ลี่จุนซินตั้งสติได้ ก็รีบผละออกจากอ้อมกอดของเวียร์ แต่เพราะผู้คนมากมาย เมื่อผละออกไปแล้วก็ถูกเบียดกลับเข้ามาอีกครั้ง ทำให้ลี่จุนซินอายจนหน้าแดงไปหมด
เพื่อคลายสถานการณ์น่าอึดอัดนี้ ลี่จุนซินจึงหัวเราะแห้ง ๆ ออกมา แล้วใช้มือพัดหน้าของตัวเองไปมา
“คนเยอะไปหน่อย เลยค่อนข้างร้อนนะคะ แหะ ๆ”
เวียร์เห็นท่าทางที่น่ารักแบบนี้ของเธอ และเพื่อไม่ให้เธอรู้สึกอึดอัด เลยพูดเออออตามเธอไป : “จริงครับ ค่อนข้างร้อน”
“งั้นพวกเราไปหาร้านอาหารกันดีกว่าค่ะ ทานอะไรง่าย ๆ สักหน่อย ตอนบ่ายยังมีที่ที่ต้องไปอีก”
“ครับ”
เวียร์พยักหน้า แล้วจูงมือลี่จุนซินเดินไปที่รถ ขณะเดินก็ได้หันมาพูดกับลี่จุนซินว่า :
“จับแน่นหน่อยนะครับ เดี๋ยวจะพลัดหลงกันอีก”
ลี่จุนซินมองสองมือของตัวเองและเวียร์ที่จับกันแน่น ก็รู้สึกหวานซึ้งตรึงใจมาก
หลังจากที่ทั้งคู่ออกมาแล้ว ก็หาร้านอาหารเงียบ ๆ ที่อยู่บริเวณใกล้เคียงทานข้าวกัน
เพราะช่วงสายทั้งคู่หวานซึ้งกันมากเกินไป ดังนั้นตอนทานมื้อเที่ยงทั้งคู่จึงเงียบกันมาก
หลังจากทานข้าวเสร็จ ทั้งสองคนก็รีบไปยังสถานที่ที่ต้องไปในช่วงบ่าย
สถานที่ที่พวกเขาต้องการไปในช่วงบ่ายก็คือพระราชวังโบราณของประเทศจีน ซึ่งเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าพระราชวังต้องห้ามของเมืองต้องห้าม พระราชวังต้องห้ามตั้งอยู่ในเส้นแกนกลางใจกลางเมืองจิ่งเฉิง เป็นสิ่งก่อสร้างที่สำคัญที่สุดของพระราชโบราณในประเทศจีน เป็นกลุ่มอาคารสถาปัตยกรรมโครงสร้างไม้แห่งหนึ่งที่ใหญ่ที่สุดและยังคงความสมบูรณ์แบบมากที่สุดในโลก
เพราะพระราชวังต้องห้ามนั้นใหญ่มาก ดังนั้นพวกเขาจึงได้แค่เดินชมตำหนักสำคัญ ๆ อย่างผ่าน ๆ เพียงไม่กี่แห่งเท่านั้น
ตอนค่ำเวียร์ยังมีงานต้องทำ ดังนั้นทั้งสองคนจึงไม่ได้ทานข้าวด้วยกัน
เวียร์พาลี่จุนซินไปส่งที่บ้าน ช่วยเธอเปิดประตูรถ คอยพยุงเธอลงจากรถอย่างสุภาพบุรุษมาก
“น่าเสียดายจังเลยครับที่ไม่ได้ทานมื้อค่ำกับคุณ ไว้คราวหน้า ผมจะลงมือทำให้คุณทานเอง”
เวียร์ยิ้มแล้วกะพริบตาให้ลี่จุนซิน ท่าทางทะเล้นมาก
ลี่จุนซินเห็นเวียร์น่ารักอย่างนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา
“เมืองจิ่งเฉิงยังมีสถานที่ที่น่าสนใจอีกมากมาย ไว้คราวหน้ามีโอกาสฉันจะพาคุณไปอีกนะคะ”
“ครับ คำไหนคำนั้นนะครับ”
เวียร์มองลี่จุนซินเดินเข้าบ้านไปแล้ว ก็กลับไปยังโรงแรม
หลังจากที่เวียร์กลับมาถึงโรงแรม ก็จัดแจงตัวเองสักครู่ แล้วทานอาหาร จากนั้นวาเทอร์ก็มาหา
เมื่อวาเทอร์มาถึง เวียร์ก็เอาแผนงานฉบับนั้นที่ลี่จุนถิงให้เขามาก่อนหน้านี้ยื่นให้วาเทอร์
“นี่คือแผนงานที่ลี่จุนซินให้ฉันมาก่อนหน้านี้ นายดูสักหน่อย”
หลังจากที่เวียร์เอาเอกสารยื่นให้วาเทอร์ ตัวเองก็ลงมือทานอาหารที่ทานเมื่อครู่นี้ต่อ
“ลี่จุนซิน? คุณ……พบเธอแล้วเหรอครับ?”
วาเทอร์ได้ยินชื่อลี่จุนซิน สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที แล้วเอ่ยถามอย่างระมัดระวัง
เวียร์เงยหน้ามองวาเทอร์แวบหนึ่ง
วาเทอร์รีบหุบปาก แล้วก้มหน้าอ่านแผนงานที่อยู่ในมือของตัวเอง
หลังจากที่เวียร์ทานข้าวเสร็จ วาเทอร์ก็อ่านแผนงานจบพอดี
“นายดูแผนงานทั้งสองฝ่ายของบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ปแล้ว คิดว่าอันไหนเหมาะกับพวกเรามากกว่า?”
เวียร์ประสานมือทั้งสองไว้ด้วยกัน แล้ววางค้ำไว้ใต้คางประคองหน้าตัวเองเอาไว้ สายตาคู่นั้นจับจ้องไปที่วาเทอร์อย่างนิ่งสงบ
วาเทอร์เห็นว่าโอกาสมาถึงแล้ว ก็ได้หยิบเอาแผนงานที่ก่อนหน้านี้อลันให้เขามาออกมา แล้วพูดว่า :
“แผนงานของบริษัทนี้ผมอ่านดูแล้วครับ คิดว่าไม่เลวเหมือนกัน ไม่ด้อยไปกว่าบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ปเลยสักนิด คุณอ่านดูสักหน่อยนะครับ”
หลังจากเวียร์รับมา ก็ยิ้มให้วาเทอร์ด้วยรอยยิ้มที่ยากจะคาดเดา จากนั้นก็ก้มหน้าเปิดอ่านดูสองสามแผ่น
“วาเทอร์ ก่อนหน้านี้นายชื่นชมแผนงานของพวกลี่หยูนห่วนมากเลยไม่ใช่เหรอ พยายามเสนอพวกเขาให้กับฉัน เพิ่งผ่านไปได้ไม่กี่วันทำไมถึงได้เปลี่ยนไปบริษัทอื่นแล้วล่ะ”
เวียร์จงใจทำให้วาเทอร์ลำบากใจ เพราะหลังจากที่เขาเห็นวาเทอร์หยิบเอกสารออกมา ก็สงสัยทันทีว่าวาเทอร์กำลังแอบวางแผนอะไรอีกแน่นอน
“ถึงแม้บริษัทลี่ซื่อกรุ๊ปจะเก่งมาก แต่ผมคิดว่าบริษัทก็ไม่ได้แย่ไปกว่าบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ป เลยลองดูอีกหลาย ๆ บริษัท จากนั้นก็เลือกบริษัทนี้ออกมา ยังไงพวกเราก็ควรให้โอกาสบริษัทอื่นหน่อยนะครับ”
วาเทอร์ไม่มีทางพูดความจริงออกมาอยู่แล้ว เลยหาข้ออ้างกลบเกลื่อนเวียร์
“แล้วนายคิดว่าแผนงานของลี่จุนซินที่เพิ่งดูไปเมื่อกี้นี้ เป็นยังไงบ้าง?”
“ผมคิดว่าก็ไม่เลวนะครับ ครอบคลุมและสอดคล้องกับโครงการของพวกเรามาก แต่ผมรู้สึกว่าแผนงานที่ผมหยิบออกมาก็ไม่เลวเหมือนกัน คุณลองอ่านอย่างละเอียดดูหน่อยนะครับ”
เวียร์เห็นวาเทอร์พยายามเสนอแผนงานนี้อย่างมาก ก็ยิ่งมั่นใจว่าต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่นอน
“เอาเถอะ ฉันรู้แล้ว ฉันจะอ่านดูอย่างละเอียด นายกลับไปได้แล้ว”
เวียร์หุบยิ้ม แล้วไล่วาเทอร์กลับไปด้วยน้ำเสียงเย็นชา
วาเทอร์เห็นเวียร์ไม่ได้หว่านล้อมได้ง่าย ๆ แถมยังไล่เขากลับไปอย่างไม่ไว้หน้าอีกด้วย จึงได้แต่กลับไปด้วยความโกรธแค้น
หลังจากที่วาเทอร์เดินออกมาจากห้อง ก็หันกลับไปมองด้วยความเคียดแค้นแวบหนึ่ง สายตาดูบึ้งตึง รู้สึกไม่พอใจมาก
ทั้ง ๆ ที่เข้าทำงานในบริษัทพร้อมกันทั้งสองคน แต่เวียร์ถือว่าตัวเองเป็นญาติห่าง ๆ กับประธานบริษัท เลยกดขี่เขาทุกด้าน ไอพวกเลือกปฏิบัติในบริษัทก็เอาแต่คอยประจบสอพลอเขา เลยยิ่งทำให้วาเทอร์คับแค้นใจมากขึ้นไปอีก
อีกอย่าง เป็นเพราะเวียร์มีเส้นสายของครอบครัวเลยทำให้เลื่อนตำแหน่งได้เร็วกว่าวาเทอร์ มีฐานะสูงกว่าวาเทอร์ วาเทอร์จึงรู้สึกว่าตัวเองเหมือนถูกมองข้าม
ดังนั้น วาเทอร์จึงแอบคิดไว้ว่า ถ้ามีโอกาส จะต้องทำลายเวียร์ให้ได้
วันถัดมา ลี่จุนถิงเอาแผนงานที่แก้ไขเรียบร้อยแล้วมาให้เวียร์ แต่ครั้งนี้เขาไม่ได้ปลอมตัวแล้ว
ดังนั้น ตอนที่เวียร์เปิดประตูมาเห็นเขาไม่ใช่ผู้จัดการหลี่ที่เคยมาเจรจากับตัวเองก่อนหน้านี้ ก็ประหลาดใจมาก
“สวัสดีครับ ไม่ทราบว่าคุณเป็นใครครับ?”
“สวัสดีครับ คุณเวียร์ ผมคือลี่จุนถิงครับ”
เวียร์ได้ยินชื่อของเขา ก็รีบเชิญเขาเข้ามาด้านในทันที แต่รู้สึกว่าเสียงเขาฟังดูคุ้น ๆ เหมือนเสียงผู้จัดการคนนั้นเลย
ลี่จุนถิงเห็นท่าทางสงสัยของเวียร์ ก็ยิ้มให้เวียร์แล้วพูดว่า :
“คุณเวียร์ครับ ผมคือหลี่อิ่นเองครับ”
ทันใดนั้นเวียร์ก็ยิ่งสับสนมึนงงมากขึ้นไปอีก “คุณคือหลี่อิ่น?”
“คุณเวียร์ครับ คุณน่าจะเคยได้ยินข่าวเรื่องที่ผมหายตัวไปแล้วใช่ไหมครับ ที่จริงผมได้กลับมานานแล้วครับ แต่เพราะต้องการสืบหาตัวการที่ก่อเรื่องในบริษัท จึงจำเป็นต้องแอบซ่อนตัวเอง”
“สำหรับการปลอมตัวมาพบคุณคราวก่อน ต้องขอโทษคุณด้วยจริง ๆ นะครับที่หลอกคุณ แต่ไม่มีทางเลือกจริง ๆ”
ตอนนี้ เวียร์ถึงเข้าใจทุกอย่างขึ้นมา และเข้าใจในสิ่งที่ลี่จุนถิงทำ
หลังจากที่ลี่จุนถิงอธิบายให้เวียร์ฟังแล้ว ก็เอาแผนงานที่แก้ไขเรียบร้อยแล้วมาให้เวียร์ดู
หลังจากที่เวียร์ได้อ่านแผนงานฉบับนี้ ก็ชื่นชมยกย่องในความสามารถของลี่จุนถิงมาก แผนงานสมบูรณ์แบบมาก จนทำให้เวียร์ไม่สามารถปฏิเสธได้เลย
“จุนถิง พูดตามตรงนะครับ ความสามารถของคุณและแผนงานของคุณทำให้ผมพอใจมาก แต่ว่า ผมรู้สึกกังวลมาก เพราะสถานการณ์ของบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ปในตอนนี้อาจส่งผลกระทบต่อความร่วมมือของพวกเราต่อจากนี้”
“คุณเวียร์ครับ วางใจเถอะครับ บริษัทลี่ซื่อกรุ๊ปมีผมอยู่ ไม่มีทางเกิดเรื่องอะไรขึ้นอย่างแน่นอน”
ลี่จุนถิงรับปากกับเวียร์ด้วยความมั่นใจมาก
“ครับ คุณรับปากแล้ว ผมก็วางใจ ผมเชื่อมั่นคุณขนาดนี้ คุณอย่าทำให้ผมผิดหวังนะครับ”
“แน่นอนครับ”
เมื่อทั้งสองคนตัดสินใจกันได้แล้ว ก็ได้ตกลงเซ็นสัญญากัน