บทที่ 184 ไม่มีใครหนีไปได้ทั้งนั้น
จ้าวเซียวคิดไม่ถึงว่าเจียงหยุนเอ๋อเองก็อยู่ด้วย
เมื่อเห็นท่าทีของเธอก็รู้ว่าได้ยินทุกอย่างแล้ว ถ้าอย่างนั้นก็ไม่มีอะไรให้ปิดบังแล้ว
น้ำเสียงของจ้าวเซียวเต็มไปด้วยความไม่สนใจอะไรทั้งนั้น: “ถ้าเป็นจริงมันจะทำไม?ถ้ามันไม่ใช่ของจริงมันจะเป็นอย่างไร?ถึงอย่างไรตอนนี้บริษัทก็จะเจ๊งอยู่แล้ว”
ถึงแม้ว่าเตรียมใจเอาไว้แล้ว แต่ว่าเมื่อได้ยินอีกครั้ง เจียงหยุนเอ๋อก็คิดว่ามันเจ็บปวดใจมากเลยล่ะ
เมื่อคิดถึงความเชื่อใจที่ตัวเองมีต่อจ้าวเซียว เจียงหยุนเอ๋อก็โกรธจนตัวสั่น: “ทำไมคุณทำเรื่องแบบนี้ได้ล่ะ? ฉันยังเชื่อใจคุณมากขนาดนี้ แถมยังเอาหน้าที่ที่สำคัญของบริษัทให้คุณอีกด้วย”
จ้าวเซียวหัวเราะอย่างเยือกเย็น: “หึ ความเชื่อใจมันราคาเท่าไหร่กัน? บริษัทเซียวซื่อให้ฉันมาห้าล้าน ห้าล้านเลยล่ะ!”
จ้าวเซียวยื่นนิ้วมือทั้งห้าออกมา ก่อนจะพูดด้วยอารมณ์ตื่นเต้น: “ซื้อสูตรด้วยเงินห้าล้านน่ะ คุณทำได้ไหม?”
สูตรนี้มันเป็นสูตรที่จ้าวเซียวทำหามรุ่งหามค่ำมาโดยตลอด ผ่านการทดลองมามากมายถึงจะได้ออกมา
ถ้าอยู่ในบริษัท ตัวเองจะได้แค่เงินเดือน ก็ต้องอยู่อย่างอับจนตลาดไป
แต่ว่าบริษัทเซียวซื่อให้ตั้งห้าล้าน ห้าล้านเลยล่ะ!
ห้าล้านนี้ไม่ใช้แค่จะทำให้เขาร่ำรวย แถมยังเป็นการยืนยันสูตรของเขาอีกด้วย
เจียงหยุนเอ๋อคิดไม่ถึงเลยว่าจ้าวเซียวจะเห็นเงินสำคัญยิ่งกว่าอะไร พลางกัดฟันพูดว่า: “แค่ห้าล้านก็ซื้อคุณได้แล้วเหรอ?หรือว่าคุณไม่มีแม้แต่จรรยาบรรณเลยเหรอ?ฉันมองคุณผิดไปเอง”
เจียงหยุนเอ๋อถอนหายใจ พลางโทษตัวเองที่ไม่ทำความรู้จักจ้าวเซียวให้ดีเสียก่อน เลยทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นในวันนี้ได้
“จรรยาบรรณที่คุณว่าน่ะ มันทำให้ฉันรวยได้ไหม?ถ้าไม่ได้ทำให้ฉันรวย ฉันจะมีมันไปทำไม?” จ้าวเซียวถามกลับ
“แต่ว่าคุณต้องรู้นะ ว่าคุณทำลายหน้าที่การงานในอนาคตของตัวเอง ถ้าอยู่ที่บริษัท ฉันจะให้โอกาสคุณมากกว่าเดิม และให้ห้องทดลองที่ดีกว่านี้ด้วย ให้คุณได้ทดลองอะไรที่คุณอยากทำ ของที่คุณคิดค้นก็จะถูกทุกคนให้ คุณไม่คิดว่ามันจะมีความสุขบ้างเหรอ?”
จ้าวเซียวยิ้มออกมา: “ผู้จัดการเจียงที่รัก ความสุขมันทำอะไรได้เหรอ?สิ่งที่คุณพูดมันจอมปลอม สำหรับฉันมีแค่เงินเท่านั้นแหละที่เป็นความจริง”
เจียงหยุนเอ๋อส่ายหัว หรือว่าที่ผ่านมาจ้าวเซียวหลอกเรามาตลอดเลยเหรอ?
ทำไมแต่ก่อนตัวเองไม่รู้เลยว่าเขาเป็นคนเห็นแก่ผลประโยชน์ขนาดนี้
จ้าวเซียวกวาดตามองเจียงหยุนเอ๋อด้วยความเย็นชา: “ตอนนี้พวกคุณก็รู้กันหมดแล้ว ดูๆ ไปแล้วฉันคงไม่มีความจำเป็นต้องอยู่ต่อแล้ว พวกคุณก็อยู่เก็บกวาดมันต่อไปก็แล้วกัน ฮ่าๆ”
เมื่อพูดจบก็เดินออกไปอย่างสบายอารมณ์
แต่ว่าตอนที่เพิ่งจะเดินไปถึงประตู ซู่จี้งยี้กับบอดี้การ์ดทั้งสองคนก็ออกมา ก่อนจะขวางทางเดินของจ้าวเซียวเอาไว้
“พวกคุณจะทำอะไร?” จ้าวเซียวขมวดคิ้ว ก่อนจะพบว่าเรื่องราวต่างๆ มันไม่ได้ง่ายเหมือนกับที่ตัวเองคิดเอาไว้
ลี่จุนถิงหัวเราะเสียงเย็นชา: “เรื่องยังไม่จบคุณก็จะไปแล้วเหรอ?”
เพียงพริบตาเดียวของจ้าวเซียว บอดี้การ์ดทั้งสองคนก็มาจับตัวจ้าวเซียวไป
จ้าวเซียวพยายามขัดขืน แต่ก็ไม่มีประโยชน์อะไร
“พวกคุณปล่อยฉันนะ พวกคุณกำลังทำผิดกฎหมายอยู่นะ ฉันฟ้องพวกคุณได้นะ พวกคุณรู้ไหม?” จ้าวเซียวหันหัวไปมองลี่จุนถิง
“หือ? พวกรำผิดกฎแบบนี้ งั้นการที่คุณไปขายบริษัทกินเนี่ย แถมยังขายสูตรไปอีกมันถือว่าผิดกฎหมายไหม?” ลี่จุนถิงทำเหมือนมันเป็นเรื่องที่น่าตลกที่สุดตั้งแต่เคยได้ยินมาเลยล่ะ
ทำไมคนพวกนี้ถึงได้ไม่คิดถึงการกระทำของตัวเองบ้างนะ มักจะคิดว่าตัวเองทำถูกแล้ว
“ จับตาดูให้ดี ยังมีประโยชน์อยู่” ลี่จุนถิงโบกไม้โบกมือ เขาในตอนนี้แค่มองจ้าวเซียวก็รู้สึกหงุดหงิดแล้ว
หลังจากที่ซู่จี้งยี้ตอบรับแล้ว ก็ออกไปจากห้องทำงาน
ในตอนนี้เองในห้องทำงานเหลือเพียงลี่จุนถิงกับเจียงหยุนเอ๋อสองคนเท่านั้น
“ตอนนี้หาหนอนบ่อนไส้ตัวจริงออกมาแล้ว รู้สึกดีขึ้นหรือยังล่ะ?” ลี่จุนถิงเดินมาอยู่ข้างๆ เจียงหยุนเอ๋อ ก่อนจะโอบไหล่บางๆ ของเธอเอาไว้
ช่วงนี้ผอมลงไปมากก็เพราะเรื่องนี้
เจียงหยุนเอ๋อส่ายหัว ก่อนจะซบอกหนาของลี่จุนถิง: “จุนถิง ฉันรู้สึกแย่จังเลย เรื่องแบบนี้ฉันไม่รู้เสียยังจะดีกว่าเลย”
“บื้อ” ลี่จุนถิงปาดจมูกของเจียงหยุนเอ๋อ “เรื่องนี้จะไม่รู้ได้อย่างไร? ในตอนแรกเขาเก็บซ่อนมันเอาไว้ลึกมาก หลังจากนี้จะมองใคร ต้องมองให้ดีๆ ล่ะ”
“คุณว่า ทำไมถึงทำแบบนี้ ฉันไม่ได้ทำอะไรไม่ดีกับเขา?” เจียงหยุนเอ๋อเพียงแต่คิดว่าการมีคนมาหักหลังตัวเองนั้นมันน่าหนักใจเสียเหลือเกิน
“ใช่ คุณทำดีกับเขา แต่ว่าคุณต้องจำเอาไว้นะ” จู่ๆ น้ำเสียงของลี่จุนถิงก็จริงจังขึ้น ทั้งสองมือพลางจับไหล่ของเจียงหยุนเอ๋อเอาไว้ มองตาเธอ “ไม่ใช่ทุกคนที่คุณดีกับเขาแล้วเขาจะดีกับคุณ ดังนั้นอย่าทำดีกับใครไปซะทุกอย่าง บางทีก็ต้องเห็นแก่ตัวบ้าง เพราะว่าบางคนจะไม่เห็นค่าของสิ่งที่คุณทำดีกับเขา”
เจียงหยุนเอ๋อพยักหน้า
ลี่จุนถิงเห็นว่าอารมณ์ของเจียงหยุนเอ๋อไม่ค่อยดี เลยกอดเอาไว้ ก่อนจะลูบหัวของเธอ: “โอเค ฉันรู้แล้วว่าคุณรู้สึกแย่ แต่ต่อไปยังมีข่าวดีนะ พวกเรามีหลักฐาน ที่จะทำให้หาความจริงได้แล้ว เรื่องที่ไม่สบายใจน่ะก็ไม่ต้องคิดแล้ว เข้าใจไหม?”
ตอนที่ลี่จุนถิงคุยกับเจียงหยุนเอ๋อนั้นมันอ่อนโยนมาโดยตลอด เหมือนกับว่าเธอเป็นเด็กน้อยของตัวเองเลยล่ะ
เจียงหยุนเอ๋อซบลงบนอกของลี่จุนถิง เพียงแค่คิดว่ามีเขาอยู่ก็อบอุ่นใจมากแล้ว
“จริงสิ ตอนบ่ายคุณต้องให้สัมภาษณ์กับนักข่าวนะ พวกเราต้องแก้ไขปัญหานี้ ยิ่งยื้อไว้ก็ยิ่งไม่ดี” ลี่จุนถิงมีน้ำเสียงจริงจัง
เขาไม่อยากให้เจียงหยุนเอ๋อแบกรับความผิดนี้ต่อไป ดังนั้นเขาเลยต้องรีบแก้ไขปัญหานี้
“แต่ว่า ฉันคิดว่าจ้าวเซียวไม่สามารถเปิดปากยอมรับได้หรอกว่าตัวเองเป็นคนขายบริษัทกินแบบนี้” ท่าทีเมื่อครู่ของจ้าวเซียวทำให้เจียงหยุนเอ๋อโกรธมาก
ถ้าจ้าวเซียวมาขอโทษตัวเอง ด้วยท่าทีที่ดีกว่านี้ แล้วยังรู้สึกผิดล่ะก็ ไม่แน่ เขาอาจจะยกโทษให้เขา
แต่ว่าท่าทีของเขาในตอนนี้ ทำให้เจียงหยุนเอ๋อโกรธมากขึ้นเรื่อยๆ
“เรื่องนี้ คุณไม่ต้องเป็นห่วง ฉันมีวิธีที่จะทำให้เขายอมรับ คุณทำตามที่ฉันบอกก็พอแล้ว”
ลี่จุนถิงตบไหล่ของเจียงหยุนเอ๋อ
“คุณคงไม่……” เจียงหยุนเอ๋อรู้ว่าลี่จุนถิงดีกับตัวเองมาก แต่ว่าสำหรับคนที่ทำอะไรแย่ๆ กับเขานั้น เขาไม่มีทางปล่อยไปง่ายๆ อย่างแน่นอน ไม่แน่ว่าอาจจะใช้วิธีที่โหดร้ายด้วย
ถึงแม้ว่าจ้าวเซียวจะขายตัวเองไปแล้ว แต่ว่าอย่างน้อยเขาก็เป็นคนเก่ง ก่อนหน้านี้การขายของต่างๆ ของบริษัทก็เป็นแรงกายแรงใจของเขา พูดอีกอย่าง อันที่จริงไม่มีการลงแรงแต่ก็มีเครดิตร่วม
ถ้าทำอะไรกับเขามากเกินไปล่ะก็ จะบอกว่าตัวเองเป็นคนใจร้ายและเย็นชาหรือเปล่านะ
อันที่จริงเจียงหยุนเอ๋อยังมีความเห็นใจจ้าวเซียวอยู่บ้าง
“อย่าคิดมากเลย เชื่อฉันเถอะ ” ลี่จุนถิงหัวเราะ “ดูสิว่าคุณมองฉันเป็นคนอย่างไร”
ลี่จุนถิงพูดแบบนี้แล้ว ก็คงจะไม่ทำอะไรที่มันโหดร้ายเกิดไปหรอก: “งั้นก็ดี”
“ครั้งนี้ จะไม่มีใครหนีไปไหนได้ทั้งนั้น” ลี่จุนถิงยิ้มมุมปาก โดยเฉพาะคนที่บงการอยู่เบื้องหลัง เขาเองก็คงไม่ปล่อยให้มีชีวิตดีๆ ต่อไปได้
เจียงหยุนเอ๋อพยักหน้า
“โอเค รีบไปเตรียมตัวเถอะ” ลี่จุนถิงตบบ่าของเจียงหยุนเอ๋อ