“ฉางหมิ่น?!”เย่โจงฉวนที่อยู่ปลายสายพูดออกมาทันที:”เธอเป็นยังไงบ้าง?! เกิดเรื่องอันตรายอะไรหรือเปล่า?!”
เย่ฉางหมิ่นพูดทั้งน้ำตา:”ฉันถูกเย่เฉินกักขังไว้ เขาพูดว่าจะไม่ปลอยให้ฉันกลับไปฉลองตรุษจีนที่เย่นจิง! พ่อ เขาไม่ให้ความเคารพญาติผู้ใหญ่เลย และอวดดีจองหองด้วย พ่อช่วยฉันจัดการเขาหน่อย!”
เย่โจงฉวนพูดด้วยความประหลาดใจ:”เกิดอะไรขึ้น?! ทำไมเธอถึงมีเรื่องผิดใจกับเฉินเอ๋อ?”
ในเวลานี้ เย่เฉินรับสายโทรศัพท์และพูดอย่างเย็นชา:”เธอทำเรื่องลับหลังฉัน เธอไปพบแม่ยายของฉัน ให้เงินแม่ยายฉันและขอให้แม่ยายไปเกลี้ยกล่อมภรรยาให้หย่ากับฉัน นี่คือวิธีการทำงานของคนตระกูลเย่เหรอ?”
เย่โจงฉวนอึ้งไปชั่วครู่ จากนั้นก็ถอนหายใจ:”เฉินเอ๋อ ยังไงซะเธอก็เป็นอาหญิงของคุณ”
เย่เฉินถามกลับ:”แล้วยังไง? เธอมีสิทธิ์อะไรมายุ่งเรื่องในครอบครัวของฉัน? เธอไม่เพียงไม่มีสิทธิ์เรื่องนี้ แม้แต่คุณเอง ก็ไม่มีสิทธิ์เข้ามายุ่งเรื่องในครอบครัวของฉัน!”
เย่โจงฉวนถอนหายใจและพูด:”เห้อ…คุณพูดถูก เธอไม่ควรทำอย่างนี้จริงๆ ฉันขอโทษแทนเธอด้วย คุณปล่อยเธอกลับมาได้ไหม…”
เย่เฉินพูดอย่างเย็นชา:”ฉันพูดแล้ว ให้เธออยู่ฉลองตรุษจีนที่เมืองจินหลิง หลังตรุษจีนฉันจะปล่อยเธอกลับไป แต่ก่อนฉลองตรุษจีน ไม่มีใครสามารถทำให้เธอไปจากเมืองจินหลิงได้! ไม่ว่าใครหน้าไหนฉันก็ไม่สน!”
เย่โจงฉวนที่อยู่ปลายสายลังเลชั่วครู่และพูดอย่างจำใจ:”ก็ได้ ทำตามที่คุณบอกละกัน!”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ทำให้เย่ฉางหมิ่นสิ้นหวังทันที เธอพูดอ้อนวอน:”พ่อ! ฉันอยากกลับไปฉลองตรุษจีนกับพ่อที่เย่นจิง!”
เย่โจงฉวนพูดอย่างจริงจัง:”ฉางหมิ่น เธอมีนิสัยที่เย่อหยิ่งยโสเกินไปจริงๆ ใช้ประโยชน์จากบทเรียนครั้งนี้ ดัดนิสัยตัวเองบ้าง คุณก็อายุใกล้จะห้าสิบปีแล้ว อย่าทำตัวเหมือนวัยรุ่นหนุ่มสาวที่สร้างแต่ปัญหาตลอด!”
“ฉัน…”เย่ฉางหมิ่นเจอคำพูดนี้เข้าไปจนไม่รู้จะตอบยังไง
เย่โจงฉวนพูดอีกครั้ง:”เฉินเอ๋อ มีเวลาก็กลับมาที่ตระกูลเย่สักครั้ง คุณปู่คิด…”
ยังไม่ทันที่เย่โจงฉวนจะพูดว่า‘คิดถึงคุณมากๆ’ออกมา เย่เฉินก็กดวางสายโทรศัพท์ทันที
เขาไม่ได้มีความรู้สึกผูกพันกับเย่โจงฉวนเลย ยิ่งไปกว่านั้น การเสียชีวิตของพ่อแม่ เขาก็มีส่วนเกี่ยวข้องไม่มากก็น้อย ดังนั้นเย่เฉินไม่ได้มีความอดทนที่จะคุยกับเขา
ทันทีที่วางโทรศัพท์ เย่ฉางหมิ่นก็สะอื้นและถาม:”เย่เฉิน! ถ้าจะให้ฉันอยู่ฉลองตรุษจีนที่เมืองจินหลิงก็ได้ ฉันจะขอห้องเพรสซิเดนสูทของโรงแรมป๋ายจินฮ่านกงเพื่อฉลองตรุษจีนเพียงคนเดียว!”
เย่เฉินหัวเราะ:”ห้องเพรสซิเดนสูทของโรงแรมป๋ายจินฮ่านกงเหรอ? ฉันคิดว่าคุณเพ้อฝันไปแล้ว ฉันจะเช่าบ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้านชุมชนให้คุณอยู่ และให้คุณอาศัยอยู่ที่นั่นหนึ่งสัปดาห์”
“อะไรนะ?!”เย่ฉางหมิ่นพูดอย่างสิ้นหวัง:”คุณ…คุณจะให้ฉันไปอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านชุมชน?! คุณใจร้ายเกินไปแล้วๆ!”
เย่เฉินยิ้มเยาะเย้ย จู่ๆเขาก็นึกออกว่าใกล้จะถึงวันตรุษจีนแล้ว คุณชายขงที่ปั่นจักรยานมาที่เมืองจินหลิง ไม่รู้ว่าตอนนี้เขาถึงไหนแล้ว?
ดังนั้น เขาก็เลยโทรศัพท์หาต่งรั่งหลิน
ทันทีที่รับสาย ต่งรั่งหลินก็ถามด้วยความดีใจ:”เย่เฉิน ทำไมคุณถึงโทรศัพท์มาหาฉัน?”
เย่เฉินถามเธอ:”รั่งหลิน ลูกพี่ลูกน้องของคุณที่ชื่อคุณชายขง ตอนนี้เขาอยู่ไหนแล้ว?”
ต่งรั่งหลินพูด:”ตอนเช้าเขาบอกฉันว่าใกล้จะข้ามแม่น้ำแยงซีแล้ว และคาดว่าคืนนี้น่าจะถึงเมืองจินหลิง”
เย่เฉินขมวดคิ้ว:”ทำไมถึงช้าจังเลย?”
ต่งรั่งหลินพูดอย่างจำใจ:”เขาประสบอุบัติเหตุเล็กน้อย และแขนของเขาได้รับบาดเจ็บ ทำให้เขามาถึงช้าหน่อย”
เย่เฉินถามอีกครั้ง:”คุณหาบ้านพักที่หมู่บ้านชุมชนให้เขาหรือยัง?”
ต่งรั่งหลินพูด:”หาไว้แล้ว หาบ้านพักตามที่คุณต้องการ ค่าเช่าเดือนละห้าร้อยหยวน”
เย่เฉินรับปากและพูด:”ดีแล้ว พรุ่งนี้ฉันจะไปตรวจสอบ”
เมื่อวางสายแล้ว หงห้าก็จับตัวอู๋ตงไห่ที่ถูกถุงผ้าสีดำคลุมศีรษะเดินเข้ามา
เย่เฉินพูดกับเขาทันที:”สั่งคนให้ไปที่หมู่บ้านชุมชน หาห้องเดี่ยวที่แย่ที่สุด และส่งตัวคุณผู้หญิงเย่ไปพักที่นั่นเจ็ดคืน ภายในเจ็ดวันนี้ห้ามเธอออกจากห้อง เรื่องอาหาร เครื่องดื่มและของใช้จำเป็น คุณให้คนซื้อไปให้เธอ ไม่ว่าจะเป็นอาหารหรือของใช้ประจำวัน อนุญาตให้ซื้อของธรรมดาทั่วไปเท่านั้น เข้าใจหรือยัง?”
หงห้ารีบพยักหน้าทันทีและพูด:”ได้ครับ อาจารย์เย่ ฉันจะไปจัดการเดี๋ยวนี้เลย!”