ลี่จุนซินและเจียงหยุนเอ๋อรอลี่จุนซินและชิงโม่อยู่หน้าประตูลิฟต์
เมื่อประตูลิฟต์เปิดออก ลี่จุนซินเดินออกมา เจียงหยุนเอ๋อก็เดินเข้าไปหาทันที เธอจับมือของลี่จุนซินแล้วเอ่ยถาม :
“พี่คะ เป็นยังไงบ้างคะ? ไม่บาดเจ็บตรงไหนใช่ไหมคะ ไอวาเทอร์นั่นไม่ได้ทำอะไรพี่ใช่ไหม?”
เจียงหยุนเอ๋อเดินเข้าไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ลี่จุนถิงที่อยู่ด้านหลังรั้งเธอไว้ไม่ทัน
ลี่จุนซินเห็นเจียงหยุนเอ๋อห่วงใยตัวเองขนาดนี้ ก็รู้สึกอบอุ่นใจ แล้วตบมือเจียงหยุนเอ๋อเบา ๆ พูดปลอบด้วยเสียงอ่อนโยนว่า :
“พี่ไม่เป็นไร เธอวางใจเถอะ ที่นี่คนพลุกพล่าน พวกเราไปพูดบนรถดีกว่า”
“ค่ะ”
เจียงหยุนเอ๋อเดินจูงลี่จุนซินไปด้านหน้า ลี่จุนถิงและชิงโม่เดินตามอยู่ด้านหลัง
ลี่จุนถิงเห็นทั้งสองคนสนิทกันขนาดนี้ ก็รู้สึกดีใจและหึงหวงด้วย ชิงโม่เห็นลี่จุนถิงเปลี่ยนอารมณ์ไวจนเดาไม่ถูก เลยแอบหัวเราะ
ลี่หยูนห่วนและลี่หุยก็อยู่ที่คลับแห่งนี้ด้วยเช่นกัน คืนนี้ที่วาเทอร์อยู่ที่นี่ก็เป็นเพราะพวกเขาจัดการให้ ดังนั้นเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ ลี่หยูนห่วนและลี่หุยต่างก็รู้ดีอยู่แล้ว
ตอนที่พวกเขาเห็นวาเทอร์ไปตามจับลี่จุนซิน ก็หัวเราะเยาะเย้ยลี่จุนซิน แล้วดื่มเหล้าจนเมามาย ตอนที่พวกเขากลับไป ก็คิดว่าวาเทอร์น่าจะลงมือจัดการลี่จุนซินไปแล้ว เลยไม่ได้โทรศัพท์ไปหาวาเทอร์อีก กลัวจะทำให้วาเทอร์เสียเรื่อง
ดังนั้น พวกเขาจึงไม่รู้ว่าลี่จุนถิงปรากฏตัวแล้ว
หลังจากมาถึงที่จอดรถ ลี่จุนถิงก็ให้ชิงโม่พาลี่จุนซินไปส่งที่บ้าน
เมื่อได้ยินลี่จุนถิงพูด เจียงหยุนเอ๋อก็ทำปากมุ่ยอย่างไม่พอใจ แล้วพูดว่า :
“พวกเราไปส่งพี่ที่บ้านเถอะ เมื่อกี้พี่เพิ่งช่วยฉันนะ จนทำให้ตัวเองตกอยู่ในอันตราย ฉันยังไม่ได้ขอบคุณพี่เลย”
“ถ้าเธอต้องการขอบคุณพี่ พรุ่งนี้เจอกันที่บริษัทก็ได้ วันนี้ดึกมากแล้ว เธอควรพักผ่อนได้แล้วนะ”
“จริงด้วย ดึกมากแล้ว ถ้าเธออยากขอบคุณฉัน พวกเราสองคนยังมีเวลาอีกเยอะ อีกอย่าง มีชิงโม่ไปส่ง เธอไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอกนะ”
“ก็ได้ค่ะ งั้นพี่ถึงบ้านแล้วอย่าลืมบอกฉันสักคำนะคะ”
พูดจบ เจียงหยุนเอ๋อก็ถูกลี่จุนถิงโอบขึ้นรถ แล้วกลับบ้าน
เพิ่งเข้ามาในบ้าน เมื่อนั่งลงที่โซฟาแล้ว เจียงหยุนเอ๋อก็โทรศัพท์ไปหาลี่จุนซินทันที
“ฮัลโหล! พี่คะ ถึงบ้านหรือยัง?”
“เพิ่งเข้ามานอนในห้องเนี่ย เธอนี่ตามจิกจังเลยนะ ฉันขอเอนหลังสักหน่อยนะ คืนนี้เหนื่อยมากเลย”
“พี่คะ วันนี้หลังจากที่พี่เข้าไปในลิฟต์แล้วเกิดอะไรขึ้นคะ? วาเทอร์มันไม่ได้จับพี่ทำอะไรใช่ไหม”
“เปล่า ฉันขึ้นลิฟต์ไปชั้นบนสุด วิ่งไปวิ่งมาอยู่บนนั้น สุดท้ายเจอทางตัน เลยวิ่งเข้าไปแอบในห้องที่อยู่ใกล้ที่สุด”
“อ้อ พี่ไม่เป็นไรก็ดีแล้วค่ะ”
“จริงสิ ห้องที่ฉันเข้าไปแอบน่ะ เจ้าของห้องเป็นเพื่อนร่วมงานของวาเทอร์ด้วย ฉันเล่าให้คนนั้นฟังหมดแล้วว่าวาเทอร์มันเลวทรามแค่ไหน ฉันยังบอกให้เขาไปบอกเจ้านายอีกด้วย ว่าให้จัดการวาเทอร์สักหน่อย”
“ว้าว……เหลือเชื่อเลย”
“หยุนเอ๋อ เธอควรล้างหน้าแปรงฟันเข้านอนได้แล้วนะ พรุ่งนี้ค่อยคุยกับพี่ที่บริษัทก็ได้ พี่น่าจะเหนื่อยแล้ว”
ลี่จุนถิงคอยพูดเร่งอยู่ข้าง ๆ
“อืม งั้นพี่พักผ่อนนะคะ ฝันดีค่ะ”
เมื่อกลับเข้าห้องนอน เจียงหยุนเอ๋อล้างหน้าแปรงฟันเสร็จก็ขึ้นไปนอนบนเตียงแล้วคุยเรื่องวาเทอร์กับลี่จุนถิง
“วาเทอร์นี่นิสัยแย่มากเกินไปแล้ว ถึงขนาดกล้าทำเรื่องแบบนี้ คนแบบนี้ไม่ควรเข้าใกล้อีกต่อไป ไม่รู้ว่าหัวหน้าระดับสูงของวาเทอร์คนนั้นเมื่อไหร่จะมาถึง”
เจียงหยุนเอ๋อดึงใยที่อยู่บนผ้าห่ม พลางพูดกับลี่จุนถิง
“ข้อมูลที่ชิงโม่ได้รับมา ดูเหมือนว่าคนคนนั้นมาถึงแล้ว แต่ตอนนี้พักอยู่ที่ไหน ยังไม่รู้แน่ชัด”
“อีกอย่างคนคนนี้ปกติไม่ค่อยออกหน้า ลึกลับมาก ที่บริษัทใหญ่ของพวกเขาก็ไม่ค่อยมีใครได้เจอหน้าเขา วาเทอร์รู้จักเขา ก็เพราะโครงการนี้นี่แหละ แต่ไม่ว่าจะยากแค่ไหน พวกเราจะพยายามหาข้อมูลมาให้ได้”
ลี่จุนถิงพูดจบ ก็ก้มหน้ามองเจียงหยุนเอ๋อที่นอนซบอกตัวเองอยู่ เห็นริมฝีปากแดงระเรื่อของเจียงหยุนเอ๋อ ก็รู้สึกอยากจูบขึ้นมา เลยก้มหน้าลงไปจูบเธอ
เจียงหยุนเอ๋อที่กำลังตั้งใจฟังลี่จุนถิงพูด จู่ ๆ ถูกริมฝีปากเย็นเฉียบจูบเข้ามา ก็ทำเอาเธอขนลุกทันที
เจียงหยุนเอ๋อเห็นลี่จุนถิงจูบเธออย่างเร่าร้อน ก็อดไม่ได้ที่จะโน้มคอของเขาลงมา แล้วเลียนแบบเขาจูบเขากลับไป
เดิมทีลี่จุนถิงเพียงแค่อยากจูบเธอเบา ๆ สักหน่อยเท่านั้น แต่เจียงหยุนเอ๋อกลับจูบเขาตอบ
ลี่จุนถิงก็เกร็งแขน ใช้มือโอบท้ายทอยของเจียงหยุนเอ๋อ แล้วตวัดลิ้นเข้าพัวพันกับลิ้นของเจียงหยุนเอ๋ออย่างเร่าร้อน ราวกับจะให้เจียงหยุนเอ๋อหลอมละลายเข้ามาในตัวของเขา
วันรุ่งขึ้น ที่โรงแรม วาเทอร์ได้มารายงานเรื่องงานกับเวียร์อย่างตรงเวลา เมื่อวาน หลังจากที่เขากลับไป ก็ได้รวบรวมข้อมูลของบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ปและข้อมูลตัวเลขด้านการประเมินคุณภาพของบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ปตลอดทั้งคืน
ตอนที่วาเทอร์มาถึง เวียร์ได้ทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว
“คุณเวียร์ครับ หลายวันมานี้ ผมได้ใกล้ชิดกับบริษัทชั้นนำมากมาย เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว บริษัทลี่ซื่อกรุ๊ปเหมาะสมที่จะร่วมมือด้วยมากที่สุดครับ”
วาเทอร์เอาข้อมูลทั้งหมดที่ได้รวบรวมเมื่อคืนยื่นให้เวียร์ทั้งสองมือ
เวียร์พยักหน้า แล้วแสดงท่าทีให้วาเทอร์พูดต่อไป
“บริษัทลี่ซื่อกรุ๊ปมีโรงงานผลิตที่ดีที่สุดในประเทศจีน มีนักวิจัยที่ยอดเยี่ยมที่สุด รวมถึงมีส่วนแบ่งทางการตลาดที่ใหญ่สุดด้วยครับ อีกทั้งความสามารถของบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ปนั้น ทำให้ได้รับการสนับสนุนและได้รับบริการพิเศษจากรัฐบาลมากกว่าบริษัทอื่นอีกด้วยครับ”
เวียร์ฟังการประเมินของวาเทอร์จนจบ ก็รู้สึกเป็นอย่างที่พูดจริง ๆ เลยพยักหน้า แล้วเอ่ยพูด :
“ที่นายพูดมานั้นถูกต้องหมด ถึงแม้บริษัทลี่ซื่อกรุ๊ปในตอนนี้จะไม่เหมือนเมื่อก่อน แต่ก็ยังมีข้อดีอีกมาก ตอนนี้ก็มีข้อได้เปรียบมากกว่าบริษัทอื่น ๆ นายไปหาเวลามานะ นัดคนของบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ปให้หน่อย เพื่อเจรจาเรื่องความร่วมมือกัน”
“คุณเวียร์ครับ ก่อนที่คุณจะมา ผมได้เจรจาหารือเรื่องความร่วมมือกับคนของบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ปแล้วครับ ถือว่าความร่วมมือสำเร็จไปขั้นหนึ่งแล้ว ตอนนี้เหลือแค่เซ็นสัญญาครับ”
“แบบนี้นี่เอง งั้นนายนัดคนของบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ปมาทานข้าวแล้วกัน ฉันจะคุยกับพวกเขาอย่างละเอียดสักหน่อย”
“ได้ครับ ผมจะจัดการให้”
“อ้อ จริงด้วย นายอย่าคิดนะว่านายเจรจาเรื่องความร่วมมือเรียบร้อยแล้ว ฉันจะไม่เอาความเรื่องผู้หญิงคนนั้นเมื่อคืนนี้”
เวียร์ยกกาแฟขึ้นมา แล้วก้มลงไปจิบ จากนั้นก็เงยหน้าชำเลืองมองวาเทอร์
วาเทอร์คิดไม่ถึงว่าเวียร์จะพูดถึงเรื่องเมื่อคืนขึ้นมาอีก ก็เลยหน้าเครียดขึ้นมาทันที
ตอนเที่ยง วาเทอร์นัดลี่หยูนห่วนและลี่หุยออกมา แล้วบอกพวกเขาว่าเจ้านายของตัวเองต้องการพบพวกเขาในค่ำวันนี้
ลี่หุยและลี่หยูนห่วนรู้สึกประหลาดใจมาก
“เจ้านายของคุณ? คุณไม่ใช่หัวหน้าคณะสำรวจหรอกเหรอครับ?”
วาเทอร์ปฏิเสธ แล้วพูดกับพวกเขาว่า :
“ฉันไม่เคยพูดอย่างนี้นะ พวกนายพูดกันไปเองต่างหาก”
ลี่หยูนห่วนและลี่หุยได้ยินประโยคนี้ ก็รู้สึกโมโหเป็นอย่างมาก
คืนนั้น ทั้งสี่คนได้นัดทานอาหารกันในร้านอาหารแห่งหนึ่ง ประจวบเหมาะพอดี ลี่จุนซินก็นัดเพื่อนสนิทมาทานข้าวที่ร้านอาหารแห่งนี้ด้วยเช่นกัน
ระหว่างนั้น ลี่จุนซินที่ใกล้จะทานเสร็จแล้ว ก็ได้บอกเพื่อนว่าจะไปเติมเครื่องสำอางที่ห้องน้ำสักหน่อย
หลังจากที่ลี่จุนซินเติมเครื่องสำอางเสร็จแล้วเดินออกมา ก็เจอกับเวียร์ที่เพิ่งออกมาจากห้องน้ำพอดี