บทที่39จูบทางอ้อม
การแข่งขันยังคงเริ่มต่อไป หลังจากการแข่งขันรอบแปด ถวนจื่อก็เข้ารอบต่อไปอย่างราบรื่น
เดิมทีเจียงหยุนเอ๋อไม่ได้หวังอะไรมากมายกับการแข่งขันครั้งนี้แต่เมื่อหลังจากที่เห็นความโดดเด่นของถวนจื่อ ในใจก็เริ่มเปลี่ยนไปเคร่งเครียดขึ้นมา
“ลี่จุนถิง ฉันไม่ค่อยรู้เรื่องเกม คุณคิดว่า ถวนจื่อจะได้ที่เท่าไหร่?” เจียงหยุนเอ๋อถามขึ้นอย่างลนลาน
เป็นปกติที่เธอเองก็หวังว่าถวนจื่อจะได้ที่หนึ่ง แต่ว่าที่จริงแล้วถวนจื่อก็ยังอายุน้อยอยู่ เธอเลยไม่กล้าหวังมากเกินไป บวกกับเธอไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับเกม แต่แรกจนจบก็พึ่งนักพากย์ถึงจะพอฝืนเข้าใจได้บ้าง ก็ไม่รู้ว่าถวนจื่อตกลงแล้วเก่งตรงไหน
“ที่หนึ่ง” ลี่จุนถิงพูดอย่างไม่ลังเล ราวกับว่ามีความมั่นใจมากกว่าถวนจื่อ
แม้ว่าในตอนแรกลี่จุนถิงก็พูดแบบนี้ แต่ตอนนี้เจียงหยุนเอ๋อก็แค่คิดว่าเขากำลังให้กำลังใจถวนจื่อ ไม่คิดว่าเมื่ออยู่กับตัวเอง ลี่จุนถิงก็ยังจะให้คำตอบที่เหมือนกัน
“จริงเหรอ?” เจียงหยุนเอ๋อเลิกคิ้วถามอย่างสงสัย ยังคงไม่กล้าเชื่อ
แท้จริงแล้ว ถวนจื่อเก่งขนาดนี้จริงๆ เหรอ?
ลี่จุนถิงมองเธอครู่หนึ่ง ขมวดหัวคิ้วเบาๆ “เดิมทีถวนจื่อก็มีความสามารถอยู่แล้ว ถ้านับว่าเอาไปอยู่ในกลุ่มเด็กวัยรุ่น คาดว่าก็สามารถออกลีลาได้ดี”
เจียงหยุนเอ๋อเองก็รู้ ตามนิสัยของลี่จุนถิงแล้ว ไม่สามารถหลอกตัวเองด้วยเรื่องพวกนี้แน่นอน ดังนั้นพยักหน้าอย่างฟุ้งซ่าน คุยกับตัวเองว่า “แท้จริงแล้วถวนจื่อเก่งขนาดนี้……”
ผ่านไปไม่นาน ก็ถึงตอนเวลาพักแล้ว ถวนจื่อก็ต้องรู้แน่นอนว่าตัวเองแสดงความสามารถออกมาได้ดี เพราะฉะนั้นใบหน้าก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มที่สว่างไสวและความฮึกเหิม เขาเดินลงมาอย่างมั่นใจ ยืนอยู่ต่อหน้าเจียงหยุนเอ๋อ ยืนมือตัวเองออกมา “หยุนเอ๋อ มือของหนูเมื่อย บีบนวดให้หนูหน่อย”
เจียงหยุนเอ๋อแทบพูดไม่ออกเมื่อเห็นถวนจื่อไม่รู้จักคนโตไม่รู้จักเด็ก แกล้งพูดอย่างโกรธๆ “ทำไมพูดกับแม่แบบนี้ล่ะ?”
ถึงแม้ว่าจะพูดออกมาแบบนี้ แต่เจียงหยุนเอ๋อก็ยังคงยื่นมือออกไป แต่กลับถูกลี่จุนถิงแย่งจับมือถวนจื่อไปก่อนแล้ว บีบนวดให้กับเขาอย่างจริงจัง ถวนจื่อก็คิดว่าไม่ผิดอะไรสีหน้ายังเต็มไปด้วยความสุขไม่ได้ปฏิเสธ
“ก็ไม่ไม่ใช่แค่แข่งรอบหนึ่งเหรอ? ต้องถึงกับขนาดนี้เลยเหรอ?” เจียงหยุนเอ๋อเสียงเล็กถามเสียงตะกุกตะกักอย่างไม่พอใจ
“ขนาดนี้แหละ” ลี่จุนถิงและถวนจื่อตอบกลับพร้อมกัน
เจียงหยุนเอ๋อเห็นว่าพวกเขามีปฏิกิริยาที่ไม่ได้นัดกัน ก็ยิ่งเลิกคิ้วขึ้นอย่างตกตะลึง ดูเหมือนโลกของไซเบอร์เธอคงไม่เข้าใจจริงๆ
เมื่อเห็นว่าเจียงหยุนเอ๋อท่าทางเต็มไปด้วยความสงสัยแบบนั้น ลี่จุนถิงก็อธิบายให้เธอฟังด้วยตัวเอง “คือแบบนี้ ไม่ว่าจะเป็นเกมอะไร จุดที่สำคัญที่สุดก็คือความลื่นไหลของมือ หากได้รับอันตรายจากการแข่งขันแล้วละก็ต้องได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน มีผลกระทบต่อการแข่งขันเป็นอย่างมาก ดังนั้นโดยปกติแล้ว ผู้เข้าแข่งขันไซเบอร์จะให้ความสำคัญกับการดูแลมือตัวเองเป็นอย่างมาก”
เมื่อได้ยินจุนถิงอธิบายดังนั้น เจียงหยุนเอ๋อที่ดูเหมือนไม่เข้าใจพยักหน้าไปมา เธอก้มหัวลงมองถวนจื่อในขณะที่กำลังจะไปช่วยลี่จุนถิงบีบนวด ก็ยื่นมือไปช่วยลูบถวนจื่อ ถามอย่างละเอียด “ถวนจื่อ เหนื่อยแล้วใช่ไหม?”
“แน่นอนสิ” ถวนจื่อตอบกลับอย่างไม่ลังเล “แต่ว่า หนูก็รู้สึกดีใจ”
เมื่อเห็นถวนจื่อที่แม้ว่าจะเหนื่อยล้าแต่สีหน้าก็เต็มไปด้วยความดีใจ เจียงหยุนเอ๋อเองก็ยิ้มออกมา “ดี งั้นหนูอีกพักก็สู้ต่อไปนะ”
“อือ!” ถวนจื่อพยักหน้าด้วยความแน่วแน่ สีหน้าเต็มไปด้วยความมั่นใจ
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง รอบรองชนะเลิศก็เริ่มอย่างแท้จริง ครั้งนี้ไม่ต้องสงสัยว่าคู่แข่งเก่งขึ้นอย่างมากกว่าเดิม เจียงหยุนเอ๋อนั่งอยู่เก้าอี้ของคนดูมองไปที่คู่แข่งอย่างเกร็งๆ ที่กำลังโจมตีอย่างต่อเนื่อง หน้าจอเต็มไปด้วยสกินสีเขียวสีสดใสเต็มไปหมด แม้ว่าเจียงหยุนเอ๋อจะดูไม่รู้เรื่อง กลับทนไม่ไหวต้องปาดเหงื่อเพื่อถวนจื่อ
ไม่นาน เจียงหยุนเอ๋อก็ได้ยินเสียงของผู้ชมที่คุยกันขึ้น
“ผู้เข้าแข่งคนที่สามรอบนี้ดูเหมือนจะไม่ไหวแล้ว เหมือนกับไม่ใช่คนเดียวกันกับรอบที่แล้วอย่างนั้น”
“นั่นสิ รอบนี้ถูกกดตีมาตลอด ก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น”
“อาจจะเป็นเพราะกำลังใจไม่ดีล่ะมั้ง”
“เฮ้ออ ปฏิกิริยาช้าไปแล้ว เดิมทีนึกว่าจะเป็นม้ามืด ดูแล้วรอบนี้ก็คงถูกคัดออก”
ไม่กี่คนต่างพูดกันคนล่ะประโยคต่อประโยค ก็ทำให้ใจของเจียงหยุนเอ๋อถูกยกขึ้นมา เพราะผู้เข้าแข่งขันหมายเลขสามที่พวกเขาพูดถึงก็คือถวนจื่อ
เจียงหยุนเอ๋อดึงแขนเสื้อของลี่จุนถิงอย่างเคร่งเครียด ถามต่อ “รอบนี้ถวนจื่อจะแพ้ไหม?”
ลี่จุนถิงมองเธอตาขวางอย่างเย็นชา ท่าทางราวกับว่าเธอถามคำถามอะไรโง่มากๆ แบบนั้น “วางใจเถอะ ไม่แพ้หรอก”
“ทำไมหรือ? คนพวกนั้นไม่ใช่พูดหรอกเหรอ ว่ารอบนี้สภาพจิตใจของถวนจื่อดูแย่มากๆ ” มองไปยังหน้าจออย่างกังวล พูดต่อ
“ถวนจื่อตั้งใจให้คนพวกนั้นมีโอกาส ทำให้คนอื่นได้ใจไปก่อนหลังจากนั้น ก็เป็นตอนนี้เขาจะโจมตีกลับแล้ว หากไม่ใช่เพราะเขาไม่เห็นใจ คาดว่ารอบนี้เพียงแค่นาทีแรกก็จบลงแล้ว” ลี่จุนถิงพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ
ที่ลี่จุนถิงอธิบายแยกอย่างละเอียดทำให้เจียงหยุนเอ๋อตกตะลึง ยังคงไม่วางใจแล้วถามต่อ “แต่ว่า คนพวกนั้นบอกว่าถวนจื่อจะแพ้แน่ๆ ………”
ลี่จุนถิงกลอกตาไปมาเบาๆ แล้วมองไปที่เธอ” นั่นเป็นเพราะพวกเขาไม่เข้าใจ ทำไม เธอเลือกที่จะเชื่อพวกเขา มากกว่าที่เชื่อฉันงั้นเหรอ?”
เจียงหยุนเอ๋อเม้มปากไปมา พูดเสียงต่ำ” ไม่ใช่ ฉันก็แค่รู้สึกกังวล”
“ถ้าหากไม่เชื่อ ก็ดูต่อไปเถอะ “ลี่จุนถิงจ้องไปยังหน้าจอ พูดขึ้น
เมื่อได้ยินดังนั้น เจียงหยุนเอ๋อก็กดความกังวล เอาความสนใจไปอยู่ที่การแข่งขันใหม่
เป็นไปตามคาด หรือบางทีเป็นเพราะถวนจื่อทำให้ก่อนหน้านี้ดูย่ำแย่ จากนั้นฝ่ายสีแดงตรงข้ามก็ได้ใจคิดว่าตัวเองจะต้องชนะในตอนนั้น อยู่ๆ ถวนจื่อก็ระเบิดออกมา ตีจนแทบพวกนั้นตั้งรับไม่ทัน จากนั้นก็ยังแพ้ลง
คนไม่กี่คนนั้นที่เมื่อกี้พูดว่าถวนจื่อจะต้องแพ้ตกรอบแน่นอนแวบเดียวก็ตกตะลึง คนอื่นๆ ก็ไม่คิดว่าสุดท้ายแล้วจะกลับกันได้ขนาดนี้
เข้าสู่รอบใหม่อีกได้อย่างราบรื่น แม้ว่าถวนจื่อจะดีใจ แต่ก็ไม่ได้แสดงออกมาอย่างชัดเจนแบบนั้น เขาวิ่งมาที่ด้านหน้าข้างของเจียงหยุนเอ๋อ พูดขึ้น “หยุนเอ๋อ ดูหนูเก่งหรือเปล่า”
“เก่งแน่นอน” เจียงหยุนเอ๋อลูบหัวเขาหัวเราะเบาๆ
“ถ้างั้นหม่ามี๊หอมหนูหน่อย” พูดจบ ถวนจื่อเอาแก้มของตัวเองยื่นเข้าไปใกล้
เจียงหยุนเอ๋อไม่ลังเล “จุ๊บ” หอมไปที่แก้ม ถวนจื่อก็ยังไม่พอใจ วิ่งเข้าไปทางลี่จุนถิง แล้วเอาแก้มยื่นเข้าไปเหมือนกัน
ลี่จุนถิงก็ประทับรอยหอมลงบนแก้มของถวนจื่อเบาๆ แต่ทว่าคนที่อยู่ข้างๆ อย่างเจียงหยุนเอ๋อกลับหน้าแดงขึ้นมา
ไม่รู้ว่ามีความนัยอะไรหรือไม่มี ลี่จุนถิงและตัวเองหอมลงบนที่เดียวกัน นี่ นี่มันไม่ใช่จูบทางอ้อมหรอกเหรอ?
ภายในใจของเจียงหยุนเอ๋อก็รู้สึกแปลกๆ แต่ยังไม่ถามอะไรมากมาย