เย่เฉินพยักหน้าเบาๆ
สำหรับคฤหาสน์หลังเก่าที่พ่อแม่เคยพักอาศัย เขาต้องการได้มันมาครอบครอง
เพราะคฤหาสน์หลังนี้ เป็นที่พักอาศัยครั้งสุดท้ายของพ่อแม่ ซึ่งมันมีความสำคัญต่อเขาอย่างยิ่ง
เนื่องจากมีรถยนต์หลายคันของกรมบังคับคดีได้ถูกประมูลออกไป งานประมูลตอนนี้ก็เข้าสู่การประมูลอสังหาริมทรัพย์ทันที
มีอสังหาริมทรัพย์สิบสามหลังที่เข้าร่วมงานประมูลของกรมบังคับคดีในครั้งนี้ และในบรรดาอสังหาริมทรัพย์ทั้งสิบสามหลังนี้ ราคาเริ่มประมูลที่ถูกที่สุดคือคฤหาสน์ที่พ่อแม่ของเขาเคยพักอาศัย
เหตุผลหลักเพราะคฤหาสน์หลังนี้ถูกเมืองจินหลิงจัดให้อยู่ในสถาปัตยกรรมที่ได้รับการคุ้มครอง ไม่เพียงห้ามรื้อถอนเท่านั้น ยังห้ามสร้างคฤหาสน์หลังใหม่ด้วย
สิ่งสำคัญที่สุดคือ ไม่ว่าใครเป็นคนซื้อคฤหาสน์หลังนี้ไป จำเป็นต้องปกป้องและรักษาคฤหาสน์หลังนี้เอาไว้เหมือนเดิม
เดิมทีคฤหาสน์ก็เก่ามากๆแล้ว และไม่สามารถรื้อถอนเพื่อเพิ่มมูลค่าได้ แม้ว่าคุณจะต้องการสร้างคฤหาสน์ใหม่ก็ไม่ได้รับอนุญาต ดังนั้นจึงทำให้คนอื่นๆให้ความสนใจกับคฤหาสน์หลังนี้น้อยมาก
ไม่ว่าใครที่เป็นคนซื้อคฤหาสน์หลังนี้ไว้ ก็ไม่สามารถขายมันเพื่อเปลี่ยนเป็นเงินสดได้
แต่เย่เฉินกับตู้ไห่ชิงกำลังรอการประมูลคฤหาสน์หลังนี้อยู่
เนื่องจากคฤหาสน์หลังนี้มีราคาประมูลที่ต่ำที่สุด เมื่อเข้าสู่การประมูลอสังหาริมทรัพย์ พิธีกรงานประมูลก็ฉายรูปภาพของคฤหาสน์นี้ขึ้นจอขนาดใหญ่และอธิบายทันที:”คฤหาสน์หลังแรกที่พวกเราจะประมูลในวันนี้ เป็นคฤหาสน์ที่อยู่หน้าตลาดเก่าที่ได้รับการปกป้องและคุ้มครอง สำหรับข้อมูลเฉพาะของคฤหาสน์หลังนี้ ทุกท่านสามารถอ่านได้จากคู่มือของงานประมูล ดังนั้นพวกเราจะไม่แนะนำเพิ่มเติมอีกแล้ว และจะเริ่มการประมูลทันที ราคาเริ่มต้นประมูลอยู่ที่แปดแสนแปดหมื่นหยวน ตอนนี้เริ่มการประมูลได้!”
เมื่อสิ้นเสียงของพิธีกรงานประมูล ตู้ไห่ชิงก็ถือป้ายประมูลทันที และพูด:”หนึ่งล้านหยวน”
“โอเค!”พิธีกรงานประมูลพูดทันที:”ผู้ประมูลหมายเลข 34 ให้ราคาหนึ่งล้านหยวน ยังมีใครให้ราคาสูงกว่านี้อีกไหม?”
ชายวัยกลางคนที่มีหน้าตาธรรมดาและนั่งอยู่มุมห้อง รีบยกป้ายประมูลและพูดทันที:”หนึ่งล้านห้าแสนหยวน!”
ชายวัยกลางคนคนนี้ คือคนขับรถของเฉินจื๋อข่าย
“หนึ่งล้านห้าแสนหยวน?!”พิธีกรงานประมูลตกตะลึงทันที คฤหาสน์หลังนี้ราคาประมูลเริ่มต้นเพียงแปดแสนแปดหมื่นหยวน แค่มีคนให้ราคาเพียงสองครั้ง ราคาก็ขึ้นไปที่หนึ่งร้อยห้าแสนหยวนแล้ว ดูเหมือนราคาของมันเพิ่มขึ้นเกือบหนึ่งเท่าแล้ว!
สิ่งที่ต้องรู้คือคฤหาสน์หลังนี้ไม่สามารถเพิ่มมูลค่าได้เลย!
ใช้เงินหนึ่งล้านห้าแสนหยวนเพื่อซื้อคฤหาสน์หลังนี้ มีทางเดียวที่เป็นไปได้คือเก็บไว้ในมือของตัวเองเพราะมันขายไม่ได้
เนื่องจากประหลาดใจ เขายังไม่ทันตั้งตัว ตู้ไห่ชิงก็ยกป้ายประมูลขึ้นมาอีกครั้ง และพูดอย่างจริงจัง:”ฉันให้สองล้านหยวน”
พิธีกรงานประมูลยิ่งประหลาดใจมากขึ้น
เขารีบมองไปที่ตู้ไห่ชิง และเตือนทันที:”ผู้ประมูลหมายเลข34 ฉันต้องเตือนคุณไว้ก่อน คฤหาสน์หลังนี้ห้ามรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง และห้ามสร้างคฤหาสน์หลังใหม่ และต้องปกป้องรักษาให้เป็นสภาพเดิมตามข้อกำหนดของเมืองจินหลิง ในเวลาเดียวกันก็ต้องแบกรับภาระหน้าที่ในการซ่อมแซมคฤหาสน์หลังนี้ คฤหาสน์ที่มีข้อจำกัดแบบนี้ คุณแน่ใจหรือเปล่าว่าคุณเข้าใจเรื่องนี้?”
ตู้ไห่ชิงพยักหน้า:”ฉันเข้าใจเรื่องนี้”
พิธีกรงานประมูลรู้สึกสับสนมากๆ แต่เขาก็พยักหน้าและเอ่ยปากพูด:”ผู้ประมูลหมายเลข34ให้ราคาสองล้านหยวน ยังมีใครให้ราคาที่สูงกว่านี้อีกไหม?”
ชายวัยกลางคนที่อยู่มุมห้องรีบพูดทันที:”ฉันให้สามล้านหยวน!”
“สามล้านหยวน…”พิธีกรงานประมูลเช็ดเหงื่อตัวเองทันทีและพูดอีกครั้ง:”ตอนนี้ผู้ประมูลหมายเลข22ให้ราคาสามล้านหยวน ยังมีใครให้ราคาที่สูงกว่านี้อีกไหม?”
“สี่ล้านหยวน!”ตู้ไห่ชิงยกป้ายประมูลขึ้นมาพูดทันทีโดยไม่ต้องคิด
เมื่อพิธีกรงานประมูลได้ยินคำพูดนี้ รีบพูดทันที:”ผู้ประมูลหมายเลข34ให้ราคาสี่…”
เขายังไม่ทันพูดจบ คนขับรถของเฉินจื๋อข่ายก็พูดเสียงดังทันที:”ฉันให้ห้าล้านหยวน!”
ครั้งนี้ตู้ไห่ชิงไม่ได้ให้พิธีกรงานประมูลได้มีเวลาคิดอีก เธอรีบพูดออกมาทันที:”ฉันให้แปดล้านหยวน”
แปดล้านหยวน?!
ทุกคนในงานประมูลต่างอุทานขึ้นมาทันที!
คฤหาสน์หลังเก่านี้ ในสายตาของผู้ประมูลคนอื่นๆนั้น มันไม่มีค่าเลย
คฤหาสน์ที่ทั้งเก่าและทรุดโทรมขนาดนี้ ไม่เพียงไม่มีมูลค่าทางการตลาดเท่านั้น แต่ยังพักอาศัยไม่สะดวกและไม่สบายด้วย
คฤหาสน์เก่าๆแบบนี้คงทรุดโทรมและมีรูรั่วเต็มไปหมด ฤดูหนาวก็คงจะหนาวมากๆ ฤดูร้อนก็คงจะร้อนมากๆเช่นกัน ถ้าพักอาศัยในคฤหาสน์แบบนี้ ก็เช่าบ้านราคาถูกที่ในตัวเมืองเตรียมไว้ให้จะดีกว่า
ดังนั้นทุกคนจึงรู้สึกว่าด้วยราคาเริ่มต้นประมูลที่แปดแสนแปดหมื่นหยวน คฤหาสน์หลังนี้คงประมูลไม่ออกอย่างแน่นอน
แต่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน คฤหาสน์หลังนี้ที่ไม่มีมูลค่าใดๆเลย ใช้เวลาสั้นๆก็มีคนให้ราคาสูงถึงแปดล้านหยวนแล้ว