TB:บทที่ 279 หว่านล้อมฟางเจ่อเจี่ย
“เฉินหลง ทำไมเราไม่กลับบ้านไปเลยละ” ฟางเจ่อเจี่ยนั่งบนโซฟาในห้องสวีทและกล่าวกับเฉินหลง
“เที่ยวเล่นสักสองวันแล้วดูว่าโคลแมนจะทำอย่างไร” เฉินหลงเจตนาไม่ยิ้ม “คุณเป็นนักวิจัยมาหลายปี คุณไม่อยากจะไปสนุกบ้างหรือ”
ไม่มีอะไรเป็นภัยต่อประเทศเราได้ และอย่างไรเสียนี่ก็ใกล้เมืองแห่งการพนันมาก
ไปเล่นกันสักสองวันแล้วค่อยกลับเถอะ
“ฉันไม่อยากเที่ยวเล่น อีกอย่างฉันเป็นนักวิจัย ฉันเป็นสายลับของประเทศด้วย ในฐานะที่เป็นสายลับ ฉันไม่รู้สึกอยากสนุกสนานหรอก” สีหน้าของฟางเจ่อเจี่ยจริงจังมาก
“เอาล่ะ ผมก็เป็นเจ้าหน้าที่ราชการของรัฐ ผมยังไม่เคยได้ยินเรื่องนี้เลย ผมคงต้องทนกับเรื่องนี้” เฉินหลงทิ้งตัวลงบนด้านหนึ่งของโซฟา และไม่สนใจสายตาของเขา
ฟางเจ่อเจี่ยไม่ได้ทำวิจัยมาหลายปี เขาคงใช้สมองสร้างปัญหาได้ หากเป็นคนหนุ่มสาวแล้ว ถ้าสนุกได้ก็ควรจะเพลิดเพลินไปกับมัน
“ไม่ใช่ว่ามีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนแบบนั้นหรือ แต่เราต้องทนทานได้ด้วยสติของเรา เพราะความสนุกสนานจะทำพวกเราบิดเบี้ยวไป” ฟางเจ่อเจี่ยดูเหมือนเป็นคนที่มีความคิดแบบเก่าๆ
ปู่และพ่อของฟางเจ่อเจี่ยใช้สีหน้าและน้ำเสียงเช่นนี้เพื่อคุยกับเขาตั้งแต่เขาเป็นเด็ก เขาจำมาได้ตั้งแต่เมื่อนานมาแล้ว ดังนั้นแล้วเมื่อเขากล่าวอะไรก็ตาม จิตใต้สำนึกของเขาจะทำให้เขาแสดงออกมาเช่นนี้โดยธรรมชาติ
“เช่นนั้น ตอนนี้งานการเป็นสายลับของคุณก็จบไปแล้วล่ะ คุณไม่ต้องทำไปตามนั้นแล้ว ตอนเย็นนี้ช่วยไปคาสิโนเป็นเพื่อนผมหน่อย วันนี้เป็นวันดีของผม ผมแน่ใจว่าคุณจะทำเงินได้มากถ้าไปกับผม” เฉินหลงว่าด้วยรอยยิ้ม
วันนี้กลายเป็นว่าเขาโชคดีเป็นแปดเท่า หากว่ามีโชคแบบนี้เขาคงไม่ต้องชนะแล้วได้เงินก้อนโตจากพสกอเมริกันอีก แล้วเขาคงรู้สึกเสียดายถ้าละทิ้งโขคในครั้งนี้
“ไม่ละ ฉันไม่ต้องการไป” ฟางเจ่อเจี่ยส่ายหัว
เขาไม่สนใจเรื่องการพนันเลยจริงๆ เขาแต่อยากเล่น “นิวเวิร์ล” ที่นี่สักพัก ตัวตนของฟางเจ่อเจี่ยคือเป็นคนติดบ้าน
“ฟางเจ่อเจี่ย แม้คุณจะมาจากประเทศอื่น และรัฐให้เงินคุณทุกเดือน แต่คุณคิดว่าเงินที่คุณได้นี่จะเอาไปใช้เพื่อความสุขสบายบนสวรรค์ได้หรือ ผมรู้นะครับว่าคุณอยากจะตอบว่าไม่เป็นไร แต่อย่างไรแล้วเคยคิดไหมครับว่าคุณยังต้องซื้อบ้าน ซื้อรถ แล้วต้องแต่งงานมีสะใภ้ที่อาศัยและใช้ชีวิตอยู่ที่จีน ทั้งหมดที่ว่ามาต้องใช้เงิน หากว่าคุณไม่มีเงินแล้วคุณก็ทำอะไรไม่ได้
แน่นอนละว่าหากคุณไปคาสิโนกับผมคืนนี้ ผมรับรองเลยว่าเมื่อคุณกลับบ้าน อย่างน้อยคุณจะได้เป็นเศรษฐีเงินล้านนะ” เฉินหลงเริ่มจะยั่วกิเลสฟางเจ่อเจี่ย
แต่อย่างไรเสียนี่ไม่ใช่เรื่องของกิเลส แต่เป็นความจริง หากฟางเจ่อเจี่ยอาศัยในเมืองหลวง เขาคงไม่มีที่อยู่หากว่าไม่มีเงินสักสามล้านหยวน
“สิ่งที่ว่ามานี้สำหรับพวกเราคงตัดสินได้โดยรัฐ” ฟางเจ่อเจี่ยไม่ขยับตัว แต่เขาตระหนักถึงเหตุผลที่เป็นจริงเสมอ
“แน่สิ คุณจะมีบ้านมีมีรถตอนคุณกลับบ้านไป แต่อยากคุณอยากจะให้คนรักของคุณโดนรัฐจัดการหรือ ไม่ใช่ว่าคุณอยากจะตามหาคนรักหรือ ไม่ใช่ว่าคุณอยากให้คนที่รักมีชีวิตที่ดีหรือ คุณคิดว่ารัฐจะจัดการอะไรแบบนี้ให้หรือ” เฉินหลงเริ่มจะใช้วิธีที่ใหญ่กว่าเดิม
เมื่อเฉินหลงพูดจบ ฟางเจ่อเจี่ยเริ่มจะคิดเรื่องนั้น
ใช่แล้ว บ้านและรถเป็นสิ่งที่รัฐจัดให้ แต่แล้วคนรักของเขาละ ในตอนนี้ตัวตนของเขาโดนเปิดเผยแล้ว เขาทำได้เพียงกลับไปบ้าน ด้วยความรู้ด้านวิชาชีพที่เขามี เขาแน่ใจว่าเขาจะหางานที่ดีได้ แต่การจะทำให้คนที่รักมีชีวิตที่ดี งานดีๆคงไม่พอจะทำให้เกิดขึ้น
เมื่อคิดเรื่องนี้แล้ว ฟางเจ่อเจี่ยจึงขยับตัว
เขาเห็นว่าฟางเจ่อเจี่ยขยับตัวแล้ว เฉินหลงจึงกล่าวต่อไป “บางทีในคืนนี้ คุณอาจจะเปลี่ยนโชคชะตาในอนาคตได้นะครับ”
“เอาล่ะ ฉันจะไปกับนายคืนนี้” ฟางเจ่อเจี่ยพยักหน้า
“ทำถูกแล้วละ” เฉินหลงว่าอย่างมีความสุข
ในขณะนั้น พละกำลังของเฉินหลงในตอนนี้นั้นทำให้ไม่อาจจะมีอะไรมาท้าทายเขาได้ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องน่าพอใจที่จะหว่านล้อมให้เขาไปสถานการพนันได้ ฟางเจ่อเจี่ยและตัวเขาจึงไปคาสิโนกัน
หลังจากทุ่มหนึ่งไปเฉินหลงก็พาฟางเจ่อเจี่ยไปยังคาสิโน
ที่คาสิโนมีคนมากมายหลายประเภทมากมายเท่าที่จะเห็นได้ในเรือที่จัดการพนัน
และเมื่อเขาแลกชิพไปหมื่นดอลลาร์สหรัฐแล้ว เฉินหลงแบ่งชิพห้าพันชิพให้กับฟางเจ่อเจี่ยและขอให้เขาลงพนันตามเขา
เฉินหลงพาฟางเจ่อเจี่ยไปพนันลูกเต๋าก่อน
ไม่นานหลังจากนั้น ชิพในมือเขาก็กลายมากเป็นหกแสนสี่หมื่นชิพ จำนวนเงินขนาดนี้ยังใช้งานไม่ได้ เขาเห็นมามีคนที่ลงพนันตามเขาแล้ว เฉินหลงจึงพาฟางเจ่อเจี่ยไปเปลี่ยนที่
เขาเล่นบาคาเรท โซฮา ยีสิบเอ็ดแต้ม ตราบเท่าที่เฉินหลงยังพนันชนะ ชนะ ชนะ ชนะ และชนะ ทั้งคาสิโนก็กลายเป็นเวที
จากนั้นชิพในมือเฉินหลงและฟางเจ่อเจี่ยได้มีถึงยี่สิบล้าน และฟางเจ่อเจี่ยคนที่ใจเย็นในตอนแรก ได้ตื่นเต้นขึ้นมา
ในตอนนั้นเองที่คาสิโนไม่อาจเห็นเฉินหลงชนะได้อีก
“สุภาพบุรุษทั้งสอง เจ้านายของเราต้องการจะพบคุณทั้งสอง” เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของคาสิโนเข้ามาหาเฉินหลงและเผชิญหน้ากับคนทั้งสอง
“แต่เรากำลังพนันได้ดีเลยนะ ไม่เห็นหรือว่าเรากำลังมีความสุขอยู่ คาสิโนไม่ให้เราชนะได้หรือ” เฉินหลงชี้ไปที่นักพนันบางคนที่ชนะและได้เงินด้วยสิ่งที่พวกเขาพนัน พวกเขากำลังยิ้มอยู่
“แน่สิว่าไม่ เราทำคาสิโนนะ เราจะไม่ให้ลูกค้าชนะได้เงินได้อย่างไร แต่ในกรณีนี้และคาสิโนของเราจะเสียชื่อ อย่างไรก็แล้วแต่ พวกเราคิดว่าพวกคุณทั้งสองเป็นนักธุรกิจใหญ่ เรื่องเล็กน้อยแบบนี้ไม่มีค่ากับตัวตนของพวกคุณหรอกพวกเราต้องการจะเล่นเกมใหญ่ๆกับคุณ ผมคิดว่า ว่าคุณน่าจะชอบ” ตอนนั้นเองที่ชายชอายุประมาณสี่สิบในสูทดูดี สวมแว่นกลมใหญ่โต เดินมาและกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“อ้าว จริงหรือ” เขาได้ยินคำของชายคนนั้น เฉินหลงพลันแสดงสีหน้าที่ตื่นเต้น จากนั้นเปลี่ยนเป็นสีหน้าเสียดายและเห็นใจเพื่อนมนุษย์รอบๆ “ผมขอโทษด้วย ผมทำได้แค่ทำให้คุณรวยในครั้งหน้า”
สิ้นคำ เฉินหลงตามชายคนนั้นไปยังห้องวีไอพีชั้นบน
ต่อมา เขาได้พาเฉินหลงและฟางเจ่อเจี่ยไปยังห้องที่มีโต๊ะพนันตัวใหญ่ ตรงข้ามกับโต๊ะพนัน มีชายที่อายุราวห้าสิบปี เขามีหน้าตาอย่างชาวเอเชีย เขาดูเหมือนคนญี่ปุ่น
“แน่ใจหรือดอว์สัน” เขาเห็นชายญี่ปุ่นคนนั้น ฟางเจ่อเจี่ยรู้สึกไม่สบายใจที่จะต้องรับมือกับผู้เชี่ยวชาญ
เฉินหลงและฟางเจ่อเจี่ยเปลี่ยนแปลงตัวตนของเขา เฉินหลงนั่นชื่อดอว์สัน ส่วนฟางเจ่อเจี่ยคือจินทอล
“ไม่เป็นไรนะ วันนี้ผมโชคดี ทางตันก็มาหยุดผมไม่ได้ ทุกคนจะโดนผมจัดการ” เฉินหลงกล่าวด้วยสีหน้าจองหอง สายตาคู่นั้นไม่ได้มีความชั่วร้าย
“สุภาพบุรุษทั้งสอง นี่คือคุณทานากะ นี่คือการพนันระหว่างเขาและคุณสุภาพบุรุษทั้งสอง” ชายต่างชาติว่า
“ดี ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร คงไม่ใช่คู่ต่อสู้ผมหรอก” เฉินหลงนั่งลงและกล่าวไป