บทที่ 110 ไม่มีทางยุติ
หลังจากสอบถามเรื่องราวทั้งหมดจากพนักงานเจียงหยุนเอ๋อก็เปิดกล้องวงจรปิดในร้านดู แต่ไม่พบสิ่งผิดปกติ
และไม่นานคนจากสำนักงานอุตสาหกรรมและพาณิชย์ก็มาถึงหลังจากการตรวจสอบบางส่วน พวกเขาก็ประกาศว่าเครื่องสำอางมีสารเคมีที่เป็นพิษเจอปน
ไม่นานร้านก็อยู่ในความโกลาหล ลูกค้าที่เคยซื้อของที่นี่ก็ทยอยขอคืนของด้วย
ปัญหานี้ร้ายแรงมากถึงขนาดสำนักอุตสาหกรรมและการพาณิชย์สั่งจับกุมพนักงานของร้านทันทีและสั่งให้ทางห้างปิดร้านนี้
เจียงหยุนเอ๋อยืนอยู่ในจุดนั้น แน่นอนว่าไม่มีเวลาที่จะประมวลผลเรื่องราวเช่นนี้และรู้สึกตะลึงไปชั่วขณะ
เจียงหนิงเอ๋อไม่คาดคิดว่าจะได้พบกับเจียงหยุนเอ๋อ ที่นี่ในเวลานี้ นับว่าเจียงหยุนเอ๋อ มาก็เป็นเรื่องบังเอิญจริงๆ
อย่างไรก็ตามลองคิดดูดีๆ … นี่ไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการเห็นหรอกเหรอ
ตอนนี้เจียงหยุนเอ๋อ ปรากฏตัวต่อหน้าเธอแล้ว เจียงหนิงเอ๋อ ก็มีความสุขมากที่ได้เห็นท่าทางดูไม่จืดของเจียงหยุนเอ๋อในตอนนี้
เจียงหนิงเอ๋อยกโทรศัพท์ขึ้นและถ่ายภาพเจียงหยุนเอ๋อ รอยยิ้มพอใจปรากฏขึ้นที่มุมปากของเธอ
หึ เจียงหยุนเอ๋อ ในที่สุดเธอก็ตกอยู่ในมือของฉัน
ไม่รู้ว่านี้เป็นประสงค์ของพระเจ้าหรือไม่ ที่ทำให้เธอได้เห็นเจียงหยุนเอ๋อมีท่าทีตกตะลึงจากการสูญเสียเช่นนี้
เกรงว่า … เจียงหยุนเอ๋อ ในตอนนี้ก็คงรู้สึกเหลือเชื่อเช่นกัน
แม้ว่าผลิตภัณฑ์ของพวกเขาจะไม่มีปัญหาอะไร แต่ทุกอย่างที่ใช้ได้ … ไม่ได้หมายความว่าจะปลอดภัยเสมอไป
เจียงหนิงเอ๋อ โค้งงอมุมริมฝีปากของเธอเบาๆ มองดูรูปถ่ายเป็นอย่างละเอียดอยู่นาน นับว่าพอใจมาก
ตอนนี้มาดูกันว่าเจียงหยุนเอ๋อ จะสามารถจัดการเรื่องนี้ได้บ้างเพื่อยุติมัน
เพราะกังวลว่าเจียงหยุนเอ๋อ จะเห็นว่าเธออยู่ที่นี่ จนเกิดสงสัยว่าตัวเองขึ้นมา เจียงหนิงเอ๋อจึงไม่ได้อยู่นานกว่านี้ไม่นานก็รีบออกจากห้างทันที
เมื่อนึกถึงส้งหวั่นหวั่น เจียงหนิงเอ๋อก็อดใจเต้นไม่ได้ และรีบส่งรูปถ่ายให้เธอ
“คุณส้งนี่เป็นแผนแรกของฉัน ดูสีหน้าของเจียงหยุนเอ๋อสิคะ ดูไม่จืดเลยว่าไหม”
เมื่อเขาได้รับข้อความส้งหวั่นหวั่นก็รู้สึกดี
คาดไม่ถึงจริงๆ … ฉันเคยพบผู้ช่วยมากมายมาก่อนและไม่สามารถดึงเจียงหยุนเอ๋อ ลงไปในน้ำได้ แต่ เจียงหนิงเอ๋อ ทำได้ดีมาก
แม้ว่าส้งหวั่นหวั่นรู้ดีว่าเจียงหนิงเอ๋อไม่ได้ทำทั้งหมดเพราะต้องการช่วยเหลือตัวเอง แต่เนื่องจากพวกเขามีศัตรูคนเดียวกันอยู่แล้วนับว่าพวกเขาเป็นเพื่อนกันอย่างไม่เต็มใจก็ได้
หลังจากคิดเรื่องนี้ส้งหวั่นหวั่นก็โทรหาเจียงหนิงเอ๋อ
“คุณเจียงฉันจะเลี้ยงอาหารคุณในมื้อเย็นคืนนี้”
เมื่อเจียงหนิงเอ๋อได้ยินเช่นนี้เธอก็ได้รู้สึกได้ว่าน้ำเสียงของส้งหวั่นหวั่นนั้นยินดีแค่ไหน ดังนั้นเธอจึงตอบตกลงโดยดี
“ไม่มีปัญหาค่ะ”
การมีความสัมพันธ์อันดีกับตระกูลส้งนับว่าเป็นเรื่องดีดังนั้นทำไมไม่ลองทำดูล่ะ
ในตอนเย็นเจียงหนิงเอ๋อมาถึงสถานที่นัดกับ ส้งหวั่นหวั่นตรงเวลาและ ส้งหวั่นหวั่นก็นั่งรออยู่แล้ว
“คุณส้งฉันขอโทษที่ฉันมาสายค่ะ” เจียงหนิงเอ๋อยิ้มอย่างสุภาพให้ส้งหวั่นหวั่นและกล่าวว่า
“ไม่เป็นไร” ส้งหวั่นหวั่นวางถ้วยน้ำและมองไปที่เจียงหนิงเอ๋อด้วยความเห็นชอบ “เรื่องนี้คุณทำได้ดีมาก และก็ต้องขอชื่นชมคุณจริงๆ ที่ทำให้เกิดเรื่องนี้”
เจียงหนิงเอ๋อเม้มริมฝีปากของเธอเบาๆ สีหน้าแสดงออกชัดเจนถึงความพอใจ
“ไม่มีอะไรแค่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ”
คิดอยู่สักพัก ส้งหวั่นหวั่นก็เตือนขึ้นมา “อย่างไรก็ตามทั้งสองคนที่คุณหามาทางที่ดีควรจัดการส่งพวกเขาไปให้ไกลที่สุด”
“ค่ะ ฉันทราบเรื่องนี้ดี” เจียงหนิงเอ๋อ พยักหน้าอย่างแน่วแน่
“ยังไงก็ตามเรื่องนี้ก็น่าจะก้าวผ่านไปได้ยาก และการโจมตีบริษัทของเจียงหยุนเอ๋อผ่านช่องทางการสื่อสารต่างๆ ทางที่ดีคือชื่อเสียงที่เธอสะสมมาพังพินาศไม่มีชิ้นดี”
ความร้ายกาจของเธอปรากฏออกมาทางสายตาของส้งหวั่นหวั่นและเธอกล่าวอย่างมั่นใจ
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เจียงหนิงเอ๋อ ก็พยักหน้าอย่างรวดเร็ว
เธอมีความสุขมากที่ได้เห็นฉากดังกล่าวในที่สุด
ไม่นานปัญหาที่แท้จริงก็เริ่มปะทุขึ้น
เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดนั้นเกิดขึ้นในห้างสรรพสินค้าและแพร่กระจายอย่างรวดเร็วเนื่องจากฝีมือของเจียงหนิงเอ๋อ การตรวจสอบโดยสำนักงานอุตสาหกรรมและการค้าเข้มงวดขึ้นมากในทุกๆ ขั้นตอนและร้านค้าอื่นก็ถูกปิดด้วยเช่นกัน
แม้แต่ช่องทางการโฆษณาก็ถูกบล็อกชั่วคราวเช่นกัน และบริษัทก็สูญเสียคำสั่งซื้อจำนวนมากไปทันที
หลังจากรู้ข่าวจากเจียงหยุนเอ๋ออดไม่ได้ที่จะรู้สึกงุนงงเธอไม่เคยคาดหวังว่าจะเกิดเหตุเช่นนี้
แต่ … นี่ไม่ควรจะเกิดขึ้น
ผลิตภัณฑ์เหล่านั้นผ่านการตรวจสอบอย่างเข้มงวดจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดปัญหาร้ายแรงเช่นนี้ … เกิดอะไรขึ้น
เจียงหยุนเอ๋อไม่มีเวลาคิดนานนัก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันเช่นนี้ทำให้เธอกังวลมาก หลังจากเหตุการณ์นั้นก็นอนไม่หลับตลอดทั้งคืนเธอรู้สึกหดหู่มาก
ในตอนกลางคืนเจียงหยุนเอ๋อนั่งอยู่ในห้องคนเดียว
โคมไฟบนโต๊ะส่องแสงอย่างแผ่วเบา เธอยกมือขึ้นมาหนุนหัวพลางครุ่นคิดหาทางแก้ไขเรื่องนี้
บริษัทนี้เพิ่งจะเริ่มไปได้ดี ถ้าหากต้องเสียชื่อเสียงในช่วงเวลาต้องเกิดวิกฤตแน่ …
นั่นอาจเป็นผลเสียอย่างมากต่อการขยายตัวในอนาคต
ข่าวร้ายที่ตามมาทำให้ เจียงหนิงเอ๋อ ได้สัมผัสกับความโหดร้ายของโลกธุรกิจ
นั่นอาจเป็นผลเสียอย่างมากในอนาคต ที่สำคัญคือมีคนต้องการจะดึงเธอลงมาจากหลังม้าให้ได้ แต่ว่า
ถ้าจะทำโดยไม่ให้คนจับได้ล่ะก็ พูดไปก็ไม่ใช่เรื่องง่าย
ในยุคข้อมูลข่าวสารเช่นนี้หากจัดการไม่ดีอาจทำให้บริษัทเข้าสู่วิกฤตครั้งใหญ่ได้
แต่เจียงหยุนเอ๋อไม่สามารถทนต่อสถานการณ์เช่นนี้ได้
เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นไม่นานหลังจากที่เธอเข้าดำรงตำแหน่งได้ไม่นาน เธอจะสู้หน้าเจ้านายของเธอที่ที่มอบความไว้วางใจทั้งหมดให้เธอได้อย่างไร
นอกจากนี้เจียงหยุนเอ๋อไม่เคยเชื่อว่ามันเป็นปัญหาของผลิตภัณฑ์ท้ายที่สุดเมื่อตรวจสอบผลิตภัณฑ์อื่นๆ ในภายหลังปัญหาที่คล้ายกันก็ไม่เกิดขึ้น
ทำไมถึงมีแค่คนเดียว …ลูกค้าที่มาลองใช้คนนั้นทำไมเป็นแบบนั้นไปได้
ในขณะที่เจียงหยุนเอ๋อรู้สึกงงงวยในเวลาเดียวกัน ลี่จุนถิง ได้รับรู้ข่าวนี้แล้วและกังวลอยู่เช่นกันเกี่ยวกับการลุกลามของเรื่องนี้
ร้านค้าที่เกิดเรื่องถูกปิดโดยสำนักงานอุตสาหกรรมและการพาณิชย์ทั้งหมดและวิดีโอกล้องวงจรปิดทั้งหมดได้ถูกนำกลับไปแล้ว
แต่ลี่จุนถิง ได้สังเกตเห็นเบาะแสบางอย่างแล้วและเขารู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ธรรมดา
ไม่ใช่แค่เพราะสัญชาตญาณเท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะเขาเชื่อใจพนักงานของเขามากว่าเขาจะไม่ทำผิดพลาดครั้งใหญ่เช่นนี้
หลังจากนั้นลี่จุนถิงก็ไปที่สำนักงานอุตสาหกรรมและการพาณิชย์เรียกดูวิดีโอกล้องวงจรปิดทั้งหมดและดูอย่างจริงจัง
ในขณะที่เขากำลังดูตำแหน่งของทางเข้าทางเดินในห้างสรรพสินค้าสถานที่ที่เป็นมุมอับทำให้ไม่สามารถเห็นภาพและสถานการณ์ในร้าน
ภาพในกล้องวงจรปิดมีผู้หญิง3คนปรากฏตัวการแต่งตัวของเธอแปลกมากปกปิดใบหน้าของเธอด้วยหมวกอย่างแน่นหนา
ลี่จุนถิงขมวดคิ้วและเห็นหญิงสาวที่สวมหมวกยื่นกล่องสิ่งของให้กับอีกสองคน
ของสิ่งนี้ต้องไม่ธรรมดา
ลี่จุนถิง ซูมภาพเข้ามาใกล้โดยคิดว่านี่น่าจะเป็นปมของเรื่องนี้
แต่ … มาถึงตอนนี้แล้วและของนั่นน่าจะถูกโยนทิ้งไปไหนต่อไหนแล้ว
ถ้ามันถูกโยนทิ้งที่ไหนสักแห่งในห้างสรรพสินค้ามันอาจจะสายเกินไปและคงถูกคนทำความสะอาดทิ้งไปนานแล้ว