บทที่ 168 ฉันไม่ได้คิดถึงเขาสักหน่อย
เพราะถวนจื่อได้เข้าสู่วงการกีฬาอีสปอร์ต ดังนั้นเจียงหยุนเอ๋อจึงได้ให้ความสนใจเกี่ยวกับวงการกีฬาอีสปอร์ตเป็นอย่างมาก
หลายวันมานี้ประเด็นร้อนในโลกออนไลน์นอกจากเรื่องที่ทีมของถวนจื่อชนะการแข่งขันแล้ว ก็เป็นเรื่องที่ทีม XY เข้าซื้อกิจการของทีม AY
ส่วนคอมเม้นท์ต่าง ๆ ที่พูดกัน เจียงหยุนเอ๋อก็ได้อ่านหมดแล้ว และพบว่ามีคนมากมายเริ่มใช้อาศัยเทคโนโลยีสมัยนี้สืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับโค้ชคนนั้นแล้ว
บอกว่าโค้ชคนนั้นไม่ใช่คน พูดซะจนโคนันฟังจนรู้สึกหิว
“เธอดูอะไรอยู่เหรอ? คิ้วขมวดจนน่าเกลียดซะขนาดนี้?” ลี่จุนถิงที่เพิ่งกลับมาจากข้างนอก เห็นเจียงหยุนเอ๋อนั่งจ้องโทรศัพท์อยู่บนเตียง สีหน้าดูไม่ค่อยดีนัก
เจียงหยุนเอ๋อยื่นหน้าที่ตัวเองอ่านให้ลี่จุนถิงดู : “นายดูสิ”
ลี่จุนถิงดูสักครู่ ก็พอจะรู้เรื่องราวแล้ว ช่วงนี้เขาเองก็อ่านพวกนี้อยู่เหมือนกัน
โค้ชนี่ก็น่าสมเพชเวทนาจริง ๆ ใครเห็นใครก็เกลียด
“ทำไมเหรอ?” ลี่จุนถิงรู้สึกว่าสิ่งเหล่านี้ที่โค้ชนั่นได้รับก็สมควรแล้ว
เจียงหยุนเอ๋อปิดโทรศัพท์ : “จุนถิง ที่จริงนายไม่จำเป็นต้องทำอย่างนี้เลย นายดูสิพวกเขาด่าว่าจนไม่น่าฟังเลย”
ลี่จุนถิงทำเสียง เหอะ ออกมา : “เธอรู้ไหมว่ามันทำเรื่องอะไรไว้บ้าง?”
เจียงหยุนเอ๋อพยักหน้า : “ฉันก็รู้อยู่แล้วไง”
“มันรังแกผู้หญิงและลูกชายของฉัน คนแบบนี้ต่อให้ตาย ลี่จุนถิงก็ไม่มีทางปล่อยมันไป” ลี่จุนถิงพูดชัดถ้อยชัดคำ
เจียงหยุนเอ๋อได้ฟัง ก็รู้สึกซาบซึ้งใจมาก รู้สึกอบอุ่นเหมือนนั่งอาบแดดอยู่ที่ระเบียงท่ามกลางฤดูหนาว
มีผู้ชายอย่างนี้ ที่ไม่มีข้อแม้ใด ทุ่มเททุกอย่างเพื่อปกป้องตัวเอง เธอยังมีอะไรที่ต้องเรียกร้องอีกล่ะ?
เจียงหยุนเอ๋อเข้าไปกอดคอของลี่จุนถิง แล้วกระซิบที่ข้างหูของเขาว่า : “ขอบคุณนายมากนะ จุนถิง”
ลี่จุนถิงรู้สึกว่าหูชา ๆ ด้านล่างก็เริ่มมีการตอบสนองขึ้นมา แต่เมื่อคิดขึ้นมาว่าตอนนี้ร่างกายของเจียงหยุนเอ๋ออ่อนแออยู่ อีกทั้งยังตั้งท้องอยู่ จึงได้แต่ข่มอารมณ์ตัวเองเอาไว้ แล้วนอนเบื่อหน่ายอยู่บนเตียงสักครู่ จากนั้นก็ลุกเข้าห้องน้ำไปคลายร้อน
หลายวันมานี้ เจียงหยุนเอ๋อนอกจากจะอยู่แต่ในโรงแรมแล้ว ก็ได้ไปเยี่ยมนิ่งเสวียนโม่ที่โรงพยาบาล
ผ่านไปหลายวันอาการของนิ่งเสวียนโม่ก็ดีขึ้นมากแล้ว ดังนั้นลี่จุนถิงจึงได้ส่งคนมาย้ายนิ่งเสวียนโม่กลับมาพักรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลในเมืองจิ่งเฉิง
ลี่จุนถิงและเจียงหยุนเอ๋อก็ได้เก็บข้าวของ แล้วพาถวนจื่อกลับบ้าน
เมื่อลี่จุนถิงกลับมาถึงบ้าน พ่อบ้านก็ออกมาต้อนรับ : “คุณชายลี่”
ลี่จุนถิงเพียงแค่พยักหน้าตอบรับ แต่เมื่อเห็นพ่อบ้านทำท่าเหมือนมีอะไรจะพูด ลี่จุนถิงก็ได้เอ่ยถาม : “มีเรื่องอะไร?”
“คุณปู่ตระกูลลี่จะกลับมาวันนี้ สั่งว่าให้คุณชายไปรอรับเครื่องด้วยครับ” พ่อบ้านเอ่ยพูดอย่างหวั่นเกรง
สีหน้าลี่จุนถิงถมึงทึงขึ้นมา ตอบกลับเสียงเย็นชา : “รู้แล้ว”
ลี่จุนถิงคิ้วขมวดเป็นปมแล้วดึงเจียงหยุนเอ๋อเข้าไปในบ้าน
เขาไม่ต้องคิดก็รู้ได้ทันที ว่าต้องเป็นฝีมือของลี่จีถองแน่ ๆ
นอกจากเธอจะคอยหาคนมาช่วยเหลือแล้ว ก็ไม่มีความสามารถอะไรอีก
“จุนถิง” เจียงหยุนเอ๋อเข้าใจดีว่าทำไมลี่จุนถิงถึงได้เปลี่ยนเป็นเย็นชาอย่างนี้
ลี่จุนถิงคิดว่าตอนนี้เจียงหยุนเอ๋อยังไม่พร้อมที่จะไปพบคุณปู่ตระกูลลี่ จึงหันกลับมา แล้วเอามือทั้งสองข้างจับไหล่เจียงหยุนเอ๋อเอาไว้ : “เธอพักผ่อนอยู่ที่บ้านให้ดีนะ ไม่ต้องไปรับเครื่องเป็นเพื่อนฉันหรอก”
เขากลัวว่าถ้าพาเจียงหยุนเอ๋อไป จะทำให้เธอได้รับความลำบากใจ
เจียงหยุนเอ๋อพยักหน้า : “อืม ฉันฟังนาย”
เจียงหยุนเอ๋อรู้ว่าตระกูลลี่ไม่มีใครรับมือได้ง่ายสักคน พ่อแม่ของลี่จุนถิงตัวเองก็ไม่สามารถชนะใจได้ ไม่สามารถทำให้พวกเขาชอบได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคุณปู่ตระกูลลี่เลย
เธอก็เคยได้ยินพวกคนรับใช้ของตระกูลลี่บ่นกันมาบ้าง
บอกว่าลี่จีถองมักจะเอาแต่ใจตัวเอง โตขนาดนี้แล้ว ยังคิดว่าตัวเองเป็นคุณหนูสาวใสวัยแรกแย้มอยู่อีก
แต่จะทำยังไงได้ล่ะ ในเมื่อคุณปู่ตระกูลลี่มีลูกสาวอยู่คนเดียว แถมยังเป็นลูกคนสุดท้อง ถูกเลี้ยงแบบตามใจมาตั้งแต่เด็ก อยากได้อะไรก็ให้หมด
ลี่จีถองจึงถูกตามใจจนเสียคนมาตั้งแต่เด็กจนโต ฉะนั้นจึงทำอะไรไม่เกรงกลัวกฎหมาย ทำเรื่องอะไรตามอำเภอใจไปเรื่อย
“ขอโทษนะ ทำให้เธออึดอัดใจ” ลี่จุนถิงเห็นเจียงหยุนเอ๋อก้มหน้า ก็คิดว่าเธอรู้สึกไม่สบายใจ
ทั้งที่ทั้งสองคนจดทะเบียนสมรสกันแล้ว แต่คนในตระกูลตัวเองยังทำกับเธอเหมือนเธอเป็นคนนอก บางครั้งก็ยิ่งกว่าคนนอกด้วยซ้ำ
เจียงหยุนเอ๋อแหงนหน้าขึ้นมามอง สบตากับลี่จุนถิง : “ไม่หรอก จุนถิง นายไม่ต้องคิดมาก นายไปรับคุณปู่เถอะ ไม่ได้เจอเขานานแล้ว นายน่าจะคิดถึงคุณปู่เขานะ”
ลี่จุนถิง เหอะ ออกมา : “ฉันไม่ได้คิดถึงเขาสักหน่อย”
ตอนนี้ลี่จุนถิงคิดว่าการที่ลี่จีถองอวดดีโอหังอย่างตอนนี้ก็เป็นเพราะคุณปู่ตระกูลลี่นั่นแหละ ถ้าหากไม่ใช่เขาเลี้ยงดูแบบตามใจ ลี่จีถองก็คงไม่คิดว่าตัวเองถูกต้องอยู่ตลอดเวลา เที่ยวเล่นลูกไม้หาเรื่องคนอื่น
ซ้ำยังเกือบทำร้ายลูกของเขาที่ยังไม่ทันได้ลืมตาดูโลกถึงตาย
“ยังไงก็เป็นคนในครอบครัว” เจียงหยุนเอ๋อไม่อยากให้ลี่จุนถิงลำบากใจ
“พอแล้วพอแล้ว ฉันรู้แล้ว เธอรีบไปพาถวนจื่ออาบน้ำเถอะ ฉันเก็บของสักหน่อยแล้วจะออกไปรับคุณปู่” ลี่จุนถิงลูบหัวเจียงหยุนเอ๋อ
เจียงหยุนเอ๋อพยักหน้า
หลังจากที่ลี่จุนถิงวางกระเป๋าเดินทางลง เมื่อเห็นว่าเจียงหยุนเอ๋อกับถวนจื่อเก็บของกันเกือบเสร็จแล้ว ตัวเองก็ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วออกจากบ้านตระกูลลี่ไป
ระหว่างทาง ลี่จุนถิงจงใจขับรถให้ช้า ๆ เพราะเขากำลังคิดหาทางที่จะไม่ให้คุณปู่ทำให้เจียงหยุนเอ๋ออึดอัดใจ
เขารู้ดีว่าคุณปู่ต้องไม่เห็นด้วยแน่นอน สิ่งที่เขาทำได้ในตอนนี้คือไม่ให้เจียงหยุนเอ๋อได้รับเรื่องที่ทำให้อึดอัดและลำบากใจ ยังไงซะเรื่องแบบนี้ก็ไม่มีทางเป็นแบบนี้ไปตลอดหรอก
เมื่อถึงสนามบิน ลี่จุนถิงยืนรออยู่ที่ทางออก คิดไม่ถึงว่าลี่จีถองมาถึงก่อนตัวเองเสียอีก
“อุ้ย นี่ไม่ใช่หลานชายตัวดีของฉันหรอก” ลี่จีถองเดินมายืนข้าง ๆ ลี่จุนถิง คำพูดนั้นแฝงไปด้วยท่าทีเยาะเย้ย
ลี่จุนถิงได้แต่มองไปยังทางออก ไม่ได้ตอบกลับลี่จีถอง ตอนนี้เขากับน้าสาวคนนี้ของตัวเอง แม้แต่พูดก็ยังไม่อยากพูดด้วยด้วยซ้ำ
ลี่จีถองเห็นว่าลี่จุนถิงไม่สนใจตัวเอง ก็ เหอะ ออกมาคำหนึ่ง : “อีกเดี๋ยวพ่อออกมา ฉันจะดูว่าแกยังจะอวดดีได้อีกนานแค่ไหน”
ลี่จีถองเดินสะบัดก้นไปอยู่ห่าง ๆ ตอนนี้เธอไม่กังวลสักนิดว่าลี่จุนถิงจะทำอะไรตัวเองอีก ยังไงซะตอนนี้คุณปู่ตระกูลลี่ก็กลับมาแล้ว ไม่มีใครกล้าทำอะไรเธอทั้งนั้น
ลี่จีถองเห็นคุณปู่ตระกูลลี่เดินออกมาแต่ไกล ๆ ก็รีบเข้าไปรับทันที จากนั้นก็ควงแขนคุณปู่ตระกูลลี่อย่างสนิทชิดเชื้อ : “พ่อคะ ไม่เจอกันตั้งนาน ดูหนุ่มขึ้นนะคะ”
เมื่อเห็นลูกสาวคนเล็กที่ไม่ได้พบหน้ากันนาน คุณปู่ตระกูลลี่ที่เดิมทีสีหน้าเคร่งขรึม ก็เผยรอยยิ้มที่ยากจะได้เห็นออกมา : “แกนี่ช่างปากหวานเสียจริงเชียว”
“หนูพูดเรื่องจริงนะคะ” ลี่จีถองแลบลิ้นออกมา
เมื่อลี่จุนถิงเห็นคุณปู่ตระกูลลี่ออกมา ก็รีบเข้าไปหา ตะโกนเรียกคุณปู่
ปรากฏว่าสีหน้าคุณปู่ตระกูลลี่ได้เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม แล้วตอบกลับอย่างเรียบ ๆ : “อืม”
ลี่จีถองเห็นคุณปู่แสดงท่าทีไม่ชอบลี่จุนถิงออกมา ก็หันไปมองลี่จุนถิงด้วยสายตาราวกับเป็นผู้ชนะ
ลี่จุนถิงได้แต่ทำเหมือนตัวเองไม่เห็นอะไรทั้งนั้น
หลังจากที่ทั้งสามคนออกจากสนามบิน ก็กลับไปที่คฤหาสน์