I Am A Prodigy ฉันนี่แหละอัจฉริยะ! – ตอนที่ 49

ตอนที่ 49

“ไม่เป็นไร ไม่มีอะไรต้องตื่นเต้นเลย” เหย่หลิงเฉินหัวเราะ

“เหย่ นายเคยฝึกโดยปรมาจารย์กังฟูมาก่อนเหรอ? อย่างกับนักศิลปะการต่อสู้ในหนังแหน่ะ ใช่ไหม?” เกิ้งถามอย่างตื่นเต้น

“มันเป็นเพียงเทคนิคการกำปั้นเท่านั้น ไม่ได้เกินจริงเหมือนในหนังหรอก” เหย่หลิงเฉินตอบ

“นายสอนฉันบ้างได้ไหม?”

ดวงตาของผู้ชายทุกคนเป็นประกาย จินตนาการว่าตัวเองกำลังบินไปรอบ ๆ และวิ่งอยู่บนกำแพง

“ถ้าพวกนายมีวินัยพอที่จะตื่นตอนตี 5 ทุกเช้านะ” เหย่หลิงเฉินถามปนหัวเราะ

ทุกคนหุบปากทันที

ซุนเฉาถูกส่งกลับไปที่แผนก ทำให้คลาสหกไม่มีผู้ฝึกสอน แต่อย่างไรก็ตามมหาวิทยาลัยไม่สามารถงดคลาสการฝึกการต่อสู้ได้ อาจารย์ที่มาเตือนเหย่หลิงเฉินสองครั้งจึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นอาจารย์ชั่วคราวของพวกเขา

อาจารย์ผู้สอนชื่อโจวฮุ่ย เขามีความยุติธรรมและมีเสน่ห์มากทีเดียว

ดูจากรูปลักษณ์แล้ว เขาถูกฝึกฝนมาอย่างดีและเป็นที่ชื่นชอบของนักเรียน ไม่เพียงแต่เขาสามารถชี้ให้เห็นข้อผิดพลาดที่พวกเขาทำได้ แต่เขายังกระตุ้นนักเรียนให้เต็มใจแก้ไขมันได้อีกด้วย

“ดูอาจารย์ที่สอนคลาสอื่น ๆ สิ คลาสเราโชคร้ายจริง ๆ” โปเตโต้พึมพำ

15.30 น. พักเบรก

โจวฮุ่ยเดินเข้ามาอย่างเป็นมิตรและนั่งลงข้าง ๆ เหย่หลิงเฉินพร้อมยกนิ้วโป้งให้เขา “ยอดไปเลยนะ ฉันไม่ได้คาดคิดเลยว่าเธอจะเป็นนักสู้ที่เก่งขนาดนี้ มันวิเศษมาก!”

“ผมเคยฝึกฝนมาบ้างแล้ว” เหย่หลิงเฉินตอบด้วยรอยยิ้ม

“ฮ่าฮ่าฮ่า เธอแค่ถ่อมตัว ด้วยระดับความสามารถของเธอแม้จะอยู่ในสมาคมนักรบก็ถือว่าไม่ธรรมดา ฉันเดาว่าความสามารถระดับเธอคงเปรียบได้กับระดับสูงเลยแหละ” โจวฮุ่ยหัวเราะ

หลังจากหยุดชั่วขณะ เขาถามด้วยความอยากรู้ว่า “แล้ว..เธอจะขออะไรกับมหาวิทยาลัยล่ะ?”

ตามกฎของมหาวิทยาลัยแล้ว หากนักศึกษาสามารถเอาชนะผู้ฝึกสอนได้จะสามารถขออะไรก็ได้กับมหาวิทยาลัย

“ผมต้องการให้ผู้สอนคนอื่นมาสอนคลาสของเราแทน”

“แค่นั้นเหรอ?” โจวฮุ่ยมองเหย่หลิงเฉินอย่างประหลาดใจ “เธอรู้ไหมว่าคำขอนี้มีค่าแค่ไหน? เธอสามารถขอปริญญาโท ปริญญาเอก หรือแม้กระทั่งโอกาสในการทำงานในที่ดี ๆ ได้เลยนะ มหาวิทยาลัยจะช่วยเหลือเธออย่างแน่นอน!”

เหย่หลิงเฉินยิ้ม “ขอเพียงเท่านี้ก็เพียงพอแล้วครับ”

“ดี! มีคุณธรรมดีมาก!”

ทันใดนั้น เสียงคำรามของเครื่องยนต์ดังก้องกังวานไปทั่วทุกเสียงในบริเวณใกล้เคียง ทำให้ฝูงชนหน้าบึ้ง

หลังจากนั้น BMW X5 ก็ขับตรงไปยังฝูงชน

มันเหมือนสัตว์เดรัจฉาน แม้แต่ในบริเวณมหาวิทยาลัยก็ยังขับรถโดยประมาท นักศึกษาทุกคนต้องหลีกทางให้

“ให้ตาย! นั่นรถของซุนเหว่ย!”

การแสดงออกของโจวฮุ่ยเปลี่ยนไปอย่างมาก ตอนนี้เต็มไปด้วยความไม่สบายใจ

“ซุนเหว่ย?” เหย่หลิงเฉินทำหน้าบึ้ง

สีหน้าของโจวฮุ่ยยังคงมืดมน “ซุนเหว่ยเป็นพี่ชายของซุนเฉา! เขาไม่ได้อยู่ในกองนี้ ฉันไม่คิดว่าเขาจะกลับมาที่นี่ในวันนี้!”

รถเสียหลักชนขอบสนาม ประตูเปิดออกและมีชายสี่คนลงมาจากประตูนั้น

พวกเขากำลังแบกเปลหาม พร้อมกับมีคนที่นอนอยู่บนนั้น ไม่ต้องสงสัยเลย ซุนเฉานั่นเอง

เมื่อพวกเขาลงมาจากรถซุนเฉาก็จ้องมองไปที่ทิศทางของเหย่หลิงเฉินทันทีดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความอาฆาตแค้นอย่างสุดซึ้ง

ในที่สุดชายที่สวมชุดนักศิลปะการต่อสู้ก็ลงมาจากรถ เขาดูเหมือนจะอยู่ในวัยสามสิบ เขามีความคล้ายคลึงกับซุนเฉา มีจมูกงุ้มสูงและดวงตาที่โหดเหี้ยม!

การมาถึงของพวกเขาดูเหมือนจะมาพร้อมกับพลังงานที่มองไม่เห็นซึ่งแผ่กระจายไปทั่วสนาม ทุกคนที่นั่นรู้สึกถึงความกดดันที่หายใจไม่ออก

**ขโมยมาจาก ThaiNovel / My Novel **

อ่านเรื่องนี้ที่ www.thai-novel.com หรือ mynovel.co ด้วยนะคะ ผู้แปลจะได้มีกำลังใจแปลต่อ ขอบคุณค่ะ 🙂

FB : June6 Translate นิยายแปลไทย

แตะแตะแตะ!

พวกเขาเดินไปข้างหน้าและเข้าใกล้เวทีหลักอย่างช้า ๆ

ซุนเหว่ยเดินนำหน้า มือทั้งสองข้างของเขาไพล่หลัง ดวงตาของเขามองลงไปที่ฝูงชน

แม้จะไม่มีคำพูด แต่พลังอันแข็งแกร่งที่เล็ดลอดออกมาจากเขาทำให้ผู้ฟังรู้สึกหายใจไม่ออก

นั่นคือเจตนาและออร่าฆ่าคนตาย คน ๆ นี้เคยอยู่ในสนามรบมาก่อน!

ในเวลาไม่นาน เหอหยวนนำสมาชิกสภานักศึกษาและรีบเดินออกไป

หน้าผากของพวกเขาเต็มไปด้วยหยดเหงื่อปรากฏ ทั้งประหม่าและตื่นเต้นในเวลาเดียวกัน

ขณะที่เขาเดินผ่านเหย่หลิงเฉิน มุมริมฝีปากของเหอหยวนก็ขดเป็นรอยยิ้มซาดิสต์ “ไอ้โง่ แกจะต้องตายซะ!”

โจวฮุ่ยจ้องมองซุนเหว่ยที่ยืนอยู่บนเวทีหลักแล้วตัวสั่น ใบหน้าของเขาแสดงท่าทางไม่เชื่อและพูดติดอ่าง “นั่นมัน…ดาวสีเขียวสองดวงเหรอ!”

“ เกิดอะไรขึ้น” เหย่หลิงเฉินรู้สึกถึงความรู้สึกไม่ดีที่กำลังคืบคลานเข้ามาจากภายใน

“ดูที่ไหล่ของซุนเหว่ย ตราด้านบนแสดงถึงระดับนักสู้ของเขา!” โจวฮุ่ยหายใจเข้าลึก ๆ “เขาเคยมีดาวสีเขียวเพียงดวงเดียวซึ่งแสดงถึงอันดับของเขาในฐานะนักรบระดับล่าง ตอนนี้มีดาวสีเขียวสองดวงซึ่งหมายความว่าเขาได้รับการเลื่อนขั้นเป็นนักรบระดับกลาง!”

ดาวสีเขียวเป็นตัวแทนของอันดับนักรบ ดาวสีส้มเป็นตัวแทนของอันดับการ์เดียน ในขณะที่ดาวสีแดงแสดงถึงตำแหน่งนายพล

ทุกคนรอบตัวเขาต่างอ้าปากค้าง

นั่นคือนักรบชนชั้นกลาง นี่เป็นเป้าหมายตลอดชีวิตสำหรับคนส่วนใหญ่

โจวฮุ่ยส่ายหัว เขาไม่ได้มองโลกในแง่ดีเหมือนนักเรียน

สมาคมนักรบมีอิทธิพลมาก ยิ่งไปกว่านั้นมีข่าวลือว่าซุนเหว่ยไปหาจินหลิงเพื่อเข้าร่วมการฝึกพิเศษหมาป่าน้ำเงินด้วย!

เมื่อเขากลับมาในฐานะนักรบระดับกลาง นั่นเป็นการยืนยันว่าข่าวลือนั้นมีความเป็นไปได้สูง!

นั่นคือหมาป่าสีน้ำเงิน!

หนึ่งในสาขาการฝึกพิเศษของสมาคมนักรบอันดับต้น ๆ !

สาขาหมาป่าสีน้ำเงินได้รับการตั้งชื่อเช่นนี้เนื่องจากผู้ที่เข้าร่วมในค่ายฝึกทุกคนสามารถต่อสู้กับหมาป่าได้ด้วยมือเปล่า!

พลังต่อสู้ของซุนเหว่ยเมื่อเทียบกับซุนเฉา เปรียบเสมือนสวรรค์และโลก!

แค่คิดถึงมันก็ทำให้แขนขาของโจวฮุ่ยเย็นลงแล้ว

เหย่หลิงเฉินเป็นเพียงนักเรียน เขาจะสามารถยืนหยัดต่อสู้กับนักสู้ที่แข็งแกร่งเช่นนี้ได้อย่างไร?

เหอหยวนก้มตัวต่ำและเดินไปที่ด้านข้างของซุนเฉาด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตนอย่างหาที่เปรียบมิได้ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่เสแสร้ง

“ใครคือเหย่หลิงเฉิน” ในที่สุดซุนเหว่ยก็พูดขึ้น

เสียงของเขาไม่ดังมากนัก แต่ในขณะเดียวกันก็มีพลังอำนาจที่ไม่มีใครเทียบได้

นักศึกษาทุกคนในคลาสที่หกต่างตัวแข็ง พวกเขายืนอยู่อย่างประหม่า

เหย่หลิงเฉินยังคงอดทนมองไปที่ซุนเหว่ยและตอบโดยไม่ลังเลใด ๆ “ฉันเอง!”

การจ้องมองของซุนเหว่ยเป็นเหมือนกระแสไฟฟ้ายิงไปที่เหย่หลิงเฉินราวกับว่าเสือกำลังจับเหยื่อของมันและพร้อมที่จะตะครุบได้ทุกเมื่อ!

“ซุนเฉาเป็นผู้สอนของนาย แต่นายกลับทุบตีเขาและทำให้บาดเจ็บสาหัส!” ซุนเหว่ยกล่าวอย่างเย็นชา จากนั้นมองไปทางเหอหยวน “เหอหยวน สภานักศึกษาจะจัดการเรื่องนี้อย่างไร”

เหอหยวนตอบทันทีว่า “นักศึกษาที่ดื้อรั้นและมีเล่ห์เหลี่ยมเช่นนี้ ผมจะรายงานตามความจริงต่อเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยของเรา และเสนอให้เขาถูกไล่ออก นอกจากนี้บุคคลนี้ยังทำร้ายนักศิลปะการต่อสู้ สิ่งนี้จะถูกบันทึกไว้ว่าเป็นความผิดสูงสุดในชีวิตของเขา!”

ประกายแวววาวผ่านดวงตาของเหย่หลิงเฉิน

บันทึกประวัตินักศึกษา?!

นี่มันเป็นการกระทำที่โหดเหี้ยม!

หากคนที่ถูกบันทึกชื่อเอาไว้แล้วจะพบเจอกับข้อจำกัดมากมายที่ไม่อาจจินตนาการได้เลยว่าจะแย่เพียงใด ไม่เพียงแต่การหางานที่ยากขึ้นเท่านั้น แต่รวมไปถึงการเดินทางไปยังทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นรถไฟหรือเที่ยวบินก็มีข้อจำกัด!

หรือเรียกง่าย ๆ ว่าคุณจะไม่สามารถขยับตัวไปไหนมาไหนได้เลยคงจะเหมาะสมที่สุด

อาจกล่าวได้ว่ามันจะทำลายอนาคตของเหย่หลิงเฉินอย่างสิ้นเชิง และทำให้เขาพิการไปตลอดชีวิต!

“รวมถึง…”

อย่างไรก็ตามเหอหยวนยังไม่หยุด เขามองไปที่เหย่หลิงเฉินด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย “เหย่หลิงเฉินต้องขอโทษอาจารย์ซุนเฉา! คุกเข่าเพื่อแสดงออกถึงความจริงใจของนาย! รวมถึงต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลของอาจารย์ซุนเฉาด้วย!”

“นี่มัน… นี่มัน…”

ไม่ใช่แค่นักเรียนจากคลาสที่หกเท่านั้นที่ตะลึง แต่ฝูงชนทั้งหมดในสนามก็ตกตะลึงเช่นเดียวกัน

ทำไมทุกอย่างพลิกผันเช่นนี้ นี่มันเริ่มต้นจากการดวลต่อสู้ที่ยุติธรรมที่สุด แต่เหตุใดมันถึงส่งผลบางอย่างที่รุนแรงขนาดนั้นได้?

I Am A Prodigy ฉันนี่แหละอัจฉริยะ!

I Am A Prodigy ฉันนี่แหละอัจฉริยะ!

ตอนที่ 1-20 คลิก

“เหย่หลิงเฉิน” เด็กมัธยมธรรมดาๆ คนนึงที่ต้องพยายามอย่างหนักกับการสอบและแบกรับความคาดหวังจากพ่อแม่ แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปหลังจากการตื่นขึ้นจากความฝันแปลกๆ ของเขาคือ เขาได้รับ “ระบบอัจฉริยะ” จากจุดเริ่มต้นนี้ทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไป เขาสามารถอ่านหนังสือและเข้าใจในเนื้อหาได้อย่างทันที ฟังและเข้าใจเนื้อหาการบรรยายได้อย่างรวดเร็ว รวมไปถึงได้รับรู้เทคนิคการใช้แผงควบคุมระบบอัจฉริยะของตัวเองอีกด้วย การเรียนรู้สำหรับฉันมันไม่เคยง่ายขนาดนี้มาก่อน นี่สินะที่เขาพูดกันว่าความรู้คือพลัง! ตอนนี้ฉันสามารถเข้าถึงพลังที่ไร้การควบคุมได้อย่างมากมายเต็มไปหมด! ความรู้สึกจะเป็นอย่างไรกันหากได้กลายเป็น “อัจฉริยะ” ในชั่วข้ามคืน มาร่วมติดตาม “เหย่หลิงเฉิน” ในการเดินทางครั้งนี้เพื่อค้นหาความสามารถที่ไร้ขีดจำกัดกันเถอะ!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท