บทที่343 รอไม่ได้อีกต่อไปแล้ว
ยังดี ที่การเล่นตลกนี้มันไม่ได้มากเกินไป สุดท้ายเลยได้กลับมาที่จุดเริ่มต้น
ตั้งแต่คืนนี้เป็นต้นไป ก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นใหม่ของพวกเขาอีกครั้ง
จู่ๆ ก็มีลมโชยมา ก่อนจะมีกลิ่นดอกไม้หอมพัดเข้ามาในห้องอีกครั้ง
เจียงหยุนเอ๋อได้กลิ่น มันเป็นกลิ่นของคืนวันนั้น เลยคิดในใจ: “คงจะไม่บังเอิญขนาดนั้นหรอกมั้ง”
สุดท้ายมันบังเอิญจริงๆ
ลี่จุนถิงได้กลิ่นหอมของดอกไม้เหมือนกัน เหมือนจะมีปฏิกิริยาบางอย่าง เจียงหยุนเอ๋อเองก็เร่าร้อนขึ้นมา ในห้องเริ่มมีความคลุมเครือขึ้นมาแล้ว
ลี่จุนถิงพลิกตัว เพื่อให้เจียงหยุนเอ๋ออยู่ด้านล่างของตน
“เจียงหยุนเอ๋อ ฉันอยากได้” ลี่จุนถิงเหมือนจะอยากขอร้องบางอย่าง
“ลูก……” เจียงหยุนเอ๋อเป็นห่วงสิ่งนี้ที่สุดเลย
“ฉันจะระวังนะ” ลี่จุนถิงพูดพลางลูบท้องของเจียงหยุนเอ๋อ
เด็กน้อยคนนี้เขาจะดูแลเป็นอย่างดี
“โอเค” อันที่จริงตอนนี้เจียงหยุนเอ๋อเองก็เหมือนจะเคลิบเคลิ้มไปกับอารมณ์ด้วยเล็กน้อยแล้ว
ทั้งสองใช้เวลากันทั้งคืน เพราะกลัวว่าจะเป็นอันตรายกับลูก เลยไม่ได้รุนแรงมาก
วันที่สอง
แดดยามเช้า ส่องลอดใบไม้ลงมา ส่องมาที่หน้าของเจียงหยุนเอ๋อ
เมื่อรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นของแสงแดด เจียงหยุนเอ๋อก็ต่อยๆ ลืมตาขึ้นมา
จากนั้นก็รู้สึกว่าที่เอวมีมือจับอยู่แน่น เจียงหยุนเอ๋อเลยรู้ว่าลี่จุนถิงเองก็ยังไม่ตื่น
เลยค่อยๆ พลิกตัว ก่อนจะเห็นใบหน้าที่อยู่ตรงหน้า ไม่ใช่แค่หน้าตา แต่ทุกส่วนดูสมบูรณ์แบบจนไม่อาจจะปฏิเสธได้เลย
การได้ตื่นมาเจอเขาทุกเช้าที่มันดีจริงๆ เลย
“หือ?ฉันหล่อขนาดนั้นเลยเหรอ?” จู่ๆ ก็มีเสียงของลี่จุนถิงดังขึ้น และมีความแหบแห้งยามเช้าด้วย
เจียงหยุนเอ๋อตกใจ ก่อนจะพูดขึ้นด้วยความไม่พอใจ: “คุณตื่นเช้าขนาดนี้เลยเหรอ”
ลี่จุนถิงพยักหน้า: “อยากจะอยู่กับคุณนานๆ ไงล่ะ”
เจียงหยุนเอ๋อคิดว่านี่มันช่างหอมหวานเสียเหลือเกิน การได้ฟังคำพูดหวานๆ ตอนเช้า เธอเองก็ไม่ได้รู้สึกเลี่ยนอะไร
“โอเค วันนี้ยังมีตารางอยู่อีก พวกเราต้องตื่นแล้วนะ” เจียงหยุนเอ๋อจัดผมที่ยุ่งของลี่จุนถิง
ลี่จุนถิงกลับงอแงขึ้นมา: “ไม่เอา อยู่ต่ออีกหน่อยเถอะ”
ลี่จุนถิงคลอเคลียเจียงหยุนเอ๋ออยู่สักพัก กลิ่นของเธอทำให้ตัวเองหลงใหล
เจียงหยุนเอ๋อทำอะไรไม่ได้ เมื่อประธานงอแงขึ้นมาแล้ว เธอจะปฏิเสธอะไรได้อีก?
ทั้งสองคนกอดกันอยู่นาน และคิดว่าต้องตื่นเพราะเริ่มหิวแล้ว
หลังจากใส่เสื้อผ้าเสร็จแล้ว แล้วกินข้าวที่ร้านอาหารของโรงแรมแล้ว ก็ไปเที่ยวเล่นที่เนินเขาเล็กๆ ที่อยู่ใกล้ๆ
หมู่บ้านเล็กๆนี้โด่งดังเรื่องความสวยงามจริงๆ เลย
ไม่ว่าคุณจะเจอเรื่องหงุดหงิดใจอะไรมาก เพียงแค่มาที่นี่ คุณก็จะลืมทุกอย่างไปได้เลยล่ะ
ทั้งสองคนไม่ได้มีเป้าหมายอะไรพิเศษ เพียงแค่เดินเล่น ชมความงามเท่านั้นเอง
เมื่อตกดึก ลี่จุนถิงพาเจียงหยุนเอ๋อไปนั่งที่ที่ว่างของเนินเขาเล็กๆ นั้น เพื่อดูพระอาทิตย์ตก แสงสีทองสาดส่องมาที่ตัวของเขาทั้งสอง ถือเป็นเวลาที่ดี เต็มไปด้วยความอบอุ่น
ทั้งสองคนหาร้านอาหารที่มีชื่อเสียง ก่อนจะกลับไปที่โรงแรม
หลังจากที่เก็บของแล้วก็หลับไป เป็นคืนที่ดี เลยหลับจนฟ้าสางเลยล่ะ
แต่ความอบอุ่นขนาดนี้ ไม่มีในวันที่สามแล้ว
วันที่สาม ทั้งสองคนตื่นเพราะเสียงโทรศัพท์
ลี่จุนถิงขมวดคิ้ว เขากำชับซู่จี้งยี้แล้ว ว่าถ้าไม่มีเรื่องคอขาดบาดตายอะไรไม่ต้องโทรมารบกวน เขาเองก็รู้ว่าซู่จี้งยี้ไม่มีทางกล้าขนาดนี้ แต่ถ้าไม่ใช่ซู่จี้งยี้แล้วจะเป็นใคร?
ลี่จุนถิงลืมตามาดูโทรศัพท์ ก็พบว่าเป็นสายของคนดูแลบ้าน
ลี่จุนถิงขมวดคิ้วขึ้น สายของผู้ดูแลบ้าน หรือว่าจะเกิดเรื่องอะไรที่บ้านหรือเปล่านะ?
ลี่จุนถิงรับสาย จากนั้นก็พูดด้วยความไม่พอใจ: “ฮัลโหล?”
“คุณชายลี่ เกิดเรื่องแล้ว คุณชายน้อยเข้าโรงพยาบาลแล้ว” ปลายสาย เสียงของคนดูแลบ้านมีความร้อนใจอยู่ไม่น้อยเลย
“อะไรนะ?” ลี่จุนถิงลุกขึ้นมาจากเตียง
เพราะเจียงหยุนเอ๋อมาอยู่ข้างกายลี่จุนถิง เลยได้ยินสิ่งที่คนดูแลบ้านพูดอย่างชัดเจน ตอนแรกที่ยังมึนเบลออยู่นั้น จู่ๆ ก็ได้สติขึ้นมาในทันที
เจียงหยุนเอ๋อนั่งขึ้นมา ก่อนจะจับแขนของลี่จุนถิง พลางถามขึ้นด้วยความกังวล: “ถวนจื่อเป็นอะไรเหรอ?”
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่?” ลี่จุนถิงขมวเคิ้วมาชนกัน “ตอนออกไปไม่ได้กำชับเอาไว้แล้วเหรอ?ว่าให้พวกคุณดูแลคุณชายน้อยให้ดีๆ ทำไมถึงเข้าโรงพยาบาลได้ล่ะ?”
เจียงหยุนเอ๋อหูผึ่ง พลางตั้งใจฟังสิ่งที่คนดูแลบ้านจะตอบ เพราะกลัวว่าจะฟังไม่ได้ยิน
“คุณชายลี่ เรื่องมันเป็นแบบนี้” คนดูแลบ้านอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้น “วันนี้คุณชายน้อยกลับมาจากโรงเรียน ก็ถูกท่านปู่ลี่เรียกไปกินข้าวที่คฤหาสน์ใหญ่ บอกว่าท่านปู่ลี่อยากให้มีคนมากินข้าวเป็นเพื่อนเพราะเหงา แต่ฉันเองก็ไม่วางใจ เลยให้คนใช้ที่หูตาไวตามไปด้วย”
“คุณปู่ทำอะไรถวนจื่อเหรอ?” ลี่จุนถิงไม่รู้ว่าท่านปู่ลี่ทำอะไรกับถวนจื่อ
“ได้ยินลูกน้องบอก ว่าท่านปู่ลี่ชอบคุณชายน้อยไม่น้อยเลย แถมยังหัวเราะเล่นกันอีกด้วย” อันที่จริงถวนจื่อไปนั้นคนดูแลบ้านไม่ได้เป็นห่วงเลย
เพราะถวนจื่อนั้นฉลาดจนคนดูแลบ้านเองก็เห็นอยู่ อีกอย่าง คนอายุมากอย่างท่านปู่ลี่ ก็ชอบอยู่กับเด็กตัวเล็กๆ แบบนี้แหละ
“แล้วทำไมถวนจื่อถึงเข้าโรงพยาบาลล่ะ?” เมื่อฟังมาถึงตรงนี้ลี่จุนถิงกับเจียงหยุนเอ๋อก็ถอนหายใจด้วยความโล่ง
ดูแล้วท่านปู่ลี่จะไม่ได้เกลียดอะไรถวนจื่อเหมือนที่คิด
“แต่ว่าเมื่อชั่วโมงก่อน คุณชายน้อยท้องเสียแล้วก็อ้วกเป็นเลือด ครอบครัวต่างร้อนใจ เลยรีบส่งไปที่โรงพยาบาล” คนดูแลบ้านเองก็เพิ่งได้รู้ข่าวในตอนนั้น เลยรีบตามไปที่โรงพยาบาล
“หมอตรวจแล้วบอกว่าคุณชายน้อยถูกให้กินยาอะไรสักอย่าง ดังนั้นเลยเป็นแบบนี้”
เมื่อลี่จุนถิงฟังมาถึงตรงนี้ ก็หนักใจ ถูกผสมยาใส่ไปงั้นเหรอ?หรือว่ามีคนอยากวางยาถวนจื่อ
แต่ตอนนี้คุยทางโทรศัพท์ไม่ถนัด เขาต้องรีบตามไปแล้ว
“โอเค ฉันรู้แล้ว เดี๋ยวจะรีบกลับไป” ลี่จุนถิงพูดจบก็วางสาย สีหน้าหนักใจ
เจียงหยุนเอ๋อได้ยินเช่นเดียวกัน จนเกือบจะเป็นลมไป
“เป็นแบบนี้ได้อย่างไร?” เจียงหยุนเอ๋อบ่น
ลี่จุนถิงตบหลังของเจียงหยุนเอ๋อเบาๆ พลางปลอบ: “ไม่เป็นไรนะ คนดูแลบ้านบอกแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าถวนจื่อเข้าโรงพยาบาลทันเวลา หมอน่าจะช่วยได้”
ตอนนี้เจียงหยุนเอ๋ออยากรู้ว่าใครที่ใจดำขนาดนี้ ถึงมาทำร้ายเด็กได้
เจียงหยุนเอ๋อทั้งตกใจทั้งโกรธ ตัวเองปกป้องอย่างดี สุดท้ายกลับมาเกิดเรื่องในบ้านเอง นี่มันน่าตลกเกินไปหรือเปล่า?
เจียงหยุนเอ๋อลุกขึ้นจากเตียงนัยน์ตา,นัยนา “ไป พวกเรารีบกลับไปเถอะ ฉันรอไม่ไหวแล้ว”
ลูกเป็นเหมือนชีวิตของตัวเองเลยล่ะ
เจียงหยุนเอ๋อรีบเปลี่ยนเสื้อผ้า
ลี่จุนถิงเองก็ไม่อยากเสียเวลาแล้ว เจียงหยุนเอ๋อรอไม่ไหว เขาเองก็รอไม่ไหวเหมือนกัน
จึงรีบอาบน้ำแต่งตัว เก็บของ จากนั้นก็รีบกลับไปที่บ้าน