บทที่ 92 ข่มขู่
เจียงหยุนเอ๋อมองเจียงเย่เฉิงด้วยความโกรธ ตอนแรกเธอคิดว่าเจียงเย่เฉิงคงจะรู้สึกผิดกับตัวเองบ้างไม่มากก็น้อย คิดไม่ถึงว่าสุดท้ายมันก็ผ่านไปอย่างนี้ เขาก็ยังคงทำตัวน่ารังเกียจแล้วก็ไม่สนใจความรู้สึกของคนอื่นเหมือนเดิม
เห็นๆอยู่ว่าเขาทำแบบนี้ก็เพื่อผลประโยชน์ ยังจะมาพูดให้ดูดีอีก เจียงหยุนเอ๋อคิดว่าเจียงเย่เฉิงมองว่าตัวเธอนั้นเป็นคนโง่เลยจะทำยังไงกับเธอก็ได้ แล้วเขายังหวังให้เธอปฏิบัติกับเขาเหมือนว่าเขามีพระคุณต่อเธออีกอย่างนั้นเหรอ?
“เจียงเย่เฉิง คุณนี่มันหน้าไม่อายจริง!” เจียงหยุนเอ๋อมองความด้วยแววตาเกรี้ยวโกรธ
เจียงหยุนเอ๋อหยิบกระเป๋าที่วางอยู่บนโซฟาขึ้นมาคิดจะออกไปจากที่นี่ แค่เธอต้องเห็นหน้าเจียงเย่เฉิงเพิ่มอีกแป๊บเดียวก็รู้สึกอยากจะอ้วกออกมา
เห็นว่าเจียงหยุนเอ๋อกำลังจะไป เจียงเย่เฉิงก็ดูทำอะไรไม่ถูกรีบตามไปรั้งเจียงหยุนเอ๋อเอาไว้ ขอร้องเธอ “หยุนเอ๋อ ยังไงลูกก็เป็นลูกสาวของพ่อ ช่วยพ่อหน่อยไม่ได้เหรอ?”
“ลูกสาว?” เจียงหยุนเอ๋อทำเสียง‘เหอะ’ สะบัดมือของเจียงเย่เฉิงทิ้ง หันไปแสยะยิ้มแล้วจ้องไปที่เขา “นี่คุณยังรู้ว่าฉันเป็นลูกสาวของคุณงั้นเหรอ? ฉันเป็นลูกสาวของคุณก็เลยต้องถูกคุณใช้เพื่อหาผลประโยชน์ใช่ไหม? อีกอย่าง ดูเหมือนว่าคุณไม่ได้มีฉันเป็นลูกสาวแค่คนเดียวนี่?”
เจียงเย่เฉิงได้ยินเจียงหยุนเอ๋อพูดออกมาแบบนี้ ก็รีบเอ่ยขึ้นทันที “หนิงเอ๋อเธอ….ยังไงเสียหนิงเอ๋อเธอยังเด็กอยู่ เรื่องแบบนี้….เธอเองก็รับไม่ได้ อีกอย่างนะ ลูกเองดูแลเด็กด้วยตัวคนเดียวลำบากก็ลำบาก ไม่ใช่ว่าพ่อเองก็คิดเผื่อลูกแล้วหรือไง?”
“พูดออกมาเสียดูดี ไม่ใช่ว่าอยากจะขายฉันหรือยังไง?” เจียงหยุนเอ๋อยิ้มแสยะแล้วผลักเจียงเย่เฉิงออก
เจียงเย่เฉิงยังคงไม่ยอมแพ้ ต่อให้เจียงหยุนเอ๋อไม่สนใจเขาอีกต่อไปแล้ว แต่เขาก็ยังพยายามเดินตามอยู่ทางด้านหลังของเจียงหยุนเอ๋อ “หยุนเอ๋อ ลูกช่วยพ่อเถอะนะ ยังไงพ่อเองก็ยังเป็นพ่อของลูกนะ”
เจียงหยุนเอ๋อหยุดเดิน เธอหันหน้ามามองเจียงเย่เฉิง มองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตาเย็นชา ในใจยังคิดสุดท้ายเจียงเย่เฉิงยังสามารถที่จะก่อเรื่องก่อราวใหญ่โตขึ้นมาได้อีก “ดูแล้วยังไงเสียคุณเองก็คงตั้งใจแน่แล้วว่าจะขายฉันให้ได้ บอกมาสิ คุณขายฉันไปเท่าไหร่?”
ในที่สุดเจียงหยุนเอ๋อก็ยอมหยุดเดิน เจียงเย่เฉิงลิงโลกอยู่ในใจ คิดว่าตัวเองพูดจนเจียงหยุนเอ๋อยอมใจอ่อนแล้ว ใบหน้าอ้อนวอนมองไปที่เธอ “หยุนเอ๋อ พ่อทำธุรกิจเจ๊ง….พ่อคิดไม่ถึงจริงๆว่ามันจะเป็นแบบนี้ พ่อเลยไปมาเก๊าด้วยความโมโห”
มาเก๊า? เจียงหยุนเอ๋อเลิกคิ้วเบาๆ ไม่น่าละ ทำไมช่วงก่อนหน้านี้เธอไม่ถูกเจียงเย่เฉิงกวนมาพักใหญ่ ที่แท้ก็ไปมาเก๊านี่เอง
พอไปมาเก๊า พ่อก็โดนคนอื่นยุจนเสียเงินไปเป็นสิบล้าน ตอนนี้พ่อไม่มีหนทางอื่นแล้ว….
“หยุนเอ๋อ พ่อเป็นพ่อของลูก ลูกเห็นพ่อในสภาพลำบากแบบนี้ ลูกจะทนได้จริงๆเหรอ? ขอร้องล่ะลูก ช่วยพ่อเถอะนะ คนตระกูลเซียวก็ไม่มีทางปฏิบัติไม่ดีกับลูก” เจียงเย่เฉิงดึงเสื้อของเจียงหยุนเอ๋อเอาไว้แล้วพูดขึ้นด้วยท่าทางจริงจัง
เจียงหยุนเอ๋อคิดว่าเรื่องทั้งหมดนี่มันช่างน่าขำ ทำไมเจียงเย่เฉิงถึงมีความกล้าที่จะพูดเรื่องพวกนี้ออกมากัน? ตกลงเขามองว่าเธอเป็นอะไรกัน? คิดว่าจะรังแกตัวเธอได้หรือยังไง?
“อย่างนี้นี่เอง….แต่ว่า เรื่องเลวทรามที่คุณทำ ฉันไม่ได้อยากรู้เลยสักนิด” เธอหมุนตัวเดินจากไปโดยไม่ได้มองเขาเลยสักนิด
“หยุนเอ๋อ! ฉันเป็นพ่อแกนะ! ถ้าคืนเงินก้อนนี้ไม่ได้ ฉันจะต้องตายแน่ๆ! นี่แกจะนั่งมองฉันโดนฆ่าตายหรือยังไง?” เจียงเย่เฉิงพูดขึ้นด้วยสีหน้าร้อนรน
มุมปากของเจียงหยุนเอ๋อยกยิ้มสมเพช เธอมองเจียงเย่เฉิงด้วยหางตา พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ตาย? เอาสิ อย่างนั้นคุณก็ไปตายซะ”
ได้ยินเจียงหยุนเอ๋อพูดด้วยน้ำเสียงไม่แยแส เจียงเย่เฉิงก็ฟิวส์ขาดในทันที ตอนไหนที่เขายอมทำตัวพินอบพิเทาแล้วอ้อนวอนคนอื่น แถมคนคน นั้นยังเป็นถึงลูกสาวของตัวเองอีก ตอนแรกแค่นี้ก็ขายหน้ามากพออยู่แล้ว ตอนนี้เจียงหยุนเอ๋อถึงกับไล่ให้ตัวเองไปตาย?
“เจียงหยุนเอ๋อ ฉันเป็นพ่อของแกนะ แกมาพูดจาแบบนี้กับฉันได้ยังไง?” เจียงเย่เฉิงตะคอกใส่เจียงหยุนเอ๋อด้วยความโมโหและความอาย
เจียงหยุนเอ๋อกลอกตามองบน เธอไม่ได้สนใจเจียงเย่เฉิงเลยแม้แต่น้อย ก็เธอเผชิญเรื่องราวมากมายจนเธอเองก็เริ่มชินชาแล้ว จึงไม่ได้ตั้งความหวังอะไรกับเจียงเย่เฉิงเลยสักนิด
ดังนั้นพอต้องเผชิญหน้ากับเรื่องแบบนี้ เธอก็เลยรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่ธรรมดามากๆ
“เจียงเย่เฉิงในตอนที่คุณตัดสินใจจะขายฉันคุณได้คิดว่าฉันเป็นลูกสาวของคุณบ้างหรือเปล่า?” เจียงหยุนเอ๋อตั้งใจจ้องไปที่เจียงเย่เฉิง ถึงใจของเธอมันจะชินชา แต่ลึกๆแล้วก็เจ็บปวด
เจียงเย่เฉิงเป็นพ่อแท้ๆของเธอเลยนะ… ทำไม ถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาได้?
เจียงหยุนเอ๋อปฏิเสธครั้งแล้วครั้งเล่าจนทำให้เจียงเย่เฉิงโมโห เขาตัดสินใจกระชากข้อมือของเจียงหยุนเอ๋อเอาไว้ เพราะเขาเองก็พยายามจะพูดจนไม่รู้ว่าควรพูดอะไรแล้ว เจียงหยุนเอ๋อโดนเขากระชากข้อมือเอาไว้ก็พยายามสะบัดออก “ปล่อยฉันนะ!”
เธอเองก็เป็นผู้หญิงร่างกายอ่อนแอคนหนึ่ง ยังไงก็สู้แรงของเจียงเย่เฉิงไม่ได้ เห็นว่าเจียงหยุนเอ๋อพยายามลากตัวเองไปทิศที่เขาจอดรถตัวเองเอาไว้ เจียงหยุนเอ๋อก็เริ่มร้อนใจ “ปล่อยฉันนะ! ถ้าคุณไม่ปล่อยฉัน ฉันจะตะโกนเรียกให้คนช่วย!”
เจียงเย่เฉิงพูดขึ้นด้วยสีหน้าถือดี “แกเรียกให้คนช่วยจะมีประโยชน์อะไร? แกเป็นลูกสาวของฉัน ฉันสั่งให้แกทำอะไร แกก็ต้องทำ!”
“คุณมันเป็นบ้าไปแล้ว! ฉันเป็นคน ไม่ใช่สิ่งของ! ทำไมฉันถึงจะต้องโดนกระทำแบบนี้ด้วย! เจียงเย่เฉิงคุณมันคนไร้เหตุผล!”
เจียงหยุนเอ๋อมีสีหน้าดื้อรั้น ถึงแม้ว่าเธอจะหลุดออกจากการเกาะกุมของเขาไม่ได้ เธอก็ยังคงไม่ยอมแพ้
เจียงเย่เฉิงเดินช้าลงเรื่อยๆ เขาหันมามองเจียงหยุนเอ๋อแล้วพูดขึ้น “เรื่องๆนี้แกไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจแล้ว ถ้าแกไม่ยอมรับปาก ยังไงฉันก็มีวิธีที่จะทำให้แม่แกตายคาเตียงผู้ป่วย แกเอง….คงไม่อยากจะเห็นภาพแบบนั้นใช่ไหมล่ะ?”
เจียงหยุนเอ๋อไม่คิดว่าที่เจียงเย่เฉิงเรียกตัวเองออกมาแล้วพูดว่าเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับแม่ของเธอมันจะกลายเป็นแบบนี้ เธอทั้งโกรธทั้งโมโหเขามาก โกรธเขาจนตัวสั่น “เจียงเย่เฉิง! แกยังเป็นคนอยู่หรือเปล่า! แกมันเป็นปีศาจ!”
“ปีศาจ? ปีศาจแล้วยังไง? ขอแค่ฉันได้มาในสิ่งที่ฉันต้องการ ให้ทำอะไรฉันก็ยอมทั้ง!” เจียงเย่เฉิงยิ้มร้าย
“ไม่มีทางหรอก! ยังไงฉันก็ไม่มีทางให้แกได้ในสิ่งที่ต้องการ!” เจียงหยุนเอ๋อพูดด้วยโทสะที่ล้นปรี่
เจียงเย่เฉิงเหลือบมองเธอ แล้วยิ้มออกมาอย่างมีเลศนัย “ฉันบอกตระกูลเซียวไปแล้วว่าแกเห็นด้วยกับเรื่องๆนี้ แล้วฉันก็เอาเงินมาล่วงหน้ามาก้อนหนึ่งแล้วด้วย ถ้าตอนนี้แกเปลี่ยนใจ ไม่ใช่แค่ฉันคนเดียวที่จะทำให้พวกเขาโมโห แต่เป็นแก!”
พูดจบ เจียงเย่เฉิงก็มองเธอด้วยสีหน้าที่เหนือกว่า แววข่มขู่ฉายชัดออกมาจากดวงตาของเขา “แกเองก็คงไม่อยากที่จะมีปัญหากับตระกูลเซียวหรอกใช่ไหม? ถ้ามีปัญหากับพวกเขา ถึงเวลานั้น พวกเขาไม่มีทางปล่อยให้แกมีชีวิตที่สุขสบายแน่ !”
เจียงหยุนเอ๋อในตอนนี้คิดว่าตัวเองไม่มีอะไรที่จะต้องติดต่อกับเจียงเย่เฉิงอีกต่อไปแล้ว เธอก็ตัดสินใจเงียบในทันที
เห็นแบบนั้น เจียงเย่เฉิงก็เข้าใจว่าในที่สุดเธอเองก็ยอมฟังเขาแต่โดยดีแล้ว มุมปากของเขายกยิ้มขึ้นอย่างได้ใจ แต่อยู่ๆก็รู้สึกได้ถึงความเจ็บที่กระทบลงบนเท้าของตัวเอง
เป็นเจียงหยุนเอ๋อที่ใช้โอกาสในตอนที่เขาไม่ระวังตัว กระทืบลงบนเท้าเขาอย่างแรง