จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ – บทที่ 1364 ยกเลิกปิดล้อม

บทที่ 1364 ยกเลิกปิดล้อม

คำพูดของพวกเขาสองคน เหมือนกับการคาดเดาของหลินหยุนเลย

คนเหล่านี้ต่างมีแผ่นการของตัวเอง พวกเขาไม่ได้ช่วยเหลืออย่างเต็มที่ และพวกเขาก็กลัวว่าหลินหยุนจะพุ่งออกมาทำร้ายพวกเขาด้วย

หลินหยุนนั่งดูเหตุการณ์อย่างเงียบๆ

เมื่อมองเห็นท้องฟ้าเริ่มสว่าง ผู้ชายที่ชื่อว่าฉางเฟิงถอนหายใจเบาๆ จากนั้นเขาก็บินไปหาผู้หญิงคนนั้นทันที

เมื่อมองเห็นเขาบินมา ผู้หญิงเปล่งเสียงไม่พอใจออกมา  ถ้าคุณจะมาเกลี้ยกล่อมฉัน คุณก็ไม่จำเป็นต้องเอ่ยปากพูด! 

เฉินฉางเฟิงพูดเบาๆ  ศิษย์พี่ พรุ่งนี้จะเริ่มพิธีบูชาแล้ว ฟังคำพูดฉันหน่อยได้ไหม หลินชางฉองต้องหลบซ่อนตัวอยู่ในนี้แน่นอน เขาไม่มีทางหนีรอดอยู่แล้ว หลังจากเสร็จพิธีบูชา ก็เข้าสู่การประลองเก้าสำนักใหญ่ เขาไม่มีทางหนีรอดไปจากที่นี่อยู่แล้ว 

 ทำไมศิษย์พี่ต้องรีบร้อนขนาดนี้ด้วย? 

 พิธีบูชานั้น สำหรับสำนักของเราแล้ว มันมีความหมายมากๆ ฉันคิดว่าศิษย์พี่น่าจะเข้าใจเรื่องนี้! 

 ฉันหวังว่าศิษย์พี่จะเห็นแก่ส่วนรวม เห็นแก่สำนัก! 

ก่อนการประลองเก้าสำนักใหญ่ จำเป็นต้องทำพิธีบูชาครั้งใหญ่ มันคือพิธีที่สืบทอดกันมาตั้งแต่ยุคโบราณกาล

และสำนักที่เป็นคนดำเนินพิธีบูชานั้น แน่นอนว่าต้องเป็นสำนักอริยสัจ

คนอื่นๆหรือสำนักอื่นๆ พวกเขาไม่มีสิทธิ์ที่จะทำเรื่องนี้

เรื่องนี้ อันที่จริงมันมีประโยชน์มากมายซ่อนอยู่

ทุกครั้ง จะทำให้สำนักอริยสัจได้รับพรจากสวรรค์

พรจากสวรรค์แบบนี้ มันทำให้สำนักอริยสัจได้รับความโชคดีและแข็งแกร่งมากขึ้น ทำให้ลูกศิษย์ของสำนักอริยสัจได้รับความโชคดี เมื่อฝึกฝนพลังก็จะเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น และสำนักอริยสัจก็มีโอกาสสูงมากที่จะมีลูกศิษย์อัจฉริยะปรากฏตัว

เมื่อเป็นเช่นนี้ไปนานๆ สำนักอริยสัจก็จะกลายเป็นสำนักอันดับหนึ่งและสำนักที่แข็งแกร่งที่สุดของโลกคุนชางตลอดไป

และไม่มีใครรู้เลย สำนักอริยสัจแข็งแกร่งแค่ไหนกันแน่!

สำหรับเรื่องนี้ นอกจากสำนักอริยสัจแล้ว ไม่ใช่ไม่มีใครรู้เลย แต่คนที่รู้เรื่องนี้มีน้อยมากๆ

อย่างไรก็ตาม เมื่อไม่มีใครสามารถต่อกรกับสำนักอริยสัจได้ ก็ไม่มีใครกล้าพูดเรื่องเหล่านี้

สำหรับความโชคดีนั้น มันเป็นสิ่งที่มองไม่เห็นและจับต้องไม่ได้

คนที่แข็งแกร่งไม่มากพอ ก็ไม่สามารถสัมผัสได้

ถึงแม้จะรู้เรื่องนี้ แต่ก็คงไม่มีใครเชื่อ

เมื่อได้ยินคำพูดของเฉินฉางเฟิง สีหน้าของผู้หญิงวัยกลางคนเคร่งขรึมทันที เธอเปล่งเสียงไม่พอใจออกมาและพูด  หาต่ออีกครึ่งวัน ถ้าถึงตอนเที่ยงวัน ยังหาเขาไม่เจอ งั้นก็ค่อยหยุดการค้นหา! 

เมื่อเฉินฉางเฟิงได้ยินคำพูดเหล่านี้ เขาก็ดีใจและรีบพูดทันที  โอเค งั้นก็ทำตามที่ศิษย์พี่พูดละกัน! 

เขารู้ตัวดี การที่ศิษย์พี่ยอมอ่อนข้อให้แบบนี้ มันเป็นเรื่องที่ยากมากๆ

เพราะเขารู้จักนิสัยใจคอของศิษย์พี่คนนี้เป็นอย่างดี

ตอนที่อยู่ในสำนัก นอกจากศิษย์พี่เจ้าสำนักแล้ว คำพูดของคนอื่นๆ เธอไม่เคยฟังเลย

เวลาส่วนใหญ่ แม้แต่คำพูดของศิษย์พี่เจ้าสำนัก เธอก็ไม่ยอมฟังเช่นกัน ทำให้ศิษย์พี่เจ้าสำนักปวดหัวมากๆและจนปัญญาจริงๆ

ยังไงซะ ถ้าไม่กระทบพิธีบูชา มันก็ไม่ใช่ปัญหาอยู่แล้ว

สำหรับการประลองเก้าสำนักใหญ่นั้น สำนักอริยสัจไม่ค่อยสนใจเรื่องนี้อยู่แล้ว สำนักอริยสัจให้ความสำคัญกับพิธีบูชามากกว่า

เพราะการประลองเก้าสำนักใหญ่ ไม่มีสำนักไหนกล้าท้าประลองสำนักอริยสัจอยู่แล้ว

ไม่ต้องพูดถึงบุตรอริยสัจของสำนักอริยสัจปรากฏตัวแล้ว ถึงแม้บุตรอริยสัจไม่ยอมปรากฏตัว ก็ไม่มีใครกล้าท้าประลองสำนักอริยสัจแน่นอน

นี่คือความแข็งแกร่ง! เป็นความแข็งแกร่งที่ทำให้ทุกคนรู้สึกหวาดกลัว

เวลาใกล้จะถึงเที่ยงวันแล้ว

แต่พวกเขาก็หาร่องรอยของหลินหยุนไม่เจอเลย

หลินหยุนที่อยู่ในสุดหล้าทะเลที่ไม่ได้กว้างใหญ่มากนั้น แต่เขากลับหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย

เมื่อมองดูเวลาแล้ว เฉินฉางเฟิงก็ประกาศหยุดการค้นหาทันที

แน่นอนว่าเขาก็แสดงความขอบใจนักบำเพ็ญเซียนที่ลงมือช่วยค้นหาเหมือนกัน จากนั้นเขาก็พาคนของสำนักอริยสัจจากไปทันที

เมื่อคนของสำนักเทียนหยุนเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พวกเขาก็จากไปเหมือนกัน

ทุกคนมองหน้ากัน เมื่อเห็นคนของสองสำนักใหญ่เดินจากไป ทุกคนก็ไม่ได้มองดูเฉยๆอีก

ตอนนี้ทุกคนบินขึ้นไปบนท้องฟ้า และตรงไปยังสถานที่ประลองเก้าสำนักใหญ่ทันที

ทุกคนรู้ดีว่าสำนักอริยสัจกับสำนักเทียนหยุนจะทำอะไร

ผ่านไปไม่นาน เหลือคนจำนวนน้อยมากๆที่ยังรออยู่ในสุดหล้าทะเล และคนที่ยังรออยู่ก็เลือกที่จะจากไปเช่นกัน

ยอดฝีมือที่จากไปเป็นกลุ่มสุดท้ายคือคนของสำนักหยุนเยว่

เมื่อพวกเธอเห็นว่าสำนักต่างๆหาหลินหยุนไม่เจอ ยอดฝีมือของสำนักหยุนเยว่ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจยาวๆ

ตอนนี้พวกเธอรู้สึกโล่งใจมากๆ

ในเวลานี้ มีผู้หญิงสองคนกำลังบินมาทางนี้

เมื่อเข้าใกล้แล้ว พวกเธอก็ยืนอยู่กลางอากาศทันที

ผู้หญิงสองคน คนหนึ่งเป็นผู้หญิงวัยกลางคนที่มีพลังที่แข็งแกร่งมากๆ

ส่วนอีกคนเป็นหญิงสาววัยรุ่น เธอสวยมากๆราวกับนางฟ้า

หญิงสาววัยรุ่นใส่ชุดสีเขียวเข้ม พลังของเธอก็ไม่ธรรมดาเลย

เธอน่าจะฝึกฝนถึงแดนยาทองระดับสามตอนปลาย และใกล้จะเข้าสู่แดนยาทองระดับสี่แล้ว

ผู้หญิงวัยกลางคนยืนอยู่กลางอากาศ เธอเปล่งเสียงไม่พอใจออกมาและพูด  ดวงแข็งจริงๆ คนเยอะขนาดนี้ลงมือค้นหา แต่ก็ไม่สามารถหาเขาจนเจอ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่นๆ แค่พูดถึงเรื่องซ่อนตัว เรื่องนี้เขาร้ายกาจมากๆ! 

ผู้หญิงวัยกลางคนไม่ใช่ใครที่ไหน เธอคือสี่เยว่

ส่วนคนที่อยู่อีกฝั่ง ก็คือสองเยว่และคนอื่นๆ

หญิงสาววัยรุ่นที่อยู่ด้านหลังของสี่เยว่ เธอไม่ใช่ใครที่ไหน เธอคือฉินชิงถง

เธอในเวลานี้ ไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว

เธอยืนอยู่ด้านหลังอาจารย์ ไม่ว่าจะเป็นพลังที่ปลดปล่อยออกมาจากร่างกายของเธอ หรือสีหน้าของเธอในตอนนี้ ต่างแสดงความมั่นใจในตัวเองออกมา

ถึงแม้เธอเข้าสำนักได้ไม่นาน แต่เธออาศัยพรสวรรค์ของตัวเอง หลังจากเวลาผ่านไปไม่นาน ตอนนี้เธอฝึกฝนจนแข็งแกร่งมากขึ้น ในกลุ่มวัยรุ่นของสำนักหยุนเยว่ เธอเป็นรองเพียงแค่เจียงอิ้งเยว่คนเดียว

นี่เป็นเพราะเจียงอิ้งเยว่ใช้วิธีลับเพิ่มพลังตัวเอง ทำให้พลังของเธอแข็งแกร่งกว่าฉินชิงถง

มิฉะนั้น

ความแข็งแกร่งของเธอกับเจียงอิ้งเยว่คงเท่ากันแล้ว

ดังนั้น ตอนนี้เธอมั่นใจและภาคภูมิใจในตัวเองมากๆ

หลังจากออกจากการเก็บตัว เธอก็อยากจะกลับไปที่เมืองมี่หยุน!

เธออยากกลับไปที่ตระกูลฉิน กลับไปยืนอยู่ด้านหน้าแม่ของตัวเอง และไปก็หาไอ้สารเลวอย่างหลินหยุน

เธอต้องการให้คนเหล่านั้นรู้สึกเจ็บปวดและรู้สึกเสียใจ!

โดยเฉพาะไอ้สารเลวอย่างหลินหยุน!

เธอจะสังหารหลินหยุนด้วยน้ำมือตัวเอง เธออยากกลับไปถามแม่ของตัวเอง ตอนนี้แม่ยังคิดว่าหลินหยุนแข็งแกร่งกว่าตัวเองหรือเปล่า!

เธอต้องการให้หลินหยุนคุกเข่าต่อหน้าตัวเอง!

อย่างไรก็ตาม เธอคิดไม่ถึงจริงๆ หลังจากออกจากการเก็บตัวฝึกฝน ก็ใกล้ถึงเวลาประลองเก้าสำนักใหญ่แล้ว

ดังนั้นเธอก็เลยตามอาจารย์มาที่ทะเลกวางยักษ์ทันที

เธอยังไม่มีเวลากลับไปที่เมืองมี่หยุน

เธอยิ่งไม่มีเวลาไปค้นหาไอ้สารเลวอย่างหลินหยุนด้วย

สองเยว่ไม่ได้พูดอะไร เธอพาสามเยว่และคนอื่นๆที่อยู่ด้านหลัง บินจากไปทันที

เมื่อสี่เยว่เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น เธอเปล่งเสียงไม่พอใจออกมา แต่เธอไม่ได้พูดอะไรอีก เธอพาฉินชิงถงจากไปทันที

ฉินชิงถงมองไปรอบๆสุดหล้าทะเลหนึ่งครั้ง จากนั้นเธอก็รีบบินตามออกไปทันที

สำหรับหลินชางฉอง เธอชื่นชมเขามากๆ

ใช้พลังของตัวเองเพียงคนเดียว ทำให้สำนักเทียนหยุนกลายเป็นตัวตลกของโลกคุนชาง

คนประเภทนี้ร้ายกาจมากๆ!

ช่วงเวลาที่ผ่านมา เธอได้ยินชื่อเสียงของหลินชางฉองเยอะมากๆ

ถึงแม้มีข่าวลือว่าหลินชางฉองคือเทพสังหาร คืออสุรกาย แต่เธอไม่ได้คิดแบบนั้น

ดังคำที่ว่าแพ้เป็นโจร ชนะเป็นเจ้า

ถึงแม้จะเป็นนักบำเพ็ญเซียน ก็ต้องใช้พลังอันแข็งแกร่งแทนคำพูดเหมือนกัน

ถ้าพลังไม่แข็งแกร่งพอ เมื่อถูกอีกฝ่ายสังหาร มันก็ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว

ถ้าหลินชางฉองไม่มีพลังที่แข็งแกร่งมากๆ เขาจะรอดจนถึงทุกวันนี้เหรอ?

เขารอดไม่ถึงทุกวันนี้อย่างแน่นอน!

ฉินชิงถงในตอนนี้ เธอให้ความสนใจหลินชางฉองมากๆ

เธอจะรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เพราะเธอคาดหวังว่าครั้งนี้ เธอจะได้เห็นหน้าของหลินชางฉอง แต่เธอคาดไม่ถึงจริงๆ การปิดล้อมสังหารหลินชางฉองครั้งนี้ กลับทำไม่สำเร็จ

 

จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

Status: Ongoing

มหากษัตริย์ชางฉองหลินหยุนที่ปราบปรามสามโลกไถ่บาปไม่สำเร็จ เกิดใหม่กลับสู่โลกมนุษย์เป็นเขยแต่งเข้าบ้าน ชาติปางก่อน ได้เมียที่สวยเซ็กซี่ดูเป็นผู้ใหญ่กลับครอบครองไม่ได้ ชาตินี้ หลินหยุนจะทำยังไง……ชาติก่อน เขาเป็นคนไร้ความสามารถที่ใครๆต่างดูถูก ชาตินี้ เขาเป็นหมอเทพหลินในวงการแพทย์ ตาทิพย์หลินในวงการของโบราณ อาจารย์หลินในวงการฮวงจุ้ย และหลินชางฉองในวงการบู๊ เมื่อเขากลับมาสู่เทวโลกอีกครั้ง พบว่าเทวโลกมีการเปลี่ยนแปลง หลายคนที่กำลังไถ่บาปรวมตัวกัน พวกเขาจะทำได้ดั่งใจหวังหรือไม่

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท