TB:บทที่ 328 นิวยอร์กซิตี (2)
เฉินหลงไม่ตอบ เขาได้แต่ส่งยิ้มให้อีกฝ่ายเท่านั้น
ประวัติศาสตร์อันยาวนานของราชวงศ์จีนที่ยิ่งใหญ่ไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกับประเทศที่มีประวัติศาสตร์ไม่ถึงร้อยปี แม้ว่าตอนนี้พวกเขาจะเป็นประเทศที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก แต่ในไม่ช้าอันดับหนึ่งแห่งประเทศจะต้องเปลี่ยนไปแน่นอน
แอนเดสรู้สึกสะใจอยู่ในอก อย่างแวมไพร์พวกนี้จะไปทำอะไรได้กัน?
พวกเขารู้สึกเหนื่อยใจกับสกาย จึงรีบวิ่งแจ้นไปฟ้องลิลิธ โชคร้ายที่พวกเขาวิ่งไปที่รถผิดคัน ถึงได้รู้ว่า ลิลิธไม่ได้นั่งรถคันนี้นี่หว่า!
ภายในรถคันถัดมา จี้โม่ซีกำลังพูดคุยเรื่องสัพเพเหระกับลิลิธอยู่ แต่จู่ๆก็มีค้างคาวจากไหนก็ไม่รู้บินผ่านหน้าต่างเข้ามาเกาะบนไหล่ของลิลิธ
ลิลิธที่กลัวว่าจี้โมซีจะตกใจกลัวมัน จึงรีบรวบตัวเจ้าค้างคาวเอาไว้ในมือ “เอ๋ ค้างคาวตัวนี้บินเข้ามาในนี้ได้ยังไง แถมหน้าตาก็น่าเกลียดชะมัด มีคนกล้าเลี้ยงสัตว์ประเภทนี้เป็นสัตว์เลี้ยงด้วยหรอเนี่ย”
ลิลิธที่กำเจ้าค้างคาวเอาไว้ในมือ จึงจัดการอบรมเจ้าค้างคาวในมือที่บินเข้ามาโดยไม่รู้จักเวล่ำเวลาสักครู่ จากนั้นก็โยนมันออกไปนอกหน้าต่างรถทันที
“ลิลิธ คุณโยนค้างคาวออกไปแบบนั้น คุณไม่กลัวว่ามันจะถูกรถคันอื่นขับชนเหรอ?” จี้โมซีหันไปถามลิลิธทันทีที่เห็นอีกฝ่ายโยนลูกน้องของตัวเองออกไปจากรถไม่ต่างจากขยะชิ้นหนึ่ง
“ไม่เป็นไรหรอก หน้าตามันน่าเกลียดขนาดนี้ เผลอๆถูกรถชนขึ้นมาอาจจะหน้าตาน่ารักขึ้นมานิดนึงก็ได้นะ” ลิลิธตอบโดยไม่แยแส
แวมไพร์ที่ถูกเหวี่ยงออกจากรถ ตะเกียกตะตายลุกขึ้นจากพื้นถนน มันกระพือปีกบินด้วยใบหน้าตื่นตระหนก
“เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับคุณหนูกันแน่? คุณหนูไม่ได้อยู่บ้านแค่สองวัน ทำไมถึงได้ใจร้ายกับผมแบบนี้ละครับ คุณหนูเกือบฆ่าผมแล้ว ไม่ได้การ ผมจะไปขอร้องให้นายท่านสั่งสอนคุณหนู ในเมื่อเจ้าหญิงตัวน้อยกลายเป็นเด็กไม่ดีไปแล้ว ขืนปล่อยคุณหนูไว้ที่นี่ ผมคงไม่มีชีวิตรอดกลับไปแน่…”
ใช้เวลาประมาณหนึ่งถึงสองชั่วโมง รถคันสวยก็ได้มาจอดเทียบหน้าอาคารสูงสิบชั้นที่มีกำแพงกระจกใส
ทันทีที่มองเห็นอาคารสูงหลายสิบชั้นตรงหน้า เฉินหลงก็พูดขึ้นมาว่า “นี่คืออาคารที่สาขาเหล่าเหมยของคุณทำงานอยู่ใช่หรือเปล่า? ผมละสงสัยจริงๆว่าสภาแห่งศาสตร์มืดมีอำนาจมากมายขนาดไหน คุณทราบไหมครับว่าพื้นที่ตรงนี้เป็นที่ที่เจริญที่สุดในนิวยอร์กแล้ว”
“ฮ่าฮ่า ผมไม่ทราบหรอกครับ คุณก็รู้ว่าไม่ได้ดูแลในเรื่องนี้ นอกจากนี้ พวกเราอยู่ที่อเมริกา อิทธิพลของพวกโบสถ์แห่งแสงจึงไม่มากเท่าไหร่ เอ่อ จะว่ายังไงดีละครับ คนพวกนั้นทรงอำนาจจริงๆนั่นแหละ” แอนเดสตอบ “อ้อ แต่ผมชอบอังกฤษมากกว่าที่นี่นะครับ”
ระหว่างที่เฉินหลงกำลังเดินเข้าไปในห้องโถงภายในอาคาร จู่ๆก็มีผู้ชายในชุดสูทสีดำหลายคนเดินออกมาพูดกับเขาว่า “ท่านสุภาพบุรุษ ไม่ทราบว่าคุณมาทำอะไรที่นี่ครับ ที่นี่เป็นสถานที่ส่วนบุคคล ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้อง รบกวนออกไปจากที่นี่ด้วยครับ”
แอนเดสตอบชายคนนั้นไปว่า “ไปบอกคุณจอห์นว่า ผมคือแอนเดสจากอังกฤษ”
ทันทีที่ได้ยินชื่อของแอนเดส ใบหน้าของผู้ชายทุกคนก็ปรากฎรอยยิ้มแล้วตอบเขาไปว่า “โอ้! คุณแอนเดสนี่เอง เมื่อวานนี้ เจ้านายได้สั่งผมเอาไว้ว่า ถ้าคุณมาถึงที่นี่ให้ผมพาคุณไปพบที่ห้องครับ”
“ดี” แอนเดสพยักหน้ารับคำ
โดยไม่รอช้า ชายคนนั้นจึงเดินนำเฉินหลงและแอนเดสเข้าไปในลิฟต์ก่อนจะกดหมายเลข 38
ต่อมา ชายคนนั้นก็พูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้มว่า “อาคารแห่งนี้เป็นทรัพย์สินของบริษัทครับ โดยเราจะใช้ตั้งแต่ชั้น 38 ถึงชั้น 40 เท่านั้น ส่วนชั้นอื่นๆจะปล่อยให้บริษัทที่สนใจเช่าพื้นที่ครับ”
ภายในชั้น 38 ของอาคาร ชายชราที่มีศีรษะเกลี้ยงเกลา รูปร่างผอมบาง แต่ใจดีสังเกตเห็นแอนเดสที่กำลังเดินมาตามทางเดินพร้อมกับชายหนุ่มกว่ายี่สิบคนที่เดินตามหลังเขามาติดๆ
“แอนเดส! ลิลิธ! ยินดีต้อนรับสู่นิวยอร์กซิตี้!” ทันทีที่ชายชราเห็นแอนเดสและลิลิธ เขาจึงกล่าวทักทายด้วยรอยยิ้ม
“จอห์น! ดูนายสิ อายุเพิ่มขึ้นอีกแล้วนะ!” แอนเดสกล่าวทักทายด้วยรอยยิ้มพร้อมกับสวมกอดจอห์น
ดูท่าว่าแอนเดสและจอห์นจะเป็นสหายเก่าของกันและกัน
“อย่าพูดอย่างนั้นสิ นายรู้ไหมว่าศัตรูที่น่าเกรงขามมากที่สุดของมนุษย์คือกาลเวลา พวกเราไม่สามารถเอาชนะกาลเวลาได้ พวกเราถึงได้มีอายุมากขึ้นเรื่อยๆยังไงล่ะ มาๆ เข้ามาพักในออฟฟิศของฉันก่อนสิ”
จอห์นพาเฉินหลง แอนเดสและคนอื่น ๆ เข้าไปในออฟฟิศ แต่แล้วเขาก็ต้องรู้สึกเสียใจขึ้นมาทันที
เนื่องจากลิลิธที่อยากรู้อยากเห็นสิ่งต่างๆที่อยู่ภายในออฟฟิศของเขา เธอมองไปรอบห้องหนึ่งรอบแล้วเริ่มทำตัวเป็นเจ้าลิงจ๋อ พริบตาเดียวลิลิธก็ได้ไปที่ภาพวาดของศิลปินชื่อดังที่แขวนอยู่บนผนัง แล้วหยิบจานกระเบื้องเคลือบที่สวยงามจากสรวงสวรรค์และโลกหล้าออกมา
เมื่อเห็นลิลิธกำลังวุ่นวายอยู่กับของสะสมสุดหวงของตัวเอง ไม่แปลกที่จอห์นจะรู้สึกตกใจจนหัวใจแทบหล่นลงมาถึงตาตุ่ม ของพวกนั้นเป็นถึงสมบัติอันล้ำค่าของเขา ถ้าพวกมันเสียหาย เขาจะต้องรู้สึกเจ็บปวดเจียนตายแน่!
สุดท้าย จี้โม่ซีที่เห็นสีหน้าตระหนกของจอห์นอดไม่ได้ที่จะนำตัวลิลิธออกมา จากนั้นก็พาเธอไปดูทิวทัศน์อันสวยงามของนครนิวยอร์กตรงหน้าต่างกระจก จอห์นที่หัวใจหล่นไปถึงตาตุ่มเริ่มรู้สึกดีขึ้นมาก
“ตาเฒ่าจอห์น ชายหนุ่มคนนี้ชื่อเฉินหลงมาจากประเทศจีน นอกจากนี้คุณเฉินยังเป็นพันธมิตรของฉันที่อังกฤษด้วย” เมื่อเห็นว่าจอห์นรู้สึกดีขึ้นระดับนึง แอนเดสจึงแนะนำให้อีกฝ่ายรู้จักเฉินหลง
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ คุณเฉิน” เมื่อได้ฟังการแนะนำตัวอย่างเป็นทางการของเฉินหลงจากแอนเดส จอห์นจึงไม่อาจล่วงเกินอีกฝ่ายได้
“สวัสดีครับ คุณจอห์น” เฉินหลงลุกขึ้นยืนพร้อมกับจับมือกับจอห์น
“จอห์น นายอย่าเพิ่งคุยเรื่องธุรกิจวันนี้เลย ให้ฉันจัดการเรื่องลิลิธก่อนแล้วเราค่อยว่ากันพรุ่งนี้” แอนเดสกล่าว
แน่นอนว่าจอห์นเองก็เห็นด้วยกับข้อเสนอของแอนเดสเช่นกัน
ถึงแม้ว่าตอนนี้ลิลิธกำลังมองดูทัศนียภาพอันสวยงามของตัวอยู่ แต่ไม่มีใครสามารถรับประกันได้ว่าเธอจะไม่ทำอะไรแผลงๆเหมือนก่อนหน้านี้ ขืนจู่ๆเธอเลิกมองแล้วกลับมาเล่นกับของสะสมของเขาอีกรอบ แล้วถ้าเกิดว่าของชิ้นนั้นเกิดความเสียหายขึ้นมาจริงๆ เขาก็คงไม่กล้าเอ่ยปากขอร้องอ้อนวอนให้อีกฝ่ายชดเชยค่าเสียหายให้ตน ดังนั้นเขาจึงได้แต่ภาวนาให้ลิลิธที่ร่าเริงเกินเหตุออกไปจากที่นี่โดยเร็วที่สุด
ในขณะที่เฉินหลงกำลังจะบอกให้จี้โม่ซีกลับไปก่อนนั้น เขาก็หันไปเห็นลิลิธกำลังเตะบานหน้าต่างกระจกที่มีค้างคาวหลายตัวที่กำลังห้อยหัวเกาะบานหน้าต่างอยู่
ค้างคาวที่กำลังพักอยู่รีบคลายกรงเล็บเล็กๆที่เกาะอยู่บนช่องกระจกแล้วกางปีกเล็กๆบินออกไปจากที่ตรงนี้ทันทีที่ได้รับแรงสั่นสะเทือน
โธ่ ชีวิตของจ่าฝูงนั้นไม่ง่ายเลยจริงๆ
ในคืนเดือนหงาย เฉินหลงกำลังยืนอยู่ที่ระเบียงโรงแรมแห่งหนึ่ง
เขาและแอนเดสเพิ่งมาถึงนิวยอร์ก ผู้เฒ่าจอห์นจึงจัดเตรียมโรงแรมแห่งหนึ่งให้พวกเขา
ในตอนนี้ ลิลิธกำลังพูดคุยกับค้างคาวดำห้าตัวที่อยู่ตรงหน้า โดยมีค้างคาวบางตัวซ่อนตัวอยู่ข้างหลังเธอ ในขณะที่เฉินหลง แอนเดส และบอร์แมนกำลังเฝ้าสังเกตุการพูดคุยของเธอกับลูกสมุนอยู่
“เห็นไหม ผมบอกแล้วว่าแผนของผมใช้งานได้ ถ้าคุณมาที่นี่ คุณเองก็จะไม่ปลอดภัยไปด้วย ไม่ใช่ว่าคุณเองก็เป็นถึงแวมไพร์ชั้นสูงที่ทรงพลังที่สุดแห่งตระกูลวิคเตอร์เหรอครับ? อย่างคุณจะเอาชนะความยากลำบากแค่นี้ได้ยังไง คุณควรจะซ่อนตัวอยู่ในกล่องสักพัก ถ้าคุณหักโหมมากเกินไป มันก็คงไม่ต่างอะไรกับการหักหน้าเผ่าพันธุ์ที่สูงส่งอย่างพวกแวมไพร์หรอกนะครับ อีกอย่าง ผมเองก็ไม่อยากได้ยินเรื่องแบบนี้ในอนาคตหรอกนะครับ เข้าใจไหม?”
ด้วยเหตุนี้ ลิลิธได้เหลือบมองเฉินหลงแล้วพูดขึ้นมาว่า “นี่ พวกแกดูสิ หนุ่มจีนที่ยืนอยู่ตรงนั่น เขามีชื่อว่าเฉินหลง ทั้งพวกพ้องแล้วก็ลูกน้องต่างวนเวียนอยู่รอบตัว พวกเราห้ามทำอะไรเขา แต่พวกแกรู้อะไรไหม แต่ถ้าเกิดพวกแกอยากดูดเลือดละก็ ฉันขอแนะนำพวกแกให้ไปดูดเลือดของชายตัวใหญ่ๆที่อยู่ข้างๆให้หมดตัวแทน…”
ในประโยคสุดท้าย ลิลิธพยายามลดระดับเสียงให้เบาลงจนเกือบจะเป็นเสียงกระซิบ