TB:บทที่ 281 บ้านเกิด
เขาไม่ได้ยินเสียง นี่คือการเดา เขานึกถึงว่าหากเขาแพ้ แล้วใบหน้าของทานากะจิโร่ก็มีความกังวลขึ้นมา สีหน้าแบบนั้นนับว่าซีดเซียว เหงื่อเย็นๆหลายเม็ดหยดมาจากหน้าผากของเขา
“เดาสิ”
เสียงของเฉินหลงเป็นเหมือนเสียงของระฆัง
“คุณทานากะ โปรดทายมา” ในครั้งนี้ คนที่ควบคุมสถานการพนันอยู่ เริ่มจะมีปัญหาแล้ว คุณทานากะเป็นเจ้าแห่งเงินในคาสิโน จุดประสงค์ของเขาคือการจัดการกับพวกคนที่แข็งแกร่งที่มาคาสิโน เพื่อให้ได้เงินก้อนใหญ่ ในตอนนี้ เนื่องจากว่าเขาทำอะไรไม่ได้แล้ว เขาคงต้องแสดงความรับผิดชอบ
“หนึ่ง สี่ สอง” ทานากะที่หน้าเสียพูดเลขออกมาสามเลข
“คุณแพ้” เฉินหลงยังคงไม่เปิดถ้วยลูกเต๋าออกมา เขากล่าวกับมานากะจิโร่ตรงๆ
“นาย นายไม่เปิดถ้วยลูกเต๋าออก ทำไมฉันถึงแพ้กัน” ทานากะมองเฉินหลง
“อยากจะเปิดดูไหมละ แล้วผมจะปล่อยให้นายตายสภาพดีขึ้นหน่อย” สิ้นคำเฉินหลงเปิดถ้วยลูกเต๋า
ลูกเต๋าในถ้วยลูกเต๋าได้พังเป็นชิ้นๆไปแล้ว จึงไม่มีประโยชน์อะไร
เมื่อเขาเห็นว่าลูกเต๋าพังไปแล้ว ทั้งตัวของทานากะพลันอ่อนไปหมด ใช่ ลูกเต๋าพังไปหมดแล้ว นั่นแหละ ไม่มีประโยชน์ ไม่ว่าคุณจะเดาไปอย่างไร ตราบใดที่เดาเลขได้ ก็แพ้อยู่ดี
“แปะ แปะ แปะ แปะ แปะ”
ในตอนนั้นเองที่ผู้ดูแลได้ปรบมือให้เฉินหลง “วิเศษไปเลย ช่างวิเศษจริงๆ ผมไม่เคยเห็นฝีมือการพนันที่วิเศษแบบนี้มานานแล้ว ผมไม่รู้ว่าจะเรียกคุณว่าอะไร”
“คุณเรียกผมว่าดอว์สันก็ได้ แต่เพื่อนผมเรียกผมว่าดอว์สันที่มากับโชค อีกอย่างนะ ผมไม่รู้วิธีการพนันด้วย ลูกเต๋าพังไปแล้ว บางทีคงไม่ได้ขึ้นอยู่กับมาตรฐาน” เฉินหลงว่า
“ดอว์สัน คุณสนใจจะทำงานที่คาสิโนนี่ไหม เราเต็มใจจะจ่ายให้คุณห้าล้านดอลลาร์ต่อปี รวมโบนัสตอนปลายปีและอย่างอื่นด้วย คุณอยากจะพิจารณาไหมครับ” รัสเซลมองเฉินหลงด้วยความชื่นชม
“ห้าล้านและโบนัส เยี่ยมจริงๆ แต่อย่างไรก็ตามตอนนี้ผมมีเงินสี่สิบล้านดอลลาร์ และ ผมคงจะทำตัวไปตามสบายได้ดีแบบไม่ต้องควบคุมอะไรปพักหนึ่ง แน่ล่ะว่าหากเงินผมหมดแล้ว ผมจะรับข้อเสนอนั้น” เฉินหลงยังคงจะไปอยู่ดี
“ได้สิ นี่นามบัตรผม หากคุณอยากจะมาโปรดติดต่อผมนะ ประตูผมจะต้อนรับคุณเสมอ” แม้เฉินหลงจะปฏิเสธเขาไป แต่รัสเซลก็ไม่ได้สนใจ เขาให้นามบัตรกับเฉินหลงที่มีทั้งชื่อและเบอร์โทร
“ขอบคุณครับ” เฉินหลงรับนามบัตร “จะว่าไป เขาควรจะทำตามที่พนันไว้”
ว่าจบ เฉินหลงมองทานากะ
“คุณทานากะตั้งใจจะยอมรับที่เขาแพ้พนันอยู่แล้ว โปรดทำตามที่พนันไว้ด้วย” รัสเซลมองเขาอย่างเย็นชา ทานากะอึ้งไปเพราะรัสเซล
ในทันทีที่ทานากะกัดฟันและถอดเสื้อผ้าชิ้นสุดท้ายออก
เขาไม่รู้ว่าเป็นเพราะอารมณ์หรือเพราะสภาพอากาศ เขารู้สึกเหมือนจะหดไปซะทุกอย่าง
“ดี ดี คุณออกไปรอบๆคาสิโนได้ แล้วทำให้ได้อย่างที่พนันซะ” เฉินหลงไม่ได้สนใจในตัวชายญี่ปุ่นแก่คนนี้ที่เนื้อร่างไม่แน่นแถมยังเหมือนเล็กเหมือนแมลง
ทานากะยังเป็นคนโสดอยู่ เมื่อเขายืนขึ้น เขาได้ออกไปนอกห้อง เขาลงไปชั้นล่าง ตัวเปลือยเปล่า เขาเดินไปรอบๆคาสิโนให้ผู้คนเห็นเต็มตา แล้วจึงลงไปห้องเขาและใส่เสื้อผ้าทีละชิ้น
“คุณทานากะ นี่คือของเล็กน้อยจากคาสิโน โปรดรับไว้” รัสเซลยื่นเช็คหนึ่งล้านดอลลาร์ให้กับทานากะ
ทานากะที่แต่งตัวแล้วพับเช็คของเขาและจากไปโดยไม่กล่าวอะไร
“ช่างเป็นคนไร้มารยาทเสียจริง” เฉินหลงว่าอย่างดูถูกตามหลัง
ร่างของทานากะนิ่งไป เขาจากไปโดยไม่มองกลับมาอีก เขาเป็นแค่คนขี้แพ้ และคนขี้แพ้ทำได้แค่เดินในความมืด
“ดอว์สัน นี่คือแปดสิบล้าน อยากจะได้เป็นเงินสดหรือฝากธนาคารละ” รัสเซลว่าด้วยรอยยิ้ม
แม้แปดสิบล้านจะเป็นเงินจำนวนมากแต่ในคาสิโนนี่ก็มีเงินสดอยู่เยอะ คงไม่ยากที่จะถอนมาสักแปดสิบล้านดอลล่าร์ และนี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมรัสเซลจึงถาม
“ฝากเงินเจ็ดสิบเก้าล้านดอลลาร์ไว้ในบัญชีและให้ผมอีกล้านหนึ่งเป็นเงินสด” เฉินหลงกล่าว เลขบัญชีห้าตัว
เพราะเป็นคำขอของเฉินหลง รัสเซลทำตามในทันที เขาไปส่งเฉินหลงออกจากคาสิโนเป็นการส่วนตัวด้วย
หลังจากที่กลับไปยังห้องสวีทของโรงแรมแล้ว เฉินหลงโยนกล่องที่ใส่เงินล้านดอลลาร์สหรัฐไปให้ฟางเจ่อเจี่ยและกล่าวว่า “อ่า ใช่แล้ว ตราบใดที่คุณยังตามผมอยู่ คุณจะทำเงินได้ง่ายๆราวกับแค่หยิบเงินขึ้นมา เอาเงินล้านดอลลาร์แรกนี่ไป และหลังจากกลับไปบ้านแล้ว ผมจะโอนอีกสี่สิบล้านดอลลาร์ให้บัญชีคุณ หรือไม่ก็คุณเอาเลขบัญชีพ่อกับแม่คุณมาสิ ผมจะได้โอนให้คุณตอนนี้” นี่แค่สี่สิบล้านดอลลาร์ เฉินหลงเลยไม่ได้สนใจอะไร
“เช่นนั้น ไม่ใช่ว่าจะไม่เหมาะสมกับเราที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐเท่าไรที่จะทำเช่นนั้นหรือ” แม้ฟางเจ่อเจี่ยจะถามว่าเหมาะสมหรือไม่แต่เขาก็กอดกล่องเงินในอ้อมแขนไว้แน่น
“อะไรที่เหมาะไม่เมาะ เราไม่ได้ขโมยเงินมาและเราไม่ได้ขโมยอะไร หากใครจะกล้านินทาก็ปล่อยเขาทำไป ไม่ต้องห่วงผมจะปกปิดให้เมื่อคุณกลับไป ผมสัญญาว่าจะไม่มีใครกล้าจะรังแกคุณ” เฉินหลงตบบ่าฟางเจ่อเจี่ยราวกับเป็นเจ้านาย
“จริงจังนะ ตอนนี้ฉันเชื่อแล้วจริงๆว่านายเป็นคนสร้างนิวเวิร์ล แต่หากนายสร้างนิวเวิร์ลจริงๆ นายจะช่วยฉันให้มีระดับสูงขึ้นได้ไหม” ฟางเจ่อเจี่ยมองเฉินหลง
“ไม่มีทาง ไม่มีเอนพีซีของชาติจีนใน “นิวเวิร์ล” หากผู้เล่นต้องการจะเพิ่มระดับของตน พวกเขาจะต้องฝึกฝนต่อไป และในท้ายที่สุดตัวทำงานหลักของ “นิวเวิร์ล” จะเปลี่ยนรูปร่างของคนจีนและความสนุกตัวเกมให้เป็นอีกขั้น แน่ล่ะว่าหากระดับสูงขึ้นแล้ว คุณก็จะยังสนุกกับเกมได้อยู่” เฉินหลงส่ายหน้าและกล่าวไปอย่างจริงจัง
“เป็นเหมือนนายมากขึ้นและมากขึ้น” ฟางเจ่อเจี่ยยังมองเฉินหลงต่อ
อย่างไรเสียเมื่อฟางเจ่อเจี่ยกล่าวเช่นนี้แล้ว เขาก็ไม่ได้เชื่ออย่างที่ว่า ในที่สุดแล้วคนที่เป็นระดับผู้ประดิษฐ์ “นิวเวิร์ล” คงมีความสำคัญมากกว่าตัวเขามาก จะให้รัฐปล่อยให้เขาเสี่ยงช่วยตัวเองหรือ แน่ละว่าไม่มีทางเป็นไปได้
“ไม่รู้ว่าจะพูดกับคุณอย่างไรดี” เขามองฟางเจ่อเจี่ยที่ไม่ยอมรับว่าเขาเป็นผู้คิดค้น “นิวเวิร์ล” เฉินหลงไม่อยากจะอธิบายอะไรต่อ การกระทำย่อมเสียงดังกว่าคำพูด เฉินหลงตั้งตารอดูความโง่เง่าของฟางเจ่อเจี่ยตอนที่เขาได้รู้ว่าเขาเป็นผู้คิดค้นนิวเวิร์ล
สองวันต่อมา เฉินหลงและฟางเจ่อเจี่ยอยู่บนเครื่องบินกลับไปยังจีน
หนึ่งวันถัดมา เฉินหลงและพวกของเขายืนบนแผ่นดินในเมืองหลวง
เมื่อฟางเจ่อเจี่ยออกมาจากเครื่องบินและยืนบนแผ่นดินของเมืองหลวงแล้ว เฉินหลงพลันพบว่าตาของเขาเป็นสีแดง
“พี่ชาย นี่คือแผ่นดินแม่ของเรา หลังจากนี้ไม่นานแผ่นดินแม่จะต้องยืนอยู่ในที่สูงสุดของโลก นายควรรู้สึกมีเกียรติและภูมิใจที่เป็นประชาชนของประเทศนี้นะ” เฉินหลงตบบ่าฟางเจ่อเจี่ยและกล่าวไป
ฟางเจ่อเจี่ยไม่กล่าวอะไรต่อ เขาทำเพียงพยักหน้า