“ขุมกำลังของตระกูลเย่ แข็งแกร่งกว่าตระกูลHorowitzอย่างน้อยหลายสิบเท่า!”
คิดมาถึงตรงนี้ Walterถึงเพิ่งรู้สึกตัวอย่างจริงจัง แท้จริงแล้วตนนั้นน่าเศร้าและน่าขันมากเพียงใด
คิดเอาเองว่ามาที่จินหลิงแล้ว ขอเพียงหลบซ่อนเฉินจื๋อข่ายก็สามารถทำทุกอย่างได้ตามใจปรารถนา แต่คิดไม่ถึงว่าชั่วประเดี๋ยวเดียวถึงกับไปแหย่ถูกคุณชายตระกูลเย่เข้า!
ด้วยเหตุนี้ ทางหนึ่งเขาจึงตบหน้าตัวเองแรงๆ ไม่หยุด ทางหนึ่งก็ร้องไห้พูดว่า “คุณชายเย่ เป็นผมที่ตาไร้แวว คิดไม่ถึงว่าจะไปหยาบคายใส่คุณเข้า ผมไม่รู้ว่าหวังตงเสวี่ยนเป็นเพื่อนของคุณ หากผมรู้ล่ะก็ ถึงตีผมให้ตาย ผมก็ไม่มีทางคิดแผนการใดๆ กับเธอ…”
เย่เฉินยิ้มแล้วถามเขาว่า “งั้นแกรู้ไหมว่าตี้เหากรุ๊ปก็เป็นธุรกิจของฉันเช่นกัน?”
“หา?!” Walterเบิกตากว้าง พูดโพล่งออกมาว่า “อันนี้…อันนี้…อันนี้ผมไม่รู้จริงๆ นะครับคุณชายเย่…หากผมรู้ ต่อให้คุณมอบความกล้าให้ผม ผมก็ไม่กล้าคิดชั่วกับตี้เหากรุ๊ปเหมือนกัน…”
ก่อนที่Walterจะมา ก็ตั้งใจสืบภูมิหลังของตี้เหากรุ๊ปมาเป็นพิเศษ
แต่เพราะว่าบริษัทแห่งนี้ตระกูลเย่เป็นผู้ซื้อมาแล้วมอบให้เย่เฉิน ดังนั้นจึงไม่ได้เข้าไปอยู่ในทรัพย์สินของตระกูลเย่เอง
เขาสืบไปสืบมาจึงสืบไม่เจอภูมิหลัง เลยนึกว่าเป็นเพียงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของคนในท้องที่แห่งหนึ่ง
ประกอบกับเขาคิดว่าจะยืนอยู่ในหัวเซี่ยได้มั่นคงอย่างรวดเร็ว ถึงขั้นบรรลุผลกำไรได้อย่างรวดเร็วด้วยซ้ำ อีกทั้งหวังตงเสวี่ยนก็เป็นรองประธานของตี้เหากรุ๊ปพอดิบพอดี ดังนั้นเขาจึงเกิดความคิดกับหวังตงเสวี่ยนขึ้นมา
เขามักรู้สึกว่าขอเพียงหวังตงเสวี่ยนถูกตนควบคุมไว้ได้ ตนจะไม่เพียงได้ครอบครองหวังตงเสวี่ยน ยังสามารถดูดเลือดส่วนหนึ่งจากตัวตี้เหากรุ๊ปได้ด้วย เพื่อใช้มาเพิ่มพลังให้กับตนเองอย่างรวดเร็ว
แต่เขาคิดอย่างไรก็คิดไม่ถึงว่าบริษัทที่ตนอยากดูดเลือด ถึงก้บเป็นธุรกิจของคุณชายตระกูลเย่!
แบบนี้ก็เหมือนกับหนูตัวหนึ่ง โหยหาอาหารของเสือโดยไม่ประมาณกำลังของตนเอง ช่างรนหาที่ตายโดยแท้!
ยามนี้เฉินจื๋อข่ายมองWalterแวบหนึ่ง ในดวงตาเจือแววสงสารอยู่หลายส่วน พลางลอบตรึกตรองอยู่ในใจ “Walterผู้นี้ก็นับได้ว่าหล่อเหลาสง่างาม ท่าทางมีความสามารถ ประกอบกับที่บ้านก็เป็นนักธุรกิจใหญ่ เดินทีอนาคตควรไปได้ไกลกว่านี้”
“แต่ว่า เขาแหย่ใครไม่แหย่ ดันไปแหย่คุณชายเข้า นี่ไม่เท่ากับว่าบินมาไกลจากอเมริกาหมื่นกว่ากิโลเมตรเพื่อมารนหาที่ตายหรอกหรือ?”
พร้อมกันนั้นเฉินจื๋อข่ายก็มองไปที่เย่เฉิน ถามอย่างนอบน้อมว่า “คุณชาย ตอนนี้ผมพาWalterไปได้หรือยัง?”
เย่เฉินพยักหน้า “พาไปเถอะ”
Walterตกใจจนตัวสั่นมือเท้าไร้เรี่ยวแรง ตะโกนโพล่งออกมาว่า “คุณชายเย่ ได้โปรดปล่อยผมไปเถอะ คุณชายเย่! ย่าผมเป็นคนตระกูลรอธส์ไชลด์ ตระกูลรอธส์ไชลด์คุณน่าจะเคยได้ยินสินะ? ตระกูลชั้นนำของโลก ร่ำรวยมหาศาล เศรษฐกิจและแหล่งพลังงานสำคัญทั่วทั้งยุโรป-อเมริกา มีมากกว่าครึ่งที่อยู่ในมือของตระกูลรอธส์ไชลด์!”
“หากคุณปล่อยผม ผมสามารถช่วยคุณสร้างเส้นสายกับตระกูลรอธส์ไชลด์ได้ ทำให้คุณกับตระกูลรอธส์ไชลด์ร่วมมือกัน สิ่งนี้สำหรับคุณแล้ว ผลประโยชน์คงไม่ต้องพูดถึง!”
เย่เฉินได้ยินก็หัวเราะเสียงเย็น “ขอโทษด้วย ความร่วมมือที่ฉันมีต่อตระกูลรอธส์ไชลด์ ไม่น่าสนใจสักนิด”
เมื่อWalterพบว่าหลอกล่อไม่สำเร็จ ก็ดิ้นรนเฮือกสุดท้ายกล่าวว่า “หากคุณยืนกรานจะขังผมไว้ กระทำการทารุณอย่างผิดมนุษยธรรมจริง หากตระกูลรอธส์ไชลด์รู้ คุณเคยคิดถึงผลที่ตามมาหรือไม่?”
“แม้ผมจะไม่ได้ใช้นามสกุลรอธส์ไชลด์ แต่ผมก็มีสายเลือดของตระกูลรอธส์ไชลด์อยู่ในตัวหนึ่งในสี่ส่วน รอธส์ไชลด์ไม่มีทางยอมให้มีคนปฏิบัติเช่นนี้ต่อลูกหลานที่มีสายเลือดของพวกเขาแน่!”
“ถึงเวลานั้น พวกเขาจะต้องไม่ปล่อยคุณไปแน่ พวกเขาจะทำให้คุณตายอย่างน่าเวทนา!”
พอเฉินจื๋อข่ายได้ยินเช่นนี้ ก็ตบหน้าWalterด้วยความโมโหไปหนึ่งฉาด พร้อมกล่าวเสียงเย็นว่า “แกรนหาที่ตายใช่ไหม? ความตายมาเยือนที่หัวกบาลแล้ว ยังกล้าพูดจาอวดดีกับคุณชายอีก เชื่อไหมว่าฉันตัดลิ้นแกได้?!”
เวลานี้เย่เฉินโบกมือตัดบทเฉินจื๋อข่าย พลางกล่าวเสียงเรียบว่า “เหล่าเฉิน เขาอยากพูดอะไรก็ให้เขาพูดไป”
Walterตะโกนขึ้นอย่างยากจะปกปิดความตื่นตระหนกว่า “ฉันพูดจบแล้ว! ทางที่ดีคุณควรคิดใคร่ครวญให้หนัก ต้องการจะล่วงเกินทั้งตระกูลรอธส์ไชลด์เพราะผมจริงๆ ใช่ไหม?”
เย่เฉินพยักหน้า ก่อนจะยิ้มน้อยๆ แล้วพูดอย่างใคร่ครวญว่า “ขอบอกแกตามตรง ฉันไม่กลัวที่จะล่วงเกินตระกูลรอธส์ไชลด์เลย เพราะต่อให้พวกเขาไม่มาหาฉัน ช้าเร็วฉันก็ต้องไปหาพวกเขาเอง!”
พูดถึงตรงนี้ เย่เฉินก็ชะงักไปเล็กน้อย พูดด้วยน้ำเสียงเด็ดเดี่ยวทั้งยังเต็มไปด้วยความโอหังว่า “ฉันยังมีหนี้เลือด ต้องการค่อยๆ คิดบัญชีทบต้นทบดอกกับตระกูลรอธส์ไชลด์!”