หลายวันที่ผ่านมา ชิงโม่ยังคงเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ใกล้วิลล่า จากการถามคนที่อยู่ในวิลล่า ในที่สุดเขาก็รู้ว่าเรื่องราวมันเป็นมายังไง
จากเหตุการณ์ไม่กี่วันก่อน ตอนที่ซูซานเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ เธอบังเอิญไปช่วยเหลือลี่จุนถิงที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส เพียงแวบแรก เธอก็ตกหลุมรักลี่จุนถิงขึ้นมาทันที เธอจึงพาตัวเขากลับมาที่เฉินกั๋วเพื่อให้ได้รับการรักษา
แต่หลังจากที่ลี่จุนถิงฟื้นขึ้นมาก็กลับจำอะไรไม่ได้ ในความทรงจำมีเพียงภาพเงาของใครบางคนปรากฏให้เห็นรางๆ
และซูซานก็ใช้โอกาสนี้บอกว่าเธอคือคู่หมั้นของเขา และลี่จุนถิงก็เชื่ออย่างไม่สงสัย ดังนั้นเขาจึงมาอยู่ที่นี่ และระหว่างเขาทั้งสองก็เข้ากันได้ดี
เมื่อรู้ทุกอย่างแล้วชิงโม่ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาก็เลยไปเช็คประวัติของซูซานทันทีเช่นกัน แต่ก็กลับยิ่งทำให้เขาแปลกใจมากขึ้นไปอีก
ที่แท้แล้วซูซานเป็นลูกสาวของนักธุรกิจรายใหญ่ในเฉินกั๋ว คุณยายของเธอเกิดในราชวงศ์ชนชั้นสูงของอังกฤษ สืบทอดเชื้อสายกันมาตั้งแต่ต้นวงศ์ตระกูล และเป็นบุคคลชนชั้นสูง
“โอ้พระเจ้า สถานการณ์ในตอนนี้ช่างยุ่งวุ่นวายไปหมด หากซูซานเป็นแค่คนธรรมดาก็ยังพอไหว แต่นี่เธอกลับเป็นคุณหนูของตระกูลใหญ่ และเธอก็ยังใจมุ่งมั่นแน่วแน่กับประธานลี่ แล้วเรื่องนี้ต้องทำยังไงดี!”
พูดจบ ชิงโม่ก็ได้แต่ถอนหายใจ
เมื่อคิดไปถึงเจียงหยุนเอ๋อที่ลำบากตรากตรำทำงานหนักเพื่อลี่จุนถิง ชิงโม่ก็ไม่รู้จะเอ่ยปากพูดมันยังไง
แล้วยังผู้อาวุโสทั้งหลายในตระกูลลี่อีก พวกเขาทุกคนต่างเฝ้ารอฟังข่าวของลี่จุนถิง หากเขาบอกไปว่าลี่จุนถิงสูญเสียความทรงจำ แล้วพวกเขาจะรับได้ไหม ?
“ทำยังไงดี?”ชิงโม่อดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นฟ้าแล้วกู่ร้อง
ในตอนนี้ที่เขากำลังลังเลอยู่นั้น เจียงหยุนเอ๋อก็โทรเข้ามาพอดี มองดูชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอมือถือ ในใจลึกๆนี่คงเป็นครั้งแรกที่ชิงโม่รู้สึกหมดหนทาง
คิดไปคิดมา เขาก็เลือกที่จะปิดบังเรื่องนี้เอาไว้ก่อน ยังไงตอนนี้เจียงหยุนเอ๋อก็ยังท้องอยู่ หากเกิดอะไรขึ้น มันจะไม่ใช่ความผิดเขาหรอกเหรอ ?
ชิงโม่สูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วกดปุ่มรับสาย :“สวัสดีครับ คุณนาย ผมชิงโม่ครับ !”
เดิมทีเจียงหยุนเอ๋อคิดว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่าแต่พอชิงโม่รับสายเธอก็โล่งใจ เอ่ยถามไปด้วยใจที่มีความหวังว่า :“ชิงโม่ ผ่านมาสักพักแล้ว คุณหาตัวลี่จุนถิงพบแล้วหรือยัง ? ก่อนหน้านั้นคุณบอกฉันว่ามีเบาะแสบางอย่าง ? ตอนนี้ตามหาไปถึงไหนแล้ว ? ”
ชิงโม่รู้ว่าเจียงหยุนเอ๋อต้องโทรมาถามความคืบหน้าเรื่องลี่จุนถิง เมื่อคิดถึงสถานการณ์ในตอนนี้ เขาก็โกหกอย่างไม่ให้จับพิรุธได้ว่า“คุณนาย ผมไร้ความสามารถ เบาะแสก่อนหน้านี้มีข้อผิดพลาดเล็กน้อย ผมมาถึงที่นี่ก็เพิ่งจะพบว่าเขาคนนั้นมีหน้าตาคล้ายประธานลี่เท่านั้นครับ แต่ยังไงผมก็จะยังตามหาต่อไป !”
“เพราะงั้น……เลยยังไม่มีวี่แววของลี่จุนถิงใช่ไหม ?”
เมื่อได้ยินคำตอบที่น่าเศร้านี้อีกครั้ง เดิมทีก็เตรียมใจเอาไว้แล้ว แต่พอถึงเวลาจริงๆ เจียงหยุนเอ๋อก็ยังรู้สึกเจ็บปวดและหมดหนทาง
เธอถือกรอบรูปที่ในนั้นมีรูปใบหน้าที่อ่อนโยนของลี่จุนถิง แล้วพูดเสียงเบาไปว่า:“ชิงโม่ ในเมื่อเบาะแสก่อนนั้นใช้ไม่ได้ งั้นก็ต้องรบกวนคุณช่วยหาเบาะแสใหม่ ในส่วนของบริษัทมีฉันคอยรับหน้าที่อยู่ คุณแค่ต้องพยายามให้มากขึ้น!ลี่จุนถิงจะได้กลับมาอย่างปลอดภัยหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับคุณแล้ว !”
หลังจากที่ฟังคำสั่งของเจียงหยุนเอ๋อจบ ชิงโม่ก็รู้สึกหนักใจขึ้นมาเล็กน้อย แต่เพื่อไม่ให้เจียงหยุนเอ๋อสังเกตเห็นความผิดปรกติ เขาก็พยักหน้ารับเบา ๆ
“คุณนายไม่ต้องกังวลนะครับ ผมจะพาประธานลี่กลับไปหาคุณในสภาพที่เหมือนเดิมทุกประการ !คุณคอยรอฟังข่าวดีจากผมก็พอ แต่ก็ต้องดูแลรักษาสุขภาพด้วยนะครับ แล้วอาการของท่านประธานเป็นยังไงบ้างครับ”
“คุณปู่……อาการของคุณปู่ตอนนี้แย่มาก แต่ฉันเชื่อว่าแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเหล่านั้นจะสามารถรักษาท่านให้ดีขึ้นได้ หากคุณพบลี่จุนถิงแล้ว อย่าเพิ่งบอกเขาเรื่องของคุณปู่ เขาเคารพรักคุณปู่มาก หากรู้เรื่องที่เกิดขึ้นกับคุณปู่ เกรงว่าจะเป็นกังวลมากขึ้นไปอีก !”
เมื่อคิดถึงความเป็นไปได้นี้ เจียงหยุนเอ๋อก็รีบพูดมันออก
“คุณนายไม่ต้องเป็นห่วงครับ ผมจำมันไว้หมดแล้วครับ งั้นผมขอตัวไปหาประธานลี่ก่อนนะครับ คุณก็ไปทำธุระของคุณเถอะ ! ทันทีที่มีข่าวของประธานลี่ ผมจะติดต่อกลับไปหาคุณทันที!”ชิงโม่พูดไปด้วยความเคารพ
“ได้ รบกวนคุณแล้ว ฉันจะรอฟังข่าวดีจากคุณ!”เจียงหยุนเอ๋อถอนหายใจเล็กน้อย และพูดเสียงเรียบ
ชิงโม่วางหูไปแล้วก็รู้สึกอึดอัด เมื่อเห็นเจียงหยุนเอ๋อที่ทุ่มเททุกอย่างให้กับลี่จุนถิง แต่ลี่จุนถิงก็กลับมาความจำเสื่อม
และตอนนี้เขาก็ลืมเรื่องราวทุกอย่างที่เคยเกิดขึ้นกับเจียงหยุนเอ๋อ และตอนนี้ข้างกายเขาก็มีซูซานโผล่มา หากเจียงหยุนเอ๋อรู้เรื่องนี้เข้า ไม่เจ็บปวดเจียนตายเลยเหรอ ?
ในฝั่งของเจียงหยุนเอ๋อในใจก็ยากที่จะทานทน ลี่จุนซินที่อยู่ข้างๆก็สังเกตเห็นสีหน้าอาการของเธอก็พอจะเดาได้ว่าคงเป็นเรื่องไม่ดี เธอถอนหายใจเล็กน้อย :“เจียงหยุนเอ๋อ ยังไม่มีข่าวของลี่จุนถิงใช่ไหม ? อย่าเพิ่งท้อไป ชิงโม่เป็นคนมีความสามารถ เขาต้องตามหาลี่จุนถิงเจอแน่!
“ฉันรู้ว่า ชิงโม่นั้นเป็นคนมีความสามารถ แต่ก็ผ่านมานานแล้ว เขาไม่มีวี่แววของลี่จุนถิงเลย และเรื่องของบริษัทฉันก็ดูแลจัดการมันได้แย่มาก หากเขากลับมา เห็นเรื่องวุ่นวายที่เกิดขึ้น คงจะหงุดหงิดและอารมณ์เสียอีกแน่ ? ” เจียงหยุนเอ๋อเคาะไปที่โต๊ะเบาๆ สีหน้าเต็มไปด้วยความหนักใจ
“วางใจเถอะ ฉันเชื่อว่าลี่จุนถิงจะต้องไม่เป็นอะไร ต้องมีสักวัน ที่ชิงโม่จะหาเขาเจอ เธอก็ไม่ต้องเป็นกังวลมาก ส่วนในเรื่องของบริษัท มีเราสองคนช่วยกันทำงาน จะไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นแน่นอน เธออย่าเพิ่งท้อแท้ไป ! แม้ว่าเรื่องของบริษัทจะยุ่งวุ่นวายอยู่บ้าง แต่ถ้าเราพยายามตั้งใจเราก็จะผ่านมันไปได้ !”
ลี่จุนซินเม้มปาก เอ่ยพูดไปด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
เจียงหยุนเอ๋อพยักหน้า “ที่พี่พูดมันก็มีเหตุผล ฉันจะมุ่งมั่นตั้งใจต่อไป ใช่แล้ว คุณปู่เป็นยังไงบ้างคะ ? เมื่อกี้ชิงโม่ก็ถามถึงเรื่องนี้ ฉันยังได้กำชับเขาไปว่าหากเจอตัวลี่จุนถิง อย่าเพิ่งบอกเขาเรื่องนี้ ฉันกลัวว่าเขาจะเป็นกังวล ”
“ตอนนี้อาการของคุณปู่ก็ยังไม่ดีขึ้น นอนไม่ได้สติมานานแล้ว แพทย์ก็หาวิธีที่ดีกว่านี้ไม่ได้ เรื่องนี่เธอตัดสินใจถูกแล้ว ลี่จุนถิงรักและผูกพันกับคุณปู่มาก หากเขารู้ คงจะรีบกลับมาทันทีแน่ ปิดเขาไว้ก่อนจะดีกว่า เจียงหยุนเอ๋อ เธอคิดได้รอบคอบดีมาก!” ลี่จุนซินหัวเราะเบาๆ
“ก็ไม่มีอะไรมาก ตอนนี้ฉันก็หวังแค่ให้ลี่จุนถิงกลับมาเร็วๆ ไม่อย่างนั้น ฉันเกรงว่าจะยื้อต่อไปไม่ไหว!” เจียงหยุนเอ๋อแววตาจมดิ่ง และพูดอย่างเรียบนิ่ง
……
ชิงโม่มองขึ้นไปยังวิลล่าที่อยู่เบื้องหน้า และถอนหายใจ หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่นาน เขาจึงได้ตัดสินใจว่าจะต้องลองถามความรู้สึกของลี่จุนถิงในตอนนี้ ว่าเขามีความคิดเห็นยังไง และอยากจะรู้ในใจของเขายังมีเจียงหยุนเอ๋ออยู่อีกไหม ?