บทที่ 147 มีสิทธิ์อะไรมาจับฉัน
“อืม ฉันรู้แล้ว” ตอนนี้สีหน้าของลี่จุนถิงไม่น่าดูมาก “นายให้จี้งยี้มารับโทรศัพท์หน่อย”
หลันเยว่เฉินยื่นโทรศัพท์มือถือคืนให้ซู่จี้งยี้
“คุณชายลี่ มีเรื่องอะไรครับ?” ซู่จี้งยี้รู้ดีว่าลี่จุนถิงต้องมีเรื่องที่จะมอบหมายแน่นอน
ลี่จุนถิงสั่งกำชับซู่จี้งยี้อยู่สองสามเรื่องจากนั้นเอ่ยว่า: “ตอนนี้ฉันกำลังรีบกลับไป ถ้ามีเรื่องอะไร ถึงตอนนั้นค่อยคุยกัน”
ก่อนจะวางสายก็ยังเป็นห่วงร่างกายของเจียงหยุนเอ๋อและพูดว่า: “ดูแลเจียงหยุนเอ๋อให้ดี”
พอพูดจบก็นั่งเครื่องบิน
ในเวลานี้ ที่สปายเกอร์คลับ
ลี่จีถองรู้สึกว่าเรื่องที่ตนเองทำในครั้งนี้มันช่างยอดเยี่ยมมาก ด้วยเหตุนี้เลยเรียกส้งหวั่นหวั่นกับเจียงหนิงเอ๋อมาที่คลับ เพื่อให้ทุกคนได้ฉลองกัน
ลี่จีถองลากส้งหวั่นหวั่นกับเจียงหนิงเอ๋อไปยังที่นั่งชั้นพิเศษที่ตนเองจองไว้ล่วงหน้า
“คุณอา วันนี้คุณเรียกพวกเรามาทำไมเหรอคะ?” เดิมทีส้งหวั่นหวั่นยังมีธุระที่จะต้องทำ แต่ผู้หญิงคนนี้ดันบอกว่ามีเรื่องใหญ่ให้ต้องฉลองกันสักหน่อย
แต่ส้งหวั่นหวั่นจำได้ว่าช่วงนี้นอกจากเรื่องเปิดบริษัทแล้ว ก็ไม่มีเรื่องใหญ่อะไรอีก
ตอนแรกเจียงหนิงเอ๋อเองก็ไม่ได้จะอยากมา แต่ดันว่างไม่มีอะไรทำ ก็เลยมาที่นี่
ลี่จีถองเองก็ไม่ได้รีบร้อนพูด แค่เชิญพวกเธอนั่งลงและรอให้ของมาเสิร์ฟจนใกล้จะครบ ถึงได้พูดกับส้งหวั่นหวั่นและเจียงหนิงเอ๋อด้วยสีหน้าที่ภาคภูมิใจว่า: “ฮ่าฮ่าฮ่า หลังจากผ่านคืนนี้ไป เจียงหยุนเอ๋อก็จะไม่เหลืออะไรแล้ว”
“หมายความว่าอย่างไร?” ดูเหมือนส้งหวั่นหวั่นจะไม่เข้าใจข้ออ้างที่ลี่จีถองใช้เรียกให้ออกมาฉลองในวันนี้
ลี่จีถองไม่ได้รีบร้อนเอ่ยปาก เพียงแค่จิบชาอย่างช้าๆ แล้วค่อยเอ่ยปากพูดขึ้น: “นี่เธอไม่รู้สินะ หลายชายโง่ๆ ของฉันจะยังอยากได้นางโสเภณีที่ผ่านผู้ชายมาหลายคนนั้นอยู่เหรอ?”
ส้งหวั่นหวั่นหนังตากระตุก: “คุณคงไม่ได้หมายความว่า คุณเอาเจียงหยุนเอ๋อให้…”
ลี่จีถองชำเลืองมองส้งหวั่นหวั่นทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วแต่ก็ยังจะแกล้งถาม: “แล้วเธอว่าไงล่ะ?”
เจียงหนิงเอ๋อเข้าใจในทันที แล้วเลิกคิ้วขึ้น: “คุณพูดจริงเหรอ?”
ลี่จีถองพยักหน้าอย่างภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก: “แน่นอน”
พอได้ยินอย่างนี้เจียงหนิงเอ๋อเองก็แสดงสีหน้าลำพองใจออกมาบ้าง
นางแพศยาเจียงหยุนเอ๋อ มันจะปรากฏตัวด้วยรูปลักษณ์ที่ดูสะอาดบริสุทธิ์อยู่เสมอ เลยทำให้เป็นที่ชื่นชอบของผู้คนขนาดนั้นเชียวเหรอ?
เธอมีสิทธิ์อะไรถึงมีสิ่งที่คนมากมายอยากได้ แต่พอเป็นตนเองขอบ้างกลับไม่ได้
ครั้งนี้ เจียงหยุนเอ๋อคงจะรู้แล้วสินะว่ารสชาติสกปรกโสมมมันเป็นอย่างไร
เมื่อนึกถึงการทรมานสารพัดที่เซียวอี้เฟิงทำกับตนเอง แล้วมองดูความรักที่ลี่จุนถิงมีใครเจียงหยุนเอ๋ออย่างสุดซึ้ง แต่พอคิดว่าตอนนี้เจียงหยุนเอ๋ออาจจะกลายเป็นของเล่นชิ้นหนึ่งใต้ร่างของคนอื่น เจียงหนิงเอ๋อก็รู้สึกสะใจมาก
แต่ส้งหวั่นหวั่นกลับไม่ได้คิดอย่างนั้น เพราะเธอยังรู้สึกไม่วางใจ: “ถ้าเกิดว่าลี่จุนถิงรู้เรื่องนี้เข้า คุณอาจจะต้องรับผลที่ตามมา”
ส้งหวั่นหวั่นรู้ดีว่าลี่จุนถิงเป็นคนที่ร้ายกาจขนาดไหน แถมยังลงมืออย่างโหดเหี้ยมไม่ธรรมดา ถ้าเรื่องนี้แดงออกมา ลี่จีถองอาจจะไม่มีสีหน้าเหมือนอย่างตอนนี้ก็ได้
แต่ลี่จีถองกลับไม่สนใจเลยสักนิด: “จุนถิงเขาอยู่ต่างประเทศ ถ้าฉันจำไม่ผิดล่ะก็ ตอนนี้ผู้คุ้มกันของฉันคงลงมือไปแล้ว”
ใบหน้าของลี่จีถองเต็มไปด้วยความรู้สึกที่สมหวัง: “อีกอย่าง ฉันยังให้คนถ่ายรูปตอนที่เจียงหยุนเอ๋อกำลังมั่วกับผู้ชายอยู่ด้วย พรุ่งนี้พวกเราก็จะมีละครสนุกๆ ให้ดูกัน ส่วนวันนี้ฉลองล่วงหน้าไปก่อน”
ถึงส้งหวั่นหวั่นจะได้ยินแบบนั้นแต่เธอกลับไม่มีความสุขเลยสักนิด เธอแค่รู้สึกไม่สบายใจอยู่ลึกๆ
ลี่จีถองเป็นพวกมือไม่พายเอาเท้าราน้ำ จะทำสำเร็จได้อย่างง่ายดายแบบนี้เชียวเหรอ?
“คุณอา คุณลองโทรถามให้แน่ใจสักหน่อยเถอะ” ส้งหวั่นหวั่นบอก
ลี่จีถองส่ายหน้าใส่เธอ: “หวั่นหวั่น เธอไม่ต้องตื่นเต้นไป ครั้งนี้ฉันทำสำเร็จแน่นอน”
“คุณอา คุณลองโทรเช็คหน่อยเถอะ แบบนี้พวกเราถึงจะได้ฉลองกันอย่างมีความสุขและไม่ต้องเป็นกังวลไง” ส้งหวั่นหวั่นแขนลี่จีถองไว้แล้วอ้อนให้เธอรีบโทร
ส่วนลี่จีถองที่ตอนนี้กำลังอารมณ์ดี จึงตอบรับอย่างง่ายดาย: “ก็ได้ อย่างนั้นฉันจะโทรถามให้แน่ใจสักหน่อย”
อย่างไรเสียในใจของเธอเรื่องนี้ก็เหมือนกับถูกตอกตะปูลงในกระดานไปแล้ว ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความเป็นจริงได้
แต่ที่โทรก็เพื่อความสบายใจของส้งหวั่นหวั่น
ในขณะที่ลี่จีถองพูด เธอก็โทรศัพท์ไปหาผู้คุ้มกัน
เสียงโทรศัพท์มือถือของผู้คุ้มกันดังอยู่หลายครั้ง แต่กลับไม่มีคนรับสาย ลี่จีถองจึงหัวเราะเสียงดังและพูดว่า: “ฮ่าฮ่าฮ่า เห็นไหม ตอนนี้พวกเขาคงจะกำลังมีความสุข”
แต่ตอนนี้สีหน้าของส้งหวั่นหวั่นกับเจียงหนิงเอ๋อดูไม่คงดีนัก
พวกเธอไม่รู้สึกว่าสิ่งที่ลี่จีถองทำมันจะสำเร็จเลยแม้แต่นิด
ในเวลานี้ จู่ๆ ประตูห้องชั้นพิเศษก็ถูกเปิดออก
ตำรวจหลายนายบุกเข้ามาพร้อมหลักฐาน แล้วพูดกับผู้หญิงทั้งสามคนที่อยู่ในห้องชั้นพิเศษอย่างจริงจังว่า: “ตำรวจ”
ไม่รอให้ทั้งสามมีปฏิกิริยาใดๆ ตำรวจหลายคนก็ได้ตรงเข้ามาจับตัวลี่จีถองไว้
ลี่จีถองตะโกนด้วยความเกรี้ยวกราด: “พวกแกทำอะไร ฉันไม่ได้ทำผิดกฎหมายสักหน่อย แล้วก็ไม่ได้ทำเรื่องผิดด้วย พวกแกมีสิทธิ์อะไรมาจับฉัน?”
ตำรวจจับสองมือของลี่จีถองกดลงแล้วใส่กุญแจมือ: “หยุดพูดเหลวไหล คุณเป็นผู้ต้องสงสัยในการลักพาตัวและวางแผนประทุษร้ายผู้อื่น ตอนนี้รีบตามพวกผมไปสอบปากคำที่โรงพัก”
ไม่รอให้ลี่จีถองตอบอะไร ตำรวจหลายนายก็ทั้งดึงทั้งลากแล้วคุมตัวลี่จีถองออกไป
ลี่จีถองไม่พอใจมาก ที่ตนเองถูกจับตัวไปแบบนี้ ในขณะที่เดินก็ยังตะโกนบอกส้งหวั่นหวั่นเสียงดังว่า: “หวั่นหวั่น บอกอาซ้อฉันให้ที ฉันถูกจับแล้ว ให้เธอมาช่วยฉันหน่อย”
ตอนนี้มีเพียงโม่เสี่ยวฮุ่ยที่พอจะช่วยตนเองให้รอดพ้นได้
ส้งหวั่นหวั่นยืนนิ่งอยู่กับที่ สีหน้าดูไม่ได้ ผู้หญิงโง่คนนี้ เล่นจนได้เรื่องแล้ว
ส่วนเจียงหนิงเอ๋อเองก็ไม่คิดว่าเรื่องจะกลับตาลปัตรไปอย่างรวดเร็วขนาดนี้
เมื่อกี้ลี่จีถองยังนั่งลำพองใจอย่างมีความสุขอยู่ตรงนี้แท้ๆ แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นนักโทษไปแล้ว
“หวั่นหวั่น ตอนนี้จะทำอย่างไรดี?” เจียงหนิงเอ๋อเห็นว่าสีหน้าของส้งหวั่นหวั่นก็ดูไม่ดีเช่นเดียวกัน
ส้งหวั่นหวั่นหยิบกระเป๋าที่วางอยู่บนเก้าอี้ขึ้นมา: “ตอนนี้ฉันต้องไปที่ตระกูลลี่ก่อน ถ้าเธอไม่มีเรื่องอะไรแล้วก็กลับไปก่อนเถอะ”
อันที่จริงแล้วในใจของส้งหวั่นหวั่นไม่อยากไปตระกูลลี่เลย และยิ่งยากที่ตนเองจะต้องเป็นตัวกลางสำหรับเรื่องนี้ แต่ถึงแม้ว่าลี่จีถองคนนี้จะโง่ไปหน่อย แต่ก็ยังมีประโยชน์อยู่ ดังนั้นส้งหวั่นหวั่นถึงยอมรับปาก
เจียงหนิงเอ๋อพยักหน้า อย่างไรเสียก็ไม่ใช่เรื่องของตน: “ได้ อย่างนั้นฉันกลับก่อนนะ เธอก็เดินทางปลอดภัยล่ะ”
ตนเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้แม้แต่นิดเดียว ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีทางมาถึงตนได้หรอก เจียงหนิงเอ๋อจึงไม่ได้รู้สึกอะไรมากเป็นพิเศษ
จากนั้นทั้งสองก็ออกจากห้องชั้นพิเศษด้วยกัน แล้วต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันไป
ในตอนที่ส้งหวั่นหวั่นมาถึง โม่เสี่ยวฮุ่ยก็กำลังจะเข้าพักผ่อน
“ใครกัน ทำไมมาดึกขนาดนี้?” พอได้ยินที่พ่อบ้านรายงาน โม่เสี่ยวฮุ่ยก็รู้สึกไม่สบอารมณ์เล็กน้อย
“คุณนาย คุณหนูส้งมาครับ” พ่อบ้านตอบตามความจริง
โม่เสี่ยวฮุ่ยรู้สึกประหลาดใจนิดหน่อย ตามที่ทางบ้านของส้งหวั่นหวั่นได้อบรมสั่งสอนมาเธอไม่มีทางที่จะมารบกวนในเวลาที่ดึกขนาดนี้ได้ หรือว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น?