บทที่250 ผู้หญิงคนนั้นคือเธอ
“ไปหาข้อมูลของเขาคนนั้นที่เคยอยู่ที่บริษัท พวกเราไปหาที่เขาอาศัยอยู่ คุณส่งตำแหน่งที่อยู่มา แล้วพวกเราไปเจอกันที่ที่เขาพักอาศัยอยู่”ไม่ว่ายังไงวันนี้ลี่จุนถิงก็ต้องหาคนนี้ให้เจอ
“ครับ”
แป๊บเดียว ซู่จี้งยี้ก็ส่งตำแหน่งที่อยู่มา ลี่จุนถิงสตาร์ทรถออก เหยียบคันเร่ง รีบไปที่บ้านของคนรับผิดชอบ
แต่ตอนที่พวกลี่จุนถิงถึงนั้น ก็พบว่าที่ห้องนั้นว่างเปล่า
“หา หาให้ผม รีบไปหาที่สถานีรถ สถานีไฟความเร็วสูงทันที”ลี่จุนถิงไม่เชื่อว่าคนนั้นจะหนีพ้นเงื้อมมือของตัวเองได้
ประสิทธิภาพการทำงานของซู่จี้งยี้นั้นสูงมาก แป๊บเดียวก็หาบันทึกการออกไปของคนรับผิดชอบกล้องวงจรปิด
“โอเค ทั้งหมดนี้จะต้องมีการไตร่ตรองไว้ก่อนแน่ๆ”ลี่จุนถิงกำมือแน่น“จี้งยี้หาให้ผม ถึงต้องพลิกแผ่นดินหาก็ต้องหาให้ผมเจอ”
ลี่จุนถิงรู้สึกแค่ว่ใจของตัวเองยิ่งอยู่ไม่สุข
ส่วนอีกด้าน ซู่จี้งยี้รีบไปตามหาสถานการณ์หนีไปของคนรับผิดชอบกล้องวงจรปิดทันที
“คุณชายลี่ คนรับผิดชอบกล้องวงจรปิดนั่งรถไฟหนีไปแล้วครับ เหมือนว่าจะไปเมืองหลิน”ซู่จี้งยี้เอาสถานการณ์ที่ทางสถานีรถไฟรายงานบอกหมดแก่ลี่จุนถิง
คนรับผิดชอบหนีไปแล้ว หนีไปที่เมืองอื่น ถึงแม้ลี่จุนถิงจะไม่มีผลกระทบเท่าที่เมืองจิ่งเฉิง แต่อำนาจของลี่จุนถิงก็ไม่ใช่เพียงเท่านี้ ถึงเขาจะหนีไปไกลสุดขอบฟ้า ลี่จุนถิงก็จะหาทางเอาเขากลับมา
แค่ตอนนี้คือปัญหาเรื่องเวลา
ลี่จุนถิงมักจะกังวลว่าจะเกิดเรื่องใหญ่ จึงร้อนใจเล็กน้อย
แต่ที่สำคัญคือตอนนี้ลี่จุนถิงไม่สามารถใจเย็นคิดทบทวนเรื่องราวอย่างละเอียดได้ ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ ก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกหงุดหงิด
“วันนี้หาเขาได้ไหม?”ลี่จุนถิงถาม
ซู่จี้งยี้ลำบากใจหน่อยๆ:“คุณชายลี่ ถ้าตอนนี้เขาอยู่เมืองจิ่งเฉิง ผมว่าน่าจะไม่เป็นปัญหา แต่ตอนนี้เขาไปเมืองหลินแล้ว นี่มันค่อนข้างลำบาก อีกอย่างก็ไม่รู้ว่าเมืองหลินจะใช่สถานีเปลี่ยนรถของเขาหรือเปล่า ไม่แน่ตอนนี้เขาอาจจะไปจากเมืองหลินแล้วด้วย”
อะไรก็ดีทั้งนั้นที่สำคัญคือตอนนี้เวลานี้ไม่ค่อยสะดวก
“งั้นตอนนี้คุณว่าต้องทำไง?”ลี่จุนถิงลูบขมับ
“คุณชายลี่ ผมจะสืบหาเรื่องนี้ทั้งคืน คุณไม่ต้องรีบร้อน ก่อนพรุ่งนี้เช้า ผมจะต้องหาเบาะแสของคนดูแลกล้องวงจรปิดให้ได้”เป็นครั้งแรกที่ซู่จี้งยี้เห็นลี่จุนถิงหมดหนทางเช่นนี้
ลี่จุนถิงในเมื่อก่อน ไม่ว่าเจอกับเรื่องอะไร ต่างมีกลยุทธ์ดีๆทั้งนั้น แต่ตอนนี้จู่ๆลี่จุนถิงก็มาถามตัวเองว่าทำไง นี่พระอาทิตย์ขึ้นฝั่งตะวันตกชัดๆ
ลี่จุนถิงถอนหายใจ เป็นครั้งแรกที่รู้สึกว่าชีวิตหมดความสามารถ
ก่อนหน้านี้คนของตระกูลลี่ต่อต้านตัวเองกับเจียงหยุนเอ๋อ ลี่จุนถิงก็ไม่หมดหวังเช่นนี้
ในช่วงเวลาสั้นๆนี้ การสืบสวนทางนี้ไม่มีเบาะแสใดๆ
“ช่างเถอะ คุณไปสืบก่อน ผมจะกลับไปตระกูลลี่ก่อน”ลี่จุนถิงพูดแล้วก็นั่งที่รถ
ซู่จี้งยี้นั่งที่นั่งคนขับ
ตลอดทางลี่จุนถิงไม่พูดอะไร ซู่จี้งยี้ไม่หยุดมองกระจกมองหลัง มองเห็นใบหน้าเหนื่อยล้าของลี่จุนถิงมองตรงไป หลับตาลง ในใจก็รู้สึกอดสงสารไม่ได้
คุณชายลี่ของเขา ถือว่าแพ้พ่ายให้กับสองแม่ลูกเจียงหยุนเอ๋อ
อยู่กับลี่จุนถิงมาตั้งหลายปี เขาเคยเห็นลี่จุนถิงแบบนี้ที่ไหนกัน ลี่จุนถิงเมื่อก่อนถึงจะเหนื่อยจะยุ่ง สภาพก็ไม่เป็นเช่นนี้ ไม่รู้จริงๆว่านักฆ่าที่ไหนกัน มาทรมานคุณชายลี่ของเขา
ซู่จี้งยี้รู้สึกว่าในรถเงียบจริงๆ อยากจะเปิดเพลงสักหน่อย ให้ลี่จุนถิงผ่อนคลายเล็กน้อย
ถึงแม้ลี่จุนถิงกลับตาพักผ่อนอยู่ แต่ในหัวก็คิดถึงเรื่องต่างๆที่เจียงหยุนเอ๋อกับถวนจื่ออาจจะเกิดขึ้นได้ ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกกลัว
“คุณชายลี่ ถึงแล้ว”ซู่จี้งยี้ดับไฟไว้ เห็นลี่จุนถิงไม่ตอบสนอง
ตอนที่เขาอยากจะพูดอีกครั้ง ลี่จุนถิงก็เปิดประตูรถ เดินลงมา
ตระกูลลี่ ท่านปู่ลี่กับคุณลี่หลับกันแล้ว
ส่วนลี่จุนซินยังอยู่ที่ห้องรับแขก
ตอนนี้ให้เธอไปนอนเธอก็นอนไม่หลับ เพราะว่าถวนจื่อหายไปในใจของเธอก็รู้สึกมีปม ถ้าหาไม่เจอ เธอก็รู้สึกว่าเธอคงหลับไม่สนิท
ได้ยินข้างนอกมีเสียงเครื่องยนต์รถหยุด ลี่จุนซินรีบพุ่งออกไป:“เป็นไงบ้าง?หาเจอยัง?”
ลี่จุนถิงถอนหายใจ ส่ายหน้า ไม่พูดอะไร เดินเข้าไปที่ประตูใหญ่ แล้วไปนั่งลงที่ห้องรับแขก เอนตัวลงโซฟา หลับตาลง
ลี่จุนซินมองน้องชายของตัวเอง ไม่ว่าอย่างไรเธอก็คิดไม่ถึงว่าน้องชายของตัวเองจะมีช่วงเวลาที่ซึมเศร้าเช่นนี้
เมื่อเช้าที่ตัวเองไปหาเขา เขายังคงนั่งอย่างกระฉับกระเฉงมีชีวิตชีวาอยู่ในห้องทำงาน เย็นชาเหมือนที่ผ่านมา
แต่พอรู้ข่าวถวนจื่อกับเจียงหยุนเอ๋อหายไป ก็เหมือนเปลี่ยนเป็นคนละคน ถ้าไม่ใช่ว่าใบหน้าเขาไม่เปลี่ยน ลี่จุนซินคงไม่กล้ายอมรับว่านี่คือน้องชายตัวเอง
ในใจของลี่จุนซินก็เจ็บปวดขึ้นมาทันที
เวลานี้ ข่าวที่โทรทัศน์ก็ดึงดูดความสนใจของทั้งสอง
“วันนี้ที่ถนนเขตทาวน์เฮาส์ชานเมืองทางตอนใต้จะไปในตัวเมือง เกิดอุบัติเหตุรถยนต์ อุบัติเหตุทำให้คนขับบาดเจ็บสาหัส แล้วก็มีผู้หญิงคนหนึ่งสูญหายไป”ในโทรทัศน์ นักข่าวถือไมค์และยืนรายงานข่าวในที่เกิดเหตุ
ไฟรถพยาบาลด้านหลังกับรถตำรวจต่างกะพริบไม่หยุด คนเดินไปเดินมา และยังมีรอยเลือดในที่เกิดเหตุ ทำให้คนอดไม่ได้ที่จะดู
“ตำรวจระบุว่า หญิงสาวที่หายไปนั้นน่าจะยี่สิบกว่า ส่วนสถานการณ์อื่นยังไม่แน่ใจนัก”นักข่าวพูดจบก็เอาเลนส์กล้องย้ายไปที่เกิดเหตุ
ได้ยินรายงานข่าวนี้ ทั้งตัวลี่จุนถิงก็มีชีวิตชีวาขึ้นมา ยืนขึ้นจากโซฟา จนลี่จุนซินตกใจลี่จุนถิง
“จี้งยี้ จี้งยี้”ลี่จุนถิงรีบเรียกชื่อของซู่จี้งยี้
“คุณชายลี่ ผมอยู่นี่”ซู่จี้งยี้เข้ามาจากด้านนอก เดิมทีซู่จี้งยี้คิดว่าจะเข้ามาพูดกับลี่จุนถิง ตัวเองจะไปหาเบาะแสของคนรับผิดชอบกล้อง แต่พออยู่หน้าประตูก็ได้ยินลี่จุนถิงเรียกตัวเอง จึงพุ่งเข้าไปทันที
“รีบไป ไปหาให้ผมว่า ผู้หญิงที่รายงานในข่าวใช่หยุนเอ๋อหรือไม่ รีบไป”ดวงตาของลี่จุนถิงตอนนี้แทบจะนองด้วยเลือด
เขาแอบมีลางสังหรณ์บางอย่าง ลางสังหรณ์นี้ครอบงำเขาไปทั้งตัว เขาไม่อยากเอาเจียงหยุนเอ๋อเข้ามาแทนที่ แต่ความคิดของเขาไม่อยู่ภายใต้การควบคุมของตัวเขาเองอีกแล้ว เขาคิดว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นไปได้ที่จะเป็นเจียงหยุนเอ๋อ
ซู่จี้งยี้ชำเลืองดูรายงานทางโทรทัศน์ พอที่จะเข้าใจสถานการณ์ ก็พยักหน้าทันที พร้อมปลอบลี่จุนถิง:“คุณชายลี่ ผมทราบแล้ว คุณพักผ่อนก่อนเถอะ ผมจะรีบไปสืบ”
ซู่จี้งยี้พูดไปก็เริ่มติดต่อผู้คน ค้นหากล้องวงจรปิดในแต่ละสถานที่ที่ผ่านถนนเส้นนั้น อยากจะหาเบาะแสของผู้หญิงคนนั้น
ลี่จุนถิงหลับตาแน่น สูดหายใจลึกๆ เขาไม่หวังว่านี่จะเป็นความจริง