำอะไรไม่ได้ จึงได้แต่เล่นมือถือรอเซียวจิ่งสืออยู่ในห้องทำงานของเขา
ขณะเซียวจิ่งสือจัดการกับเอกสาร เงยหน้าขึ้นก็สามารถเห็นหลินหว่านได้ทุกเมื่อ เขารู้สึกว่าความรู้สึกแบบนี้มันดีเอามากๆ
แต่ว่า เซียวจิ่งสือยังคงตัดสินใจว่าจะสืบให้แน่ชัดถึงสาเหตุที่จู่ๆ หลินหว่านก็ไปจากเขา
เรื่องแบบนี้มีครั้งแรกก็ย่อมมีครั้งที่สอง แต่เขาอยากให้หลินหว่านอยู่กับเขาไปตลอด จึงต้องรู้ให้ได้ว่าอะไรทำให้หลินหว่านคิดจะไปจากเขา แล้วจัดการตัดไฟแต่ต้นลมซะ
คราวที่แล้วเขาเข้าใจผิดว่าจู่ๆ หลินหว่านก็หายตัวไปอาจเป็นเพราะประสบกับเหตุอันตรายเข้า ดังนั้นจึงมัวแต่ส่งคนออกไปตามหาเธอ จึงไม่ได้ตั้งใจสืบหาความจริงของเรื่องนี้อย่างจริงจัง คราวนี้ เขาจะต้องสืบรู้ให้ได้ว่าอะไรทำให้หลินหว่านไปจากเขา
เซียวจิ่งสือคิดได้เช่นนี้แล้วก็หลบออกจากห้องทำงานมาเงียบๆ หาตัวผู้ช่วยแล้วบอกเขา ให้เขาส่งคนออกไปสืบให้ละเอียดว่าหลายวันก่อนที่หลินหว่านจะไปจากเขานั้น เธอทำอะไรบ้าง พบกับใคร ทำอะไรที่ผิดปกติไปบ้าง
ผู้ช่วยฟังคำสั่งของเซียวจิ่งสือแล้วคิดว่าคุณหลินก็กลับมาแล้ว ท่านประธานเซียวยังจะทำอะไรอีก! แต่เขาก็ยังเชื่อฟังคำสั่งของบอสอยู่ดี บอกว่าจะส่งคนไปจัดการเรื่องทั้งหมดโดยเร็ว
เซียวจิ่งสือกลับมาที่ห้องทำงานแล้วเห็นหลินหว่านถือโทรศัพม์มือถือของเธอ เดินเข้ามาหาเขา จากนั้นมองดูเขาด้วยสีหน้าตกใจ
“ทำไมเหรอ หว่านหว่าน?” เซียวจิ่งสือถามอย่างสงสัย
“เซียวจิ่งสือ นี่ผลงานของคุณหรือเปล่าคะ?” พูดพลาง หลินหว่านก็ยื่นมือถือของตัวเองมาตรงหน้าเซียวจิ่งสือ ให้เขาอ่านข่าวตรงหน้า
เซียวจิ่งสือกวาดสายตาแวบหนึ่ง ข่าวบอกว่าบ้านตระกูลอันกับตระกูลหรงที่จับมือกันก่อนหน้านี้ ไม่ทราบว่าเกิดแตกคอกันด้วยเหตุอะไร บริษัททั้งสองตอนนี้เหมือนเป็นน้ำกับไฟที่อยู่ร่วมกันไม่ได้ซะแล้ว นอกจากนี้ พวกบริษัทที่ก่อนหน้านี้ร่วมมือกับบริษัทของบ้านตระกูลอัน ตอนนี้ทยอยออกมากล่าวโทษบ้านตระกูลอันว่าไม่รักษาสัญญาที่ทำไว้ก่อนหน้านี้ ทำให้ชื่อเสียงของบ้านตระกูลอันดำดิ่งลงเหว
สรุปคือ เทียนซิงกรุ๊ปถูกบริษัทพันธมิตรลุกขึ้นมาโจมตีซ้ำ เพียงชั่วข้ามคืนชื่อเสียงของบริษัทก็ตกต่ำเป็นประวัติการณ์
“นี่ไม่ใช่ฝีมือผม” เซียวจิ่งสือเห็นแล้วยักคิ้ว พูดขึ้น “น่าจะเป็นฝีมือเสิ่นหนานยวน วิธีการแบบนี้เหมือนเป็นฝีมือของเขา”
เรื่องของบ้านตระกูลอันเป็นฝีมือของเสิ่นหนานยวนจริงๆ รูปแบบการทำงานของเขารวดเร็วฉับไว เด็ดขาดเสมอ หากเขาต้องการจัดการกับบริษัทไหน บริษัทนั้นอย่าหวังว่าจะได้อยู่ดีมีสุขเลย
ในตอนนี้บ้านตระกูลอันทุกคนคงจะเกลียดเสิ่นหนานยวนเข้าไส้ไปแล้ว
ก่อนหน้านี้พวกเขาร่วมมือกับตระกูลหรงเพียงเพื่อรักษาเทียนซิงกรุ๊ปเอาไว้ และเพื่อต่อกรกับบ้านตระกูลเซียว แต่ใครจะนึกว่า เดิมทีเป็นเรื่องระหว่างพวกเขาสามบริษัท เสิ่นหนานยวนกลับแทรกเข้ามาซะอย่างงั้น
เทียนซิงกรุ๊ป อันโฮ่วสยงเจอเข้ากับหลุมพรางที่ผู้ยิ่งใหญ่แห่งแวดวงการค้าวางไว้ก็ให้รู้สึกมือไม้ปั่นป่วนไปหมด ทั้งที่เมื่อวานทุกอย่างยังดีๆ อยู่เลย เพียงค่ำคืนเดียวบ้านตระกูลหรงกับบริษัทอื่นๆ เหมือนกับถูกคนวางยาก็ไม่ปาน พากันออกมาประกาศตั้งตัวเป็นปฏิปักษ์กับบ้านตระกูลอัน
หากเป็นแบบนี้ต่อไป บ้านตระกูลอันคงได้จมดินแน่ แต่เขาไม่ยอมแพ้ อันโฮ่วสยงถอนใจเฮือก จากนั้นเริ่มก้มหน้าก้มตาจัดการกับการงานน้อยใหญ่ของเทียนซิงกรุ๊ปต่อไป
วันนี้เซียวจิ่งสือกับหลินหว่านตัวติดกันทั้งวัน รวมทั้งตอนทานข้าวเย็นด้วย เขาตั้งใจเป็นพิเศษที่จะเลือกร้านที่หลินหว่านชอบทานที่สุด
ตอนทานข้าว จู่ๆ มือถือของเซียวจิ่งสือก็ดังขึ้น เขามองดูแล้วเห็นว่าเป็นผู้ช่วยโทรมา เซียวจิ่งสือคิดดูแล้ว ลุกออกไปรับสายด้านนอก
“ท่านประธานเซียวครับ เรื่องคุณหลิน ผมให้คนไปสืบได้ความชัดเจนแล้ว” พอมีคนรับสาย ผู้ช่วยก็รีบพูดขึ้นเหมือนทนรอไม่ไหว
“พูด”
“พวกเราสืบได้ความว่าก่อนคุณหลินจากไปหนึ่งวัน เธอได้พบกับคุณพ่อของคุณที่บ้าน และท่านประธานใหญ่เซียวได้มอบตั๋วเครื่องบินไปต่างประเทศให้คุณหลินไปใบหนึ่งด้วย” ผู้ช่วยรีบรายงานผลที่สืบได้กับเซียวจิ่งสือ
เซียวจิ่งสือฟังแล้ว ขมวดคิ้วพูดว่า “งั้นก็หมายความว่า การที่หลินหว่านจากไป เป็นเพราะพ่อของผม?”
“ท่านประธานเซียว ผลที่สืบได้เป็นแบบนี้ครับ…”
“เอาล่ะ ผมเข้าใจแล้ว” เซียวจิ่งสือพูดจบก็วางสายไปเฉยๆ
คิดไม่ถึงเลย พ่อของเขาแอบลงมือลับหลังเขา บีบให้หลินหว่านไปจากเขา
เซียวจิ่งสือไม่อยากจะนึกเลย ถ้าหากหลินหว่านขึ้นเครื่องบินเที่ยวนั้นไปจริงๆ เขาจะยังได้พบกับหลินหว่านอีกหรือไม่
เซียวจิ่งสือหยิบโทรศัพม์มือถือขึ้นมา โทรไปที่เบอร์โทรศํพท์เบอร์หนึ่ง สั่งอะไรบางอย่างแล้วจึงกลับเข้าที่นั่ง
วันรุ่งขึ้น ณ สถานพักฟื้นคนชราที่ดีที่สุดของเมืองนี้ เซียวเฉียงนั่งอยู่บนเตียง หมอกำลังจะตรวจร่างกายเขา แต่เขากลับผลักหมอพยาบาลรอบกายเขาออก ร้องโวยวายว่า “ใครให้พวกคุณพาผมมาที่นี่ ใช่เจ้าเซียวจิ่งสือลูกไม่รักดีคนนั้นหรือเปล่า หา! ผมรู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นมัน! ต้องเป็นมันแน่! เพราะมันต้องการจะแย่งอำนาจในมือทั้งหมดของผมไป!”
พูดจบ เขาก็เขวี้ยงแก้วที่อยู่ใกล้มือใบหนึ่ง พูดกับผู้ดูแลว่า “พวกคุณแน่จริงก็ให้มันมาหาผม! วันนี้ผมจะตีมันให้ตายไปเลย!”
“พ่อ พ่อหาผมเหรอ” ตอนนั้นเอง เสียงทุ้มต่ำของผู้ชายคนหนึ่งดังมาจากที่ไม่ไกลนัก พอทุกคนมองไปก็พบว่าเซียวจิ่งสือมาแล้ว
เซียวเฉียงเห็นเซียวจิ่งสือก็โมโหจนกระโดดพรวดลงจากเตียง ชี้หน้าด่าเขาว่า “เซียวจิ่งสือ แกไอ้ลูกทรพี! ทำไมแกให้คนพาฉันมาที่นี่ แกให้พวกเขาปล่อยฉันไปนะ! แกเข้าใจว่าฉันดูแกไม่ออกรึว่าแกคิดแผนร้ายอะไรอยู่ แกทำแบบนี้ เพราะอยากจะแย่งอำนาจทั้งหมดของฉันในบ้านตระกูลเซียวไปใช่ไหม แต่ฉันจะบอกแกให้นะ ไม่มีทางหรอก!”