บทที่367 ขอแค่คุณอยู่ดี
เจียงหยุนเอ๋อถูกปกป้องดูแลอย่างเต็มที่ และจะไม่มีใครสามารถมาเจอเธอได้ ลี่จุนถิงเองก็ได้พูดความในใจออกมา
แต่สิ่งที่ทำให้เขาไม่สบายใจมากที่สุดในตอนนี้ ก็คือคนที่ปลอมตัวเป็นพยาบาลที่มาลอบทำร้ายเจียงหยุนเอ๋อในวันนั้นเป็นใครกันแน่
สิ่งที่ทำให้น่าหงุดหงิดใจมากที่สุดก็คือคนที่จะทำร้ายเจียงหยุนเอ๋อนั้นหลบอยู่ แล้วเขาก็ไม่มีเบาะแสอะไรเลยด้วย
ลี่จุนถิงนั่งอยู่ในห้องทำงานระดับสูงที่สุดของบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ป ในมือถือปากกา พลางนั่งสะสางงานกองเท่าภูเขาที่วางอยู่ข้างๆ แต่ว่าก็ไม่มีอารมณ์ไปทำงานเหมือนเคย
ในตอนนี้เอง ซู่จี้งยี้เคาะประตูพอดี
“เข้ามา”
ลี่จุนถิงทิ้งปากกาลง ก่อนจะเอามือประสานกัน แล้วนั่งพิงอยู่บนเก้าอี้หนังคุณภาพดี เพื่อรอให้ซู่จี้งยี้มารายงานกับตัวเอง
“มีเรื่องอะไร?”
“เรื่องของคุณหญิงน่ะ”
“เจอเบาะแสแล้วเหรอ?”
ซู่จี้งยี้ส่ายหัว
ลี่จุนถิงที่กำลังมีความหวังอยู่ในตอนแรกก็มีแววตามืดมัวลง
“แต่ฉันไปรู้เรื่องหนึ่งมา”
“พูดมา” ลี่จุนถิงทนรอต่อไปไม่ไหวแล้ว ท่าทีที่มีต่อซู่จี้งยี้เลยดูไม่ดีไปด้วย “ไม่ต้องอ้อมค้อมแล้ว”
ช่วงนี้ใครที่ได้เจอลี่จุนถิงก็พูดตะกุกตะกักตัวสั่นเท่ากันทั้งนั้น เพราะกลัวว่าจะทำให้ลี่จุนถิงโกรธ จนตัวเองถูกไล่ออก
“ถึงฉันจะไม่รู้ว่าคนคนนั้นคือใคร แต่ว่ากลับพบว่ามีคนกำลังตามหาว่าคุณหญิงนั้นอยู่ที่ไหน” ความสามารถการเสาะหาของซู่จี้งยี้นั้นเก่งมาก สำหรับจุดเล็กๆ น้อยๆ แบบนั้นก็ไม่มีพลาด
“ห๊ะ?” ลี่จุนถิงหรี่ตาลง พลางโน้มตัวไปด้านหน้า “งั้นฉันเข้าใจได้ว่าคนพวกนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับพยาบาลคนนั้นได้ใช่ไหม?”
สถานการณ์ในตอนนี้น่าจะไม่มีใครมาขัดขวางได้ นอกจากคนที่ตามหาเจียงหยุนเอ๋อพวกนั้นจะเป็นพวกของพยาบาล เพราะว่าแผนก่อนหน้านี้ไม่สำเร็จ เลยอยากจะตามหาต่อ
ซู่จี้งยี้พยักหน้า: “ใช่แล้ว แถมคนพวกนั้นยังตามหาได้อย่างเก่งกาจด้วย ฉันว่าน่าจะรีบร้อนมากเลยล่ะ”
ลี่จุนถิงพยักหน้า ยังดีที่ตัวเองฉลาด เลยรีบย้ายเจียงหยุนเอ๋อไปก่อน
“งั้นคุณรีบหาเบาะแสนะ แล้วมารายงานฉัน สำหรับการตามหาพยาบาลก็อย่าปล่อยนะ ฉันไม่เชื่อหรอก ว่าเมืองจิ่งเฉิงใหญ่เท่านั้น เธอจะหนีไปไหนได้”
ซู่จี้งยี้เหงื่อตก ที่ที่ใหญ่ของเมืองจิ่งเฉิงอะไรกัน
ลี่จุนถิงพูดง่ายจริงๆ เลย มีเพียงแค่ซู่จี้งยี้รู้ คนที่ตามหากับตัวเองในช่วงนี้บ่นว่ามันไร้หนทางขนาดไหน จนไม่มีทางจะลงมือทำอะไรได้เลย พยาบาลคนนั้นหน้าตาเป็นอย่างไร สูงเท่าไหร่ รูปร่างเป็นอย่างไรพวกเขาก็ไม่แน่ใจ แล้วจะไปตามหาได้อย่างไร?
แต่คำพูดพวกนี้ซู่จี้งยี้ไม่กล้าพูดกับลี่จุนถิง ตอนนี้พูดไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น
“ได้ ฉันรู้แล้วล่ะ” ซู่จี้งยี้พยักหน้า “งั้นถ้าเกิดไม่มีอะไรแล้ว ฉันไปก่อนนะ”
“ไปเถอะ” ลี่จุนถิงโบกมือ
หลังจากที่ซู่จี้งยี้ออกไปแล้ว ลี่จุนถิงก็เตะโต๊ะไปด้วยความโมโห
เขาโกรธจนรอบๆ ตัวนั้นเย็นยะเยือก ถ้าเกิดใครเดินเข้ามาหาลี่จุนถิง อาจจะรู้สึกหนาวเหน็บจนเป็นหวัดเลยก็ได้
ลี่จุนถิงนั้นอดไม่ได้ที่จะต้องให้คนพวกนั้นมาทำร้ายเจียงหยุนเอ๋อครั้งแล้วครั้งเล่า จนไม่จบไม่สิ้นสักที เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ก็เริ่มกระสับกระส่าย จากนั้นลี่จุนถิงขยับเนกไทตัวเองลง ก่อนจะเตะโต๊ะทำงานอีกครั้ง
ผ่านไปสักพัก ลี่จุนถิงก็ใจเย็นลงก่อนจะตัดสินใจกลับบ้านไป
หลังจากที่ไปถึงบ้านแล้ว นอกจากคนใช้ก็มีเพียงตัวคนเดียว มันช่างหนาวเหน็บเสียจริง
ถึงแม้ว่าลี่จุนถิงจะอยู่บ้านคนเดียว แต่คนใช้ก็ยังเตรียมข้าวเย็นไว้ให้อย่างเต็มเปี่ยม แต่สำหรับลี่จุนถิงแล้ว มองไปทางไหนก็ไม่สดใส กินอาหารก็ไม่อร่อย เหมือนกินอาหารจืดชืดไม่รู้รสเลยล่ะ
หลังจากกินข้าว ลี่จุนถิงก็อาบน้ำ เมื่อเห็นเวลาว่าได้เวลาแล้ว ก็ไปห้องสมุด เพื่อวิดีโอคอลไปหาเจียงหยุนเอ๋อ
เพื่อให้เจียงหยุนเอ๋อได้พักผ่อนสบายๆ ลี่จุนถิงเลยคุยกับเจียงหยุนเอ๋อเอาไว้แล้ว ว่าจะคุยกันผ่านทางวิดีโอคอลตอนสองทุ่ม
ลี่จุนถิงเองก็ไม่กล้าไปหาเจียงหยุนเอ๋อตรงๆ เพราะกลัวว่าตัวเองไปบ่อยๆ แล้วจะมีคนเห็นเข้า แล้วจะพบที่ที่เจียงหยุนเอ๋ออยู่ได้
แล้วก็ไม่กล้าอยู่ที่ห้องรับแขกด้วย เพราะไม่อยากให้เวลาที่ตัวเองกับเจียงหยุนเอ๋ออยู่ด้วยกันนั้นถูกคนอื่นรบกวน แล้วก็เพื่อไม่ให้เกิดเรื่องน่าเกลียดน่ากลัวแบบในห้องครั้งก่อน ถึงแม้ว่าตอนนี้จะมีเพียงคนใช้ที่วางใจได้ แต่ในใจของลี่จุนถิงก็อดไม่ได้ที่จะป้องกันไว้ก่อน
ปกติคนใช้จะเข้ามาในห้องสมุดไม่ได้ ดังนั้นลี่จุนถิงเลยวางใจ
“ลี่จุนถิง ทำงานเสร็จแล้วเหรอ?” เสียงน่าฟังของเจียงหยุนเอ๋อดังออกมาจากคอม
เมื่อได้ยินเสียงหวานแบบนั้น เข้ามาประทบที่หู ความหงุดหงิดในใจของลี่จุนถิงก็หายไปหมด
เป็นไปตามคาด เจียงหยุนเอ๋อเป็นยารักษาความหงุดหงิดในใจของเขาที่ดีที่สุด
“อือ” อันที่จริงยังไม่เสร็จ แต่ลี่จุนถิงคิดถึงเจียงหยุนเอ๋อเป็นอย่างมาก
“งั้นก็ดี กินข้าวหรือยัง?” เจียงหยุนเอ๋อยิ้มพลางถามขึ้น “ตอนที่ฉันไม่อยู่ก็ต้องกินข้าวให้ตรงเวลานะ”
ลี่จุนถิงพยักหน้า เพื่อเจียงหยุนเอ๋อนั้น เขาจะดูแลตัวเองให้ดี
ลี่จุนถิงมองเจียงหยุนเอ๋อผ่านหน้าจอ ถึงตัวเองจะไม่ค่อยมีชีวิตชีวาในการใช้ชีวิตเท่าไหร่ แต่ว่าเมื่อเห็นเจียงหยุนเอ๋อที่มีสีหน้าดีกว่าเก่ามาก ดูๆ ไปแล้วการอยู่ที่นั่นก็ดีไม่น้อยเลย
“อาการดีขึ้นมากแล้วใช่ไหม?สีหน้าคุณเริ่มมีเลือดฝาดแล้ว” ลี่จุนถิงจ้องหน้าจอไม่ห่าง มองจนเจียงหยุนเอ๋อรู้สึกผิด
เจียงหยุนเอ๋อหน้าแดงหูแดงไปหมด พลางพยักหน้า
“ใช่แล้ว พวกเราถูกดูแลเป็นอย่างดี” เจียงหยุนเอ๋อพูดพลางก้มหัวลง
“เป็นอะไรเหรอ?ไม่มีความสุขเหรอ?” ลี่จุนถิงเห็นท่าทีของเจียงหยุนเอ๋อเปลี่ยนไป
เจียงหยุนเอ๋อส่ายหัว: “ฉันแค่คิดว่าตัวเองทำให้คุณลำบากไม่น้อยเลยล่ะ”
เจียงหยุนเอ๋อนั้นโทษตัวเองในใจไม่น้อยเลย ตัวเองมีชีวิตที่สบายในช่วงนี้ แต่เธอมองออก ว่าทางฝั่งลี่จุนถิงนั้น ไม่ได้มีความสุขเหมือนที่คิดไว้
ต้องเหนื่อยเพราะทำเรื่องให้กับตัวเองมากมายแน่เลย
ลี่จุนถิงรู้ว่าเจียงหยุนเอ๋อเริ่มเห็นกันเป็นคนนอกอีกแล้ว: “ยัยโง่ ลำบากอะไรกัน?คุณเป็นผู้หญิงของฉัน ของของคุณก็เหมือนของฉัน ของฉันก็เหมือนของคุณ ไม่ลำบากอะไรหรอก เป็นสามีภรรยากัน พูดเหมือนเป็นคนนอกเลย หลังจากนี้ถ้าคุณพูดอะไรแบบนี้อีก ฉันจะไม่ทำดีกับคุณแล้วนะ”
“แต่ว่าคุณดูคุณสิ ช่วงนี้ไม่ได้พักผ่อนให้ดีๆ เลย ต้องเป็นเพราะเรื่องของฉันแน่นอนเลยล่ะ” เจียงหยุนเอ๋อรู้ว่าลี่จุนถิงไม่มีทางไม่ทำดีกับตัวเองแน่นอน เขาแค่ขู่เท่านั้นเอง
ตอนนี้ลี่จุนถิงอยากจะเข้าไปกอดเจียงหยุนเอ๋อใจหน้าจอ แล้วจูบเธอสักหน่อย: “ฉันไม่เป็นไรหรอก ขอเพียงแค่คุณแม่ลูกปลอดภัยก็พอ”
เจียงหยุนเอ๋อขยับกล้อง เพื่อให้ลี่จุนถิงเห็นท้องของตัวเอง
เจียงหยุนเอ๋อลูบท้องของตัวเองเบาๆ : “คุณดูสิ ลูกของพวกเราแข็งแรงมาก เขาผ่านเรื่องราวร้ายๆ มาได้ตั้งหลายครั้ง ต้องเป็นเด็กที่แข็งแรงมากแน่ๆ เลยล่ะ”
เจียงหยุนเอ๋อถอนหายใจในใจเบาๆ ตั้งแต่ตัวเองท้องเขา ก็เกิดเรื่องอะไรไม่รู้มากมาย แต่เขาก็ยังอยู่กับตัวเองมาตลอด
ลี่จุนถิงเองก็คิดว่าเมื่อเป็นแบบนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา