บทที่ 74 เจ้าของจี้หยก
ตกค่ำ เจียงหยุนเอ๋อมีความกังวลอยู่ในใจ ดังนั้นจึงนอนอยู่ไม่หลับอยู่บนเตียง
เธอมองไปที่สร้อยข้อมือบนข้อมือของตน จ้องมันอย่างเหม่อลอยไปชั่วครู่ และคิดไปถึงราคาของมัน จากนั้นจึงคิดว่าตนเองในตอนนี้ไม่มีปัญญาซื้อมันได้จริงๆ
สร้อยข้อมือเส้นนี้แพงเกินไป แม้ว่าลี่จุนถิงจะซื้อมันและมอบให้ตนโดยไม่แม้แต่จะกะพริบตา แต่เธอก็กลัวตนเองจะทำมันพังโดยไม่ระวังในภายหลัง
ถึงแม้ว่าเธอจะชอบสร้อยข้อมือเส้นนี้อย่างยิ่ง แต่ก็ไม่อาจสวมใส่มันได้อย่างสบายใจตลอดเวลา หากเธอไม่ระวังแล้วทำมันพังจริงๆ ในใจของเธอจะเจ็บปวดขนาดไหนกัน!
หลังจากครุ่นคิดสักพัก เจียงหยุนเอ๋อก็ถอดสร้อยข้อมือออกมา จากนั้นจึงหยิบกล่องออกมากล่องหนึ่งจากตู้และวางสร้อยข้อมือลงไป
ในกล่อง ยังมีจี้หยกชิ้นหนึ่งถูกวางอยู่ในนั้น เป็นของที่เธอพบในโรงแรมเมื่อก่อนหน้านี้
แม้ว่าก่อนหน้านี้เธอจะแค่เก็บรักษามันให้กับถวนจื่อระยะหนึ่ง แต่เนื่องจากช่วงนี้ถวนจื่อทุกวันล้วนจดจ่ออยู่กับเกม คาดว่าเขาคงลืมเรื่องนี้ไปแล้วเช่นกัน ตอนที่ย้ายบ้านเจียงหยุนเอ๋อจึงหยิบมันมาด้วยทีเดียว เก็บไว้ที่เธอแบบนี้ยังคงรู้สึกสบายใจกว่า
เจ้าของจี้หยกนี้….ควรจะเป็นพ่อของถวนจื่อหล่ะมั้ง? ไม่รู้เหมือนกันว่า ตลอดชั่วชีวิตนี้เธอจะยังมีโอกาสได้เจอผู้ชายคนนั้นหรือไม่ เขาจะเต็มใจรับผิดชอบถวนจื่อหรือเปล่า?
ถ้าหากเขาไม่ยอมรับถวนจื่อ ถวนจื่อคงต้องเสียใจมากแน่ เขาอยากมีพ่อเป็นอย่างยิ่งมาโดยตลอด
เจียงหยุนเอ๋อพลิกตัว ในสมองของเธอปรากฏใบหน้าของลี่จุนถิงขึ้น หลังจากอยู่ด้วยกันมานานขนาดนี้ เจียงหยุนเอ๋อก็พอมองออกว่า ลี่จุนถิงนั้นดีต่อถวนจื่อด้วยใจจริง และปฏิบัติต่อถวนจื่อประหนึ่งเป็นลูกชายของเขาเอง
ถ้าหากเขาสามารถปฏิบัติต่อถวนจื่อเช่นนี้ได้ตลอดไป เช่นนั้นก็ให้เขาเป็นพ่อของถวนจื่อ แบบนี้ จะเป็นไปได้หรือไม่?
ความคิดนี้ปรากฏขึ้นมาในสมองของเจียงหยุนเอ๋อและถูกเธอทำให้สลายไปอย่างรวดเร็ว นี่เธอกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่….ต่อให้ลี่จุนถิงจะชอบถวนจื่อ แต่สุดท้ายแล้วเขาก็ไม่สามารถถือว่าถวนจื่อเป็นลูกชายของเขาได้จริงๆหรอก
ท้ายที่สุด ผู้ชายที่โดดเด่นอย่างเช่นลี่จุนถิง หากเขาต้องการมีลูกสักคนก็คาดว่าคงมีผู้หญิงจำนวนมากมายที่แย่งกันมาอาสากำเนิดเขา ทำไมเขาต้องมาเลี้ยงดูลูกของคนอื่นกัน….
สุดท้าย เจียงหยุนเอ๋อก็หลับไปพร้อมกับความรู้สึกสูญเสียภายในใจ ในมือของเธอกำจี้หยกเอาไว้แน่น
วันรุ่งขึ้น เจียงหยุนเอ๋อเพิ่งจะตื่นนอน ก็ได้รับสายจากเบอร์ที่เธอไม่รู้จัก เมื่อเธอกดรับก็รู้สึกว่าน้ำเสียงนั้นฟังดูคุ้นเคยอยู่บ้าง แต่กลับนึกไม่ออกว่าเป็นใคร
“เฮ้อ นี่คุณคงยังไม่ลืมผมใช่ไหม? ครั้งที่แล้วพวกเรายังทานอาหารด้วยกันอยู่เลย” หลังจากเอ่ยทักทาย เจียงหยุนเอ๋อก็ไม่เอ่ยพูดอะไรขึ้นมา กลับเป็นลี่หยูนห่วนที่พูดขึ้นอีกครั้ง
เมื่อได้ยินลี่หยูนห่วนพูดแบบนี้ เจียงหยุนเอ๋อก็ค่อยนึกขึ้นได้ และเอ่ยปากด้วยความเกรงใจอยู่บ้าง “อืม ฉันจำได้ เพียงแต่….ทำไมคุณถึงมีเบอร์ของฉัน?”
“ฮ๋อ ก่อนหน้านี้ผมถามลูกของคุณมาก่อน เขาชื่อถวนจื่อใช่ไหม?”ลี่หยูนห่วนเอ่ยด้วยรอยยิ้ม
เจียงหยุนเอ๋อขมวดคิ้วเล็กน้อย ถวนจื่อไม่ใช่ว่าไม่ชอบลี่หยูนห่วนหรอกหรือ? ทำไมถึงได้บอกหมายเลขโทรศัพท์ตนกับเขากัน ถึงแม้ว่าจะมีข้อสงสัยอยู่บ้าง แต่เจียงหยุนเอ๋อก็ไม่ได้ใส่ใจ เธอแค่รับคำเบาๆ “ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้ อย่างนั้น…จู่ๆคุณก็โทรมาไม่ทราบว่ามีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”
เมื่อเทียบกับความลำบากใจของเจียงหยุนเอ๋อ ลี่หยูนห่วนดูเหมือนว่าจะคุ้นเคยเป็นอย่างดี “อะไรกัน? ยังไงก็เคยทานข้าวด้วยกันมาก่อน พวกเราก็นับได้ว่าเป็นเพื่อนกันนี่? โทรติดต่อสอบถามความเป็นไปไม่ได้หรือ?”
เจียงหยุนเอ๋อรู้สึกอยู่เสมอว่าคำพูดของลี่หยูนห่วนนั้นออกจะแปลกประหลาด ฟังแล้วดูคลุมเครือ เธอเงียบไปสักพักแล้วพูดขึ้น “ฉัน…ฉันไม่คิดว่าเราคุ้นเคยกันขนาดนั้น”
เสียงหัวเราะของลี่หยูนห่วนดังขึ้นที่ปลายอีกด้านของโทรศัพท์ “คุณหนูเจียงเป็นคนตรงไปตรงมาจริงๆ ผมชอบ วันนี้คุณมีเวลาไหม? ออกมาเจอกันหน่อยไหม ครั้งที่แล้วที่คุณเลี้ยงขอบคุณ ยังไม่ทันไรคุณก็กลับไปเสียก่อน”
อันที่จริงในใจของเจียงหยุนเอ๋อไม่ต้องการออกไปข้างนอกกับ ลี่หยูนห่วนเพียงลำพัง แต่ว่า ลี่หยูนห่วนพูดถูก ครั้งที่แล้วตนสัญญาว่าจะเลี้ยงอาหารเขา แต่กลับถูกความวุ่นวายของถวนจื่อทำมันพังลงกลางทาง”
พอลองคิดดูดีๆ เจียงหยุนเอ๋อยังคงรู้สึกผิดอยู่เล็กน้อย ดังนั้นจึงรีบรับปากเขาไป “ตกลง”
หลังจากแต่งตัวเสร็จ เธอก็ลงไปชั้นล่างและเตรียมออกจากบ้าน และพบกับลี่จุนถิงซึ่งกำลังเตรียมตัวจะไปทำงานเข้าพอดี
ลี่จุนถิงเห็นว่าวันนี้เจียงหยุนเอ๋อแต่งตัวเป็นพิเศษ เขาเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจและถามว่า “คุณจะไปไหน”
“เอ่อ…..ไม่ได้ไปไหน……” ไม่รู้ว่าทำไม ในใจของเจียงหยุนเอ๋อจึงรู้สึกผิดขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว ดังนั้นจึงตอบกลับไปโดยไม่ได้บอกความจริง
เมื่อมองไปที่ดวงตาหลบๆเลี่ยงๆของเจียงหยุนเอ๋อ ลี่จุนถิงก็เห็นว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง ดังนั้นจึงเดินไปตรงหน้าของเจียงหยุนเอ๋อและจับเข้าที่ข้อมือของเธอ จากนั้นจึงดันเธอเอาไว้กับกำแพง
“สรุปคุณจะไปไหนกันแน่?”
เจียงหยุนเอ๋อไม่กล้าเงยหน้าขึ้นไปสบกับสายตาที่ร้อนแรงของลี่จุนถิง ทำได้แค่เพียงกระซิบเอ่ยเสียงเบา “ไปเจอเพื่อนคนหนึ่ง”
เพื่อน? ลี่จุนถิงมองเธอด้วยความสนใจและถามต่อ “ผู้ชาย?”
เจียงหยุนเอ๋อรู้สึกกระวนกระวายเล็กน้อย เธอไม่ตอบ ซึ่งถือเป็นการยอมรับไปโดยปริยาย
ลี่จุนถิงจ้องมองเธอเป็นเวลานาน ในใจรู้สึกหึงหวงขึ้นมาอยู่บ้าง จากนั้นจู่ๆเขาก็ก้มลงไปและจูบที่ริมฝีปากของ เจียงหยุนเอ๋อเข้าให้ทันที
เจียงหยุนเอ๋อเบิกตากว้างด้วยความตะลึงจนลืมต่อต้านไปชั่วขณะ ดังนั้นเธอจึงปล่อยให้ลี่จุนถิงจูบเธออย่างดูดดื่มอยู่เป็นเวลาเนิ่นนาน
หลังจากจูบเสร็จ ลี่จุนถิงก็โน้มตัวไปที่หูของเจียงหยุนเอ๋อ และเอ่ยเสียงเบา “ผมให้เวลาคุณสองชั่วโมง ถ้าเกินเวลานี้ ผมจะสอนบทเรียนให้กับคุณ”
ลี่จุนถิงจงใจเน้นคำว่า “บทเรียน” เป็นพิเศษ ทำให้ใบหน้าใบหูของเจียงหยุนเอ๋อแดงขึ้นมา เมื่อมองเห็นที่ท่าทางขี้อายของเธอ ลี่จุนถิงก็หัวเราะเบาๆและปล่อยเธอ “ให้ผมไปส่งคุณไหม?”
“ไม่ ไม่ต้อง!” เจียงหยุนเอ๋อปฏิเสธอย่างรวดเร็วและรีบวิ่งหนีไปทันที
เมื่อมาถึงสถานที่ที่ตกลงกับ ลี่หยูนห่วนเจียงหยุนเอ๋อก็เห็นว่า ลี่หยูนห่วนกำลังโบกมือให้ตัวเองอยู่หน้าโต๊ะ
“ขอโทษค่ะ ฉันมาช้าไปหน่อย” เจียงหยุนเอ๋อเอ่ยและยิ้มให้ ลี่หยูนห่วนอย่างรู้สึกผิดอยู่บ้าง
เจียงหยุนเอ๋อไม่รู้ว่าจุดประสงค์ที่ ลี่หยูนห่วนเรียกตนเองออกมาในครั้งนี้คืออะไร แต่เธอก็ยังคงพูดคุยกับ ลี่หยูนห่วนอย่างสุภาพ
ในขณะที่พวกเขากำลังคุยกัน จู่ๆลี่หยูนห่วนก็ถามถึงงานของเจียงหยุนเอ๋อขึ้นมา
“ใช่สิ ผมยังไม่รู้เลยว่าเจียงหยุนเอ๋อทำอาชีพอะไร?”
เจียงหยุนเอ๋อตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงพูดขึ้นด้วยความลำบากใจอยู่บ้าง “ฉันเพิ่งจะกลับประเทศมา ดังนั้นจึงยังไม่ได้หางานประจำทำ และก็ไม่รู้ว่าตนเองเหมาะกับอาชีพแบบไหนกันแน่”
“อย่างนี้นี่เอง?” หลังจากได้ยินเธอพูดลี่หยูนห่วนก็เงียบไปสักพักและพูดขึ้นต่อ “ผมมีเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งที่เพิ่งเปิด บริษัท คุณสนใจลองดูไหม?”
“นี่….รบกวนคุณมากไปหน่อยแล้วมั้งคะ? ยิ่งไปกว่านั้นฉันก็ไม่แน่ว่าจะมีความสามารถมากพอ” เจียงหยุนเอ๋อพูดอย่างลังเล