หลังจากจบการแข่งขัน เจียงหยุนเอ๋อกับลี่จุนถิงก็พาถวนจื่อกลับไปที่โรงแรมเพื่อทำการพักผ่อน เจียงหยุนเอ๋อพาถวนจื่อไปที่โรงพยาบาลเพื่อพาโม่เสี่ยวฮุ่ยและซูม่านลีกลับมา
“แม่คะ คืนนี้เก็บของใส่กระเป๋านะคะ เราจะกลับกันพรุ่งนี้แล้ว หลังจากที่เก็บของเสร็จแล้ว พวกคุณแม่จะได้พักผ่อนกันแต่เช้า”
หลังจากที่เจียงหยุนเอ๋อพูดจบเธอก็พาถวนจื่อกลับไปที่ห้องของตนเอง
วันรุ่งขึ้น ทุกคนก็เดินทางกลับเมืองจิ่งเฉิงพร้อมกัน แต่ลี่จุนถิงไม่ได้ตามเจียงหยุนเอ๋อกลับไปบ้าน แต่เลือกที่จะไปพักที่โรงแรม
เพราะซูซานยังอยู่ที่โรงแรม เพราะลี่จุนถิงยังได้ชื่อว่าเป็นคู่หมั้นของซูซานอยู่ แล้วอีกอย่างเขายังมีเรื่องจะถามซูซานให้ชัดเจน อีกหลายเรื่อง ดังนั้นเขาจึงต้องกลับไป
แต่ว่า ที่เขากลับไปไม่ใช่แค่จะถามซูซานเท่านั้น แต่เป็นเพราะอยู่ที่นี่เขาสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของบริษัทได้ดีกว่า
ซูซานเห็นลี่จุนถิงกลับมา จึงรีบทักทายเขา โดยแสร้งทำเป็นว่าเธอไม่รู้เรื่องอะไรเลย
“จุนถิงคะ คุณกลับมาแล้วเหรอคะ สองวันที่ผ่านมาคุณไปไหนมา ฉันเป็นห่วงคุณแทบตาย”
ลี่จุนถิงไม่ได้ตอบคำถามของซูซาน แต่เขาจ้องไปที่ซูซานด้วยแววตาว่างเปล่า ดวงตาของเขาไร้สิ้นความรู้สึก
ซูซานเห็นท่าทางแบบนี้ของลี่จุนถิง เธอเริ่มรู้สึกไม่สบายใจ แต่เธอยังคงกัดฟันยิ้มออกมาอย่างอ่อนหวาน
“จุนถิงคะ เกิดอะไรขึ้น ทำไมมองฉันแบบนี้ล่ะคะ มีอะไรติดหน้าฉันอยู่หรือเปล่า”
ซูซานก้มศีรษะลงขณะที่เธอพูด ไม่กล้ามองแววตาของลี่จุนถิง
“ซูซาน คุณโกหกผมทำไม ผมไม่ใช่คู่หมั้นของคุณเหมือนที่คุณบอก คุณทำไปเพื่ออะไร? กลุ่มที่ทำร้ายผมก่อนหน้านี้ส่งคุณมาจับตาดูผมใช่ไหม” ซูซานได้ยินลี่จุนถิงพูดคาดคั้น แววตาของเขาดุร้ายมา เธอเงยหน้าขึ้น จึงเห็นเปลวไฟในดวงตาของลี่จุนถิงที่กำลังจะปะทุออกมา หัวใจของเธอเริ่มหวาดกลัวโดยไม่รู้ตัว เมื่อเห็นว่าการโกหกของเธอถูกเปิดเผย ซูซานจึงพยายามสงบสติอารมณ์และรักษาท่าทางที่สุขุมของเธอไว้ และสารภาพกับลี่จุนถิงตรงๆ “ตอนที่ฉันช่วยชีวิตคุณครั้งแรก ฉันไม่รู้จักคุณจริงๆ ฉันเพิ่งรู้ว่าคุณคือลี่จุนถิง เป็นคนหวากั๋วหลังจากที่เห็นบัตรประจำตัวของคุณ ถึงแม้ว่าฉันจะไม่รู้จักคุณ แต่ตั้งแต่ฉันเห็นคุณครั้งแรก ฉันก็รู้ในทันทีเลยว่าหัวใจของฉันตกเป็นของคุณไปแล้ว ฉันก็ตกหลุมรักคุณตั้งแต่แรกเห็นจริงๆนะคะ”
“หลังจากที่คุณตื่นขึ้นมา ฉันถึงได้รู้ว่าคุณความจำเสื่อม ฉันไม่อยากให้คุณจากฉันไป ฉันต้องการให้คุณอยู่เคียงข้างฉัน ฉันก็เลยต้องใช้วิธีโกหกหลอกลวงเพื่อรั้งคุณไว้”
ขณะที่ซูซานกำลังพูดอยู่ จู่ๆในใจก็เกิดความน้อยอกน้อยใจขึ้นมา น้ำตาของเธอไหลออกมา ซูซานใช้มือเช็ดมันออกเบา ๆ แล้วพูดต่อ
“ฉันชอบคุณ ฉันแค่อยากให้คุณอยู่เคียงข้างฉัน ฉันตามคุณมาที่หวากั๋วฉันแค่อยากอยู่เคียงข้างคุณ ฉันทำผิดปเหรอคะ การที่ฉันชอบคุณมันเป็นเรื่องที่ควบคุมไม่ได้นี่คะ”
เมื่อเห็นท่าทางเสียอกเสียใจของซูซาน ลี่จุนถิงรีบปรับแววตาดุดันในดวงตาของเขาลง แล้วยื่นกระดาษทิชชูให้เธอ ให้เธอเช็ดน้ำตาซะ
แม้ว่าลี่จุนถิงจะไม่เห็นด้วยกับการกระทำของซูซาน แต่เขาก็เข้าใจในสิ่งที่เธอทำ
“ผมเลือกที่จะให้อภัยคุณ แต่ผมหวังว่าต่อไปคุณจะไม่ทำแบบนี้อีก ผมยังมีงานและความรับผิดชอบของตัวเอง ยังมีคนที่ผมต้องปกป้อง”
ลี่จุนถิงนึกถึงเจียงหยุนเอ๋อขึ้นมา แววตาของเขาจึงเริ่มอ่อนโยน
ซูซานกัดฟันกรอดตอนที่เห็นสีหน้าแบบนี้ของลี่จุนถิง เธอยิ่งรู้สึกอิจฉาเจียงหยุนเอ๋อมากขึ้นไปอีก
“โอเคค่ะ หมายความว่า ตอนนี้คุณจะกลับไปแล้วใช่ไหมคะ”
“ไม่ครับ ผมจะยังไม่กลับไปในตอนนี้ แต่ว่า ความสัมพันธ์จอมปลอมของเราคงต้องจบลงได้แล้ว ดังนั้น ผมต้องขอโทษด้วย ที่ผมทำให้คุณผิดหวัง”
ซูซานเสแสร้งทำเป็นยิ้มเศร้า แต่ในใจของเธอตอนนี้กำลังอิจฉาจนแทบจะบ้าตาย
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเข้าใจ ฉันก็ขอแสดงความยินดีกับคุณและภรรยาของคุณด้วย แต่ว่า โปรดอย่าขับไล่ฉันไป ฉันรู้ว่าตอนนี้คุณอยากกลับไปบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ปมาก แต่สถานการณ์ในตอนนี้ของบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ปนั้นซับซ้อนมาก มันยากมากที่คุณจะกลับไปได้ แต่ฉันช่วยคุณได้ คุณก็รู้ถึงความยิ่งใหญ่ของตระกูลฉัน ดังนั้น ตอนนี้มีเพียงฉันเท่านั้นที่ช่วยคุณได้ “
“ซูซาน คุณไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้ก็ได้”
แต่ซูซานยืนกรานที่จะทำเช่นนี้ ดังนั้นลี่จุนถิงจึงไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องยอมรับความช่วยเหลือ
“ในเมื่อคุณยืนกรานที่จะทำเช่นนี้ ผมหวังว่าเราจะเป็นหุ้นส่วนที่ดีต่อกันได้”
ซูซานได้ยินมาลี่จุนถิงบอกว่าเธอเป็นแค่หุ้นส่วนทางธุรกิจ ไม่ใช่แม้แต่เพื่อน ทำให้เธอยิ่งไม่ชอบใจ
ทางด้านเจียงหยุนเอ๋อที่กลับมาแล้ว เพราะเธอรู้ว่าลี่จุนถิงกลับมาอยู่เคียงข้างเธอแล้ว เธอจึงรู้สึกผ่อนคลายอย่างอธิบายไม่ถูก และความรู้สึกปลอดภัยที่หายไปก่อนหน้านี้ก็กลับมาแล้วด้วย
ลี่จุนซินรู้ว่าเจียงหยุนเอ๋อกลับมาแล้ว จึงรีบเดินทางไปที่บ้านของเจียงหยุนเอ๋อหลังจากเลิกงานทันที
“หยุนเอ๋อ ลำบากเธอแล้ว แต่โชคดีที่เธอไม่เป็นอะไร”
“พี่คะ วางใจได้ค่ะ จุนถิงเขาคอยปกป้องฉันมาตลอด”
ตอนที่ลี่จุนซินได้ยินเจียงหยุนเอ๋อพูดถึงชื่อของลี่จุนถิง เธอนิ่งอึ้ง ก่อนที่จะถามออกไป
“เธอ… เจอจุนถิงแล้วเหรอ เธอรู้เรื่องที่เขาความจำเสื่อมแล้ว”
“ค่ะพี่ หลังจากที่ฉันเห็นจุนถิง จุนถิงก็เล่าทุกอย่างให้ฉันฟังแล้ว”
“แล้วเธอ… โอเคไหม”
“ฉันไม่เป็นไรค่ะพี่ แค่จุนถิงปลอดภัยกลับมา ก็ถือว่าโชคดีมากแล้ว”
“งั้นก็ดีแล้ว เธอไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว เมื่อตะกี้พี่ยังกังวลว่าเธอรู้เรื่องที่เขาความจำเสื่อมจะเสียใจซะอีก คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะเข้มแข็งขนาดนี้ แค่นี้พี่ก็โล่งใจแล้ว”
ลี่จุนซินลูบหน้าอกของเธอ แล้วพูดกับเจียงหยุนเอ๋อด้วยความจริงใจ พอเห็นพี่สาวเป็นห่วงเธอมากถึงขนาดนี้ ภายในใจของเจียงหยุนเอ๋อรู้สึกอบอุ่นมาก
หลังจากที่ลี่หยูนห่วนและลี่หุยได้รับข่าวว่าเจียงหยุนเอ๋อกลับมาที่เมืองจิ่งเฉิงอย่างปลอดภัยแล้ว พวกเขาถึงได้รู้ว่าเอกสารโอนหุ้นถูกแย่งกลับไปอีกครั้ง
ตอนที่พวกเขาได้รับข่าว พวกเขายังอยู่ในห้องทำงานของลี่หุยกับกำลังดีใจที่พวกเขากำลังจะได้หุ้นส่วนบริษัทมาครอบครอง พอพวกเขาได้ยินข่าวนี้ ใบหน้าของลี่หยูนห่วนและลี่หุยก็นิ่งขรึมและกลายเป็นเขียวคล้ำ
ลี่หุยโกรธมากจนปัดทุกอย่างบนโต๊ะตรงหน้าเขา แล้วตะโกนลั่น
“ลี่จุนถิง ไอ้สารเลวนั่น ตายแล้วยังสร้างปัญหาไว้อีก เขายังจัดคนคุ้มกันที่ยุ่งยากมาปกป้องเจียงหยุนเอ๋ออีก คนคนนี้จะออกมาตอนไหนไม่ออก ทำไมต้องออกมาในเวลานี้ด้วย บ้าจริงๆเลย”
“ถ้าเราอยากจะทำอะไรกับเจียงหยุนเอ๋อในอนาคต คงจะยากมากขึ้นอีก” ลี่หยูนห่วนก้มศีรษะลงจนไม่เห็นอารมณ์สีหน้าของเขา
ลี่หุยส่งเสียง “หึ” ออกมาอย่างเย็นชา ความโมโหที่เกิดขึ้นทำให้ใบหน้าบิดเบี้ยวของเขาน่ากลัวยิ่งขึ้นไปอีก
“ไม่จำเป็น ตอนนี้เราต้องดำเนินการตามแผนที่เราสำรองไว้ โชคดีที่ฉันมองการณ์ไกลและคิดแผนนี้ล่วงหน้าไว้ก่อน”
ลี่หยูนห่วนเงยหน้าขึ้น แล้วเหลือบมองเขา “ไหนว่ามา ว่านายจะทำยังไงต่อไป”
“ต่อจากนี้ เราก็แค่ติดต่อผู้ถือหุ้นรายอื่นๆ เพื่อเกลี้ยกล่อมให้ขายหุ้นของพวกเขาให้เรา ผมเชื่อว่าพี่น่าจะจัดการเรื่องแบบนี้ได้อย่างง่ายดายจริงไหมครับ”