บทที่327 ไม่ตายก็พอแล้ว
เฟิงจิงเป่ยมองจ้าวเสวียไห่ที่ถูกตัวเองเตะจนสลบไป ก่อนจะขมวดคิ้วเป็นปม
ต่อจากนี้จะเกิดอะไรขึ้นเฟิงจิงเป่ยเองก็ไม่มั่นใจ แต่สิ่งที่เฟิงจิงเป่ยมั่นใจได้ ก็คือจะไม่ปล่อยจ้าวเสวียไห่ไป
ถ้าเกิดจ้าวเสวียไห่ออกไปจากห้องนี้ได้ เดี๋ยวก็ถ้ากลับมาแก้แค้น จะต้องวุ่นวายมากกว่าเดิม
“อย่าให้เขาออกไป จับเอาไว้ในห้องนี้ เดี๋ยวตอนกลางคืนฉันจะจัดการเอง” ในหัวของเฟิงจิงเป่ยนั้นมีวิธีอยู่ในหัว
เจียงหยุนเอ๋อพยักหน้าอย่างอึ้งๆ : “งั้นตอนนี้พวกเราช่วยกันมัดเขาไว้เถอะ”
เจียงหยุนเอ๋อกลัวว่าเดี๋ยวจ้าวเสวียไห่จะฟื้นขึ้นมา แล้วจะส่งเสียง จนอาจจะดึงดูดความสนใจจากคนที่ไม่เกี่ยวข้องมาได้
เฟิงจิงเป่ยคิดว่ามีเหตุผล เลยรีบมัดจ้าวเสวียไห่เอาไว้
“หม่ามี้!” ถวนจื่อร้องขึ้นด้วยความตกใจ
เจียงหยุนเอ๋อตกใจอีกครั้ง ก่อนจะวิ่งมาข้างเตียงด้วยความรวดเร็ว เพื่อดูอาการของถวนจื่อ
ถวนจื่อฟื้นขึ้นมาแล้ว
“ถวนจื่อ คุณเป็นอย่างไรบ้าง?” เจียงหยุนเอ๋อมองถวนจื่อด้วยความเป็นห่วง
เฟิงจิงเป่ยก็เดินเข้ามาเหมือนกัน พลางตรวจบาดแผลของถวนจื่อ
ถวนจื่อส่ายหัว ก่อนจะมองไปในห้อง
เจียงหยุนเอ๋อในฐานะที่เป็นแม่ ก็รู้ว่าถวนจื่อกำลังเป็นห่วงเรื่องอะไรอยู่: “วางใจเถอะ ไอสารเลวคนนั้นมันถูกลุงจัดการแล้ว”
เมื่อได้ยินเจียงหยุนเอ๋อพูดแบบนั้น ถวนจื่อก็วางใจลง พลางมองเฟิงจิงเป่ยด้วยความจริงจัง: “ขอบคุณนะคุณลุง”
เฟิงจิงเป่ยซึ้งใจเป็นอย่างมาก อย่างน้อยก็ไม่เรียกตัวเองว่าคุณปู่แล้ว
“ไม่เป็นไร” เฟิงจิงเป่ยแทบจะไม่ยิ้มออกมาเลย “คุณรู้สึกอย่างไรบ้างล่ะ?”
“ฉันคิดว่าไม่เป็นอะไรหรอก” ถวนจื่อรู้สึกเจ็บเพียงตรงท้องเท่านั้น แต่ก็ไม่ได้เจ็บขนาดนั้น
“ได้ งั้นวันนี้พวกคุณทั้งสองคนไปทำงานที่โรงงานกับฉัน ถ้าเกิดว่าให้พวกคุณอยู่กับจ้าวเสวียไห่ที่ถูกมัดเนี่ย ฉันก็ไม่วางใจ” เฟิงจิงเป่ยพูดขึ้น
เจียงหยุนเอ๋อพยักหน้า
เมื่อครู่เจียงหยุนเอ๋อเองก็คิดอยู่ ว่าถ้าเกิดมัดจ้าวเสวียไห่เอาไว้ในห้อง ตัวเองกับถวนจื่อจะทำอย่างไร คิดไม่ถึงเลยว่าเฟิงจิงเป่ยจะคิดเรื่องของพวกเขาสองคนเอาไว้แล้ว
“งั้นพวกเราไปกันเถอะ” เฟิงจิงเป่ยพูดจบก็เตรียมจะเดินออกไป
เจียงหยุนเอ๋อกลับเรียกเขาเอาไว้: “เดี๋ยวก่อนนะ ตอนแรกฉันคิดว่าฉันออกไปแบบนี้มันจะโจ่งแจ้งเกินไปหรือเปล่า?”
เจียงหยุนเอ๋อมองหน้าของตัวเอง ครั้งแรกที่คิดว่าการที่ตัวเองหน้าตาดีก็เป็นปัญหาเหมือนกัน
เฟิงจิงเป่ยหันกลับมามองเจียงหยุนเอ๋อ เจียงหยุนเอ๋อหน้าตาไม่เลวเลยจริงๆ พวกผู้ชายที่คิดไม่ดี อาจจะคิดอะไรขึ้นมาก็ได้
“ฉันรู้แล้วล่ะ” เฟิงจิงเป่ยกลับมาที่ห้อง จากนั้นก็หยิบกล่องเล็กๆ ของตัวเองออกมา
เจียงหยุนเอ๋อมองเฟิงจิงเป่ยที่กำลังหาของอยู่ พลางถาม: “คุณกำลังหาอะไรอยู่?”
“ฉันจำได้ว่าฉันมีเครื่องสำอางอยู่ ฉันคิดว่าคุณลองดูก็ได้” เฟิงจิงเป่ยพูดพลางหยิบกล่องเล็กๆ ออกมา
เจียงหยุนเอ๋อนั้นตกใจมาก ว่าทำไมจะต้องเอาเครื่องสำอางออกมาจากบ้านด้วย?
แต่ว่าปกติก็ไม่ได้เห็นเขาแต่งหน้าสักหน่อย
“คุณนั่งตรงนี้นะ เดี๋ยวฉันช่วยคุณแต่งหน้าเอง” เฟิงจิงเป่ยพูดพลางเปิดกล่องออกมา
ถึงแม้ว่าเจียงหยุนเอ๋อจะไม่เชื่อฝีมือการแต่งหน้าของเฟิงจิงเป่ย แต่ในตอนนั้นเองมีเพียงแค่เขาที่จะแต่งให้ไม่มีใครจำตัวเองเองได้
เฟิงจิงเป่ยทาลงไปบนหน้าของเจียงหยุนเอ๋อ เพียงไม่นานก็แต่งเสร็จแล้ว
“โอ๊ะ หม่ามี้ขี้เหร่จังเลย” ถวนจื่อมองเจียงหยุนเอ๋อที่เปลี่ยนไป ก็อดไม่ได้ที่จะไม่ค่อยชอบ
หม่ามี้ของตัวเองสวยขนาดไหน ทำไมต้องแต่งให้น่าเกลียดขนาดนั้นด้วย
เจียงหยุนเอ๋อสงสัยเล็กน้อย หรือว่าฝีมือของเฟิงจิงเป่ยจะสุดยอดอย่างงั้นเหรอ?
เจียงหยุนเอ๋อรีบไปส่องกระจก ก็พบว่าตัวเองดูน่าเกลียดกว่าแต่ก่อนเยอะเลย
ทำไมมาดูตอนนี้ดูเหมือนผู้หญิงธรรมดาๆ เลยล่ะ อีกอย่างเฟิงจิงเป่ยยังทำให้ตัวเองดำขึ้นด้วย ถ้าเกิดไม่ดูดีๆ คงไม่รู้ว่าเป็นตัวเอง
“คุณคือว่า……” ถ้าเกิดเจียงหยุนเอ๋อจำไม่ผิด เทคนิคแบบนี้น่าจะเรียกว่าเอฟเฟคใช่ไหมนะ
เจียงหยุนเอ๋อคิดไม่ถึงเลยว่าเฟิงจิงเป่ยจะเอฟเฟคเป็นด้วย อีกอย่างยังเอาของติดตัวมาด้วย
“ไม่ต้องสนใจว่ามันคืออะไรหรอก ถึงอย่างไรตอนนี้ก็ดูพอได้แล้ว พวกเรารีบไปเถอะ” เฟิงจิงเป่ยรีบเก็บของของตัวเอง
ตัวเองออกจากที่ทำงานมานานแล้ว เขากลัวว่าคนรับผิดชอบจะมาหาเขา
“ได้” เจียงหยุนเอ๋อไม่พูดอะไรต่อ ก่อนจะพาถวนจื่อออกไปจากห้อง
แต่ทางฝั่งของลี่จุนถิงก็เข้ามาในฝั่งของหอพักได้แล้ว
ตอนที่กำลังจะเข้าไปในแต่ละห้องๆ นั้น กลับถูกคนตรวจตราจับได้
โรงงานนั้นมีกฎที่เคร่งครัด เพราะว่าคนเยอะมาก จะจัดการไม่ง่ายเลย เพื่อไม่ให้มีคนแอบอู้ ดังนั้นเลยต้องจัดคนตรวจตราไปมาแบบนี้
“ทั้งสองคนนั้น มานี่หน่อย” คนตรวจตราที่อยู่ไม่ไกลเรียกมา
ลี่จุนถิงกับชิงโม่นั้นอยากจะหนีไป แต่ตอนนี้กลับไม่มีโอกาสแล้ว
เลยทำได้แค่หันกลับมา ทำเหมือนกลัวมาก
ในตอนนั้นเองคนตรวจตราเดินเข้ามาหาพวกเขา จากนั้นก็พูดด้วยความโอ้อวด: “พวกคุณสองคนอยู่เขตไหน?”
ชิงโม่บอกเขตที่ตัวเองกับลี่จุนถิงทำงานออกไป
คนตรวจตราพยักหน้า ก่อนจะมองทั้งสองคน: “ถ้าฉันจำไม่ผิด ตอนนี้เป็นเวลางานใช่ไหม ทำไมพวกคุณถึงมาอยู่ที่นี่?”
ลี่จุนถิงก้มหน้าลง ไม่พูดอะไร ชิงโม่เลยตอบ: “พี่ใหญ่ วันนี้พวกเราท้องเสีย ดังนั้นเลยลางานมาพัก เดี๋ยวจะกลับไปทำงานต่อ”
ลี่จุนถิงทำท่าปวดท้องตาม พลางขมวดคิ้ว แล้วงอตัว เหมือนกับว่าไม่สบายจริงๆ
คนตรวจตรานั้นไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ แต่คนข้างๆ เขาดึงเขาไว้ ก่อนจะมองลี่จุนถิง เมื่อเห็นว่าลี่จุนถิงเหมือนจะไม่สบายจริงๆ เลยเชื่อ
“โอเค ไปเถอะๆ พักดีๆ ล่ะ ไม่ตายก็พอแล้ว” คนตรวจตราสะบัดมือก่อนจะเดินออกไป
ชิงโม่พูดขึ้นไล่หลัง: “ขอบคุณครับพี่”
หลังจากที่รอคนพวกนั้นไปแล้ว ลี่จุนถิงก็วางใจลง
“ไปกันเถอะ” ชิงโม่แอบหัวเราะในใจ ลี่จุนถิงก็มีเวลานี้เหมือนกัน
ลี่จุนถิงไม่สนใจชิงโม่ ก่อนจะเข้าไปหาในแต่ละห้อง
แต่ว่าพวกเขาหาหลายห้องแล้ว แต่สุดท้ายก็หาเจียงหยุนเอ๋อแม่ลูกไม่เจอเลย เลยได้แต่กลับไปอย่างผิดหวัง
นี่เป็นครั้งแรกที่เจียงหยุนเอ๋อมาที่โรงงาน
คนข้างๆ ก็กำลังทำส่วนประกอบที่แปลกๆ ตามราง
เฟิงจิงเป่ยจัดให้เธอทำงานที่สบายหน่อย แล้วก็อยู่ในมุมมืด เพื่อไม่ให้ใครสนใจ
คนที่นี่เยอะมาก แล้วก็วุ่นวายมากด้วย
เมื่อครู่ที่ตัวเองตามเฟิงจิงเป่ยเข้ามา มันดึงดูดความสนใจคนอื่นเป็นอย่างมาก ยังดีที่เฟิงจิงเป่ยช่วยเธอแล้ว เลยทำให้ตัวเองดูน่าเกลียดหน่อย บนหน้ามีปานอันใหญ่มาก
ดังนั้นคนอื่นๆ ก็แค่รู้ว่าเป็นคนใหม่ เลยไม่ได้สังเกตมาก
หลังจากตอนกลางคืนเก็บของแล้ว จ้าวเสวียไห่ก็ยังมึนเบลออยู่
เฟิงจิงเป่ยบอกกับเจียงหยุนเอ๋อ: “วันนี้ฉันจะต้องจัดการจ้าวเสวียไห่ พวกคุณอยู่ในห้องนะอย่าออกไปไหน”