บทที่ 219 กลัวเธอลำบากใจ
คืนนั้น เพราะความจำเป็นบางอย่าง ทุกคนจึงได้นอนที่คฤหาสน์หลังนี้
“จุนถิง ฉันยังมีธุระต้องหารือกับแกสักหน่อย คืนนี้ทั้งคืนคงไม่พอ แกไป ๆ มา ๆ ก็ลำบาก วันนี้นอนที่นี่แล้วกัน” คุณปู่ตระกูลลี่พูดกับลี่จุนถิง
ลี่จุนถิงขมวดคิ้วเล็กน้อย อยากจะปฏิเสธ : “คุณปู่ ไม่ต้องหรอกครับ ถ้าเวลาไม่พอพรุ่งนี้ผมก็ค่อยมาใหม่ได้ ไม่ได้ลำบากอะไร”
“จุนถิง!” ลี่เจี้ยนหวาที่อยู่ข้าง ๆ มองลี่จุนถิงอย่างไม่เห็นด้วย “คุณพ่อหาโอกาสให้แกอยู่ต่อ แกไม่คิดจะอยู่เป็นเพื่อนคุณปู่หน่อยหรือไง? ไม่ได้เจอหน้ากันมานานเท่าไหร่แล้ว!”
“จริงด้วย จุนถิง คราวก่อนแกทำให้คุณปู่โกรธ ตอนนี้ก็หักหน้าท่านอีก ไม่ค่อยเหมาะสมมั้ง?” โม่เสี่ยวฮุ่ยดึงแขนเสื้อของลี่จุนถิง แล้วพูดกล่อมเสียงต่ำ
สีหน้าลี่จุนถิงยังคงดูไม่ดีเท่าไหร่ เขาไม่ค่อยอยากอยู่ที่นี่ เพราะกลัวว่าเจียงหยุนเอ๋อจะถูกทำให้ลำบากใจ
ขณะที่ลี่จุนถิงกำลังคิดหาข้ออ้างที่เหมาะสมเพื่อปฏิเสธนั้น กลับได้ยินเจียงหยุนเอ๋อเอ่ยพูดขึ้น : “จุนถิง วันนี้พวกเราค้างที่นี่ก็ได้ ดึกขนาดนี้แล้ว กลับไปก็ไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่”
เห็นเจียงหยุนเอ๋อพูดอย่างนี้แล้ว ลี่จุนถิงก็ได้แต่เม้มปาก ไม่ได้ปฏิเสธต่อไปอีก
ถึงแม้จะพูดอย่างนั้น แต่ที่จริงในใจเจียงหยุนเอ๋อก็ไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่ ยังไงเมื่อกี้บรรยากาศบนโต๊ะอาหารก็กระอักกระอ่วนมากพออยู่แล้ว
ต่อให้ภายหลังมีลี่หยูนห่วนช่วยทำให้บรรยากาศดีขึ้น แต่เจียงหยุนเอ๋อก็ยังรู้สึกไม่ค่อยสบายใจอยู่ดี
เจียงหยุนเอ๋อรู้สึกว่าความคิดแบบนี้ที่จริงไม่ค่อยดีนัก แต่ยังไงซะ……คนพวกนี้ก็เป็นคนในครอบครัวของลี่จุนถิง ในเมื่อเธอเลือกที่จะอยู่กับลี่จุนถิง ก็ต้องยอมให้อภัยครอบครัวของเขา
แต่ว่า คิดแบบนี้ก็เรื่องหนึ่ง แต่หลังจากที่ได้รับความกดดันต่าง ๆ นานาแล้วเลือกว่าจะทำอย่างไรก็กลายเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
คุณปู่ตระกูลลี่ไม่ได้จัดแจงเรื่องที่พักของพวกเขาโดยตรง สุดท้ายก็ให้คนรับใช้มานำพวกเขาไปยังห้องพัก เจียงหยุนเอ๋อและถวนจื่อถูกพาไปยังห้องรับรองห้องหนึ่ง
ลี่จุนถิงถูกคุณปู่เรียกไปคุยธุระ เลยไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับการจัดแจงห้องพักสักนิด
เผชิญหน้ากับผลลัพธ์กับแบบนี้ เจียงหยุนเอ๋อที่จริงก็ไม่ได้รู้สึกเหนือความคาดหมายเท่าไหร่
ท่าทีที่คนตระกูลลี่ปฏิบัติต่อเธอ เธอก็เห็นอยู่แล้ว เพียงแต่ต่อหน้า เธอไม่สามารถพูดอะไรออกไปได้
ในเมื่อเธอไม่อยากทำให้ลี่จุนถิงลำบากใจ เลยคิดว่าตัวเองไม่ควรไปถือสาอะไร
ยังไงตัวเองก็อยู่กับลี่จุนถิงด้วยความจริงใจอยู่แล้ว ไม่ได้มีแผนการอะไร ต่างก็พูดกันว่ากาลเวลาพิสูจน์ใจคน ถ้าหากตัวเองพยายามอีกสักนิด ภายภาคหน้าที่จะได้รับการยอมรับจากคนตระกูลลี่ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้
เจียงหยุนเอ๋อก็ไม่แน่ใจว่าตอนนี้ตัวเองกำลังปลอบใจตัวเองอยู่ หรือมีความคิดแบบนั้นจริง ๆ แต่สิ่งเดียวที่เธอแน่ใจก็คือ ตอนนี้สำหรับเธอแล้ว ทำได้แค่ดูไปเรื่อย ๆ เท่านั้น
“หม่ามี้ โทรศัพท์ของผมแบตหมดแล้วครับ ให้ผมยืมโทรศัพท์แม่เล่นเกมหน่อยได้ไหมครับ?”
ถวนจื่อเงยหน้าขึ้นมา กระพริบตาปริบ ๆ มองไปยังเจียงหยุนเอ๋อ แววตาเต็มไปด้วยการร้องขอ
ต่อให้ถวนจื่อไม่แสดงท่าทางแบบนี้ออกมา เจียงหยุนเอ๋อก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะปฏิเสธเขาอยู่แล้ว ยิ่งถวนจื่อทำแบบนี้ เจียงหยุนเอ๋อก็ยิ่งรีบตอบตกลงทันที
“ได้แน่นอนจ๊ะ”
เจียงหยุนเอ๋อพูดพลางยื่นโทรศัพท์ของตัวเอง แต่ปรากฏว่าคลำหาในกระเป๋าตั้งนานก็หาไม่เจอ
“เอ๊ะ? โทรศัพท์ของฉันหายไปไหนเนี่ย?”
เจียงหยุนเอ๋อพลิกกระเป๋าเสื้อผ้าดูอีกรอบ หลังจากที่แน่ใจแล้วว่าโทรศัพท์ตัวเองไม่ได้อยู่กับตัว เธอก็คิดว่าน่าจะหล่นอยู่ข้างล่างตอนที่ทานข้าว
“ถวนจื่อ โทรศัพท์ของหม่ามี้น่าจะวางลืมไว้ข้างล่าง ตอนนี้แม่จะออกไปเอา ถวนจื่อรอสักหน่อยนะลูก” เจียงหยุนเอ๋อลูบหัวถวนจื่อ แล้วเตรียมตัวลงไปข้างล่างเพื่อหาโทรศัพท์
“ครับ” ถวนจื่อพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง “ถวนจื่อรอแม่กลับมาอยู่ที่นี่นะครับ”
เห็นท่าทางน่ารักน่าชังของถวนจื่อ เจียงหยุนเอ๋อก็อดยื่นมือไปบีบแก้มของเขาไม่ได้ หลังจากนั้นก็หมุนตัวเดินออกไปจากห้องรับรอง
เมื่อมาถึงห้องรับแขก เจียงหยุนเอ๋อก็หาโทรศัพท์ตัวเองอยู่ครู่ใหญ่ แต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงา ทันใดนั้น คนรับใช้ก็เดินมาทางเธอ หยิบโทรศัพท์ที่เจียงหยุนเอ๋อคุ้นเคยออกมา แล้วถาม : “คุณนายน้อยคะ โทรศัพท์เครื่องนี้คุณทำตกไว้ใช่ไหมคะ?”
เจียงหยุนเอ๋อเมื่อดู ก็รีบพยักหน้าทันที : “ใช่ค่ะ ของฉันเอง ขอบคุณนะคะ”
เมื่อรับโทรศัพท์มาจากมือคนรับใช้แล้ว เจียงหยุนเอ๋อก็เตรียมเดินขึ้นชั้นบน แต่ก็ได้ยินคนรับใช้เรียกตัวเองเอาไว้ : “คุณนาย คุณชายเรียกให้คุณไปพบที่สวนดอกไม้สักครู่ค่ะ”
ลี่จุนถิง? เจียงหยุนเอ๋อขมวดคิ้วด้วยความประหลาดใจ
วันนี้เพราะต้องจัดการธุระ ลี่จุนถิงเลยต้องเลือกค้างคืนที่นี่ ทำไมอยู่ดี ๆ ก็เรียกเธอไปหาล่ะ?
ถึงแม้จะสงสัย แต่เจียงหยุนเอ๋อก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ยังไงที่นี่ก็เป็นคฤหาสน์ของตระกูลลี่ คงไม่อันตรายเหมือนด้านนอกนั่นหรอก น่าจะไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นแน่นอน
เมื่อคิดได้อย่างนี้ เจียงหยุนเอ๋อหลังจากที่ขอบคุณคนรับใช้แล้ว ก็เดินไปยังสวนดอกไม้
สวนดอกไม้ของคฤหาสน์ตระกูลลี่ใหญ่มาก เมื่อเห็นดอกไม้ที่กำลังบานในสวนดอกไม้ เจียงหยุนเอ๋อก็รู้สึกว่าตัวเองอารมณ์ดีขึ้นไม่น้อยเลย
เป็นไปได้ว่า……ลี่จุนถิงกลัวตัวเองจะไม่สบายใจ เลยเรียกตัวเองให้ออกมาผ่อนคลาย?
เจียงหยุนเอ๋อแอบเดาขึ้นมาในใจ
หลังจากที่เจียงหยุนเอ๋อเดินมาถึงสวนดอกไม้ ก็เห็นคนยืนอยู่ในสวนดอกไม้อยู่ไกล ๆ แต่เพราะอยู่ไกลมาก เจียงหยุนเอ๋อจึงมองไม่ออกว่าเป็นลี่จุนถิงหรือเปล่า
แต่ว่า ในเมื่อลี่จุนถิงเรียกตัวเองออกมา ก็น่าจะรออยู่ที่นั่นนานแล้วล่ะ
เมื่อคิดแบบนี้ เจียงหยุนเอ๋อก็เดินเข้าไปใกล้ เห็นรูปร่างด้านหลังคล้ายกับลี่จุนถิง ก็เอ่ยเรียกขึ้นมา : “จุนถิง ฉันมาแล้ว”
คนคนนั้นไม่ได้ตอบรับในทันที แต่ทว่ากลับยืนอยู่ตรงนั้นไม่ขยับ ราวกับยืนรอให้เจียงหยุนเอ๋อเดินเข้าไปหาเอง
เจียงหยุนเอ๋อถึงแม้จะรู้สึกแปลกใจอยู่บ้าง แต่ก็เดินเข้าไปทีละก้าวทีละก้าว หลังจากที่เดินเข้าไปใกล้ กลับพบว่าคนคนนั้นไม่ใช่ลี่จุนถิง แต่เป็นลี่หยูนห่วน
“หืม? ทำไม……นายถึงอยู่ที่นี่?” เจียงหยุนเอ๋อเอ่ยปากถามด้วยความประหลาดใจ แต่ก็รู้สึกว่าตัวเองถามออกไปตรง ๆ แบบนี้ไม่ค่อยมีมารยาทเท่าไหร่ “เอ่อ……ฉันไม่ได้หมายความแบบนั้น เอิ่ม……นายดูวิวอยู่ที่นี่เหรอ?”
“สวัสดีพี่สะใภ้” ลี่หยูนห่วนหันกลับมา เดินเข้ามาทักทายเจียงหยุนเอ๋อด้วยท่าทีเป็นมิตรอย่างมาก ทำให้เจียงหยุนเอ๋อรู้สึกไม่ค่อยชินเท่าไหร่
ถึงแม้……เมื่อสักครู่ลี่หยูนห่วนจะช่วยตัวเองแก้ไขสถานการณ์ แต่เจียงหยุนเอ๋อกลับรู้สึกไม่ค่อยชอบเขาอย่างบอกไม่ถูก
เจียงหยุนเอ๋อยังไม่ได้คิดให้ดีว่าควรตอบกลับไปยังไงดี ก็เห็นลี่หยูนห่วนเดินเข้ามากะทันหันทำท่าจะโอบตัวเอง