วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – บทที่ 921 ขอเธอแต่งงาน

บทที่ 921 ขอเธอแต่งงาน

เพียงเห็นหลังจากเฉียวฉีและกู้ซือเฉียนเติบโตขึ้น กู้ซือเฉียนออกจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าและเฉียวฉีอยู่ที่นั่นเพียงลำพัง

เขาพูดขึ้นเบาๆ: “ความรักระหว่างวัยรุ่นหนุ่มสาว มักจะเต็มไปด้วยความผันแปร พวกเขาเติบโตและสามารถอยู่ด้วยกันอีกอย่างไร้ความกังวล แต่เมื่อโตขึ้นพวกเขาต่างมีหน้าที่และเรื่องที่ต้องทำของตนเอง”

เขาไม่สามารถจะอยู่เคียงข้างเธอ วันนั้นที่เขาออกจากสถานที่ที่พวกเขาเติบโตมาด้วยกัน สำหรับเธอแล้ว ถ้าหากมีสักวันที่คุณคิดถึงฉัน คุณจะมาหาฉัน

เขาเคยคิดว่าเธอคงจะไม่มีทางมาหาเขาอีกแล้ว ที่สุดแล้ว ถึงแม้เธอดูจะพึ่งพาเขามากมาย แต่ในใจของเขารู้ดี แท้จริงแล้วเธอเข้มแข็งและดื้อรั้นกว่าใคร

เธอจะยอมเป็นไม้เลื้อยละตามติดเขาแจได้ยังไงกัน? เธอจะไม่มีทางยอมแน่ ดังนั้นในเวลานั้น เขาได้แต่สาบานกับตนเองในใจว่า เพียงสองปี ภายในสองปี จากนั้นจะกลับไปอยู่เคียงข้างเธอ”

ตอนนั้นเอง แสงไฟหันไปอีกครั้ง

ภาพก็เปลี่ยนไป

กลายเป็นภาพที่พวกเขาสองคนได้พบกันอีกครั้ง

มีรอยยิ้มอบอุ่นอยู่ในน้ำเสียงของเขา

“แต่บนโลกนี้มีเรื่องราวมากมายที่มนุษย์ไม่สามารถคาดเดาได้ เขาเข้าใจไปว่าเธอคงไม่มีวันจะเป็นฝ่ายปรากฏตัวข้างๆ เขา แต่เธอก็ปรากฏตัวขึ้น

พวกเขาได้พบกันอีกครั้ง ได้รักกัน เขาตกหลุมรักและไม่สามารถจะถอนตัวได้ หลายปีนั้น มันเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดในชีวิตของเขา

แต่กลับมีเรื่องหนึ่งที่ทำให้เขายังไม่ลืม นั่นก็คือ เขาทำงานหนักพยายามเพื่อให้ตัวเองเป็นคนที่แข็งแกร่ง ก็เพื่อจะสามารถปกป้องคนที่เขาต้องการจะปกป้องได้

แต่เธอนั้นช่างดื้อรั้น เธอไม่ต้องการให้เขาปกป้องและไม่อยากจะภายใต้การคุ้มครองของเขา เห็นชัดๆ ว่าเธอสามารถจะมีชีวิตอันหรูหราและแสนสงบสุขได้ แต่เธอกลับไม่เชื่อฟังและเอาตัวเข้าไปเสี่ยงกับอันตรายอยู่เสมอ

เขากระวนกระวาย โมโห โกรธ และทะเลาะกับเธอนับครั้งไม่ถ้วน สุดท้าย ในที่สุดเธอก็บีบให้เธอต้องทิ้งเขาไป”

เวลานี้น้ำเสียงของชายหนุ่มจางลงเหมือนกับเสียงของเชลโล

ภาพกลับมาอีกครั้ง ครั้งนี้ส่วนใหญ่เป็นสีแดงและกลายเป็นภาพการต่อสู้ที่ดุเดือด

น้ำเสียงของเขาทั้งต่ำและแหบห้าว และบอกไม่ถูกถึงความเจ็บปวดและอารมณ์

“ภายใต้สถานการณ์ที่พวกเขาไม่เคยคิดมาก่อน คนที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามนั้นควรจะเป็นคนที่กอดให้แน่น พวกเขาแยกจากกันตั้งแต่นั้น

เขาค้นพบเรื่องบางอย่าง ดังนั้นจึงฆ่าพี่น้องและเพื่อนพ้องของเธอ เธอเกลียดเขา และอยากให้เขาตาย

แต่เธอก็ไม่เข้าใจ คนที่เธอคิดว่าพวกเขาเป็นเพื่อนพี่น้องเหล่านั้น แท้จริงแล้วทุกคนล้วนแล้วแต่เป็นหมาป่าในคราบแกะทั้งนั้น

พวกเขาไม่เคยเห็นเธอเป็นเพื่อนที่แท้จริง ทุกเรื่องบังเอิญแท้จริงแล้วถูกวางแผนมาอย่างดี แต่เขาไม่มีหลักฐาน เขาไม่ทางจะบอกเล่าเรื่องเหล่านี้ให้เธอฟังได้

ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงแยกจากกันเป็นเวลาสี่ปี ซึ่งมันควรจะเป็นการเลิกราแบบปกติทั่วไป เหมือนกับคู่รักที่เลิกกันและไม่มีทางกลับมาเจอกันอีก ต่างคนต่างไปคนละฝั่งฟ้า

แต่เขาเองก็ทนไม่ได้ เขาอยากจะรั้งเธอไว้แทบบ้า แต่เพียงแค่ให้เธออยู่ เธอก็จะสู้กลับอย่างรุนแรง

เขากลัว เขาลังเล เขากลัวการต่อสู้กลับจะทำร้ายเธออีกครั้ง เวลานี้ เขาเห็นใบหน้าที่แท้ของพวกเขาแล้ว เขารู้ พวกนั้นต้องการจะฆ่าเธอ

ทั้งศึกภายในและภายนอก เขาไม่มีหนทางอื่นนอกจากส่งเธอเข้าคุก ถึงจะเรียกว่าติดคุก แต่ความจริงแล้วนั้นก็เพื่อปกป้องเธอ”

ภาพหมุนไปอีกครั้งเป็นช่วงเวลาที่เฉียวฉีออกจากคุก

“ดีที่ ถึงแม้จะผ่านไปแล้วสี่ปี แต่เธอก็มีชีวิตอยู่ภายใต้สายตาเขาตลอด เธอปลอดภัย ถึงแม้ว่าสี่ปีนี้จะทำให้ความรู้สึกที่มีต่อเขาในจิตใจของเธอสงบลงแล้ว แต่เขาก็ไม่เสียใจภายหลัง

เขาผูกเธอไว้กับตนเองอีกครั้ง หวังว่าจะได้กลับมารักกันอีกครั้ง และบอกความจริงทั้งหมดที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้กับเธอ

อาจเพราะสวรรค์เห็นใจ หลังจากที่ทั้งสองได้ประสบเรื่องราวต่างๆ กันมา หัวใจของทั้งคู่ก็ค่อยๆ เขยิบเข้ามาใกล้กัน

จนถึงเวลานี้ เขาจึงได้รู้ว่าเรื่องราวทั้งหมดที่ผ่านมา ไม่มีอะไรดีไปกว่าการที่ทั้งสองคนได้อยู่ด้วยกัน”

เฉียวฉียืนอยู่ตรงนั้น และอยู่ในอาการเฉื่อยชา

เธอเงยหน้าและมองไปที่ภาพที่อยู่เหนือศีรษะพร้อมดวงตาที่แดงก่ำ

เวลานี้มีผู้ชายคนหนึ่งน้ำเสียงต่ำมาจากด้านหลัง

“อะเฉียวเธอจะยอมแต่งงานกับฉันไหม?”

เฉียวฉีตัวสั่นอย่างแรงและหันกลับมาในทันที

กลับพบว่ากู้ซือเฉียนเดินลงบันไดมาและยืนอยู่ด้านหลังเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้

เขาคุกเข่าข้างหนึ่ง ชุดสูทสีดำบนตัวเขาดูเป็นทางการและเคร่งขรึม ในมือของเขามีกล่องเครื่องประดับ ภายในกล่อมงนั้นมีแหวนเพชรเม็ดงามใหญ่ละเอียดสีชมพู และแหงนหน้ามองเธออย่างจริงใจ

เฉียวฉีมีน้ำตาไหลเต็มหน้า

กู้ซือเฉียนพูดซ้ำ: “อะเฉียวแต่งงานกับฉันได้ไหม?”

อย่าว่าแต่เฉียวฉีเลย แม้แค่จิ่งหนิงและหัวเหยาที่อยู่ไม่ไกลเห็นภาพแบบนี้ ก็รู้สึกราวกับว่าพวกเขาได้ผ่านประสบการณ์ชีวิตของพวกเขาในหลายปีนี้ ในใจก็อดไม่ได้ที่จะเกิดความรู้สึกซับซ้อนและซับซ้อนขึ้นมา

อย่างไรก็ตาม เฉียวฉีกลับไม่ได้รีบร้อนจะตอบตกลงในทันที

เธอมองไปที่กู้ซือเฉียนครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้นเบา ๆ: “คุณบอกว่า สี่ปีนั้น เพื่อปกป้องฉันเหรอ?”

กู้ซือเฉียนพยักหน้า “ใช่”

“คุณรู้อยู่แล้วว่าพวกเขาต้องการจะฆ่าฉัน?”

“ใช่”

“ทำไม?”

เขามองเธออย่างลึกซึ้งโดยไม่พูดอะไร

เฉียวฉีส่ายหน้า น้ำตาไหลอาบแก้ม

“ทั้ง ๆ ที่คุณรู้อยู่แล้วว่าฉันแคร์อะไรมากที่สุด และรู้ว่าแม้ว่าเราจะอยู่ด้วยกัน แต่ลึก ๆ ในใจฉันก็มีหนามที่คอยทิ่มแทง หนามเล่มนั้น ซึ่งปกติไม่พูดถึงมัน แต่มันก็ยังคงอยู่ตรงนั้น คนอื่นไม่รู้แต่ฉันรู้ กู้ซือเฉียน บอกฉันสิ เรื่องทั้งหมดในตอนนั้นมันคืออะไรกันแน่?”

กู้ซือเฉียนเห็นเธอที่น้ำตาไหลอาบหน้าแล้วถอนหายใจเบา ๆ

เขาเงียบไปครู่หนึ่งแล้วพูด: “เรื่องนี้เกี่ยวกับสิ่งที่เธอเคยพบเจอมา อะเฉียว ตอนนี้ฉันยังไม่รู้ความจริงทั้งหมด แต่เหลืออีกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ฉันไม่รู้ว่าจะบอกเธอยังไงดี”

เฉียวฉีตกใจเล็กน้อย

และได้ยินเขาพูดต่อ: “ฉันพูดได้แต่เพียงว่าฉันไม่ทำร้ายเธอ อะฉี รับปากฉันเถอะนะ แต่งงานกับฉัน ให้ฉันปกป้องเธอไปตลอดชีวิตที่เหลือ ดูแลเธอ ได้ไหม?”

ตอนนี้พวกหัวเหยาก็ทนไม่ไหวแล้ว

พวกเขาตบมือโห่ร้องและพูด “แต่งกับเขา แต่งกับเขา!”

เฉียวฉีหันไปมองพวกเขา

เมื่อมองไปที่กู้ซือเฉียนที่กำลังคุกเข่าอยู่บนพื้น หัวใจของเธอรู้สึกเศร้าและน้ำตาไหลหนักกว่าเดิม

อย่างไรก็ตาม เบื้องหลังความเศร้าโศกอย่างสุดซึ้ง กลับมีความปีติที่ไม่สามารถอธิบายได้

สุดท้ายเธอก็ยื่นมือออกมา

ด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาแต่ก็ดังพอที่เขาจะได้ยิน “ฉันยินดี”

ความประหลาดใจครั้งใหญ่ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของกู้ซือเฉียน

เขาสวมแหวนบนนิ้วของเธอทันที จากนั้นก็ลุกขึ้นยืนและกอดเธอแน่น

เขากอดเธอแน่นมาก และเสียงของเขาก็แหบแห้งเล็กน้อย

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Status: Ongoing

บทที่ 1 จับชู้คาเตียง

“มีถุงยางดูเร็กซ์ ดูอัล เพลย์เชอร์ไซซ์กลางไหม? ”

“มีค่ะ”

“แล้วก็ไวเบรเตอร์กับชุดนางแมวสวาทชุดหนึ่งด้วย”

“ได้ค่ะ จัดส่งที่ไหนคะ? ”

“โรงแรมลี่หัว ห้อง2202”

“ค่ะ ขอบคุณค่ะ”

เมื่อจิ่งหนิงมาถึงโรงแรมลี่หัวก็เป็นเวลาห้าทุ่มแล้ว

เวลาดึกดื่นขนาดนี้ สำหรับคนที่ทำธุรกิจสินค้าผู้ใหญ่ แบบนี้ การนำส่งสินค้าด้วยตนเองไม่ค่อยปลอดภัยเท่าไหร่

นัก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหญิงสาวหน้าตาสะสวยอย่างเธอ

แต่จะทำยังไงได้ล่ะ ชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ทุก สิ่งทุกอย่างต้องแลกมาด้วยเงิน อีกอย่างมู่ยั่นเจ๋อกำลังจะ กลับมาอีกไม่กี่วันนี้

คบกันมาตั้งหกปี แต่เวลากว่าครึ่งเป็นรักระยะไกล เขา ต้องดูแลธุรกิจทั้งในและนอกประเทศ เธอจะทำตัววุ่นวาย ส่งผลต่อการทำงานของเขาไม่ได้

ดีที่ความรักของทั้งสองคนนั้นค่อนข้างหวานชื่นนอกจากงานในแต่ละวันแล้ว เธอยังมีธุรกิจเล็กๆของตัวเอง ด้วย อีกไม่กี่วันเป็นวันเกิดของเขา เธอตั้งใจจะมอบของ ขวัญให้เขาอย่างเซอร์ไพรซ์

เมื่อคิดได้ดังนั้น จึงหนิงก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข

เธอขยับหมวกสีดำที่ใส่มาให้ปิดลงมาบังหน้าไว้ จากนั้น เดินถือกล่องสินค้าเข้าไปด้านใน

โรงแรมลี่หัว เป็นสถานที่ราคาแพงขึ้นชื่อของเมืองจิ้น ผู้คนที่เดินทางมาเข้าพักล้วนเป็นระดับมหาเศรษฐี

ความโอ่อ่างดงามที่ห้องโถงไม่ต้องพูดถึง แม้แต่ลิฟต์ก็ ถูกประดับตกแต่งด้วยเงินและทองคำ คนที่ยืนอยู่ด้านใน ถูกแสงไฟส่องสว่างไสว

จิ่งหนิงเดินถือกล่องเข้าไปแล้วมองหาจุดหมาย

ใบหน้าอันงดงามถูกปิดอยู่ครึ่งหนึ่ง มองเห็นเพียงดวงตา เป็นประกายคู่นั้น แฝงไปด้วยความมั่นใจ

ลิฟต์ขึ้นสู่ชั้น22 “ตั้ง” ประตูเปิดออก เธอเดินออกไป กระทั่งถึงห้อง2202และกดกริ่งที่ประตู

ประตูยังไม่เปิดออก ก็มีเสียงหนุ่มสาวดังขึ้น

“อาเจ๋อ อุ๊ย? อย่าค่ะ….ของน่าจะมาส่งแล้ว”

“รอผมนะ เดี๋ยวมา”

จึงหนิงยืนยิ้มอยู่ที่ปากประตูอย่างอดไม่ได้ ของยังมาส่งไม่ถึงก็เริ่มกันแล้วเหรอเนี่ย? รีบร้อนกันจริงๆ?

ประตูถูกเปิดออกในไม่ช้า ชายผู้ออกมารับของสวมผ้า ขนหนูเพียงผืนเดียว บนร่างกายของเขายังคงมีไอน้ำอยู่

จิ่งหนิงไม่ได้มองหน้าเขา เธอยื่นกล่องใส่ของออกไป “843หยวนค่ะ? จ่ายเงินสดหรือว่าโอนคะ? ”

ชายผู้อยู่ตรงหน้าไม่ตอบ

ผ่านไปสองวินาที เสียงของชายผู้นั้นเอ่ยขึ้นว่า “.

หนิง?

จิ่งหนิงตกตะลึง เธอเงยหน้าขึ้นมอง

เมื่อเห็นชายที่ยืนอยู่ด้านหน้า ร่างกายกำยำ ผมเผ้าเปียก ปอน เขามีเพียงผ้าขนหนูสีขาวปิดบังร่างกายไว้ แสงไฟ เหลืองนวลส่องมายังร่างกายของเขา ผิวขาวเนียนและ ใบหน้าอันเกลี้ยงเกลาของเขาเต็มไปด้วยความประหลาด

ใจ อีกทั้ง ทำตัวไม่ถูก

สีหน้าของจิงหนิงตกใจเสียจนหน้าซีด

“ปั่นเจ๋อ ใครคะ? ”

“ไม่มีอะไรครับ คนมาส่งของครับ”

มู่ยั่นเจ๋อรีบพูดขึ้นก่อนที่จิ่งหนิงจะเอ่ยอะไรออกมาจาก นั้นรีบหยิบเงินจากกระเป๋ายัดใส่มือเธอและหยิบของไป อย่างรวดเร็ว

เสียงประตูปิดลงดัง “ปัง?

จึงหนิงยังคงยืนอยู่ที่หน้าประตู มือของเธอเริ่มสั่น สีหน้า

เหนิงซีดเผือดลงทันที

เธอหัวเราะออกมาเบาๆ

และมองไปยังธนบัตรที่เขายัดเข้ามาไว้ในมือ นี่มันเรื่อง ตลกบ้าบออะไรกัน? เธอหัวเราะเยาะในความโง่เขลาของ ตัวเองจริงๆ

เสียงชายหนุ่มและหญิงสาวเล็ดลอดออกมานอกห้อง เธอก็ถอนหายใจยาวๆออกมา และกลั้นน้ำตาที่คลอเบ้าเอา

ไว้

เธอหันหลังกลับและเดินตรงไปยังลิฟต์และหยิบมือถือ

ออกมา

“สวัสดีค่ะ สถานีตำรวจใช่ไหมคะ? ฉันจะขอแจ้งความ ว่ามีชายหญิงค้าประเวณี ห้องพักเลขที่.”

ต่อมา20นาที

รถตำรวจคันหนึ่งจอดลงที่หน้าโรงแรมลี่หัว ข้างๆยังมีนัก ข่าวและช่างกล้องเดินตามมา เมื่อเห็นคนที่ถูกจับตัวออกมา นักข่าวก็พากันแห่เข้าไป

“นายมู่ มีคนแจ้งความว่าคุณเสพยาและซื้อบริการทาง เพศ จริงหรือไม่คะ? ”

“นายมู ในฐานะผู้สืบทอดมู่ชื่อกรุ๊ป คุณคิดว่าการกระทำ เช่นนี้เหมาะสมหรือไม่คะ?

“นายมู่ครับ ผู้หญิงคนที่อยู่กับคุณเป็นใครกันครับ? มี

ข่าวลือว่าเป็นดาราในวงการ จริงหรือไม่ครับ? ” “นายมู..”

มู่ยั่นเจ่อถูกนักข่าวล้อมไว้ แม้แต่ตำรวจก็ห้ามไว้ไม่ได้ เขากัดฟันกรอดๆและตะโกนออกมาว่า “ไปให้พ้น? ” นักข่าวพากันตกอกตกใจและถอยหลังออกไป

มู่ยั่นเจ๋อมองไปยังฝูงชน เขาพบเข้ากับจิ่งหนิง สายตา ของเขาแฝงไปด้วยความอาฆาตแค้น

นี่คือสิ่งที่คุณต้องการใช่ไหม?”

จึ่งหนิงเผยอยิ้ม สายตาแฝงไปด้วยการดูถูก

“คุณทำแบบนี้อย่าหวังว่าจะได้ผมไปครอง”

จิ่งหนิงเดินหน้าขึ้นไปแล้วเงื้อมือขึ้นต่อหน้านักข่าวและ

ตำรวจ

11 เพียะ!”

ฝ่ามือของเธอตบลงไปที่หน้าเขาอย่างจัง มู่ยั่นเจ่อถูกตบ เสียจนหน้าหัน

บรรยากาศรอบด้านเงียบลงทันใด

ทางตำรวจตกตะลึงอ้าปากค้าง ” คุณผู้หญิงคนนี้คือ.

%3D

%3D ขอโทษนะคะ มือลั่นไปเอง!”

เธอยิ้มด้วยแววตาเยือกเย็นแล้วทำท่าทางนวดข้อมือ แล้วมองไปยังมู่ยั่นเจ่อด้วยสายตาอาฆาต จากนั้นพูดด้วย น้ำเสียงเยือกเย็นว่า

กระดาษชำระที่ตกลงไปในชักโครก คุณคิดว่าใครยังจะต้องการอีกกัน?ตบเมื่อสักครู่เป็นแค่ดอกเบี้ยเท่านั้น ทุน ที่เหลือฉันจะให้คุณชดเชยภายในสามวัน!”

แววตาของมู่ยั่นเจ่อตื่นตระหนก อะไร! ทุนอะไร !!” จึ่งหนิงขมวดคิ้วขึ้น ” คุณแน่ใจนะว่าจะให้ฉันกระตุ้น

ความจำคุณ

มู่ยั่นเจ๋อก้มหน้าลงทันที

เธอหัวเราะหีๆ เป็นเสียงหัวเราะที่แฝงไปด้วยความดูถูก เหยียดหยาม

ทางตำรวจเห็นเช่นนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา เขาโบกมือ เป็นสัญญาณว่าให้คุมตัวขึ้นรถไปได้ เมื่อเขาเดินทางจากไป บรรดานักข่าวก็ไม่ได้รีรอ รีบตาม

ไปทันที

เดิมทีที่จากประตูทางเข้าโรงแรมเต็มไปด้วยผู้คน ตอนนี้ กลับว่างเปล่าไม่เหลือใคร

จึงหนิงยังยืนอยู่ที่นั่นจนกระทั่งควบคุมอารมณ์ได้ เธอจึง ได้เตรียมตัวจากไป

แต่เธอคาดไม่ถึงว่าเมื่อหันหลังกลับไปจะพบเข้ากับแวว ตาคู่หนึ่งที่จับจ้องเธออยู่

ชายหนุ่มในชุดสูทสีดำ ร่างกายกำยำสูงใหญ่ ผมสั้นจัด ทรงเป็นระเบียบ แววตาแหลมคมนั้นทำให้ผู้พบเห็น หลงใหล

ใบหน้าอันหล่อเหลาภายใต้แสงยามค่ำคืนแบบนี้ เผยให้เห็นออร่าที่กลมกลืนไปกับบรรยากาศรอบข้าง จิ่งหนิงรู้สึกว่าเธอเคยเห็นชายคนนี้มาก่อน

จากนั้นเธอหันไปเห็นเลขาของเขาที่ยืนอยู่ด้านหลัง อีก ทั้งรถปอร์เช่สีเงินที่อยู่ข้างๆ เธอก็คิดได้ว่าจะไปรู้จักบุคคล ที่โดดเด่นแบบนี้ได้ยังไงกัน?

เธอสลัดความคิดออกจากหัว หันหลังแล้วเดินจากไป จนกระทั่งร่างเล็กๆของเธอเข้าสู่รถยนต์ ลู่จิ่งเซินจึงได้

ละสายตามาจากเธอและถามขึ้นว่า “คนเมื่อกี้นี้คือใคร?

ซูมู่ที่ยืนอยู่ด้านหลังรีบตอบขึ้นว่า ท่านหมายถึงคนที่ถูก ตำรวจจับไปเมื่อกี้หรือครับ? เหมือนว่าจะเป็นคุณชายขอ งมู่ชื่อกรุ๊ปที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศเมื่อหลายวันก่อน”

ลู่จิ่งเซินขมวดคิ้วแล้วบอกว่า “ผมหมายถึงคนผู้หญิงคน เมื่อกี้”

“ครับ? ” ซูมู่งุนงงเล็กน้อย “ผู้หญิงคนไหนกัน? ”

เมื่อเห็นแววตาอันไม่พอใจของลู่จิ่งเซิน ซูมู่ก็รีบพูดขึ้นมา ว่า “ท่านประธานครับ ต้องขออภัยด้วยผมจะไปตรวจสอบ เดี๋ยวนี้”

“ช่างมันเถอะ”

สายตาของเขามองไปตามทางที่ผู้หญิงคนนั้นขับรถออก ไปแล้วยิ้มขึ้น เขาคล้ายกับนึกอะไรออกมาได้

จากนั้นเขารีบก้าวเดินเข้าไปด้านใน ในฐานะผู้แจ้งความ จิ่งหนิงจึงต้องเดินทางไปที่สถานี ตำรวจด้วย

เมื่อทำการบันทึกข้อความเสร็จแล้ว ผู้คนจากด้านนอกก็ พากันแห่กรูเข้ามา

คนที่เดินเข้ามาเป็นคนแรกก็คือคุณย่าจิ่งหวังเสว่เหมย เมื่อเธอเดินเข้ามาถึงก็ตบเข้าให้ที่หน้าของจิ่งหนิงอย่างจัง

“นังคนทรยศ? ”

หวังเสว่เหมยตัวสั่นสะท้านแล้วพูดว่า “แกรู้อยู่แก่ใจว่านั่น คือน้องสาวแท้ๆของแก ยังกล้าแจ้งตำรวจจับอีกอย่างนั้น เหรอ? แกต้องการจะยั่วให้ฉันโมโหตายยังไง? ”

จิงหนิงเช็ดโชคเลือดที่มุมปาก จากนั้นเงยดูหญิงชราที่ อยู่ตรงหน้า

“น้องสาวอย่างนั้นเหรอ? คุณหมายถึงจิ่งเสี่ยวหย่า? ”

“ไม่ต้องทำมาเป็นเสแสร้ง สื่อต่างๆพากันพูดกันให้แซ่ด บอกว่าคุณหนูจิงรองให้ท่าคู่หมั้นของคนอื่น แกไม่รู้เรื่อง หรือไง? ”

จึงหนิงก้มหน้าลงและยิ้มออกมาเบาๆ

“ผู้หญิงคนนั้นเป็นเธอนั่นเอง….ฉันก็คิดว่ากะหรี่ที่ไหน รีบร้อนจะหาเงินซะอีก ที่แท้ก็เป็นน้องสาวของฉันเอง? “

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท