อินเสี่ยวเสี่ยวฟังคำพูดของอันเสี่ยวเซียวแล้วรู้สึกผิดหวังเสียใจมาก
หลังจากได้มีการติดต่อคบหากันในช่วงเวลาที่ผ่านมา เธอดูเหมือนจะมีความรู้สึกลางเลือนว่าชอบเซียวจิ่งสือ อินเสี่ยวเสี่ยวไม่แน่ใจ แต่เธอรู้สึกได้ว่าตอนที่เห็นอันเสี่ยวเซียวเข้ามาตีสนิทกับเซียวจิ่งสือนั้น เธอรู้สึกหึงหวงขึ้นมา ตอนที่เห็นเซียวจิ่งสือมาปรากฏตัวตรงหน้า เธอรู้สึกดีใจ เมื่อเซียวจิ่งสือไม่อยู่ข้างกายเธอ เธอรู้สึกคิดถึง
เมื่อก่อนตอนอยู่ในบริษัท อินเสี่ยวเสี่ยวเคยได้ยินพนักงานบางคนแอบเมาท์กัน เรื่องที่เธอเป็นตัวสำรองแต่ว่าตอนนั้นเธอแค่ยิ้มแล้วปล่อยผ่านไปโดยไม่สนใจเลย
ตอนนี้มานึกดูแล้ว ข่าวลือพวกนั้นล้วนเป็นความจริง เธอเป็นแค่ตัวสำรองของผู้หญิงอีกคน…
อินเสี่ยวเสี่ยวรู้สึกสับสนอย่างมาก เธอชอบเซียวจิ่งสือ ย่อมอยากจะให้เซียวจิ่งสือชอบเธอเช่นกัน แต่เธออยากให้เซียวจิ่งสือชอบเธอ เป็นความชอบเพียงหนึ่งเดียวชนิดที่ไม่อาจทดแทนกันได้ และไม่ใช่ความชอบในแบบที่เห็นเธอเป็นตัวสำรอง
สนามบินที่ห่างจากบริษัทของเซียวจิ่งสือไม่ไกลนัก เครื่องบินลำหนึ่งลงจอดช้าๆ ผู้หญิงคนหนึ่งสวมชุดทันสมัย ใส่แว่นกันแดดสีดำลงมาจากเครื่องบิน เธอลากกระเป๋าสัมภาระเดินอยู่ในสนามบิน
ด้านนอกสนามบิน มีรถยนต์จอดอยู่คันหนึ่ง ดูเหมือนกำลังรอใครบางคน ผู้หญิงคนนั้นเดินมาถึงรถคันนั้น เปิดประตูแล้วก้าวเข้าไปนั่ง
“คุณหนูครับ ระหว่างที่คุณหนูไปต่างประเทศ คุณผู้หญิงเป็นห่วงคุณมาก พอทราบว่าวันนี้คุณหนูจะกลับมา เธอก็สั่งให้เตรียมอาหารไว้โต๊ะใหญ่ พวกเราจะกลับบ้านใหญ่กันตอนนี้หรือว่า…” คนขับรถถามขึ้นหลังจากอี้อวิ๋นฉังขึ้นรถ
“ตรงกลับอะพาร์ตเมนต์เลย” อี้อวิ๋นฉังขยับแว่นดำ พูดขัดขึ้นอย่างรำคาญ
“ครับ คุณหนู” คนขับรถฟังคำของอี้อวิ๋นฉัง ออกรถตรงไปยังอะพาร์ตเมนต์ของอี้อวิ๋นฉังอย่างว่าง่าย
เมื่อครึ่งเดือนก่อน
เมื่อครึ่งเดือนก่อน อี้อวิ๋นฉังกลับประเทศ เธอไปต่างประเทศระยะหนึ่งเพื่อเรียนต่อด้านการแสดง หลังจบหลักสูตร เธอก็กลับประเทศ เป้าหมายคือเอาชนะใจเซียวจิ่งสือให้ได้
หลังกลับมาแล้ว ที่สนามบินนี้เช่นกัน คนขับรถคนเดียวกันนี้มารับเธอ อี้อวิ๋นฉังขึ้นนั่งบนรถ เล่นมือถือ ติดตามข่าวบนเวยปั๋ว ระยะนี้เธอเรียนการแสดงอยู่ต่างประเทศ จึงไม่รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นภายในประเทศ ดังนั้น เมื่อเธอได้เห็นข่าวการตายของอันซิงบนอินเทอร์เน็ตเข้าโดยไม่ตั้งใจจึงตกใจมาก
“อันซิงตายแล้วจริงเหรอนี่” อี้อวิ๋นฉังอุทานอย่างประหลาดใจ
“ใช่ครับ คุณหนู เรื่องเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อครึ่งเดือนก่อนครับ” คนขับพูดรับขึ้น
“จริงเหรอ? เธอตายยังไงน่ะ” อี้อวิ๋นฉังถาม
คนขับรู้ว่าอี้อวิ๋นฉังมีความสัมพันธ์ที่ดีกับอันซิง เขาจึงเรียบเรียงคำพูดแล้ว พูดว่า “ได้ยินมาว่าคุณหนูอันกับหลินหว่านทะเลาะแย่งชิงท่านประธานเซียว เกิดความขัดแย้งกันอย่างรุนแรง ตอนหลังไม่ทราบว่าอย่างไรกันแน่ พวกเธอทั้งสองคนพลาดตกลงไปในทะเลด้วยกันทั้งคู่”
“อะไรนะ” อี้อวิ๋นฉังรู้สึกเหลือเชื่อ นิ่งไปครู่หนึ่ง เธอเรียบเรียงเรื่องราวจากคำพูดของคนขับรถ แล้วถามอย่างไม่อยากเชื่อว่า “แกหมายความว่าหลินหว่านก็ตกลงไปในทะเลด้วยงั้นเหรอ”
“ครับผม” คนขับตอบ
“งั้นหลินหว่านเป็นอย่างไรบ้าง แล้วเธอตายหรือเปล่า” อี้อวิ๋นฉังถามเสียงร้อนรน
คนขับส่ายหน้า ตอบว่า “ตอนนี้ยังไม่ทราบครับ หลินหว่านหลังจากตกทะเลก็หายสาบสูญไป ได้ยินว่าท่านประธานเซียวระดมคนออกตามหาตัวเธอมากมาย แต่ยังไงก็หาไม่พบ ดังนั้นถึงตอนนี้จึงยังไม่มีข่าวของหลินหว่านเลยครับ”
อี้อวิ๋นฉังรู้สึกว่าเรื่องทั้งหมดนี้มันไม่น่าเชื่อเอามากๆ จนกระทั่งเธอได้อ่านข่าวทั้งหมดที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ตลอดช่วงครึ่งเดือนที่ผ่านมา เธอจึงได้รู้ว่าเพียงชั่วเวลาสั้นๆ ที่เธอไปเรียนต่อต่างประเทศนี้ อันซิงตกทะเลเสียชีวิต หลินหว่านหายสาบสูญ ส่วนเซียวจิ่งสือ เพราะเพื่อตามหาตัวหลินหว่าน เรียกได้ว่าเจ็บปวดรวดร้าวใจจากการสูญเสีย ทุ่มเทเรี่ยวแรงกายใจจนทรุดโทรมลง
พอรู้ข่าวนี้ อี้อวิ๋นฉังก็นึกแผนหนึ่งขึ้นมาได้ หลินหว่านตกทะเลไป ถ้าเป็นไปตามคาด เธอก็น่าจะจมน้ำตายไปแล้วเหมือนกับอันซิง แต่เซียวจิ่งสือยังตามหาตัวหลินหว่าน อย่างนั้น ทำไมเธอไม่เข้าไปแทนที่ซะเลยล่ะ
ดังนั้นเอง เธอจึงไปต่างประเทศอีกครั้ง คราวนี้ เธอไม่ได้ไปเรียนการแสดง แต่เมื่อเธอกลับมา จะสร้างเซอร์ไพรส์ขนาดใหญ่ให้เซียวจิ่งสือ
อี้อวิ๋นฉังนั่งอยู่บนรถ นึกถึงสีหน้าท่าทางของเซียวจิ่งสือตอนที่ได้เห็นเธอแล้ว หัวใจก็อดเต้นแรงขึ้นมาอย่างตื่นเต้นไม่ได้
หลังกลับมาถึงอะพาร์ตเมนต์ คนขับก็จากไป อี้อวิ๋นฉังมาที่หน้ากระจก ถอดแว่นดำบนใบหน้าออก มองดูใบหน้าที่ทั้งคุ้นเคยและแปลกหน้านี้ เธอเหยียดยิ้มเย็นชา คนในกระจกก็เหยียดยิ้มเย็นชาเช่นกัน
อี้อวิ๋นฉังพอใจมาก นับแต่นี้ไป เธอก็คือหลินหว่าน
คืนนั้น อี้อวิ๋นฉังตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ เธอรอคอยอยู่ทุกเวลานาทีที่เซียวจิ่งสือจะได้เห็นเธอ และรักเธอเหมือนกับเธอเป็นหลินหว่าน
วันรุ่งขึ้น อี้อวิ๋นฉังมาที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ของบริษัทของเซียวจิ่งสือ
“สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าคุณต้องการพบใครคะ” พนักงานต้อนรับถามหญิงสาวที่สวมแว่นดำตรงหน้าพร้อมด้วยรอยยิ้มตามมารยาท
“ฉันมาหาจิ่งสือ” อี้อวิ๋นฉังถอดแว่นออก พูดกับพนักงานต้อนรับ
“ค…คุณ…คุณหลิน?” พนักงานต้อนรับพอเห็นอี้อวิ๋นฉังที่ถอดแว่นดำออกก็มีอาการเหมือนเห็นผี หลุดปากร้องเรียกเธออย่างตกใจ
จะว่าไปแล้ว หลินหว่านตกทะเลหายตัวไปก็เดือนกว่าแล้ว ตอนแรก เซียวจิ่งสือยังระดมคนออกตามหาตัวเธอทั้งวันทั้งคืน แต่เมื่อไม่นานมานี้ เซียวจิ่งสือไม่ได้ส่งคนออกไปค้นหาตัวหลินหว่านแล้ว
ผ่านไปตั้งเดือนกว่าแล้ว โอกาสที่หลินหว่านจะยังมีชีวิตอยู่ดูจะเป็นไปไม่ได้แล้ว คนทั้งบริษัทพากันเข้าใจว่าท่านประธานเซียวยอมแพ้แล้ว และอยู่กับตัวสำรองนั่นแทน
แต่คิดไม่ถึงว่า หลินหว่านจะยังมีชีวิตอยู่ ทั้งยังมาที่บริษัท ตรงมาหาท่านประธานเซียวแบบนี้
“ตอนนี้จิ่งสือเขาอยู่บริษัทหรือเปล่าคะ” อี้อวิ๋นฉังถามอีกครั้ง
พนักงานต้อนรับตั้งสติได้แล้ว พูดว่า “คุณหลินคะ รอสักครู่ค่ะ” จากนั้นเธอก็รีบต่อโทรศัพท์สายในเข้าห้องทำงานของท่านประธาน บอกว่าหลินหว่านมาหา ต้องการพบท่านประธานเซียว
“ขอโทษนะคะ คุณหลิน ตอนนี้ท่านประธานเซียวไม่อยู่ที่บริษัท แต่ท่านกำลังกลับมาแล้วค่ะ คุณไปรอท่านประธานเซียวที่ห้องทำงานของท่านก็ได้ค่ะ”
พนักงานต้อนรับวางสายแล้วยังไม่อยากเชื่อสายตาที่เธอเห็นทั้งหมด แต่เธอยังคงพูดกับอี้อวิ๋นฉังอย่างนอบน้อม ถึงอย่างไรก่อนที่หลินหว่านจะตกทะเลไป เธอเป็นคนโปรดของท่านประธานขนาดไหน ทุกคนในบริษัทต่างก็รู้เห็นกันมาก่อน
“ขอบคุณค่ะ” อี้อวิ๋นฉังพูดกับพนักงานต้อนรับ จากนั้นมาที่ห้องทำงานของเซียวจิ่งสือ
ไม่นานนัก อี้อวิ๋นฉังก็ได้ยินเสียงเปิดประตู เธอหันไปมอง เซียวจิ่งสือผลักประตูเปิดเข้ามา ยืนอยู่ที่หน้าประตู สายตามองตรงมาที่เธอ