บทที่ 76 กำลังนอกใจหรือ
หากวันหนึ่งลี่จุนถิงเบื่อหน่ายเธอแล้ว เธอเองก็อาจจะอยู่ต่อไปไม่ได้ ดังนั้นเธอควรหาทางออกให้ตัวเองโดยเร็วที่สุด
หลังจากพบกับ ลี่หยูนห่วนเจียงหยุนเอ๋อก็ตามเขาไปที่บริษัทแห่งหนึ่ง
วินาทีแรกที่เห็นเจียงหยุนเอ๋อ เฉียวซินก็รู้สึกอิจฉาความงามของเธออยู่บ้าง แม้ว่า เฉียวซินจะหน้าตาไม่เลว แต่สำหรับผู้หญิงคนหนึ่ง เธอก็ยังอิจฉาเจียงหยุนเอ๋ออยู่ดี
“คุณหนูเจียงนี่เอง ฉันเคยได้ยินหยูนห่วนพูดถึงมาก่อน เป็นอย่างไรบ้าง มาลองทำงานที่บริษัทของพวกเราดูไหม? บริษัทแห่งนี้ฉันเป็นคนสร้างมันขึ้นมาเอง และยินดีอย่างยิ่งที่จะต้อนรับผู้หญิงที่กระตือรือร้นในการพัฒนาตนเองเช่นคุณ”
เจียงหยุนเอ๋อยังคงไม่มั่นใจในตนเองอยู่บ้าง เมื่อมองไปที่สีหน้าลังเลของเธอ ลี่หยูนห่วนที่อยู่ด้านข้างก็พูดขึ้น “คุณหนูเจียง คุณลองดูเถอะ นี่ไม่ได้ถือเป็นภาระที่มากเกินไปอะไร” สิ
ทั้งสองคนพูดจาโน้มน้าวเธอ ในที่สุดเจียงหยุนเอ๋อก็ยอมแพ้ และตกลงที่จะให้สัมภาษณ์
เนื่องจากมีการพูดเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว ดังนั้นผู้สัมภาษณ์จึงไม่ได้ทำให้เจียงหยุนเอ๋อลำบากใจเลยแม้แต่น้อยและปล่อยให้เธอผ่านการสัมภาษณ์ไปอย่างราบรื่น
หลังจากได้รับผลการสัมภาษณ์ เจียงหยุนเอ๋อก็ยังคงสับสนเล็กน้อย เธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเช่นกัน ไม่นานมานี้สิ่งต่างๆล้วนพัฒนาไปอย่างราบรื่นจนน่าประหลาด ไม่รู้ว่านี่…..การทำงานในครั้งนี้จะมีเหตุไม่คาดคิดเกิดขึ้นอย่างเช่นครั้งก่อนหรือเปล่า
หลังจากผ่านการสัมภาษณ์สำเร็จ เจียงหยุนเอ๋อก็เอ่ยขอบคุณเฉียวซินและ ลี่หยูนห่วนครั้งแล้วครั้งเล่า เฉียวซินยิ้มและพูดกับเธอว่า “คุณหนูเจียง ถ้าคุณสะดวก พรุ่งนี้ก็สามารถมาเริ่มงานได้เลย”
“ได้ค่ะ รบกวนคุณแล้ว” เจียงหยุนเอ๋อพยักหน้าและออกจากบริษัทไป
ลี่หยูนห่วนมองดูเจียงหยุนเอ๋อจากไป เมื่อเห็นฉากนี้เข้า เฉียวซินก็ดึงแขนของเขาด้วยความหึงและเอ่ยขึ้น “เฮ้ คนไปแล้ว คุณยังมองอะไรอยู่อีก?”
“ไม่มีอะไร” ลี่หยูนห่วนเก็บสายตากลับมา จากนั้นจึงเดินโอบเฉียวซินไปยังสำนักงาน “กลางคืนคุณอยากไปทานอะไร?”
เฉียวซินยังคงโกรธอยู่เล็กน้อย เธอรู้สึกว่า ลี่หยูนห่วนจงใจที่จะหลีกเลี่ยงหัวข้อนี้ ดังนั้นเธอจึงสะบัดแขนของเขาออกและพูดขึ้น “ลี่หยูนห่วน”
สายตาที่คุณมองผู้หญิงคนนั้นมันไม่ปกติ คุณบอกฉันมาตามตรง คุณกำลังนอกใจหรือเปล่า?”
“จะเป็นไปได้ยังไงกัน?” ลี่หยูนห่วนมองไปที่ เฉียวซินด้วยความขบขัน จากนั้นจึงปลอบเธออย่างรวดเร็ว “ทำไมคุณถึงสงสัยผมแบบนี้ได้กัน? ผู้หญิงคนนั้นไม่มีอะไรเทียบกับคุณได้เลย ทำไมพบจะต้องทิ้งคนดีๆอย่างคุณไปหาเธอด้วย?”
“หึ” เฉียวซินกอดอก เมื่อได้ยินคำพูดยกยอของลี่หยูนห่วนมุมปากของเธอก็ขยับขึ้นเล็กน้อยอย่างอดไม่อยู่ “ก็ได้ คราวนี้ฉันจะเชื่อใจคุณ”
หลังจากที่เจียงหยุนเอ๋อกลับบ้าน เธอก็เริ่มเตรียมสิ่งของที่จำเป็นสำหรับการทำงานในวันพรุ่งนี้
ในตอนเย็น หลังจากที่ลี่จุนถิงกลับมา เจียงหยุนเอ๋อก็ครุ่นคิดเรื่องนี้อยู่พักหนึ่ง จากนั้นจึงเอ่ยกับลี่จุนถิง “เอ่อ ฉันหางานได้แล้ว พรุ่งนี้ฉันจะไปทำงานแล้วนะคะ”
“งาน?” ลี่จุนถิงเลิกคิ้วขึ้นด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่าเจียงหยุนเอ๋อยังคงยืนกรานเรื่องการทำงานอยู่
อย่างไรก็ตาม หลังจากสิ่งที่เกิดขึ้นครั้งที่แล้ว ลี่จุนถิงจำได้ว่าเขาเคยบอกเจียงหยุนเอ๋อว่าเขาจะจัดการเรื่องงานของเธอให้ เพียงแต่ตอนนั้นกลับถูกเจียงหยุนเอ๋อปฏิเสธขึ้นมาทันที
“คุณคิดจะหางานทำหรือ? ก่อนหน้านี้ผมบอกว่าจะจัดการให้คุณ แต่คุณปฏิเสธไปแล้วนี่?” ลี่จุนถิงเหลือบมองเจียงหยุนเอ๋อและเอ่ยถามขึ้น
เจียงหยุนเอ๋อกลัวว่าลี่จุนถิงจะไม่พอใจกับเรื่องนี้ จึงรีบเอ่ยอธิบาย “นั่นเป็นเพราะฉันคิดว่าถ้าคุณช่วยฉันจัดเตรียมงาน คนเหล่านั้นก็จะดูแลฉันเป็นพิเศษเพราะคุณอย่างแน่นอน แล้วฉันก็จะไม่ได้รับโอกาสให้ทำงานแน่…….. “
ลี่จุนถิงสามารถเข้าใจความคิดของเจียงหยุนเอ๋อได้ ดังนั้นเขาจึงไม่ทำให้เธอลำบากใจต่อไป เขาเปลี่ยนคำถาม”อืม แล้วคุณหางานที่ไหน?”
“เป็นบริษัทจิวเวลรี่หรูหราทั่วไปบริษัทหนึ่ง ฉัน…ฉันแค่ต้องการลองดูด้วยตนเองก็เท่านั้น ฉันไม่อยากเอาแต่พึ่งพาคุณ…..” เจียงหยุนเอ๋อเอ่ยเสียงเบา ในน้ำเสียงมีร่องรอยแห่งความหวัง “ฉันต้องการหาเงินเพื่อซื้อบ้านด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง จากนั้นจึงให้ถวนจื่อมีชีวิตที่ดีในอนาคต ไม่ให้เขาต้องลำบากและรังแกอีกต่อไป”
ลี่จุนถิงจ้องมองเจียงหยุนเอ๋อเป็นเวลานาน แววตาของเขาล้ำลึก หลังจากเงียบไปชั่วครู่ จู่ๆเขาก็เอ่ยถามอย่างติดตลกว่า “คุณไม่คิดอยากแต่งงานกับครอบครัวที่ร่ำรวย เป็นลูกสะใภ้คนรวย แบบนั้นจะได้ไม่ต้องลำบากอีกต่อไป?”
คำพูดของลี่จุนถิงทำให้ใบหน้าของเจียงหยุนเอ๋อเปลี่ยนเป็นสีแดง เห็นชัดว่าลี่จุนถิงก็แค่ล้อเล่น เธอเองก็รู้ด้วยว่ามันเป็นไปไม่ได้ บางทีลี่จุนถิงก็แค่ล้อเล่นกับตัวเธอเท่านั้น แต่ในใจของเธอก็ยังรู้สึกสั่นไหวขึ้นมาเล็กน้อย
“อย่า อย่าล้อเล่นแบบนี้อีกเลย ไม่ตลกเลยสักนิด” เจียงหยุนเอ๋อเอ่ยพึมพำเสียงเบา เธอก้มหน้าลงและกลัวว่าลี่จุนถิงจะเห็นใบหน้าที่ผิดปกติของตน
อย่างไรก็ตาม ลี่จุนถิงได้เห็นปฏิกิริยาของเธอตลอดเวลา เมื่อเห็นท่าทางที่คลุมเครือของเจียงหยุนเอ๋อ เขาก็ไม่ได้พูดอะไรเพิ่มเติม อย่างไรเสีย….ยังมีเวลาอีกยาวไกล
แตกต่างจากความคิดของลี่จุนถิงโดยสิ้นเชิง ในใจที่สงบลงมาของเจียงหยุนเอ๋อก็ยังคงรู้สึกหนักอึ้งอยู่เล็กน้อย
แม้จะไม่รู้ว่าคำพูดของลี่จุนถิงนั้นหมายถึงอะไร แต่เธอก็ไม่สามารถแต่งงานกับตระกูลเศรษฐีได้ เธอไม่ต้องการเห็นถวนจื่อต้องได้รับความเจ็บปวดใดๆทั้งนั้น!
วันรุ่งขึ้น เจียงหยุนเอ๋อรีบมาถึงบริษัทเพื่อเข้างานตั้งแต่เช้าตรู่
ไม่นานนักเธอก็มาถึงที่ทำงานของเฉียวซิน แต่ว่าดูเหมือนเฉียวซินจะยังไม่ได้มาทำงานเนื่องจากในห้องทำงานว่างเปล่า
เจียงหยุนเอ๋อรออยู่ที่ประตูอย่างอดทน ในระหว่างนั้นมีพนักงานหลายคนเดินผ่านไปมา หลังจากเห็นเจียงหยุนเอ๋อพวกเขาก็รวมตัวกันเป็นกลุ่มและส่งเสียงพึมพำขึ้นมา
แม้จะไม่รู้ว่าคนเหล่านั้นกำลังพูดถึงอะไรแต่เจียงหยุนเอ๋อก็คิดว่ามันไม่น่าจะใช่เรื่องที่ดีอะไรนัก พอเห็นว่าเธอไม่มีท่าทีตอบสนองอะไร คนบางคนดูเหมือนจะขี้เกียจพูดเสียงเบาๆอีกต่อไปและเดินเข้ามาพูดจาไม่ดีต่อหน้าต่อหน้าเจียงหยุนเอ๋อ
แม้ว่าเจียงหยุนเอ๋อจะรู้สึกเสียใจอยู่เล็กน้อย แต่ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นการทำงานในวันแรกของเธอ เธอไม่ต้องการก่อความเดือดร้อนอะไรขึ้นมา ดังนั้นจึงรอเฉียวซินต่อไปอย่างเงียบ ๆ
หลังจากนั้นไม่นานเฉียวซินก็มาถึง พนักงานคนอื่นๆก็กระจัดกระจายออกไป มองเห็นเจียงหยุนเอ๋อที่มาถึงแต่เช้า เฉียวซินก็รู้สึกแปลกใจอยู่บ้างจากนั้นจึงรีบเรียกเธอเข้าไปในสำนักงาน “นับตั้งแต่วันนี้ คุณคือเลขาพิเศษของประธาน อีกสักครู่ฉันจะพาคุณไปเดินรอบๆให้คุ้นเคยกับบริษัทของเรา หากคุณมีข้อสงสัยอะไรให้ถามฉัน”
เจียงหยุนเอ๋อรู้สึกยินดีที่ได้รับความเอ็นดูและเอ่ยขึ้น “ขอบคุณประธานเฉียว”
ระหว่างทาง เฉียวซินอดทนและใจดีกับเธออย่างยิ่ง จนทำให้เจียงหยุนเอ๋อรู้สึกซาบซึ้ง จนกระทั่งเฉียวซินพาเธอเดินรอบๆบริษัทเสร็จ เธอก็อดไม่ได้ที่จะขอบคุณเฉียวซินอีกครั้ง “ขอบคุณประธานเฉียวจริงๆนะคะที่ไม่รังเกียจฉันและยังลำบากพาฉันไปเดินรอบๆให้คุ้นเคยกับบริษัท”
“ไม่เป็นไร” เฉียวซินโบกมือด้วยรอยยิ้ม ท่าทางราวกับว่าทั้งหมดนี้คือสิ่งที่เธอควรทำ “ตอนนี้คุณเป็นพนักงานของฉันแล้ว ฉันย่อมต้องดีกับคุณสักหน่อยเป็นธรรมดา”