TB:บทที่ 280 เสียกางเกงชั้นใน
“ไม่ต้องอายไป แล้วคุณจะเสียกางเกงในทีหลังนะ” ความจองหองของเฉินหลงทำให้ทานากะรู้สึกอึดอัดเอามากๆ
“ไม่ต้องอายงั้นหรือ ได้สิ ผมจะทำให้เห็นว่าใครที่คุยโตและใครที่จะเสียกางเกงใน มาสิคุณจะพนันอะไร” เฉินหลงในตอนนี้กำลังแสร้งทำเป็นนักพนันที่จองหองและชนะได้เงินมามากแล้ว ทานากะกล่าวที่ว่าไป แน่นอนว่าเฉินหลงจะหงุดหงิด
เมื่อฟางเจ่อเจี่ยเห็นฝีมือการแสดงของเฉินหลงแล้ว เขาชื่นชมเฉินหลงจากใจจริง ความสามารถเช่นนี้คงจะเสียไปเปล่าๆหากไม่ได้มีตัวตนที่ฉลาดด้วย
“แค่ชี้ลูกเต๋า คนที่เดาจะใช้เงินล้านดอลลาร์ เมื่อชนะตะได้สี่สิบล้านดอลลาร์” ทานากะมองเฉินหลง
“ล้านดอลล่าร์นี่น้อยไปหน่อย เช่นนั้นสิบล้านดอลล่าร์แล้วกัน” เฉินหลงแสดงสีหน้าอย่างมีชัยชนะ “จะว่าไป การพนันคงไม่ตื่นเต้น มาพนันสิ่งที่จับต้องได้กันเถอะ”
สิ้นคำ เฉินหลงมองทานากะด้วยแววตาขี้เล่น
“ใช่แล้ว นักพนันที่แพ้ต้องเสียมือทั้งคู่ไป นักพนันต้องเสียชีพ” ทานากะเห็นด้วย
“ผมไม่ชอบมือและเท้าเปื้อนเลือด หากว่าไม่เอาแบบนั้นแล้ว ไม่ว่าใครที่แพ้จะต้องถอดเสื้อผ้าไป สุดท้ายแล้วต้องถอดเสื้อผ้าออกแล้วไปเดินเล่นในคาสิโนข้างนอกนั่น คิดว่าอย่างไรกับการพนันนี้” เฉินหลงมองทานากะ
คนที่ควบคุมสถานการพนันนี้เหลือบมองทานากะและส่งสัญญาณให้สถานพนันมอบเงิน แต่เขาก็หาเงินมาได้เอง
“ดีล่ะ ผมจะพนันกับคุณ” อย่างไรเสียหากใครที่พยายามโกงทีหลัง คนคนนั้นจะต้องออกไปพร้อมกับเสียมือและเท้า
สิ้นคำ ทานากะหยิบมีดญี่ปุ่นมาวางบนโต๊ะพนัน
เฉินหลงมีท่าทีเปลี่ยนไป
ในตอนนั้นเอง ผู้ดูแลสถานพนันแห่งนี้ได้นำถ้วยลูกเต๋าสองใบและลูกเต๋าหกลูกขึ้นมา
“ท่านทั้งสอง คุณสามารถตรวจสอบถ้วยลูกเต๋าและลูกเต๋าได้” ผู้ดูแลส่งถ้วยลูกเต๋าและลูกเต๋ามาให้ทานากะ จิโร่ และเฉินหลงเพื่อตรวจดู
เมื่อทั้งสองตรวจสอบเสร็จแล้ว พวกเขาก็พยักหน้า และหยิบถ้วยลูกเต๋ากับลูกเต๋าอีกสามลูก
“เชิญก่อนเลย” เฉินหลงให้ทานากะเริ่ม
ทานากะไม่สุภาพนัก เขาตบโต๊ะพนันเบาๆ และเขย่าถ้วยลูกเต๋ากับลูกเต๋าสามลูกอย่างแรงในทันที
ตราบใดที่ทานากะยื่นมือออกมา เขากำถ้วยลูกเต๋าแน่น เขาหันปากถ้วยไปทางลูกเต๋าสามลูกแล้วลูกเต๋าทั้งสามก็เข้าไปในถ้วยตรงๆ
จากนั้น ทานากะจิโร่ก็หยิบถ้วยลูกเต๋าขึ้นมาเขย่าสองสามครั้ง และวางไว้บนโต๊ะ
“เดาสิ”
ทานากะมองเฉินหลง
“ผมจะเดาว่าหนึ่ง สอง สาม ” เฉินหลงไม่คาดเดาก่อนพูด
เมื่อได้ยินเฉินหลงพูดว่า “หนึ่ง สอง สาม” ตาของทานากะเผยรอยยิ้ม
ทันใดนั้น ทานากะ จิโร่ก็เปิดถ้วยลูกเต๋าออก
อย่างไรก็ตาม ทานากะที่มั่นใจก็เปิดถ้วยออกและมองดูตัวเลขที่ปรากฏข้างใน จู่ๆเขาก็เหลือบมองเจ้านายอย่างแทบไม่เชื่อสายตา เพราะว่าตัวเลขบนลูกเต๋าในถ้วยลุกเต๋าเป็นเลขหนึ่ง สอง สาม ตามที่เขาว่า
“ไม่ นี่เป็นไปไม่ได้ ที่ฉันเขย่าไปคือ “สาม สาม สี่” นี่ทำไมจึงกลายเป็น “หนึ่ง สอง สาม ” ไปได้” นี่เป็นความคิดเพียงอย่างเดียวในหัวทานากะในตอนนี้
“ฮ่าฮ่าฮ่า โชคของผมดูจะไร้พ่ายจริงๆ ผมทำได้แม้กระทั่งเดาตัวเลขถูกได้สบายๆ ” เฉินหลงโกยชิพสิบล้านที่ผู้ดูแลคาสิโนพลักมาให้กองชิพของเขา
จากนั้นเขาก็มองทานากะ
ในตอนนั้น แน่นอนว่า เลขที่ทานากะทำคือ “สาม สาม สี่” แต่เฉินหลงได้เปลี่ยนลูกเต๋าให้เป็น “หนึ่ง สอง สาม” ด้วย “พลังธรรมชาติ” ตามทั่วไปแล้วเขาคงเสียไปเยอะ
ทานากะใช้เวลาสักพักเพื่อจะพักจากความรู้สึกตื่นตกใจ
“ตาคุณแล้ว” ทานากะ จิโร่ว่า
“ไม่ต้องห่วงไป ดูเหมือนว่าจะลืมอะไรไปสักอย่าง” เฉินหลงมองทานากะ
ในตอนนี้เอง ที่ทานากะจำได้ว่าผู้แพ้จะต้องถอดเสื้อผ้าออกไปชิ้นหนึ่ง เขาจึงถอดโค้ทเขาออก
เฉินหลงยิ้มและวางลูกเต๋าทีละลูกไว้ใต้ถ้วยลูกเต๋า แล้วเขาจึงถูลูกเต๋าพวกนั้นบนโต๊ะ
เมื่อถูลูกเต๋าอยู่ เฉินหลงเห็นว่าหูของทานากะขยับเล็กน้อย
“โอ้ วิชาฟังเสียงลูกเต๋า” เฉินหลงคิดถึงความเป็นไปได้
อย่างไรเสีย นี่ไม่ได้มีผลกับเฉินหลง เฉินหลงมีวิธีการรับมือกับทวงท่านี้
เฉินหลงพูดเสียงดังขึ้นอย่างนุ่มนวลเมื่อเขาเขย่าลูกเต๋า เฉินหลงรู้ว่าทวงท่านั้นคงไม่ค่อยมีประโยชน์กับทานากะ จิโร่ ส่วนใหญ่แล้วคงมีไว้ทำให้คู่ต่อสู้สับสนและสุดท้ายก็จะขยายผล
ในการเขย่าสองครั้งสุดท้ายของเฉินหลง พลังธรรมชาติได้ปกคลุมหูทั้งสองของทานากะ จิโร่ไว้ในตอนนั้น ณ ขณะนั้นเขาจึงไม่ได้ยินเสียงใดเลย
เมื่อเฉินหลงวางถ้วยลูกเต๋าลง พลังธรรมชาติได้หายไป ทานากะจึงได้ยินเสียงอีกครั้ง อย่างไรเสียในสองครั้งแรกเขาไม่ได้ยินสิ่งใด นั่นทำให้เขาไม่สามารถจะตัดสินได้ว่าเลขบนลูกเต๋าของเฉินหลงคืออะไร
เฉินหลงทำท่าเชื้อเชิญทานากะ
อย่างไรเสีย ทานากะรู้ว่าไม่มีทางจะรู้ได้ว่าเลขใดที่ชี้ขึ้นบนหน้าลูกเต๋าในถ้วยลูกเต๋า หลังจากที่เขาครุ่นคิดไปครู่หนึ่ง เขาพูดเลขที่เขาได้ยินมาก่อนออกมา “สาม ห้า หก”
เฉินหลงยิ้มและเปิดถ้วยออก แล้วเขาจึงกล่าวไป “เสียใจด้วยนะครับ โชคคุณคงแย่ไปหน่อย คุณขาดไปแค่ “สาม ห้า ห้า” เอง”
จากนั้น กองชิพของเฉินหลงก็เพิ่มขึ้นอีกสิบล้าน
ในตอนนั้นเองที่ในใจทานากะสับสนงุนงงเป็นที่สุด ใบหน้าของเขาแสดงสีหน้าไร้หนทาง
“โห ต้องถอดเสื้อแล้ว” เฉินหลงกล่าว
หลังจากที่ได้ยินเฉินหลงว่า ทานากะ จิโร่ ก็ถอดเสื้อออก
ทานากะอาจจะไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย เนื้อของเขาจึงไม่แน่น เขามีรอยสักรูปงูอยู่บนหน้าอก
อย่างไรก็ตามเนื่องจากว่าเขาเป็นคนที่เนื้อไม่แน่น รอยสักเขาจึงดูดีมาก
หลังจากนั้น ทานากะก็หยิบลูกเต๋าไปอีกรอบ ครั้งนี้เขาเขย่าลูกเต๋าเป็นแบบแผนมากขึ้น
เมื่อเขาวางถ้วยลูกเต๋าลง ทานากะ จิโร่ก็ได้พักหายใจ
แต่อย่างไรเสียผลที่เฉินหลงเดา และหน้าลูกเต๋าที่หงายขึ้นก็ไม่ใช่เลขที่ทานากะเขย่ามาอยู่ดี
ในตอนนั้นเองที่หน้าผากทานากะเริ่มมีเหงื่อออก สุดท้ายเขาก็เดาได้ว่าจะต้องเป็นมือหรือเท้าของคนตรงข้ามแน่นอน อย่างไรแล้ว พวกเขาก็ไม่มีทางจะเจอว่าฝ่ายตรงข้ามใช้มือมายุ่งด้วย แม้เขาจะกล่าวไปว่ามือและเท้าของอีกฝ่ายจะมีส่วนเกี่ยวก็ตาม แต่ก็คงเป็นเพียงการทำให้ตัวเองอับอาย
หลังจากที่เขาแพ้แล้ว เขาถอดกางเกงของเขาออก เหลือไว้เพียงกางเกงในอย่างญี่ปุ่น
ขณะนั้นเขามองผู้คุมสถานการณ์พนัน แต่ผู้คุมสถานการณ์พนันกลับไม่ได้สนใจเขาเลย เขารู้ดีว่าเกมการพนันคงยืนยันได้ด้วยตัวของมันเองและเงินที่สถานการพนันจ่ายให้นั้น หากว่าเขาสัญญาว่าจะเพื่อจำนวนเงินพนันไว้ สถานการพนันคงไม่คิดค่าอะไรแล้ว
“ชิ้นสุดท้าย หากว่าคุณแพ้ คุณจะต้องไปเดินเปลือยรอบๆคาสิโน” เฉินหลงกล่าวติดตลก “อ้าว ผมไม่คิดเลยว่าจะกล่าวออกได้สบายๆแบบนี้ คงเป็นจริงแล้วละ กางกางในจริงๆจะหลุดไปแล้ว”
หลังจากนั้น เฉินหลงก็หยิบถ้วยลูกเต๋ามาและครอบบนลูกเต๋าทั้งสาม ลูกเต๋าทั้งสามนี้จะเข้าไปในถ้วย จากนั้นเฉินหลงหยิบถ้วยลูกเต๋าและเริ่มจะเขย่า ในที่สุด หลังจากที่เฉินหลงวางถ้วยลูกเต๋าลง ใบหน้าของทานากะก็มีความสับสน เขาไม่ได้ยินเสียงลูกเต๋ากระทบถ้วยเลย