I Am A Prodigy ฉันนี่แหละอัจฉริยะ! – ตอนที่ 34

ตอนที่ 34

ด้วยระยะทางตอนนี้มหาวิทยาลัยปักกิ่งอยู่ไม่ไกลแล้ว เหย่หลิงเฉินจึงเดินไปตามทางที่เหลือเพื่อมุ่งหน้าสู่จุดหมาย

ด้านหลังของเขาหญิงสาวลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะวิ่งตามเขาไป

“นี่ ฉันขอโทษที่เข้าใจผิด”

เหย่หลิงเฉินไม่สนใจเธอ

“นี่ เธอนี่เป็นคนยังไงกันเนี่ย ฉันขอโทษไปแล้วนะ และเธอก็ไม่ได้บอกฉันด้วยว่าพวกเขาเป็นผู้ค้ามนุษย์”

เมื่อได้รับความเย็นจากเหย่หลิงเฉินหญิงสาวจึงเดินไปขวางทางเหย่หลิงเฉินข้างหน้า “ฉันกำลังพูดกับเธออยู่นะ ได้ยินไหม?”

ในที่สุดเหย่หลิงเฉินก็มองไปที่หญิงสาวตรงหน้าเขา

ตาใส ฟันขาว ผิวสวย และใบหน้าสวย เปรียบได้กับเสี่ยวเฟยเฟยเลยทีเดียว ยิ่งไปกว่านั้นบุคลิกที่หยิ่งผยองของเธอมันกระตุ้นให้คนอื่นอยากเข้ามาครอบงำเธอมากขึ้นไปอีก

“ฉันกลัวว่าเธอจะเข้าใจผิดว่าฉันเธอจีบอีกถ้าฉันพูดกับเธอ” เหย่หลิงเฉินตอบอย่างไม่เป็นทางการทำให้หญิงสาวรู้สึกอึดอัดใจ

เขาไม่ได้แสดงอารมณ์ใด ๆ เขาเดินไปเรื่อย ๆ มหาวิทยาลัยปักกิ่งอยู่ข้างหน้านี้แล้ว หญิงสาวหน้ามุ่ยจากนั้นก็เดินตามหลังเหย่หลิงเฉินโดยแอบมองด้านหลังของเขาเป็นครั้งคราว

มหาวิทยาลัยปักกิ่งเป็นสถาบันการศึกษาอันดับหนึ่งของจีน

ประตูหลักเป็นประตูสีแดงสไตล์พระราชวังคลาสสิกซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกหันหน้าไปทางทิศตะวันตก ความสูงไม่เกินแปดเมตร สถาปัตยกรรมแบบชนบทแสดงให้เห็นถึงความเคร่งขรึมและสง่างามทำให้เกิดความรู้สึกชาตินิยมอย่างมาก ที่ด้านข้างของประตูมีสิงโตหินสองตัวยืนตระหง่าน

ภายในบริเวณมหาวิทยาลัยมีนักศึกษาเข้ามาคุยกันอย่างสนุกสนาน

ชายหนุ่มและหญิงสาวกำลังมองเห็นทิวทัศน์ที่สวยงามข้างหน้านี้

บรื้นนนนน ๆๆๆๆ

เสียงเครื่องยนต์คำรามดังใกล้เข้ามา รถสปอร์ต Audi R8 สีแดงเข้มที่ตรงเข้ามาราวกับลูกไฟที่บินได้ขับตรงเข้ามาที่หน้าเหย่หลิงเฉินและขวางเส้นทางเดินของเขา

ชายในชุดสูทที่ตัดเย็บมาอย่างดีเดินลงมาจากรถพร้อมกับหวีผมแบบหางเป็ด เขาสวมรองเท้าหนังมันวาว

ในมือของเขามีดอกกุหลาบสีแดงช่อโต

“ดูสิ นั่นเขา เหอหยวน!”

“ว้าว หล่อมาก!”

“เขาถือดอกไม้มาด้วย จะเอาไปให้ใครกัน? โรแมนติกมาก…”

“งื้อออ ถ้าเขาให้ฉันแบบนี้ฉันจะยิ้มจนปากฉีกแน่ ๆ”

เสียงร้องกรี๊ดกร๊าดของแฟน ๆ อยู่รอบตัวของเหย่หลิงเฉิน ทำให้เหย่หลิงเฉินมองผู้ชายคนนี้ในทางที่ดี

คุณสมบัติที่หล่อเหลาจับคู่กับความเป็นหนุ่มสาว ความมั่งคั่ง และแฟชั่นที่โดดเด่นทันสมัย อีกทั้งยังมีรอยยิ้มที่สดใสบนใบหน้าของเขาอีกด้วย ไม่น่าแปลกใจที่สาว ๆ จะกรี๊ดเขาแบบนี้

เหอหยวนเดินผ่านเหย่หลิงเฉินโดยไม่ใส่ใจใด ๆ เขาถามหญิงสาวว่า “มู่ซือ ทำไมเธอไม่บอกฉันก่อนว่าเธอมาที่นี่ ฉันจะได้ไปรับ”

ลี่มู่ซือหน้าบึ้งและตอบอย่างเย็นชา “ขอบคุณสำหรับน้ำใจ แต่ไม่เป็นไร”

เหอหยวนเคยชินกับทัศนคติและอารมณ์ของมู่ซือแล้ว เขารักษารอยยิ้มและส่งดอกกุหลาบในมือไปให้เธอ “เมื่อกี้ฉันผ่านร้านดอกไม้และคิดว่าดอกไม้ช่อนี้เหมาะกับเธอ หวังว่าเธอจะชอบมันนะ”

เขาเป็นคนฉลาดในการใช้คำพูด เขาไม่ให้ของขวัญกับเธอแบบตรง ๆ ทำให้ผู้หญิงส่วนใหญ่ปฏิเสธได้ยาก

อย่างไรก็ตามลี่มู่ซือเดินไปข้างหน้าโดยไม่ยอมรับดอกกุหลาบ แต่เดินขึ้นไปที่ด้านข้างของเหย่หลิงเฉินแทน เธอเกี่ยวแขนรอบข้อศอกของเหย่หลิงเฉินและแกล้งทำเป็นสนิทสนม

“คุณชายเหอ ถ้าฉันรับดอกไม้นั่นฉันกลัวว่าแฟนของฉันเขาจะโกรธเอาน่ะค่ะ”

ในขณะนั้นฝูงชนรอบข้างเบิกตากว้างด้วยความตกใจ

สายตาจากฝูงชนต่างจ้องมองไปที่เหย่หลิงเฉิน

เสื้อผ้าที่เรียบง่าย และรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดเล็กน้อย แต่อย่างไรก็ตามเขาก็ยังคงเป็นเพียงคนธรรมดา

ผู้ชายคนนี้เป็นแฟนของลี่มู่ซือเหรอ?

เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดนี้ทำให้เหย่หลิงเฉินขมวดคิ้ว

ผู้หญิงคนนี้! เธอใช้เขาเป็นโล่!

ย้อนกลับไปตอนที่เขาอยู่บนรถบัส เหย่หลิงเฉินสังเกตเห็นแล้วว่าผู้หญิงคนนี้หลงตัวเองราวกับว่าเธอเป็นนางฟ้าผู้สูงส่ง และผู้ชายทุกคนบนโลกนี้ควรจะหมุนรอบตัวเธอ

บางทีในใจของเธอ เธออาจจะใจแคบคิดว่าการมีเหย่หลิงเฉินเป็นโล่ของเธอไม่ได้สร้างปัญหาอะไรให้เขา หนำซ้ำเขาอาจรู้สึกเป็นเกียรติด้วยซ้ำที่เธอทำเช่นนี้

หลังจากใช้เหย่หลิงเฉินเป็นเครื่องมือ เธอก็เดินต่อไปโดยไม่แคร์อะไร แต่เหย่หลิงเฉินเองจะได้รับความเกลียดชังจากผู้ชายหลายคนโดยเฉพาะจากเหอหยวน ใบหน้าของเขามืดมนไปด้วยความโกรธแล้วจ้องมองไปที่เหย่หลิงเฉินด้วยความแค้นลึก ๆ

เช่นเดียวกับเรื่องราวของเฮเลนแห่งทรอย ความงามเป็นต้นตอของปัญหามากมาย..

“แฟนของเธอ?”

เหอหยวนเดินมาหาเหย่หลิงเฉิน

ศีรษะของเขาเชิดขึ้น ดวงตาเต็มไปด้วยความดูถูก “คนยากจนขี้โมโหอย่างเขาเนี่ยนะ ต่างอะไรจากขอทาน? เธอคิดว่าฉันจะเชื่อคำโกหกนั้นเหรอ?”

“ไอ้สวะ ถอยไปซะถ้ายังรักตัวเองอยู่ ฉันเป็นคนที่คนอย่างนายไม่สามารถเอาชนะได้ด้วยซ้ำ!”

ก่อนที่ลี่มู่ซือจะตอบกลับ เหย่หลิงเฉินก็คว้าเธอเข้ามาในอ้อมแขนของเขา

หลังจากนั้นเขาก็ก้มหน้าและจูบเธอ!

?!?!??!

เหอหยวนตะลึง ลี่มู่ซือตะลึง ทุกคนรอบข้างตะลึง!

สามวินาทีต่อมา เหย่หลิงเฉินเลียริมฝีปากของเขาและจ้องตรงไปที่เหอหยวน “ไง ตอนนี้เชื่อรึยัง?”

“แก!” เหอหยวนรู้สึกว่าปอดของเขากำลังจะระเบิด ดวงตาของเขาแดงก่ำจ้องมองไปที่เหย่หลิงเฉิน

ตั้งแต่ครั้งแรกที่เขาเห็นลี่มู่ซือ เขาสาบานกับตัวเองว่าผู้หญิงคนนี้จะต้องเป็นของเขาให้ได้ หลังจากผ่านไปหนึ่งปีเขาใช้กลวิธีมากมายนับไม่ถ้วน แต่ในขณะนี้เขาได้เห็นเทพธิดาของเขาถูกคางคกตัวนี้ทำให้เป็นเธอแปดเปื้อนมลทิน

สายตานั้นทำให้เขาหายใจไม่ออก

“แล้วฉันล่ะ..”

เหย่หลิงเฉินยิ้มอย่างซุกซน “ฉันจะบอกให้เอาบุญนะว่าฉันไม่ได้เพียงแค่จูบเธอเท่านั้น แต่ฉันนอนกับเธอแล้ว!”

โห!!!!!!!!!!!!

ช่วงเวลานั้นไม่ใช่แค่เหอหยวน แต่ฝูงชนทั้งหมดก็ปะทุขึ้น

ทันใดนั้นความอิจฉาและความเกลียดชังก็รวมตัวกันอย่างบ้าคลั่ง!

ลี่มู่ซือหายจากความงุนงง ทั้งใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้มจ้องมองไปที่เหย่หลิงเฉิน สายตาของเธอดูราวกับว่าเธอจะฆ่าเหย่หลิงเฉินให้ตาย ณ ตอนนั้น

อย่างไรก็ตามการแสดงต้องดำเนินต่อไป เธอไม่สามารถถอยกลับได้ในตอนนี้

“แก!” ใบหน้าของเหอหยวนเปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความโกรธ เขายิ้มเยาะขณะชี้ไปที่เหย่หลิงเฉิน “แกกล้ามากนะ! ฝากไว้ก่อนเหอะ!”

เขาหันหลังกลับและออกจากที่เกิดเหตุ เขาอายเกินกว่าจะอยู่ที่นั่นอีกต่อไป

“เหย่หลิงเฉิน! นี่มันหมายความว่าอะไร? ใครอนุญาตให้เธอทำฉันแปดเปื้อนแบบนี้?! ฉันอนุญาตให้เธอจูบฉันได้ตั้งแต่เมื่อไหร่!” ลี่มู่ซือระเบิดด้วยความโกรธ เธอจ้องมองเหย่หลิงเฉินอย่างเอาเป็นเอาตาย

เหย่หลิงเฉินอมองไปที่ลี่มู่ซืออย่างรังเกียจ “ถ้าบอกว่าเธอมีค่า ฉันเองก็มีค่าเช่นเดียวกันไม่ใช่เหรอ?!”

“เธอเป็นผู้ชาย จะเอามาเปรียบเทียบกับฉันได้อย่างไร!” ลี่มู่ซือจ้องมองไปที่เหย่หลิงเฉิน “วันนี้เธอต้องบอกกับทุกคนว่าฉันไม่ได้…ทำอะไรแบบนั้นกับเธอ!”

“เธอรู้ไหมว่าเธอจะสร้างปัญหาให้ฉันมากแค่ไหนเมื่อเธอใช้ฉันเป็นเครื่องมือแบบนี้?” เหย่หลิงเฉินจ้องไปที่ลี่มู่ซือ “ตั้งแต่ที่เธอบอกว่าเราเป็นคู่รักกัน แล้วการกระทำของฉันมันผิดอะไร?!”

ด้วยเหตุนี้เขาจึงพยายามที่จะเดินออกไป

“หยุดอยู่ตรงนั้นเดี๋ยวนี้นะ!”

“!!!!!!” เหย่หลิงเฉินส่งสายตาไม่พอใจและเดินจากไปอย่างรวดเร็ว

ลี่มู่ซือจ้องมองไปที่ด้านหลังของเหย่หลิงเฉินอย่างงุนงง ในท้ายที่สุดเธอก็ไม่ได้วิ่งตามเขา เธอทำได้เพียงย่ำลงกับพื้นอย่างโกรธ ๆ “เหย่หลิงเฉิน ฉันจะจำเธอเอาไว้!”

ตามขั้นตอนการลงทะเบียนเรียน เขาได้ทำการจ่ายค่าเล่าเรียน รวบรวมสิ่งจำเป็น หนังสือเรียน อุปกรณ์การเรียน และชุดฝึกการต่อสู้ หลังจากนั้นเหย่หลิงเฉินก็มุ่งหน้าไปยังหอพักของเขา

หอพักออร์คิด ห้อง 204

“เฮ้ย! นั่นแกกำลังทำอะไรอยู่? อย่ามัวแต่อ้อยอิ่ง รีบไปข้างหน้า!”

“ใช้ทักษะของตัวเองสิ! ไหนแสดงออกมาให้เห็นหน่อย!”

“นี่กำลังทำอะไรอยู่เนี่ย!!!!!????”

ในหอพักนี้สามารถพักอาศัยได้ 4 คน เหย่หลิงเฉินเป็นคนสุดท้ายที่มาถึง

คนหนึ่งรูปร่างสูงและผิวเข้ม คนหนึ่งมีกล้ามกับแว่น และอีกคนมีรูปร่างท้วมเล็กน้อย

เมื่อเหย่หลิงเฉินเข้ามาหน้าจอคอมพิวเตอร์ของทั้งสามก็มืดลง เป็นการแสดงว่าให้เห็นว่าทีมของพวกเขาถูกกำจัดแล้ว

“อ๊ะ นี่รูมเมทคนใหม่ของพวกเรานี่ ยินดีต้อนรับ!”

พวกเขาทั้งสามต่างหลงใหลและตื่นเต้นในการมาถึงของเหย่หลิงเฉิน

หลังจากแนะนำตัวง่าย ๆ แล้ว พวกเขาก็กลับไปที่เกมของพวกเขาต่อ อย่างไรก็ตามจากคำสาปที่ปะทุออกมาเป็นครั้งคราวจากปากนั้น แสดงว่าผลลัพธ์จากเกมคงดูไม่เป็นที่น่าพอใจสักเท่าไหร่…

ร่างสูงดำมาจากเหลียนหยุนกัง ความสูงของเขาวัดได้ที่ 192 ซม. เขาดูเหมือนนักกีฬา ชื่อของเขาคือกงเหิง โดยมีชื่อเล่นในเกมว่า Lil ’Gen

คนที่มีแว่นตาคือเจียหยุนเซียง ชื่อเล่นในเกมว่า Xiang

คนอ้วนคือจางซี่หยาน ชื่อเล่นในเกมว่า Potato

เตียงของเหย่หลิงเฉินเป็นเตียงที่สามและเป็นเตียงชั้นบน

หลังจากปูผ้าปูที่นอน ผ้าห่ม และทำความสะอาดอย่างเรียบง่ายเรียบร้อยแล้ว เหย่หลิงเฉินก็อุ้มลูกหมาป่าทั้งสองตัวออกมาวางไว้ที่ระเบียง

เมื่อได้เรียนรู้วิธีทำให้สัตว์เชื่องแล้ว เหย่หลิงเฉินก็ดูแลลูกหมาป่าทั้งสองตัวได้อย่างง่ายดายและลูกสุนัขก็เชื่อฟังเหย่หลิงเฉินเป็นอย่างดี พวกมันกลิ้งไปมาในอ้อมกอดของเขาสักพักจนพวกมันพอใจ

เมื่อวางลูกหมาป่าลงแล้วเหย่หลิงเฉินก็เดินขึ้นมาด้านหลังทั้งสามเพื่อสังเกตการต่อสู้

พวกเขากำลังเล่น DotA กันอยู่ Xiang ดูเป็นผู้เล่นที่มีประสบการณ์มากที่สุด อย่างไรก็ตาม Potato และ Lil ’Gen มีแนวโน้มว่าจะเป็นมือใหม่มากที่สุดเช่นกัน การเล่นของพวกเขาส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้ดั่งใจนักทำให้เกิดเสียงบ่นของ Xiang อยู่ตลอดเวลา…

…..

I Am A Prodigy ฉันนี่แหละอัจฉริยะ!

I Am A Prodigy ฉันนี่แหละอัจฉริยะ!

ตอนที่ 1-20 คลิก

“เหย่หลิงเฉิน” เด็กมัธยมธรรมดาๆ คนนึงที่ต้องพยายามอย่างหนักกับการสอบและแบกรับความคาดหวังจากพ่อแม่ แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปหลังจากการตื่นขึ้นจากความฝันแปลกๆ ของเขาคือ เขาได้รับ “ระบบอัจฉริยะ” จากจุดเริ่มต้นนี้ทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไป เขาสามารถอ่านหนังสือและเข้าใจในเนื้อหาได้อย่างทันที ฟังและเข้าใจเนื้อหาการบรรยายได้อย่างรวดเร็ว รวมไปถึงได้รับรู้เทคนิคการใช้แผงควบคุมระบบอัจฉริยะของตัวเองอีกด้วย การเรียนรู้สำหรับฉันมันไม่เคยง่ายขนาดนี้มาก่อน นี่สินะที่เขาพูดกันว่าความรู้คือพลัง! ตอนนี้ฉันสามารถเข้าถึงพลังที่ไร้การควบคุมได้อย่างมากมายเต็มไปหมด! ความรู้สึกจะเป็นอย่างไรกันหากได้กลายเป็น “อัจฉริยะ” ในชั่วข้ามคืน มาร่วมติดตาม “เหย่หลิงเฉิน” ในการเดินทางครั้งนี้เพื่อค้นหาความสามารถที่ไร้ขีดจำกัดกันเถอะ!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท