วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – บทที่ 1010 ไม่รับประกันชีวิต

บทที่ 1010 ไม่รับประกันชีวิต

จิ่งหนิงหายใจไม่ออกเล็กน้อย

แน่นอนว่าเธอไม่เคยคิดจะตามหาชีวิตอมตะอะไรนั่น

ของเหล่านั้น แค่ได้ยินก็รู้แล้วว่าเป็นเรื่องหลอกลวง เธอไม่เคยเชื่อเลย

แต่การที่เธอไม่เชื่อก็ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะไม่เชื่อนี่นา

และยิ่งคนที่ฉลาดเป็นกรดอย่างหนานกงจิ่น เขาก็ยังหมกมุ่นกับมัน

เมื่อคิดถึงตรงนี้ จิ่งหนิงก็อดจะปวดหัวไม่ได้

เธอถอนหายใจและพูด: “เหยาเหยา เธอยังจำครั้งก่อนที่เราไปร่วมงานแต่งงานของกู้ซือเฉียนกับเฉียวฉี แล้วเฉียวฉีเป็นลมในงานแต่งงานได้ไหม?”

หัวเหยาตกตะลึง: “จำได้สิ เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับพวกเขาเหรอ?”

“เกี่ยวอยู่แล้ว เพราะที่ฉันไหว้วานให้เธอสืบเรื่องนี้ ก็เพราะพวกเขาเป็นคนขอมา”

หัวเหยาตกใจ

จิ่งหนิงรู้สึกว่าจนถึงตอนนี้แล้วคงจะปิดเรื่องพวกนี้จากเธอไม่ได้แล้ว

ที่สุดแล้ว หากข่าวที่อยู่ในมือของหัวเหยาเป็นเรื่องจริง กู้ซือเฉียนกับเฉียวฉีก็คงต้องไปประเทศ F ถึงเวลานั้นก็ปิดไม่มิดอยู่ดี

ดังนั้นเธอจึงบอกหัวเหยาเรื่องที่หนานมู่หรงบอกกู้ซือเฉียนเกี่ยวกับประสบการณ์ชีวิตของเฉียวฉีและวิธีที่พวกเขาแลกเปลี่ยนกับหนานกงจิ่น

หลังจากที่หัวเหยารับฟังเรื่องเหล่านี้แล้วก็เรียกได้ว่าต้องตกตะลึง

เธอเข้าใจมาตลอดว่าของพวกนี้เป็นสิ่งที่จิ่งหนิงต้องการ คิดไม่ถึงเลยว่าคนที่ต้องการมันแท้จริงแล้วคือเฉียวฉี

“พูดอย่างนี้ ถ้าหากยังรวบรวมชิ้นส่วนไม่ได้ก่อนปีใหม่ เฉียวฉีก็จะรักษาชีวิตไว้ไม่ได้เหรอ?”

จิ่งหนิงมีสีหน้าเคร่งเครียด “จะพูดแบบนั้นก็ได้”

“คนที่ชื่อหนานกงจิ่นอะไรนั่น ทำไมถึงได้ร้ายกาจแบบนี้? เอาชีวิตคนอื่นมาล้อเล่น เขาไม่มีครอบครัว มีลูกเมียบ้างรึไง?”

จิ่งหนิงได้ยินน้ำเสียงที่โกรธเคืองของเธอแล้ว ก็อดขำไม่ได้

หัวเหยาคนนี้เป็นแบบนี้ตลอดเลย

ไม่ว่าจะผ่านเรื่องราวมากมายแค่ไหน อายุมากเพียงใด ก็มีจิตใจที่บริสุทธิ์เสมอ

ในหัวใจของเธอ ความดีและความชั่วนั้นชัดเจนและไม่ปะปนกัน

แต่กลับเมินเฉยว่าในโลกนี้บางครั้งผู้คนไม่สามารถตัดสินความดีหรือความชั่วเพียงลำพังได้

ฆาตกรฆ่าคนอาจจะเป็นลูกที่กตัญญู พ่อที่รักลูกก็อาจจะเป็นฆาตกรได้

จิ่งหนิงถอนหายใจแล้วไม่คิดจะพูดอะไรกับเธออีก

เธอได้แต่หัวเราะและพูด: “เขาลูกเมียไหมฉันไม่รู้ ยังไงซะ เรื่องนี้คงต้องไหว้วานเธอแล้ว ช่วยสืบดูให้ที ถ้าหากข่าวมีมูล ฉันจะได้บอกเฉียวฉีพวกเขา”

หัวเหยาพยักหน้า เวลานี้เธอรับรู้ถึงความจริงจังของเรื่องนี้แล้ว จึงไม่มีแก่ใจจะทำเป็นเล่นแล้ว

“เธอวางใจเถอะ เรื่องนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ฉันเอง ฉันจะช่วยเธอสืบมาให้ได้”

จิ่งหนิงคุยกับเธออีกเล็กน้อยแล้วจึงวางสาย

หัวเหยาเองก็มีการเคลื่อนไหวที่ว่องไว

ทางนี้เพิ่งคุยกับเธอเสร็จ เพียงไม่นาน ในตอนเย็น หัวเหยาก็โทรกลับมา

อีกฝั่ง จิ่งหนิงมีน้ำเสียงตื่นเต้นเล็กน้อย

“หนิงหนิง ฉันสืบมาแล้วนะ คุณลุงท่านนั้นแซ่เฉินจริง ๆ เขามีแผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์อยู่หนึ่งชิ้น เมื่อห้าปีก่อน ในตอนที่แผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์ถูกนำออกมา เขาได้มันมาจากพ่อค้าหยกคนหนึ่ง แต่ฉันได้ยินเขาบอกว่า เขารู้สึกว่าหยกที่อยู่กับเขาน่าจะเป็นของปลอม เพราะมีข่าวว่าของจริงถูกประมูลไป ในงานประมูลหนึ่งเมื่อไม่นานนี้เอง”

จิ่งหนิงตกตะลึง “งานประมูล?”

“ใช่ ดูเหมือนจะเป็น…งานที่เมืองหลิน”

จิ่งหนิงขมวดคิ้ว

งานประมูลที่เมืองหลิน แผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์?

ไม่มีเหตุผลเลย ถ้าหากที่เมืองหลินจะมีหยกอยู่อีกชิ้น เป็นไปไม่ได้ที่กู้ซือเฉียนและพวกจะไม่รู้

ที่สุดแล้ว เมืองหลินเป็นถิ่นเก่าของกู้ซือเฉียน

เมื่อคิดถึงตรงนี้ เธอไม่ได้รีบสรุปกับหัวเหยาและพูดขึ้น: “ฉันเข้าใจแล้ว ฉันจะไปถามพวกเขาเรื่องนี้ แล้วจะโทรหาเธออีกที คุณลุงเฉินท่านนั้นของเธอ ไม่ว่าจะครอบครองหยกจริงหรือปลอม ก็คงต้องรบกวนเธออย่าเพิ่งเปิดเผยอะไร ปิดเอาไว้ก่อน หากมีอะไรจะโทรหาเธอเลย”

หัวเหยา “อือ” หนึ่งครั้ง “ฉันเข้าใจแล้ว”

ทั้งสองจึงวางสายไป

หลังจากวางสาย จิ่งหนิงก็โทรหาเฉียวฉี

ในสาย เธอบอกข่าวที่ได้จากทางหัวเหยา

เฉียวฉีฟังแล้วยิ้มและพูด: “มีเรื่องแบบนี้ด้วย แต่คนจัดงานประมูลนั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นตระกูลหนานเองนั่นแหละ พวกเราตอนนั้นไม่รู้เรื่อง มาคิดดูตอนนี้แล้วก็รู้สึกได้ว่าหนานกงจิ่นวางแผนของเขาตั้งแต่ตอนนั้น”

“เขาจงใจจัดงานประมูล ดึงฉันกับกู้ซือเฉียนไปและเอาแผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์ชิ้นนั้นไป ให้พวกเราเกิดความสนใจในหยกนั่น จากนั้นก็ประกาศว่าฉันมีโรค แต่น่าเสียดาย พวกเราไม่รู้สึกตัวก่อนหน้านี้ก็เลยเดินไปตามหลุมพรางที่เขาวางเอาไว้”

จิ่งหนิงฟังสิ่งที่เฉียวฉีพูดแล้วก็ยังรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ

“พูดแบบนี้ก็หมายความว่าหยกชิ้นนั้นพวกเธอได้ไปแล้ว?

“ใช่ แต่ตอนนี้อยู่ในมือของหนานกงจิ่น”

จิ่งหนิงเงียบไปครู่หนึ่ง

“งั้นจากที่เธอดู ทางลุงเฉินนั่นเป็นของจริงไหม?”

เฉียวฉียิ้มและพูด: “ไม่สนว่ามันจะจริงหรือปลอม ขอเพียงมีข่าว ก็คงต้องไปที่นั่นสักรอบใช่ไหม? ไปถึงก็รู้เอง”

จิ่งหนิงพยักหน้า

“ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นฉันจะบอกหัวเหยา ถึงเวลานั้นพวกเราไปด้วยกันนะ”

เฉียวฉีรับปาก

หลังจากวางสาย จิ่งหนิงใช้ความคิดครู่หนึ่งแล้วลงไปข้างล่างเพื่อหาลู่จิ่งเซิน

ตอนนี้ยังเร็วไปแค่เพียงสองทุ่มเท่านั้น หลังกินข้าวลู่จิ่งเซินสัญญากับลูก ๆ ว่าจะเล่นเกมกับพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจึงกำลังแบ่งเป็นสองกลุ่มอยู่ในห้องเล่นเกม

ตอนที่จิ่งหนิงเข้าไปนั้น ก็เห็นพวกเขาผู้ใหญ่หนึ่งคนและเด็กอีกสองคนนั่งอยู่บนพรม ลู่จิ่งเซินกำลังสอนเด็ก ๆ ต่อเลโก้

ถึงแม้จิ้งเจ๋อน้อยจะอายุแค่สามขวบครึ่ง แต่เขาก็ฉลาดปราดเปรื่องและต่อเลโก้ได้เยอะแล้ว

แม้แต่ครูในโรงเรียนยังชมว่าเขาฉลาด

ลู่จิ่งเซินภูมิใจกับเรื่องนี้มาตลอด และรู้สึกเพราะยีนเขาดี ดังนั้นพอลูกคลอดออกมาจึงฉลาด

จิ่งหนิงแอบรู้สึกขบขันกับความคิดนนี้แต่ไม่พูดอะไร

เมื่อเห็นเธอเข้ามา ลู่จิ่งเซินก็โบกมือให้เธอ

“คุณลงมาทำไม? พักผ่อนอยู่ในห้องไม่ใช่เหรอ?”

ท้องของจิ่งหนิงเห็นชัดขึ้นทุกทีเพราะเธอตั้งท้องลูกแฝด ท้องของเธอจึงใหญ่กว่าท้องก่อนมาก

ตามหลักแล้วหญิงท้องสามถึงสี่เดือน ท้องน่าจะยังดูไม่ออกมาก

แต่จิ่งหนิงในตอนนี้กลับท้องป่องเล็กน้อยแล้วและตัวก็เริ่มหนักขึ้นแล้ว

ลู่จิ่งเซินกลัวเธอจะเหนื่อย ดังนั้นหลังอาหารจึงไปเดินเล่นเป็นเพื่อนเธอและให้เธอกลับไปพักผ่อนที่ห้อง

จิ่งหนิงยิ้มและเดินเข้าไป “ฉันมีเรื่องจะคุยกับคุณค่ะ”

ลู่จิ่งเซินเห็นดังนั้นและรับรู้ได้ถึงสายตาของเธอ ก็รู้ได้ว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างสำคัญ

เขาหันไปเด็กน้อยสองคน “ลูก ๆ เล่นกันเองก่อนนะ แด๊ดดี้กับหม่ามี๊ออกไปข้างนอกก่อน”

ช่วงนี้เด็กน้อยทั้งสองคนต่างได้ใช้เวลาอยู่กับพวกเขาค่อนข้างเยอะจึงไม่ค่อยทะเลาะกันแล้วและพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง

“แด๊ดดี้ไปอยู่เป็นเพื่อนหม่ามี๊ พวกเราเล่นกันเอง”

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Status: Ongoing

บทที่ 1 จับชู้คาเตียง

“มีถุงยางดูเร็กซ์ ดูอัล เพลย์เชอร์ไซซ์กลางไหม? ”

“มีค่ะ”

“แล้วก็ไวเบรเตอร์กับชุดนางแมวสวาทชุดหนึ่งด้วย”

“ได้ค่ะ จัดส่งที่ไหนคะ? ”

“โรงแรมลี่หัว ห้อง2202”

“ค่ะ ขอบคุณค่ะ”

เมื่อจิ่งหนิงมาถึงโรงแรมลี่หัวก็เป็นเวลาห้าทุ่มแล้ว

เวลาดึกดื่นขนาดนี้ สำหรับคนที่ทำธุรกิจสินค้าผู้ใหญ่ แบบนี้ การนำส่งสินค้าด้วยตนเองไม่ค่อยปลอดภัยเท่าไหร่

นัก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหญิงสาวหน้าตาสะสวยอย่างเธอ

แต่จะทำยังไงได้ล่ะ ชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ทุก สิ่งทุกอย่างต้องแลกมาด้วยเงิน อีกอย่างมู่ยั่นเจ๋อกำลังจะ กลับมาอีกไม่กี่วันนี้

คบกันมาตั้งหกปี แต่เวลากว่าครึ่งเป็นรักระยะไกล เขา ต้องดูแลธุรกิจทั้งในและนอกประเทศ เธอจะทำตัววุ่นวาย ส่งผลต่อการทำงานของเขาไม่ได้

ดีที่ความรักของทั้งสองคนนั้นค่อนข้างหวานชื่นนอกจากงานในแต่ละวันแล้ว เธอยังมีธุรกิจเล็กๆของตัวเอง ด้วย อีกไม่กี่วันเป็นวันเกิดของเขา เธอตั้งใจจะมอบของ ขวัญให้เขาอย่างเซอร์ไพรซ์

เมื่อคิดได้ดังนั้น จึงหนิงก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข

เธอขยับหมวกสีดำที่ใส่มาให้ปิดลงมาบังหน้าไว้ จากนั้น เดินถือกล่องสินค้าเข้าไปด้านใน

โรงแรมลี่หัว เป็นสถานที่ราคาแพงขึ้นชื่อของเมืองจิ้น ผู้คนที่เดินทางมาเข้าพักล้วนเป็นระดับมหาเศรษฐี

ความโอ่อ่างดงามที่ห้องโถงไม่ต้องพูดถึง แม้แต่ลิฟต์ก็ ถูกประดับตกแต่งด้วยเงินและทองคำ คนที่ยืนอยู่ด้านใน ถูกแสงไฟส่องสว่างไสว

จิ่งหนิงเดินถือกล่องเข้าไปแล้วมองหาจุดหมาย

ใบหน้าอันงดงามถูกปิดอยู่ครึ่งหนึ่ง มองเห็นเพียงดวงตา เป็นประกายคู่นั้น แฝงไปด้วยความมั่นใจ

ลิฟต์ขึ้นสู่ชั้น22 “ตั้ง” ประตูเปิดออก เธอเดินออกไป กระทั่งถึงห้อง2202และกดกริ่งที่ประตู

ประตูยังไม่เปิดออก ก็มีเสียงหนุ่มสาวดังขึ้น

“อาเจ๋อ อุ๊ย? อย่าค่ะ….ของน่าจะมาส่งแล้ว”

“รอผมนะ เดี๋ยวมา”

จึงหนิงยืนยิ้มอยู่ที่ปากประตูอย่างอดไม่ได้ ของยังมาส่งไม่ถึงก็เริ่มกันแล้วเหรอเนี่ย? รีบร้อนกันจริงๆ?

ประตูถูกเปิดออกในไม่ช้า ชายผู้ออกมารับของสวมผ้า ขนหนูเพียงผืนเดียว บนร่างกายของเขายังคงมีไอน้ำอยู่

จิ่งหนิงไม่ได้มองหน้าเขา เธอยื่นกล่องใส่ของออกไป “843หยวนค่ะ? จ่ายเงินสดหรือว่าโอนคะ? ”

ชายผู้อยู่ตรงหน้าไม่ตอบ

ผ่านไปสองวินาที เสียงของชายผู้นั้นเอ่ยขึ้นว่า “.

หนิง?

จิ่งหนิงตกตะลึง เธอเงยหน้าขึ้นมอง

เมื่อเห็นชายที่ยืนอยู่ด้านหน้า ร่างกายกำยำ ผมเผ้าเปียก ปอน เขามีเพียงผ้าขนหนูสีขาวปิดบังร่างกายไว้ แสงไฟ เหลืองนวลส่องมายังร่างกายของเขา ผิวขาวเนียนและ ใบหน้าอันเกลี้ยงเกลาของเขาเต็มไปด้วยความประหลาด

ใจ อีกทั้ง ทำตัวไม่ถูก

สีหน้าของจิงหนิงตกใจเสียจนหน้าซีด

“ปั่นเจ๋อ ใครคะ? ”

“ไม่มีอะไรครับ คนมาส่งของครับ”

มู่ยั่นเจ๋อรีบพูดขึ้นก่อนที่จิ่งหนิงจะเอ่ยอะไรออกมาจาก นั้นรีบหยิบเงินจากกระเป๋ายัดใส่มือเธอและหยิบของไป อย่างรวดเร็ว

เสียงประตูปิดลงดัง “ปัง?

จึงหนิงยังคงยืนอยู่ที่หน้าประตู มือของเธอเริ่มสั่น สีหน้า

เหนิงซีดเผือดลงทันที

เธอหัวเราะออกมาเบาๆ

และมองไปยังธนบัตรที่เขายัดเข้ามาไว้ในมือ นี่มันเรื่อง ตลกบ้าบออะไรกัน? เธอหัวเราะเยาะในความโง่เขลาของ ตัวเองจริงๆ

เสียงชายหนุ่มและหญิงสาวเล็ดลอดออกมานอกห้อง เธอก็ถอนหายใจยาวๆออกมา และกลั้นน้ำตาที่คลอเบ้าเอา

ไว้

เธอหันหลังกลับและเดินตรงไปยังลิฟต์และหยิบมือถือ

ออกมา

“สวัสดีค่ะ สถานีตำรวจใช่ไหมคะ? ฉันจะขอแจ้งความ ว่ามีชายหญิงค้าประเวณี ห้องพักเลขที่.”

ต่อมา20นาที

รถตำรวจคันหนึ่งจอดลงที่หน้าโรงแรมลี่หัว ข้างๆยังมีนัก ข่าวและช่างกล้องเดินตามมา เมื่อเห็นคนที่ถูกจับตัวออกมา นักข่าวก็พากันแห่เข้าไป

“นายมู่ มีคนแจ้งความว่าคุณเสพยาและซื้อบริการทาง เพศ จริงหรือไม่คะ? ”

“นายมู ในฐานะผู้สืบทอดมู่ชื่อกรุ๊ป คุณคิดว่าการกระทำ เช่นนี้เหมาะสมหรือไม่คะ?

“นายมู่ครับ ผู้หญิงคนที่อยู่กับคุณเป็นใครกันครับ? มี

ข่าวลือว่าเป็นดาราในวงการ จริงหรือไม่ครับ? ” “นายมู..”

มู่ยั่นเจ่อถูกนักข่าวล้อมไว้ แม้แต่ตำรวจก็ห้ามไว้ไม่ได้ เขากัดฟันกรอดๆและตะโกนออกมาว่า “ไปให้พ้น? ” นักข่าวพากันตกอกตกใจและถอยหลังออกไป

มู่ยั่นเจ๋อมองไปยังฝูงชน เขาพบเข้ากับจิ่งหนิง สายตา ของเขาแฝงไปด้วยความอาฆาตแค้น

นี่คือสิ่งที่คุณต้องการใช่ไหม?”

จึ่งหนิงเผยอยิ้ม สายตาแฝงไปด้วยการดูถูก

“คุณทำแบบนี้อย่าหวังว่าจะได้ผมไปครอง”

จิ่งหนิงเดินหน้าขึ้นไปแล้วเงื้อมือขึ้นต่อหน้านักข่าวและ

ตำรวจ

11 เพียะ!”

ฝ่ามือของเธอตบลงไปที่หน้าเขาอย่างจัง มู่ยั่นเจ่อถูกตบ เสียจนหน้าหัน

บรรยากาศรอบด้านเงียบลงทันใด

ทางตำรวจตกตะลึงอ้าปากค้าง ” คุณผู้หญิงคนนี้คือ.

%3D

%3D ขอโทษนะคะ มือลั่นไปเอง!”

เธอยิ้มด้วยแววตาเยือกเย็นแล้วทำท่าทางนวดข้อมือ แล้วมองไปยังมู่ยั่นเจ่อด้วยสายตาอาฆาต จากนั้นพูดด้วย น้ำเสียงเยือกเย็นว่า

กระดาษชำระที่ตกลงไปในชักโครก คุณคิดว่าใครยังจะต้องการอีกกัน?ตบเมื่อสักครู่เป็นแค่ดอกเบี้ยเท่านั้น ทุน ที่เหลือฉันจะให้คุณชดเชยภายในสามวัน!”

แววตาของมู่ยั่นเจ่อตื่นตระหนก อะไร! ทุนอะไร !!” จึ่งหนิงขมวดคิ้วขึ้น ” คุณแน่ใจนะว่าจะให้ฉันกระตุ้น

ความจำคุณ

มู่ยั่นเจ๋อก้มหน้าลงทันที

เธอหัวเราะหีๆ เป็นเสียงหัวเราะที่แฝงไปด้วยความดูถูก เหยียดหยาม

ทางตำรวจเห็นเช่นนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา เขาโบกมือ เป็นสัญญาณว่าให้คุมตัวขึ้นรถไปได้ เมื่อเขาเดินทางจากไป บรรดานักข่าวก็ไม่ได้รีรอ รีบตาม

ไปทันที

เดิมทีที่จากประตูทางเข้าโรงแรมเต็มไปด้วยผู้คน ตอนนี้ กลับว่างเปล่าไม่เหลือใคร

จึงหนิงยังยืนอยู่ที่นั่นจนกระทั่งควบคุมอารมณ์ได้ เธอจึง ได้เตรียมตัวจากไป

แต่เธอคาดไม่ถึงว่าเมื่อหันหลังกลับไปจะพบเข้ากับแวว ตาคู่หนึ่งที่จับจ้องเธออยู่

ชายหนุ่มในชุดสูทสีดำ ร่างกายกำยำสูงใหญ่ ผมสั้นจัด ทรงเป็นระเบียบ แววตาแหลมคมนั้นทำให้ผู้พบเห็น หลงใหล

ใบหน้าอันหล่อเหลาภายใต้แสงยามค่ำคืนแบบนี้ เผยให้เห็นออร่าที่กลมกลืนไปกับบรรยากาศรอบข้าง จิ่งหนิงรู้สึกว่าเธอเคยเห็นชายคนนี้มาก่อน

จากนั้นเธอหันไปเห็นเลขาของเขาที่ยืนอยู่ด้านหลัง อีก ทั้งรถปอร์เช่สีเงินที่อยู่ข้างๆ เธอก็คิดได้ว่าจะไปรู้จักบุคคล ที่โดดเด่นแบบนี้ได้ยังไงกัน?

เธอสลัดความคิดออกจากหัว หันหลังแล้วเดินจากไป จนกระทั่งร่างเล็กๆของเธอเข้าสู่รถยนต์ ลู่จิ่งเซินจึงได้

ละสายตามาจากเธอและถามขึ้นว่า “คนเมื่อกี้นี้คือใคร?

ซูมู่ที่ยืนอยู่ด้านหลังรีบตอบขึ้นว่า ท่านหมายถึงคนที่ถูก ตำรวจจับไปเมื่อกี้หรือครับ? เหมือนว่าจะเป็นคุณชายขอ งมู่ชื่อกรุ๊ปที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศเมื่อหลายวันก่อน”

ลู่จิ่งเซินขมวดคิ้วแล้วบอกว่า “ผมหมายถึงคนผู้หญิงคน เมื่อกี้”

“ครับ? ” ซูมู่งุนงงเล็กน้อย “ผู้หญิงคนไหนกัน? ”

เมื่อเห็นแววตาอันไม่พอใจของลู่จิ่งเซิน ซูมู่ก็รีบพูดขึ้นมา ว่า “ท่านประธานครับ ต้องขออภัยด้วยผมจะไปตรวจสอบ เดี๋ยวนี้”

“ช่างมันเถอะ”

สายตาของเขามองไปตามทางที่ผู้หญิงคนนั้นขับรถออก ไปแล้วยิ้มขึ้น เขาคล้ายกับนึกอะไรออกมาได้

จากนั้นเขารีบก้าวเดินเข้าไปด้านใน ในฐานะผู้แจ้งความ จิ่งหนิงจึงต้องเดินทางไปที่สถานี ตำรวจด้วย

เมื่อทำการบันทึกข้อความเสร็จแล้ว ผู้คนจากด้านนอกก็ พากันแห่กรูเข้ามา

คนที่เดินเข้ามาเป็นคนแรกก็คือคุณย่าจิ่งหวังเสว่เหมย เมื่อเธอเดินเข้ามาถึงก็ตบเข้าให้ที่หน้าของจิ่งหนิงอย่างจัง

“นังคนทรยศ? ”

หวังเสว่เหมยตัวสั่นสะท้านแล้วพูดว่า “แกรู้อยู่แก่ใจว่านั่น คือน้องสาวแท้ๆของแก ยังกล้าแจ้งตำรวจจับอีกอย่างนั้น เหรอ? แกต้องการจะยั่วให้ฉันโมโหตายยังไง? ”

จิงหนิงเช็ดโชคเลือดที่มุมปาก จากนั้นเงยดูหญิงชราที่ อยู่ตรงหน้า

“น้องสาวอย่างนั้นเหรอ? คุณหมายถึงจิ่งเสี่ยวหย่า? ”

“ไม่ต้องทำมาเป็นเสแสร้ง สื่อต่างๆพากันพูดกันให้แซ่ด บอกว่าคุณหนูจิงรองให้ท่าคู่หมั้นของคนอื่น แกไม่รู้เรื่อง หรือไง? ”

จึงหนิงก้มหน้าลงและยิ้มออกมาเบาๆ

“ผู้หญิงคนนั้นเป็นเธอนั่นเอง….ฉันก็คิดว่ากะหรี่ที่ไหน รีบร้อนจะหาเงินซะอีก ที่แท้ก็เป็นน้องสาวของฉันเอง? “

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท