บทที่ 654
ยิ่งไปกว่านั้น พ่อแม่อายุมากแล้ว หากเข้าสู่วัยชราจะต้องพึ่งพากัน และช่วยเหลือซึ่งกันและกัน หากหย่ากันในเวลานี้ ทั้งคู่มีความสุขได้ยาก
ที่สำคัญคือหลังจากการหย่าแล้ว พ่อแม่จะอยู่ที่ไหน? บ้านมีเพียงหลังเดียว ถึงแม้ว่าจะมีคฤหาสน์อีกหลังหนึ่ง แต่คฤหาสน์นั้นคนอื่นมอบให้กับเย่เฉิน เซียวชูหรันรู้สึกเสมอว่า คฤหาสน์นี้พึ่งไม่ได้ ไม่แน่สักวันเขาอาจจะขอคฤหาสน์นี้คืน
ฉะนั้น เมื่อเป็นแบบนี้ จะให้พ่อหรือว่าแม่ออกจากบ้านตัวเปล่า?
อีกอย่าง บริษัทของตนเองก็เพิ่งเริ่มต้น แม้ว่าทุกคนจะสนับสนุนธุรกิจของตัวเอง แต่ก็เป็นแค่บริษัทขนาดเล็กมาก รายได้ก็เข้ามาทีละน้อย ตอนนี้ยังไม่มีเงินที่จะซื้อบ้านอีกหลังหนึ่งให้พ่อหรือให้แม่ เพื่อใช้เป็นสถานที่อยู่ในยามชรา ดังนั้นหากครอบครัวนี้ต้องการแยกจากกันจริง ๆ ก็ต้องแตกกระจายไป และเสียหายด้วยกันทั้งสองฝ่าย
ดังนั้นเธอจึงทำได้เพียงแค่อ้อนวอน “โอ้ย พ่อ แม่ก็ยอมรับผิดแล้ว พ่อก็อย่าถือสาแม่เลย ยกโทษให้แม่ครั้งนี้ได้ไหม?”
ขณะพูด ก็รีบกล่าวเสริมอีกประโยคว่า “เงินไม่มีแล้วก็หาใหม่ ตอนนี้บริษัทของฉันกำลังไปได้สวย เชื่อว่าจะมีรายได้มากขึ้นเรื่อย ๆ!”
เซียวฉางควนกล่าวด้วยความโมโหว่า “นี่ไม่ใช่เรื่องของเงินสองล้าน แต่เป็นเรื่องของนิสัย! เธอดูแลเงินเก็บของทั้งครอบครัว แต่เธอไม่มีความรับผิดชอบ เธอกลับเอาเงินไปเสียการพนันจนหมดแล้วก็ไม่ยอมบอกให้พวกเราทราบ เรื่องนี้ฉันจะไม่มีวันให้อภัย!”
จากนั้นเซียวฉางควนก็กล่าวอีกครั้งว่า “ชูหรันลูกลองคิดดู เธอเสียเงินพนันไปทั้งหมดแต่ก็ไม่พูด เผื่อว่าสักวันพ่ออาจประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เหมือนครั้งที่แล้ว และพ่อกำลังจะตาย พ่อรอให้เธอจ่ายเงินเพื่อช่วยชีวิต ปรากฏว่าเธอไม่สามารถเอาเงินออกมาได้ จะทำอย่างไร? แล้วถ้าเรื่องเดียวกันเกิดขึ้นกับลูกหรือเย่เฉิน พ่อควรจะทำอย่างไร?”
“เงินนี้ไม่ได้เป็นเพียงเงินออมของครอบครัวเราเท่านั้น แต่ยังเป็นเงินที่พึ่งพาในอนาคตของเราด้วย! เธอไม่มีความรับผิดชอบต่อครอบครัวเรา คนเช่นนี้ ยังจะเก็บเธอไว้ในบ้านทำไม? ตามความเห็นของพ่อ ตัดความสัมพันธ์กับเธออย่างเด็ดขาดจะดีกว่า เพื่อป้องกันไม่ให้เธอมีโอกาสทำร้ายพวกเราได้อีกในอนาคต!”
เซียวชูหรันถอนหายใจ และตอนนี้ไม่รู้จะพูดอะไรดี
สิ่งที่พ่อพูดเป็นเรื่องที่ถูกต้อง แม่เสียเงินไปมากมายในคราวเดียวกัน นิสัยเลวร้ายเกินไปจริง ๆ
แต่ว่า ถึงจะพูดอย่างไร เธอก็เป็นแม่แท้ ๆของตนเอง!
เวลานี้หม่าหลันตกใจกับน้ำเสียงที่เด็ดขาดของเซียวฉางควน เธอกอดขาไว้แน่น แล้วก็ก้มกราบ ร้องไห้และกล่าวว่า “คุณสามี…..คุณสามี….. คุณจะหย่ากับฉันไม่ได้ ฉันขาดคุณไม่ได้ ฉันรู้ว่าตนเองทำผิดแล้ว คุณยกโทษให้ฉันสักครั้ง ถ้าคุณไม่ยกโทษให้ฉัน ชีวิตของฉันอยู่ไปจะมีความหมายอะไร? ให้ฉันตายเสียจะดีกว่า!”
หลังจากพูดจบ เธอก็ปล่อยขาของเซียวฉางควน แล้ววิ่งไปที่ระเบียง
เซียวชูหรันตกใจ รีบวิ่งตามไป
บ้านตนเองอยู่ชั้นสิบห้าเผื่อว่าแม่คิดสั้นจริง ๆ นี่มันทำให้เสียชีวิตได้เลยนะ!
เซียวฉางควนมองอย่างเย็นชาและกล่าวว่า “ชูหรันลูกไม่ต้องสนใจเธอ ลูกปล่อยให้เธอโดด ยังไงพ่อก็ไม่เชื่อ! เข้าตำรา หนึ่งร้องไห้ สองตีโพยตีพาย สามฆ่าตัวตาย แม่ของลูกเป็นนักแสดงชั้นครู ทักษะนั้นเธอฝึกจนชำนิชำนาญแล้ว!”
เมื่อหม่าหลันได้ยินประโยคนี้ เธอก็ตะโกนว่า “เซียวฉางควน คุณจะบังคับให้ฉันตายจริง ๆใช่ไหม? ถ้าอย่างนั้นฉันก็กระโดดลงไป ทำให้คุณรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต!”
พูดจบ เธอก็วิ่งไปถึงระเบียนแล้ว เปิดหน้าต่าง จะปืนออกไปข้างนอก
เซียวชูหรันรีบกอดเอวของเธอไว้ ร้องไห้และกล่าวว่า “แม่จะทำอะไร มีเรื่องอะไรเราคุยกันดี ๆได้ไหม……”
หม่าหลันร้องไห้อย่างหนัก และกล่าวว่า “ยังจะพูดอะไรได้อีก พ่อของลูกใจร้ายอยากให้แม่ตาย แม่ยังจะมีหน้าอยู่บนโลกนี้ได้อย่างไร!”