ลี่จุนถิงรีบส่งเจียงหยุนเอ๋อไปที่โรงพยาบาล หลังจากที่ลี่จุนถิงจะอุ้มเจียงหยุนเอ๋อออกมา ชิงโม่ก็รีบติดต่อหลันเยว่เฉิน ให้เขารอที่ประตูโรงพยาบาล
หลันเยว่เฉินยืนตรงหน้าประตู ชิงโม่บอกกับเขาแค่ว่าคุณนายถูกโจมตี จะมีคนส่งเธอมา
ในตอนที่เขาเห็นว่าเจียงหยุนเอ๋อถูกลี่จุนถิงอุ้มลงมา ก็ยืนนิ่งอยู่กับที่ ถูกลี่จุนถิงเร่งเสียงดัง ถึงดึงสติกลับมาได้
เขาไม่ทันถามลี่จุนถิง ก็ถูกเร่งให้พาเจียงหยุนเอ๋อไปตรวจเช็กร่างกาย
หลังจากที่ตรวจเสร็จแล้ว หลันเยว่เฉินออกมา เห็นลี่จุนถิงใช้มือล้วงในกระเป๋ากางเกง แล้วพิงอยู่ข้างกำแพงห้องผู้ป่วย ที่ปรากฏซีน่าใดๆบนใบหน้า ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่
หลันเยว่เฉินเห็นลี่จุนถิงในท่าทางแบบนี้ มักรู้สึกว่าเขามีที่ไหนที่ไม่เหมือนเดิม แต่ก็พูดไม่ออก วินาทีต่อมา เขาก็รู้สึกว่ามันถูกแล้ว
“หมอ เธอเป็นยังไงบ้าง?” ลี่จุนถิงได้ยินเสียงข้างๆ ก็ยืดตัวตรง ถามด้วยใบหน้าที่รีบร้อน
ความรู้สึกดุร้ายในตัวของลี่จุนถิงทำให้หลันเยว่เฉินรู้สึกคุ้นชินมาก แต่ว่าสายตาที่ลี่จุนถิงมองเขามันแปลกมาก
หลันเยว่เฉินไม่เข้าใจเลย ถาม: “ประธานลี่ คุณยังรู้จักผมไหม?”
พอได้ยินคำนี้ ลี่จุนถิงก็ขมวดคิ้ว
หลันเยว่เฉินเห็นลี่จุนถิงทำท่าทางแบบนี้ ก็รู้แล้วว่าเขาความจำเสื่อม หลันเยว่เฉินจะรอให้ชิงโม่มาก่อน แล้วค่อยถามเขาอย่างละเอียด
ก็เลย เก็บสีหน้าที่สงสัย แล้วบอกสถานการณ์ของเจียงหยุนเอ๋อกับลี่จุนถิง “ประธานลี่ คุณไม่ต้องเป็นห่วง คุณนายก็แค่ตกใจจนเป็นลมเท่านั้น ผมได้ตรวจเช็กร่างกายให้แล้ว เด็กในท้องก็ไม่เป็นอะไร ก็แค่ได้รับความตกใจเล็กน้อย อีกเดี๋ยวคุณผู้หญิงก็คงจะตื่นแล้ว ตอนนี้คุณสามารถเข้าไปดูเธอได้แล้ว”
ลี่จุนถิงพยักหน้า แล้วก็เดินเข้าไป
ลี่จุนถิงขมวดคิ้วแล้วมองหน้าที่ขาวซีดของเจียงหยุนเอ๋อ หัวใจทั้งดวงของเขาเจ็บปวดมาก มักรู้สึกว่าสถานการณ์นี้มันคุ้นชินมาก
ลี่จุนถิงเพิ่งเข้าไปได้สักพัก ชิงโม่ก็ตามมาถึงแล้ว ลี่จุนถิงสั่งกับชิงโม่ไว้
“ชิงโม่ นายไปบอกกับพี่สาว ให้พี่สาวมาอยู่เป็นเพื่อนกับหนุนเอ๋อ”
ผ่านไปสักพัก ลี่จุนถิงรู้สึกว่าเจียงหยุนเอ๋อกำลังจะตื่น ก็มองเจียงหยุนเอ๋อด้วยสายตาที่ลึกซึ้ง แล้วก็ก้าวออกจากห้องผู้ป่วย
ลี่จุนถิงเพิ่งออกไป ลี่จุนซินก็มาถึงพอดี
“จุนถิง นี่มันเกิดอะไรขึ้น? หนุนเอ๋อเป็นยังไงบ้าง?” เพราะว่าตอนที่ลี่จุนซินมารีบร้อนเกินไป รีบจนเหงื่อเต็มหน้า
“เธอไม่ได้เป็นอะไร ก็แค่สลบไป เดี๋ยวสักพักเธอก็ตื่นแล้ว พี่ช่วยผมดูแลเธอดีๆนะ แต่ว่า อย่าบอกเธอว่าผมเป็นคนส่งเธอมา โดยรวมเกิดเรื่องอะไรขึ้น เดี๋ยวให้ชิงโม่บอกกับพี่ ผมไปก่อนล่ะ”
พอลี่จุนถิงพูดเสร็จ ก็หันไปมองในห้องผู้ป่วย แล้วก็หันหน้าเดินไปเลย
ชิงโม่ตามหลังลี่จุนถิงจากไป แต่ว่าสีหน้าที่เคร่งขรึมและแรงโมโหจากตัวของลี่จุนถิงทำให้เขาไม่กล้าเข้าไปใกล้มากนัก ก็เลยเดินห้างๆตามอยู่ข้างหลังเขาประมาณ 2 เมตร
หลังจากที่ดูลี่จุนถิงเข้าไปในลิฟต์ เขาก็กลับเข้าไปในห้องผู้ป่วย เพิ่งเข้าไป ก็เห็นว่าเจียงหยุนเอ๋อตื่นแล้ว
“พี่คะ เมื่อกี้พี่คุยกับใครข้างนอก? ใช่จุนถิงไหม? เมื่อกี้เหมือนฉันได้ยินเสียงของเขา”
เจียงหยุนเอ๋อเห็นลี่จุนซินเดินเข้ามา ก็พยายามลุกขึ้นแล้วถามอย่างใจร้อน
ลี่จุนซินเจียงหยุนเอ๋อจะลุกขึ้นมานั่ง ก็รีบเดินเข้าไปพยุงเธอ ค่อยๆพยุงตัวเธอขึ้น แล้วก็เอาหมอนรองใบหนึ่งหลังเจียงหยุนเอ๋อไว้ ให้เธอทับไว้ เพื่อให้เธอสบายใจขึ้นหน่อย
ลี่จุนซินลงบนเก้าอี้ข้างเตียง มองเจียงหยุนเอ๋อที่นั่งไว้อย่างอ่อนแอ ในใจยังคิดถึงน้องชายของเธอ ในใจของลี่จุนซินเองก็ไม่สบายใจเหมือนกัน
แต่ว่าเธอก็ไม่อยากบอกเจียงหยุนเอ๋อ ก็เลยโกหกเธอ
“ไม่ ไม่ใช่จุนถิง เมื่อกี้พี่กำลังคุยสถานการณ์ของเธอกับหมออยู่”
เจียงหยุนเอ๋อได้ยินลี่จุนซินพูดแบบนี้ ก็ผิดหวัง ใจของเธอที่เพิ่งตื่นเต้นขึ้นก็เศร้าลง แต่ว่าเธอก็พูดกับลี่จุนซินอย่างไม่ตายใจ
“แต่ว่า พี่คะ ตอนที่ฉันสลบอยู่ฉันได้ยินเสียงของจุนถิงจริงๆนะ อีกอย่างฉันรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นของเขา ฉันรู้สึกว่าเขาเคยมาแล้วจริงๆ พี่คะ พี่ลองจับมือฉันดูสิ ในมือของฉันยังมีความอบอุ่นและกลิ่นของจุนถิง ฉันคุ้นชินกับความอบอุ่นและกลิ่นอายของเขามาก ฉันจำไม่ผิดแน่นอน”
เจียงหยุนเอ๋อยิ่งพูดยิ่งตื่นเต้น ถึงขั้นร้องไห้แล้วยื่นมือไปตรงหน้าของลี่จุนซิน อยากให้เธอรู้สึกถึง
ลี่จุนซินเห็นมือที่ยื่นมาตรงหน้าของเธอ ก็จับมือไว้ จับหลังมือของเธอไว้เบาๆ
ลี่จุนซินเห็นเจียงหยุนเอ๋อแบบนี้ ก็ไม่รู้ว่าจะปลอบเธอยังไง ทำได้แค่นั่งอยู่ข้างๆเธออย่าเงียบๆ
จนโทรศัพท์ของลี่จุนซินดังขึ้น คือผู้ช่วยของเธอที่จะโทรมารายงานงานให้กับเธอ
เจียงหยุนเอ๋อก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลา แล้วหันไปพูดกับลี่จุนซิน
“พี่คะ วันนี้ดึกแล้ว พี่กลับไปก่อนเถอะ ที่นี่มีหมอและพยาบาล พี่ไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอก”
ลี่จุนซินเห็นว่าตัวเองอยู่ที่นี่ก็ช่วยอะไรไม่ได้ ก็เรียกพยาบาลเข้ามา ก็สั่งเรื่องที่ควรระวังไว้ พอเสร็จแล้ว ก็พูดกับเจียงหยุนเอ๋อ
“งั้นพี่กลับก่อนแล้วนะ เธอพักผ่อนดีๆล่ะ ไม่ต้องคิดมากแล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่ค่อยมาเยี่ยมเธอใหม่”
เจียงหยุนเอ๋อพยักหน้า ยิ้มให้ลี่จุนซินแล้วพูดกับเธอว่า: “ ได้เลยค่ะพี่ พี่ไม่ต้องเป็นห่วงฉัน ฉันก็อาจจะแค่คิดถึงจุนถิงมากเกินไป”
หลังจากที่ลี่จุนซินไปแล้ว เจียงหยุนเอ๋อก็นั่งมือ มืออีกข้างหนึ่งก็ลูบมืออีกข้างหนึ่งพี่เคยจับมือกับลี่จุนถิงไว้ยังไม่รู้ตัว
ลี่จุนถิงนั่งดูอยู่นอกห้องอยู่ตลอด ในใจของเขาก็เจ็บปวดมาก ที่แท้แล้ว ลี่จุนถิงลงไปถึงที่จอดรถของโรงพยาบาล รู้สึกว่าในใจของเขายังไม่วางใจ เลยให้ชิงโม่รอเขาอยู่ที่ข้างล่าง แล้วเขาก็ขึ้นมาดู
ลี่จุนซินเดินออกมาจากห้อง เห็นว่าลี่จุนถิงยังอยู่ที่หน้าประตู ก็ตกใจ
ก็รีบผลักลี่จุนถิงไปข้างๆแล้วหันกลับไปมองเจียงหยุนเอ๋อ
“จุนถิง นายไปแล้วไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงยังอยู่ที่ตรงนี้”
ลี่จุนถิงก็ตอบเสียงเรียบแค่คำเดียว “อืม” จากนั้นก็หันเดินไปเลย
ลี่จุนซินเห็นลี่จุนถิงเป็นแบบนี้ ในใจก็รู้เลย
ลี่จุนถิงกลับไปถึงที่จอดรถด้านล่าง ก็ลากชิงโม่ไปดื่มเหล้าพี่ร้านเหล้า
และในขณะนี้ จากเส้นสายของซูซาน ซูซานก็รู้ทุกอย่าง
ความเกลียดชังเจียงหยุนเอ๋อในใจก็เพิ่มมากขึ้น
“ตอนนี้จุนถิงความจำเสื่อม ยังใส่ใจเจียงหยุนเอ๋อขนาดนี้ แล้วถ้าความจำของเขากลับมา แล้วมันจะถึงขั้นไหนกัน ถึงเวลานั้นแล้วฉันคงจะไม่มีโอกาสสักนิด ดูท่าแล้วฉันไม่ใช่แค่ต้องจัดการแค่ทางเจียงหยุนเอ๋อ ทางฝั่งลี่จุนถิงฉันก็ต้องทำอะไรบ้างแล้ว”
ซูซานก็เลยโทรหาหมอที่อยู่เมืองนอกที่เขารู้จักและเชื่อใจได้ ให้เขาช่วยเธอจ่ายยาชนิดหนึ่งให้เธอ ที่ทำให้คนคนหนึ่งสามารถลืมเรื่องราวได้เยอะขึ้น หมอท่านนี้เป็นคนที่ชอบซูซานอยู่แล้ว ซูซานมาขอความช่วยเหลือจากเขา เขาก็ยิ่งดีใจ ก็เลยรับปากอย่างเต็มใจ
ที่ร้านเหล้า ลี่จุนถิงดื่มต่อๆไปทีละแก้ว ชิงโม่เห็นเขาเป็นแบบนี้ ก็ไม่กล้าห้ามเขา สุดท้าย ก็ทำได้แค่มองลี่จุนถิงเมา
หลังจากที่ลี่จุนถิงเมา ในสมองของเขาก็มีภาพหลายๆอย่างพุเข้ามา เหมือนเป็นภาพเมื่อก่อนที่เขาอยู่กับเจียงหยุนเอ๋อ ยิ่งทำให้สมองที่วุ้นของเขายิ่งวุ่นเข้าไปใหญ่