บทที่249 ถูกคนลงมือทำ
เห็นคนใช้คนนั้นอยู่ดีๆก็พูดถึงเรื่องนี้ ลี่จุนซินอดไม่ได้ที่จะร้อนใจ
เรื่องนี้ถ้าถูกลี่จุนถิงรู้เข้า เปรียบได้กับเป็นน้ำมันราดบนกองไฟแน่!
เธอยังไม่ทันคิดหาวิธีออกว่าจะหลอกเรื่องนี้ต่อไปอย่างไรดี ก็เห็นว่าลี่จุนถิงมองมาทางนี้อย่างเย็นชา แล้วพูดว่า:“เกิดอะไรขึ้นกันแน่?เขาบอกว่าหาลูกหมายความว่าไง?”
ได้ยินเช่นนี้ ลี่จุนซินก็พบว่าในที่สุดตัวเองก็หมดหนทางยืดเยื้อต่อไปได้แล้ว จึงได้แต่สารภาพไปตรงๆ:“จุนถิง คือแบบนี้ หลายวันก่อนถวนจื่อออกไปกับคนใช้ สุดท้ายเด็กหายตัวไป ตอนนี้……ยังหาไม่เจอ”
ได้ยินคำพูดลี่จุนซิน ถึงแม้ลี่จุนถิงเตรียมทำใจดีๆไว้แล้วจากปฏิกิริยาของทุกคน แต่ก็ยังรู้สึกโกรธอย่างท่วมท้น
ลี่จุนซินมองการตอบสนองของลี่จุนถิง ยืนอยู่ข้างๆก็ไม่กล้าส่งเสียงใดๆ จากที่จำได้ เธอไม่เคยเห็นสีหน้าร้อนใจของลี่จุนถิงขนาดนี้มาก่อน
ลี่จุนซินก็รู้ว่าลี่จุนถิงโกรธมาก อารมณ์แบบนี้เธอไม่ใช่ว่าไม่เข้าใจดี
“ตอนนี้ฉันรู้อารมณ์คุณ แต่ถ้าคุณอยากจะทำให้เรื่องวุ่นวายจริงๆ รอให้เรื่องจบก่อนค่อยว่ากันได้ไหม ตอนนี้ที่สำคัญก็คือเอาเด็กกลับมา ฉันก็ไม่อยากให้เด็กหายไปเหมือนกัน”ลี่จุนซินขมวดคิ้วแน่น ตอนนี้สถานการณ์แบบนี้ทำให้เธอรู้สึกหงุดหงิด
ลี่จุนซินสูดหายใจลึกๆ สถานการณ์ใดๆเขาก็ใจเย็นได้ แต่สำหรับถวนจื่อกับเจียงหยุนเอ๋อแล้วเขากลับไม่สามารถให้ตัวเองใจเย็นลงได้
แต่ลี่จุนซินพูดก็ถูก ลี่จุนถิงมีใบหน้าเยือกเย็นลง:“งั้นคุณบอกผมมา ช่วงนี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
ในเมื่อเอาเจียงหยุนเอ๋อสองคนแม่ลูกขังไว้ก็ควรจะดูแลดีๆหน่อยไม่ใช่เหรอ?ทำไมทำคนหายได้?
“วันนี้เช้าจู่ๆฉันก็รับสายของแม่บ้านทาวน์เฮาส์ บอกว่าเด็กหายไป”เอาเรื่องทั้งหมดในหัวของตัวเองย้อนคิดดูรอบหนึ่ง“จากนั้นฉันก็ไปหา มาถึงบริษัทเดิมทีอยากถามคุณว่าเด็กอยู่ไหม แต่พบว่าในห้องของคุณไม่มี ฉันเลยไม่ถาม กลัวว่าเรื่องของสองคนแม่ลูกจะถูกเปิดโปง”
พูดถึงตรงนี้ สีหน้าของลี่จุนถิงก็หม่นขึ้นมา
ไม่น่าล่ะก่อนหน้านี้เห็นสีหน้าลี่จุนซินร้อนรน กับความวิตกกังวลหน่อยๆ ที่แท้ตอนนั้นถวนจื่อก็หายไปนี่เอง
ลี่จุนถิงหรี่ตา ไม่พูดอะไร
ลี่จุนซินรู้ว่าอารมณ์ของลี่จุนถิงแย่สุดๆแล้ว แต่ยังพูดต่อ:“ต่อมาฉันไปดูกล้องวงจรปิด แต่ไม่เห็นเงาของถวนจื่อเลย ฉันคิดว่าเขาน่าจะไปหาคุณ แต่ไม่มี ดังนั้นฉันเลยหวงว่าจะมีพวกค้ามนุษย์เอาตัวไป”
ลี่จุนถิงพูดจบ สายตาก็หม่นลง ไม่พูดอะไรก็เดินออกไป
ลี่จุนซินมองร่างของลี่จุนถิงออกไป เธอก็รู้ถึงความรุนแรงของเรื่องแล้ว
น้องชายของเธอตอนที่โกรธมากๆจะไม่ระบายอารมณ์ออกมา แต่จะไม่พูดอะไรเช่นนี้ มองไม่ออกว่าในใจเขาคิดอย่างไรกันแน่
แต่ว่าหมดหนทาง เรื่องเกิดขึ้นแล้ว อยากจะเปลี่ยนก็เป็นไปไม่ได้ ได้แต่ออกไป
พอลี่จุนถิงขึ้นรถก็โทรหาซู่จี้งยี้
“ฮัลโหล คุณชายลี่”
“คุณ รีบไปหาว่าถวนจื่อไปไหนให้ผม วันนี้จะต้องหาให้เจอ รวมถึงที่บริษัทก็หาให้ผมด้วย”ลี่จุนถิงกำชับอย่างเย็นชา
เขาเชื่อว่าถ้าถวนจื่อหนีไปจะต้องหาตัวเองแน่นอน และฉากความฉลาดของถวนจื่อแล้ว ไม่มีทางหาบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ปที่ใหญ่ขนาดนี้ไม่ได้
แต่ในกล้องวงจรปิดไม่เจอร่างของถวนจื่อ ลี่จุนถิงก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย
ซู่จี้งยี้ฟังเสียงนี้ที่ปลายสายอย่างตกใจ
เขารู้ว่าลี่จุนถิงไปดูเจียงหยุนเอ๋อ แต่ตอนนี้จู่ๆจะให้ตัวเองไปหาถวนจื่อ เกิดอะไรขึ้นอีกเนี่ย
“แล้วก็หยุนเอ๋อ หายไปไหน คุณหาให้เจอ วันนี้ต้องหาให้เจอ ถ้าหาไม่เจอ คุณก็ไม่ต้องทำงานแล้ว”ลี่จุนถิงพูดจบไม่ให้โอกาสซู่จี้งยี้พูดอะไรก็ตัดสายไปเลย
ซู่จี้งยี้ตะลึงอยู่ที่เดิม ในหัววนไปมาแต่คำพูดของลี่จุนถิงเมื่อกี๊ ในใจรู้สึกแค่ว่าน้อยใจ นี่ไม่ใช่ที่เขาอยากให้เจียงหยุนเอ๋อกับถวนจื่อหายไป
แต่ฟังความหมายเมื่อกี๊ของลี่จุนถิง ถวนจื่อกับเจียงหยุนเอ๋อตอนนี้น่าจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน เท่ากับว่าทั้งคืนนี้ตัวเองต้องหาคนสองคน งานนี้ยากจริงๆ
แต่ใครให้ลี่จุนถิงคือเจ้านายตัวเองล่ะ ถึงซู่จี้งยี้จะบ่น ก็ต้องทำงาน
ทางด้านลี่จุนถิงก็ไม่หยุดตามหาร่องรอยของเจียงหยุนเอ๋อ
เขาเริ่มจากขับรถไปใกล้ๆคฤหาสน์ตระกูลลี่ ไปหลายๆที่ที่เขาคิดว่าเจียงหยุนเอ๋อมีโอกาสที่จะไป
แต่ไม่ได้อะไรมาเลย
เมื่อก่อนลี่จุนถิงมักจะรู้สึกว่าเมืองจิ่งเฉิงเล็กมาก แต่ตอนที่กำลังหาคนๆหนึ่ง ลี่จุนถิงจึงพบว่า ที่แท้เมืองจิ่งเฉิงก็ใหญ่ขนาดนี้เชียว เหมือนกับว่าเขากำลังหาเจียงหยุนเอ๋อเป็นงมเข็มในมหาสมุทร
ลี่จุนถิงเอารถจอดที่ข้างถนน หาอยู่หลายที่หาไม่เจอ ลี่จุนถิงรู้สึกเหนื่อยไปทั้งตัว ตัวเองทำเจียงหยุนเอ๋อหายอีกแล้ว แล้วก็ยังไม่ปกป้องเธอ
ลี่จุนถิงตบใส่พวงมาลัยแรงๆ มีเสียงแตรดังขึ้นมาที่ถนน ดึงดูดสายตาคนจำนวนไม่น้อย
จู่ๆ โทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง
ลี่จุนถิงดูหน้าจอโทรศัพท์ เป็นซู่จี้งยี้ ก็คิดว่าหาเจอแล้ว จึงรีบรับสายทันที ถามอย่างมีความหวังว่า:“เป็นไง?หาเจอไหม?”
“ไม่ครับ”ซู่จี้งยี้ก็ไม่อยากโจมตีใส่ลี่จุนถิง แต่ว่าหาไม่เจอก็คือหาไม่เจอ
“แล้วคุณยังไม่รีบไปหาอีก”น้ำเสียงของลี่จุนซินกลายเป็นเย็นชา
ซู่จี้งยี้รีบอธิบาย:“คุณชายลี่ ผมหาถวนจื่อกับคุณนายไม่เจอ แต่เจอเบาะแสครับ”
ลี่จุนถิงไม่มีเวลามาฟังซู่จี้งยี้ไร้สาระ พูดอย่างทนไม่ไหวว่า:“รีบพูดมา”
“ผมไปบริษัทมา สอบถามยามที่เข้าทำงานกระเช้ากับเคาน์เตอร์ พวกเขาต่างไม่เห็นถวนจื่อ แต่ต่อมาผมไปดูกล้องวงจรปิด ก็เห็นว่ามีอะไรผิดปกติเล็กน้อย มีบางจุดหน้าหลังไม่สอดคล้องกัน ผมสงสัยว่ามีคนลงมือครับ”
ได้ยินเช่นนี้ ลี่จุนถิงก็เลิกคิ้ว:“คุณลองดู เอาวิดีโอที่ลบไปแล้วย้อนคืนได้ไหม แล้วก็ติดต่อคนดูแลกล้องด้วย ถามว่าวันนี้มีใครปรากฏตัวที่ห้องวงจรปิดไหม”
ซู่จี้งยี้รับคำสั่งเสร็จก็วางสายไป
ได้เบาะแสแล้ว ลี่จุนถิงก็ถือว่าพอมีหนทาง
ลี่จุนซินบอกว่ากล้องวงจรปิดไม่ปรากฏ น่าจะเพราะว่าตอนนั้นร้อนใจไป ไม่ได้ดูอย่างละเอียด
มีเบาะแสเล็กน้อย ก็ทำให้ลี่จุนถิงโล่งใจขึ้นมาบ้าง
แป๊บเดียวโทรศัพท์ของซู่จี้งยี้ก็โทรมาอีก:“คุณชายลี่ คนดูแลกล้องวงจรปิดวันนี้ตอนบ่ายลาออกไปแล้ว ตอนนี้ติดต่อไม่ได้”
คิ้วของลี่จุนถิงขมวด ดูเหมือนวันนี้ถวนจื่อจะต้องมาที่บริษัท ไม่อย่างนั้นทำไมคนรับผิดชอบนี้ถึงได้ลาออกได้บังเอิญขนาดนี้ เรื่องนี้จะต้องเกี่ยวข้องกับเขาอย่างสลัดไม่ออก