ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน – บทที่ 3107

บทที่ 3107

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ว่านพั่วจวินกัดฟันและกล่าวว่า  เอาอย่างนี้ ตอนนี้คุณอย่าเพิ่งแข็งกร้าวกับกองกำลังของรัฐบาลมากนัก ในเมื่อพวกเขาต้องการเจรจาสงบศึกกับฮามิด งั้นคุณควรมีส่วนร่วมในรายละเอียดเฉพาะของการเจรจาสงบศึกคราวนี้ด้วย เป็นการดีที่สุดถ้าคุณสามารถชะลอจังหวะและความคืบหน้าของการเจรจาสงบศึก แต่ถ้ากองกำลังของรัฐบาลตัดสินใจแล้ว คุณต้องแสดงท่าทีไม่ประนีประนอมทันที และให้ทหารของพวกเราเฝ้าอยู่ที่นั่น รอจนกว่าผมจะทำสิ่งสำคัญที่นี่เสร็จก่อนแล้วค่อยไปแก้ปัญหาทางโน้น! 

เฉินจงเหล่ยทำได้เพียงตกลงและกล่าวว่า  งั้นตอนบ่ายผมจะไปพบคนของฮามิดก่อน เพื่อดูว่าทัศนคติของพวกเขาว่าเป็นอย่างไร? 

 โอเค  ว่านพั่วจวินกำชับ  ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม คุณต้องถ่วงเวลาฮามิดและกองกำลังของรัฐบาล และอย่าปล่อยให้พวกเขาตกลงกันเป็นการส่วนตัว ถ้ากองกำลังของรัฐบาลรอไม่ได้อยากจะถอนตัว บอกพวกเขาว่าผมว่านพั่วจวินใช้ชื่อเสียงของตนเองรับประกัน ไม่ว่าฮามิดจะมีอาวุธยุทโธปกรณ์และยุทธปัจจัยสำรองมากแค่ไหน ผมจะกำจัดเขาก่อนสิ้นเดือนเมษายน ผมเชื่อว่าพวกเขาเคยได้ยินถึงความสามารถของผม! 

……

หลังจากเฉินจงเหล่ยตกลงที่จะเจรจาสงบศึก คนกลางก็รายงานข่าวดังกล่าวไปยังฮามิดอย่างรวดเร็ว

เวลาสำหรับการเจรจาสงบศึกถูกกำหนดไว้ที่เวลา 15.00 น. ของวันนี้ สำหรับสถานที่การเจรจาสงบศึกนั้นอยู่ที่ค่ายทหารที่เฉินจงเหล่ยและผู้บัญชาการกองทัพของรัฐบาลประจำการอยู่

เพียงแต่อีกฝ่ายไม่ได้แจ้งพิกัดตำแหน่งเฉพาะของสถานที่ประจำการ แต่ให้พิกัดสถานที่รับส่งแก่ฮามิด และขอให้นักบินของฮามิดส่งผู้แทนเจรจาไปยังสถานที่รับส่งก่อน จากนั้นเฮลิคอปเตอร์ของพวกเขาจะพาคนผู้แทนเจรจาไปสถานที่เจรจาเอง

เย่เฉินรู้แรงจูงใจที่อีกฝ่ายทำเช่นนี้อย่างชัดเจน พวกเขากลัวว่าตำแหน่งของผู้นำจะรั่วไหล และเกรงว่าเมื่อถึงเวลานั้นฮามิดจะยิงกระสุนปืนใหญ่ไปที่พิกัดนั้นโดยตรง ดังนั้นเขาจึงไม่คัดค้าน

ฮามิดยังเรียกร้องเงื่อนไขสามข้อกับอีกฝ่าย

ประการแรก ที่โต๊ะเจรจา นอกเหนือจากผู้แทนเจรจาของตนเองแล้ว สำนักว่านหลงและกองทัพของรัฐบาลจะต้องส่งผู้บัญชาการระดับสูงสุดของพวกเขามาเจรจามิฉะนั้นพวกเขาจะถูกยกเลิกการเจรจา

ประการที่สอง ผู้แทนเจรจาของตนเองจะนั่งเฮลิคอปเตอร์ออกจากฐานทัพของตนเอง เมื่อถึงเวลานั้นเฮลิคอปเตอร์จะถอดอาวุธและกระสุนทั้งหมดออก และอีกฝ่ายต้องสัญญาอย่างชัดเจนว่าทหารทั้งหมดจะไม่ยิงเฮลิคอปเตอร์ของฝ่ายตนเอง

ประการที่สาม ไม่ว่าผลการเจรจาของทั้งสองฝ่ายจะเป็นอย่างไร พวกเขาต้องไม่ทำร้ายผู้แทนเจรจาของตนเอง

คำขอทั้งสามข้อของเขานั้นสมเหตุสมผล ดังนั้นจึงได้รับคำตอบจากอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว

เวลา 14.30 น. เย่เฉินสวมชุดลายพรางและหน้ากากอนามัย เตรียมตัวขึ้นเฮลิคอปเตอร์ของฮามิดเพื่อไปยังสถานที่รับส่งที่ตกลงกับอีกฝ่ายไว้

ฮามิดกังวลเรื่องความปลอดภัยของเย่เฉินเป็นอย่างมาก เพราะกลัวว่าเย่เฉินจะประสบเคราะห์กรรมหลังจากเข้าไปในถ้ำเสือ

แต่เมื่อเย่เฉินได้ตัดสินใจแล้ว เขารู้ว่าตนเองไม่สามารถโน้มน้าวเย่เฉินได้ ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงส่งเย่เฉินไปที่เฮลิคอปเตอร์และกล่าวอย่างจริงใจว่า  น้องชาย ดูแลตนเองด้วย ผมจะรอคุณกลับมาอยู่ที่นี่! 

เย่เฉินพยักหน้าและกล่าวราบเรียบว่า  หลังจากผมไปแล้ว มัดซูโสว่เต้าเอาไว้ และเมื่อผมกลับมาแล้วผมจะพาเขาขึ้นเฮลิคอปเตอร์และจากไปทันที 

ฮามิดรีบกล่าวว่า  โอเค น้องชาย คุณวางใจเถอะ ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้! 

หลังจากกล่าวจบ ฮามิดก็ถามเขาอีกครั้งว่า  น้องชาย หลังจากคุณควบคุมพญาหมาป่าเนตรเขียวได้แล้ว คุณจะลงโทษเขาอย่างไร? 

เย่เฉินกล่าวโดยไม่ลังเล  เมื่อถึงเวลานั้นผมจะพาเขาไปด้วย แต่มันอาจจะทำให้คุณลำบากเล็กน้อย เพราะสำนักว่านหลงจะคิดบัญชีนี้กับคุณอย่างแน่นอน 

ฮามิดกล่าวอย่างไม่แยแสว่า  ผมได้ฆ่าทหารของสำนักว่านหลงไปแล้ว 2,500 คน และถ้าเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคนก็ไม่เป็นไร! 

 

ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

Status: Ongoing

เย่เฉินเป็นเขยแต่งเข้าบ้านหญิงที่ใครๆก็ดูถูกเหยียดหยาม แต่ไม่มีใครรู้ว่าฐานะแท้จริงของเขาเป็นคุณชายใหญ่ของตระกูลอันดับต้นๆ พวกที่เคยดูถูกเขาสุดท้ายก็ต้องคุกเข่าต่อหน้าเขาและเรียกเขาด้วยความเกรงกลัวว่าท่านชาย!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท