จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ – บทที่ 1366 ฝันไปเถอะ

บทที่ 1366 ฝันไปเถอะ

แน่นอนว่าคนส่วนใหญ่ไม่รู้อยู่แล้ว ช่วงเวลาที่ผ่านมา พลังของหวงฉาวเพิ่มขึ้นมากๆ

ครั้งนี้ที่เขาไม่ยอมปรากฏตัว เพราะเขาต้องการใช้เวลาเพื่อฝึกฝนให้พลังของตัวเองมั่นคงมากขึ้น

บุตรกระบี่บินลงมาที่พื้น พลังของเขาน่ากลัวมากๆ

ดวงตาของเขาคมมากๆราวกับกระบี่ และมองไปที่สำนักอริยสัจทันที จากนั้นเขาก็พูดอย่างเคร่งขรึม  ผู้อาวุโสของสำนักอริยสัจ ในเมื่อบุตรอริยสัจปรากฏตัวแล้ว ทำไมไม่ให้เขามาประลองกับฉันละ? 

ขณะพูด เขาหันหลังและมองไปที่ท้องฟ้า และพูดอีกครั้ง  บุตรอริยสัจ บุตรธยานะ พวกคุณสองคนจะมองดูเฉยๆเหรอ ถ้าทำอย่างนี้มันไม่ค่อยสนุกเลย ในเมื่อพวกคุณมาถึงแล้ว ทำไมไม่ลงมาละ พวกเรามาประลองกันดีกว่า? 

 บุตรธยานะ ถึงแม้บุตรอริยสัจไม่ลงมาประลองก็ไม่เป็นไร แต่คุณจะไม่ลงมาจริงเหรอ? 

 หรือว่าบุตรธยานะไม่สนใจอันดับของสำนักธยานะเลยเหรอ? 

เมื่อเขาพูดจบก็มีเสียงหัวเราะดังออกมาจากท้องฟ้าและพูด  ในเมื่อบุตรกระบี่เชิญฉัน ฉันก็คงต้องออกมาแล้ว! 

ขณะพูด เขาก็บินลงมาทันที

อันที่จริงบุตรกระบี่พูดไม่ผิดเลย

ถ้าตอนนี้บุตรธยานะไม่ยอมปรากฏตัว ถ้างั้นอันดับของสำนักธยานะ คงไม่มีอีกต่อไปแล้ว!

อันที่จริงเขาไม่จำเป็นต้องพูดมาก บุตรธยานะก็คงจะปรากฏตัวอยู่แล้ว

เมื่อเห็นบุตรธยานะบินลงมา บุตรกระบี่ไม่ได้รู้สึกแปลกใจ เขามองไปที่ท้องฟ้าและพูด  บุตรอริยสัจคิดว่าการต่อสู้กับพวกเราสองคน มันทำให้คุณรู้สึกขายหน้ามากๆเหรอ? หรือว่าบุตรอริยสัจกลัวพวกเราสองคนมากๆจนไม่กล้าปรากฏตัว? 

เมื่อเขาพูดแบบนี้ ด้านบนท้องฟ้าก็มีการเคลื่อนไหวทันที

จากนั้นก็มีร่างหนึ่งปรากฏตัวอย่างรวดเร็ว เขาเป็นผู้ชายวัยรุ่น ใส่ชุดสีขาวและบินลงมาจากท้องฟ้า

เขาเดินมาด้วยและพูดเบาๆด้วย  ฉันกลัวหรือเปล่า คุณสามารถถามบุตรธยานะได้! ฉันเชื่อว่าเขาสามารถให้คำตอบกับคุณได้! 

ก่อนหน้านี้ ตอนที่อยู่ด้านนอกเมืองกวางยักษ์ อันที่จริงพวกเขาสองคนเคยต่อสู้กันแล้ว

และใครแพ้ใครชนะ อันที่จริงเรื่องนี้ได้แพร่กระจายไปตั้งนานแล้ว

สุดท้ายแล้ว บุตรธยานะพ่ายแพ้และหนีไป

เมื่อได้ยินคำพูดของบุตรอริยสัจ บุตรธยานะหัวเราะออกมา เขาสองมือกอดอก ในปากยังคาบต้นหญ้าอยู่และพูด  อย่าถามฉันเลย เรื่องนี้ฉันไม่รู้ ฉันเป็นพระ ไม่ค่อยชอบเรื่องต่อสู้และฆ่าคน 

บุตรอริยสัจบินลงมาที่พื้น พลังของเขาก็ถูกปลดปล่อยออกมาทันที

พลังของเขา พอๆกับผู้อาวุโสหลายๆคนที่ยืนอยู่บนเวที

สามคนนี้ ยืนเป็นรูปสามเหลี่ยม

คนนับหมื่นที่ยืนอยู่บริเวณโดยรอบ สายตาของพวกเขาต่างมองไปที่สามคนนี้ทันที

นี่คือเหตุการณ์ที่หาดูได้ยากมากๆ

สามารถมองเห็นใบหน้าของบุตรอริยสัจ บุตรธยานะและบุตรกระบี่ มันเป็นเรื่องที่น่ายินดีมากๆ

เมื่อมองเห็นทั้งสามคนแล้ว อันที่จริงมีคนจำนวนไม่น้อยนึกถึงคนๆหนึ่ง คนๆนั้นก็คือหลินชางฉอง

หลินชางฉองก็เป็นสุดยอดอัจฉริยะเหมือนกัน

ถ้าเขามายืนอยู่ใกล้ๆกับสามคนนี้ พลังของเขาก็คงไม่ด้อยไปกว่าสามคนนี้อย่างแน่นอน!

บางที เขาอาจจะมีพลังสูสีกับบุตรอริยสัจก็ได้

น่าจะเทียบกันได้?

เรื่องนี้พวกเขาไม่ค่อยแน่ใจ พวกเขาทำได้แค่จินตนาการเท่านั้น

เพราะหลินชางฉองในเวลานี้ ยังถูกขังอยู่ในสุดหล้าทะเล

ถ้าการประลองเก้าสำนักใหญ่สิ้นสุด เขาคงจะถูกสังหารอย่างแน่นอน

ล้อเล่นใช่ไหม

แม้แต่สำนักอริยสัจก็ลงมือแล้ว ไม่ว่าหลินชางฉองจะเป็นสุดยอดอัจฉริยะแค่ไหน เขาคงไม่รอดอย่างแน่นอน

ทางด้านสำนักอริยสัจ เมื่อบุตรอริยสัจปรากฏตัว เฉินฉางเฟิงไม่รีรอเลย เขามองไปที่บุตรอริยสัจและยิ้ม จากนั้นเขาก็กลับไปที่ตำแหน่งของสำนักอริยสัจทันที ให้บุตรอริยสัจเป็นตัวแทนของสำนักออกไปต่อสู้

จากนั้นก็มีผู้อาวุโสหลายๆคนของสำนักอื่นๆเดินออกมา

ทางด้านสำนักเทียนหยุน ผู้อาวุโสใหญ่เดินออกมาและขึ้นไปบนเวทีทันที

ทางด้านสำนักหยุนเยว่ ถึงแม้สองเยว่จะมีพลังแข็งแกร่งที่สุด แต่เขาเป็นเจ้าสำนักแทน แน่นอนว่าเธอไม่สามารถขึ้นไปประลองบนเวทีได้

ดังนั้นสายตาของทุกคน ต่างมองไปที่สี่เยว่

เพราะทุกคนในสำนักหยุนเยว่ต่างรู้ดี นอกจากสองเยว่แล้ว สี่เยว่คือคนที่แข็งแกร่งที่สุด

บางที พลังของสี่เยว่อาจจะสูสีกับสองเยว่ด้วยซ้ำ

ถ้าต้องเปรียบเทียบกับยอดฝีมือที่ยืนอยู่ด้านบน เมื่อสี่เยว่เข้าร่วมการประลอง อันดับของสำนักหยุนเยว่จะต้องอยู่ในสามสำนักชั้นสูงอย่างแน่นอน

ต้องรู้ไว้เรื่องหนึ่ง พลังของเธอนั้นฝึกฝนถึงแดนยาทองระดับแปดแล้ว

อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้ สี่เยว่ทำตัวเฉยๆราวกับว่าเธอมองไม่เห็นสายตาของทุกคน เธอไม่ได้มีการเคลื่อนไหวใดๆเลย

เมื่อเห็นกิริยาท่าทางของสี่เยว่ สามเยว่ที่อยู่ข้างๆสองเยว่เปล่งเสียงไม่พอใจออกมา จากนั้นเธอก็เดินขึ้นไปบนเวที

สามเยว่ที่ฝึกฝนถึงแดนยาทองระดับเจ็ด พลังของเธอก็ไม่ได้อ่อนแอมากนัก

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้เธอต่อสู้กับผู้อาวุโสใหญ่ของสำนักเทียนหยุนที่เมืองมี่หยุน การต่อสู้ครั้งนั้นทำให้เธอได้รับบาดเจ็บสาหัส จนถึงตอนนี้อาการบาดเจ็บสาหัสของเธอหายดีแค่แปดสิบเปอร์เซ็นต์เท่านั้น เธอไม่สามารถทำให้อันดับของสำนักหยุนเยว่ดีขึ้นแน่นอน

อย่างไรก็ตาม ในเมื่อสี่เยว่ไม่ยอมขึ้นไปประลอง มันก็ไม่มีวิธีอื่นๆอีกแล้ว ทำให้สามเยว่จำเป็นต้องขึ้นไปประลอง

ในขณะที่การต่อสู้กำลังจะเริ่มขึ้น ทางฝั่งสำนักปฏิบัติธรรม มีเณรใส่ชุดสีเหลืองคนหนึ่งเดินออกมา เขาเปลี่ยนตัวกับพระแก่ๆของสำนักปฏิบัติธรรมทันที

ผ่านไปไม่นาน ยอดฝีมือเก้าคนที่อยู่บนเวทีก็เริ่มการประลองทันที

ราวกับว่าพวกเขานัดกันเอาไว้แล้ว

เณรน้อยที่ขึ้นไปหลังสุด เขาเข้าร่วมการต่อสู้กับบุตรธยานะ บุตรอริยสัจและบุตรกระบี่ทันที

ส่วนคนที่เหลือ พวกเขาต่อสู้แบบตะลุมบอนทันที

การต่อสู้บนเวทีนั้นดุเดือดมากๆ

บุตรธยานะกับเณรน้อย ต่อสู้กันอย่างสูสี

พลังของทั้งสองคนแข็งแกร่งมากๆ

บุตรธยานะแข็งแกร่งมากๆ มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่เณรน้อยที่ขึ้นไปหลังสุด มองดูแล้วเป็นคนธรรมดามากๆ รูปร่างของเขาเหมือนเด็กอายุสิบกว่าขวบ แต่เขากลับสามารถต่อสู้กับบุตรธยานะได้อย่างสูสี เรื่องนี้ทำให้ทุกคนคาดคิดไม่ถึงจริงๆ

ผ่านไปชั่วพริบตา มีคนหายใจเร็วด้วยความตกใจ ราวกับนึกอะไรบางอย่างออก

สุดยอดอัจฉริยะของสำนักปฏิบัติธรรม สามารถต่อสู้กับบุตรธยานะได้อย่างสูสี สำหรับฐานะของเณรน้อยคนนี้สามารถมองออกได้อย่างชัดเจน!

บางทีเขาอาจจะเป็นพระบุตรในตำนานก็ได้!

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ทุกคนก็เข้าใจทันที

เขาสามารถต่อสู้กับบุตรธยานะได้อย่างสูสี เรื่องนี้ก็สามารถอธิบายได้อย่างชัดเจนแล้ว

อย่างไรก็ตาม……

พระบุตรคนนี้อายุน้อยมากจริงๆ?

เขาอายุน้อยจนน่าเหลือเชื่อ!

ทั้งสี่คน ต่างฝ่ายต่างสู้กันอย่างเมามัน พลังของพวกเขาสูสีมากๆ ในเวลาอันสั้นแบบนี้ ยากที่ดูออกว่าใครแพ้ใครชนะ

การต่อสู้ของฝั่งนี้ทำให้ทุกคนรู้สึกตกตะลึง ส่วนการต่อสู้ของบุตรอริยสัจกับบุตรกระบี่ที่อยู่อีกฝั่ง ก็ทำให้ทุกคนคาดคิดไม่ถึงเหมือนกัน

บุตรอริยสัจสามารถเอาชนะบุตรธยานะได้

ก่อนหน้านี้ มีคนจำนวนมากรู้เรื่องนี้แล้ว

แต่ในเวลานี้ บุตรกระบี่ที่ทุกคนคิดว่าเขาไม่น่าจะเป็นสุดยอดอัจฉริยะที่อยู่ในระดับเดียวกับบุตรอริยสัจ แต่เขากลับสามารถต่อสู้กับบุตรอริยสัจได้อย่างสูสี เรื่องนี้ทำให้ทุกคนตกตะลึงมากๆ

พวกเขาคาดคิดไม่ถึงจริงๆ

มีคนจำนวนมากอุทานออกมา

เพราะบุตรกระบี่รุ่นนี้แข็งแกร่งมากๆ!

นอกจากสี่คนนี้แล้ว การต่อสู้ตะลุมบอนของอีกฝั่งก็ดุเดือดมากๆเหมือนกัน

อย่างไรก็ตาม ผู้อาวุโสของสำนักเทียนหยุนกับสามเยว่ของสำนักหยุนเยว่ พวกเขาสองคนต่อสู้อย่างยากลำบาก โดยเฉพาะสามเยว่

เดิมทีเธอก็บาดเจ็บสาหัสอยู่แล้ว หลังจากเริ่มต่อสู้แล้ว เธอก็ตกอยู่ในอันตรายทันที เธอโดนพลังโจมตีใส่ร่างกายตลอด

ทางฝั่งสำนักหยุนเยว่ สีหน้าของทุกคนเริ่มเคร่งขรึมทันที

มีเพียงสี่เยว่คนเดียวที่ทำตัวเงียบสงบ ราวกับเธอไม่เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เธอนั่งนิ่งเงียบอยู่กับที่และหลับตาอยู่ เธอไม่อยากมองเห็นด้วยซ้ำ

สีหน้าของสองเยว่เย็นชามากๆ เธอลุกขึ้นทันทีและหันหน้าไปมองสี่เยว่

 เจ้าสี่ ถ้าวันนี้สำนักหยุนเยว่หลุดจากตำแหน่งเก้าสำนักใหญ่ ฉันจะสู้กับคุณให้ถึงที่สุด! 

 คุณคิดว่าถ้าสำนักหยุนเยว่หลุดจากตำแหน่งเก้าสำนักใหญ่แล้ว ฉันจะมอบตำแหน่งเจ้าสำนักแทนให้คุณเหรอ? 

 คุณฝันไปเถอะ! 

 

จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

Status: Ongoing

มหากษัตริย์ชางฉองหลินหยุนที่ปราบปรามสามโลกไถ่บาปไม่สำเร็จ เกิดใหม่กลับสู่โลกมนุษย์เป็นเขยแต่งเข้าบ้าน ชาติปางก่อน ได้เมียที่สวยเซ็กซี่ดูเป็นผู้ใหญ่กลับครอบครองไม่ได้ ชาตินี้ หลินหยุนจะทำยังไง……ชาติก่อน เขาเป็นคนไร้ความสามารถที่ใครๆต่างดูถูก ชาตินี้ เขาเป็นหมอเทพหลินในวงการแพทย์ ตาทิพย์หลินในวงการของโบราณ อาจารย์หลินในวงการฮวงจุ้ย และหลินชางฉองในวงการบู๊ เมื่อเขากลับมาสู่เทวโลกอีกครั้ง พบว่าเทวโลกมีการเปลี่ยนแปลง หลายคนที่กำลังไถ่บาปรวมตัวกัน พวกเขาจะทำได้ดั่งใจหวังหรือไม่

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท