วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – บทที่ 1013 เด็กๆทะเลาะกัน

บทที่ 1013 เด็กๆทะเลาะกัน

ในเมื่อพวกเฉียวฉีมาถึงแล้ว ถ้างั้นเธอก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องกังวลอะไร

ไม่นาน รถก็จอดอยู่ที่ด้านหน้าคฤหาสน์ตระกูลจิ้น

เมื่อท่านย่าจิ้นรู้ข่าวว่าท่านย่าเชิ๋นจะมา จึงรออยู่ที่หน้าประตูตั้งแต่เช้าแล้ว

ท่านย่าทั้งสองก็สนิทสนมกันตั้งแต่วัยรุ่น แน่นอนว่าเรื่องของมิตรภาพนั้นไม่ต้องพูดถึง

เมื่อรู้ว่าท่านย่าเชิ๋นจะมา ท่านย่าจิ้นก็ดีอกดีใจเป็นอย่างมาก

เช้าตรู่ หากคนของตระกูลกู้ไม่ใจแข็งรั้งไว้ หล่อนก็ยังยืนหยัดที่จะมาต้อนรับด้วยตนเอง

หลังจากที่ผู้คนลงจากรถแล้ว ท่านย่าทั้งสองต่างโอบกอดกัน ภาพที่เห็นต่างทำให้คนรู้สึกซาบซึ้งใจ

แต่ว่าอากาศไม่ค่อยดี ด้านนอกค่อนข้างหนาว แม้ว่าครอบครัวของคนแก่ทั้งสองจะรู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างมาก แต่ทุกคนก็ไม่อยากให้พวกหล่อนอยู่ข้างนอกนานๆ

จิ้นชิงซานประคองท่านย่าจิ้น พลางพูดขึ้นว่า:“แม่คะ แม่ดูสิคะว่า อากาศเย็นขนาดนี้พวกเราเข้าไปในบ้านกันเถอะ”

ท่านย่าจิ้นจึงพยักหน้า

“ได้ ควรที่จะเข้าไปคุยกันข้างในบ้าน พี่สาว ฉันจะพาคุณเข้าไปเอง”

เมื่อทุกคนต่างเข้าไปในบ้าน ก็มีคนออกมาต้อนรับ

จี้หลินยวนและหัวเหยาเป็นคนของตระกูลจิ้น จึงมาที่นี่ตั้งนานแล้ว

เนื่องจากครั้งนี้เป็นงานฉลองวันเกิดอายุเจ็ดสิบปี ตระกูลจิ้นต้องการจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ มีของจำนวนมากที่ต้องจัดเตรียม ธุรกิจก็มีบางเรื่องที่ต้องจัดการ

ดังนั้นหัวเหยาจึงพาเด็กและจี้หลินยวนเข้ามาด้วยกัน

ก่อนที่จิ่งหนิงใกล้จะมาถึง ก็ส่งข้อความหาหัวเหยา

ในเวลานี้หัวเหยาก็ได้ยินเสียงจากห้องโถง ก็รู้ได้ทันทีว่าพวกเขามาถึงแล้ว

และส่งเด็กๆให้กับพี่เลี้ยง แล้วรีบเดินเข้ามา

“หนิงหนิง”

“เหยาเหยา”

เพื่อนรักทั้งสองดีใจที่ได้พบกัน จึงทิ้งให้ลู่จิ่งเซินยืนโดดเดี่ยวอยู่ข้างๆ

เมื่อท่านย่าจิ้นเห็นเด็กน้อยทั้งสอง ก็ดีใจเป็นอย่างมาก แล้วเรียกพวกเขาเข้ามาพูดคุย ถามชื่อถามอายุ เด็กน้อยทั้งสองตอบกลับอย่างเชื่อฟัง

ดวงตาทั้งสองข้างของท่านย่าจิ้นยิ้มจนกลายเป็นเส้นเดียวกัน พลางพูดขึ้นกับหัวเหยาว่า:“ลี่หลินนอนหรือยัง?ถ้ายังไม่นอน ก็เรียกเขามาเล่นเถอะ ให้เขาได้มาพบกับพี่สาวและน้องชาย”

หัวเหยายิ้มพลางพูดขึ้นว่า:“ยังไม่ได้นอน ที่นี่คนเยอะ เดี๋ยวอีกสักพักฉันจะพาเขาไปเล่นที่สวนดอกไม้”

ท่านย่าพยักหน้า

ในห้องโถงมีผู้ใหญ่อยู่เป็นจำนวนมาก ไม่ค่อยเหมาะที่เด็กจะมาวิ่งเล่นกัน

หัวเหยาและจิ่งหนิงพูดคุยกันครู่หนึ่ง และให้เธอพาเด็กทั้งสองไปที่สวนดอกไม้ด้านหลัง

คฤหาสน์ของตระกูลจิ้นมีขนาดใหญ่ เมื่อมาถึงสวนดอกไม้ด้านหลัง จิ่งหนิงจึงพบว่า พวกเขาได้สร้างสวนสนุกไว้ให้กับพวกเด็กๆ

ในเวลานี้ ลูกๆของหัวเหยาและจี้หลินยวน จิ้นลี่หลินกำลังนั่งอยู่ที่นั้น ใบหน้าจิ้มลิ้มสีชมพูมีสีหน้าที่ไม่ค่อยพอใจนัก ก้มหน้าบูดเบี้ยว ไม่รู้เหมือนกันว่าโกรธใคร

หัวเหยาเดินเข้าไป พลางยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า:“ลี่หลิน รีบเข้ามาหาพี่สาวกับน้องชายสิ”

เสี่ยวลี่หลินเงยหน้าขึ้นเหลือบมองเธอครู่หนึ่ง แม้ว่าจะไม่เต็มใจ แต่ว่าก็เข้ามาด้วยมารยาท

หัวเหยาจูงมือของเขา พลางแนะนำเขาว่า“คนนี้คือพี่สาว ชื่อว่าอานอาน คนนี้คือน้องชาย ชื่อว่า ลู่จิ้งจื๋อ จำได้แล้วใช่ไหมครับ?”

เสี่ยวลี่หลินเบิกดวงตาที่ชุ่มชื้น พลางกะพริบตามองพวกเขา

อานอานอายุมากที่สุดในบรรดาเด็กๆ ดังนั้นจึงค่อนข้างที่จะปล่อยวางที่สุด รีบยื่นมือน้อยๆของตนออกไป

“น้องลี่หลิน สวัสดี พี่ชื่ออานอาน”

เสี่ยวลี่หลินกะพริบตาไปมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ในขณะที่ทุกคนต่างคิดว่าเขาไม่ชอบ จู่ๆเขาก็ยื่นมือออกไป พุ่งเข้าไปกอดอานอานแน่น

“พี่สาวสุดสวย ผมชอบพี่สาวสุดสวย”

จิ่งหนิงและหัวเหยาตกตะลึง

เห็นเพียงเด็กน้อยที่มีหน้าไม่พอใจเมื่อสักครู่นี้ ในเวลานี้กลับยิ้มออกมาอย่างสดใส

มองไปยังศีรษะของอานอานที่สูงกว่าตน ดีที่น้ำลายไม่ไหล

ในเวลานี้เอง เสียงโมโหของเด็กน้อยก็ดังขึ้น

“ไม่อนุญาตให้กอดพี่สาวของผม!”

จิ้งเจ๋อน้อยโกรธจนหน้าแดง พุ่งเข้าไปแล้วผลักเขาออก

จิ้งเจ๋อน้อยแม้ว่าจะอายุน้อยกว่าเสี่ยวลี่หลินปีครั้ง แต่ว่าแม้ว่าเขาจะตัวเล็กแต่ก็มีแรงมหาศาล อีกทั้งเสี่ยวลี่หลินก็คิดไม่ถึงว่าจะมีคนผลักตน ดังนั้นเท้าของเขาจึงไม่มั่นคงและล้มลงไปกับพื้นในทันที

เขาคิดไม่ถึงเลยว่าความเป็นมิตรของตนจะได้รับการตอบแทนเช่นนี้ เขาตะลึงงันครู่หนึ่ง จากนั้นก็นั่งร้องไห้อยู่ตรงนั้น

ทันใดนั้นจิ่งหนิงและหัวเหยาก็รู้สึกหวาดหวั่น

“หลินหลินไม่ร้องนะคะ เด็กดี น้องชายไม่ได้ตั้งใจ หยุดร้องก่อนนะครับ”

จิ่งหนิงก็เดินเข้าไป พลางคุกเข่าลงแล้วพูดกับจิ้งเจ๋อน้อยอย่างเคร่งขรึมว่า:“เจ๋อเจ๋อ หม่ามี๊บอกลูกแล้วไม่ใช่เหรอว่าห้ามลงมือทำร้ายคนอื่น?แล้วลูกผลักพี่หลินหลินได้ยังไง?”

จิ้งเจ๋อน้อยกะพริบตามองไปที่เธอ ดวงตากลมโตราวกับลูกองุ่นสีดำสองลูก เมื่อมองไปแล้วก็ทำให้คนรู้สึกน่าสงสารไม่น้อย

อาจเป็นเพราะเขารับรู้ได้ถึงความเคร่งขรึมของจิ่งหนิง เขาจึงทำปากมุ่ย และพูดขึ้นด้วยความรู้สึกน้อยใจว่า:“หม่ามี๊บอกแล้วว่า ผมเป็นเด็กผู้ชาย จะต้องปกป้องพี่สาว”

ขณะที่พูด จู่ๆก็หันไปชี้ยังเสี่ยวลี่หลินเด็กผู้ชายที่กำลังร้องไห้อยู่

“เขาแกล้งพี่สาว!”

จิ่งหนิงตะลึงงัน เธอรับรู้ถึงอะไรบางอย่าง สีหน้า

เคร่งขรึมเมื่อสักครู่นี้ก็ค่อยๆคลายออกมา พร้อมกับทันใดนั้นก็หัวเราะออกมา

“เขาไม่ได้แกล้งพี่สาว เขาชอบพี่สาว”

จิ้งเจ๋อน้อยส่ายหน้า

“ไม่ เขาทำร้ายพี่สาวอยู่ ในหนังสือบอกว่า พี่สาวเป็นผู้หญิง ผู้หญิงจะให้ผู้ชายกอดง่ายๆไม่ได้ เขากอดพี่สาว เขาเป็นคนห่วย!”

อานอานในเวลานี้ก็รู้สึกจนปัญญา ด้านหนึ่งเป็นน้องชาย ส่วนอีกด้านหนึ่งก็เป็นน้องชายเช่นเดียวกัน จู่ๆเธอก็ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดี

ในเวลานี้หัวเหยาก็พอที่จะรู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น

ก็พยายามที่จะช่วยเหลือ

หล่อนปลอบเสี่ยวลี่หลินที่กำลังร้องไห้เสียใจอยู่ไปด้วย พลางชี้ไปที่ จิ้งเจ๋อน้อย

“เจ๋อเจ๋อหนูทำถูกแล้วค่ะ พี่ชายผิดแล้ว พี่ชายไม่ควรที่จะกอดพี่สาวโดยที่ไม่ได้รับอนุญาต”

หล่อนพูดไปพลาง ปลอบเสี่ยวลี่หลินเบาๆ

“หลินหลิน คุณได้ยินไหม? ต่อไปหากต้องการกอดพี่สาวจะต้องได้รับอนุญาตจากพี่สาวก่อนรู้ไหม?”

เสี่ยวลี่หลินยังคงร้องไห้อยู่สะอึกสะอื้น เมื่อจิ่งหนิงเห็นดังนั้นก็พูดกับอานอานว่า:“อานอาน ลูกปลอบน้องชายหน่อยสิ”

อานอานลังเลเล็กน้อย

หล่อนไม่ได้รู้สึกถึงการถูกคนอื่นกอดจะผิดอะไร แต่หลักๆคือหล่อนกลัวว่าหากตนไปปลอบ จิ้งเจ๋อน้อยที่คอยปกป้องหล่อนจะรู้สึกเสียใจ

จากนั้น เมื่อหันกลับไปก็เห็นว่าหม่ามี๊กำลังกอดจิ้งเจ๋อน้อยอยู่ จึงรู้ได้ทันทีว่าคงไม่มีเรื่องอะไรแล้ว จึงก้าวเท้าเดินไปหาเสี่ยวลี่หลิน

“หลินหลิน สวัสดี ไม่ต้องร้องแล้วนะคะ พวกเรามาเล่นเกมกันดีไหม!”

ไม่เสียแรงที่อานอานเป็นพี่สาว หล่อนมีวิธีการปลอบเด็กที่ไม่เลวเลย

เดิมทีเสี่ยวลี่หลินก็ชอบหล่อนอยู่แล้ว แม้ว่ากำลังร้องไห้ด้วยความเสียใจอยู่ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะร้องไห้จนฟังอะไรไม่รู้เรื่องเลย

เขาเงยหน้าที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตา แล้วมองไปที่หล่อน

ร้องไห้สะอึกสะอื้น พลางถามขึ้นว่า:“เล่น เล่นอะไรเหรอครับ?”

อานอานครุ่นคิด“พวกเรามาเล่นซ่อนแอบกันดีไหม?”

เสี่ยวลี่หลินครุ่นคิดครู่หนึ่ง ไม่นาน จึงพูดขึ้นอย่างน่าสงสารว่า:“ก็ได้”

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Status: Ongoing

บทที่ 1 จับชู้คาเตียง

“มีถุงยางดูเร็กซ์ ดูอัล เพลย์เชอร์ไซซ์กลางไหม? ”

“มีค่ะ”

“แล้วก็ไวเบรเตอร์กับชุดนางแมวสวาทชุดหนึ่งด้วย”

“ได้ค่ะ จัดส่งที่ไหนคะ? ”

“โรงแรมลี่หัว ห้อง2202”

“ค่ะ ขอบคุณค่ะ”

เมื่อจิ่งหนิงมาถึงโรงแรมลี่หัวก็เป็นเวลาห้าทุ่มแล้ว

เวลาดึกดื่นขนาดนี้ สำหรับคนที่ทำธุรกิจสินค้าผู้ใหญ่ แบบนี้ การนำส่งสินค้าด้วยตนเองไม่ค่อยปลอดภัยเท่าไหร่

นัก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหญิงสาวหน้าตาสะสวยอย่างเธอ

แต่จะทำยังไงได้ล่ะ ชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ทุก สิ่งทุกอย่างต้องแลกมาด้วยเงิน อีกอย่างมู่ยั่นเจ๋อกำลังจะ กลับมาอีกไม่กี่วันนี้

คบกันมาตั้งหกปี แต่เวลากว่าครึ่งเป็นรักระยะไกล เขา ต้องดูแลธุรกิจทั้งในและนอกประเทศ เธอจะทำตัววุ่นวาย ส่งผลต่อการทำงานของเขาไม่ได้

ดีที่ความรักของทั้งสองคนนั้นค่อนข้างหวานชื่นนอกจากงานในแต่ละวันแล้ว เธอยังมีธุรกิจเล็กๆของตัวเอง ด้วย อีกไม่กี่วันเป็นวันเกิดของเขา เธอตั้งใจจะมอบของ ขวัญให้เขาอย่างเซอร์ไพรซ์

เมื่อคิดได้ดังนั้น จึงหนิงก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข

เธอขยับหมวกสีดำที่ใส่มาให้ปิดลงมาบังหน้าไว้ จากนั้น เดินถือกล่องสินค้าเข้าไปด้านใน

โรงแรมลี่หัว เป็นสถานที่ราคาแพงขึ้นชื่อของเมืองจิ้น ผู้คนที่เดินทางมาเข้าพักล้วนเป็นระดับมหาเศรษฐี

ความโอ่อ่างดงามที่ห้องโถงไม่ต้องพูดถึง แม้แต่ลิฟต์ก็ ถูกประดับตกแต่งด้วยเงินและทองคำ คนที่ยืนอยู่ด้านใน ถูกแสงไฟส่องสว่างไสว

จิ่งหนิงเดินถือกล่องเข้าไปแล้วมองหาจุดหมาย

ใบหน้าอันงดงามถูกปิดอยู่ครึ่งหนึ่ง มองเห็นเพียงดวงตา เป็นประกายคู่นั้น แฝงไปด้วยความมั่นใจ

ลิฟต์ขึ้นสู่ชั้น22 “ตั้ง” ประตูเปิดออก เธอเดินออกไป กระทั่งถึงห้อง2202และกดกริ่งที่ประตู

ประตูยังไม่เปิดออก ก็มีเสียงหนุ่มสาวดังขึ้น

“อาเจ๋อ อุ๊ย? อย่าค่ะ….ของน่าจะมาส่งแล้ว”

“รอผมนะ เดี๋ยวมา”

จึงหนิงยืนยิ้มอยู่ที่ปากประตูอย่างอดไม่ได้ ของยังมาส่งไม่ถึงก็เริ่มกันแล้วเหรอเนี่ย? รีบร้อนกันจริงๆ?

ประตูถูกเปิดออกในไม่ช้า ชายผู้ออกมารับของสวมผ้า ขนหนูเพียงผืนเดียว บนร่างกายของเขายังคงมีไอน้ำอยู่

จิ่งหนิงไม่ได้มองหน้าเขา เธอยื่นกล่องใส่ของออกไป “843หยวนค่ะ? จ่ายเงินสดหรือว่าโอนคะ? ”

ชายผู้อยู่ตรงหน้าไม่ตอบ

ผ่านไปสองวินาที เสียงของชายผู้นั้นเอ่ยขึ้นว่า “.

หนิง?

จิ่งหนิงตกตะลึง เธอเงยหน้าขึ้นมอง

เมื่อเห็นชายที่ยืนอยู่ด้านหน้า ร่างกายกำยำ ผมเผ้าเปียก ปอน เขามีเพียงผ้าขนหนูสีขาวปิดบังร่างกายไว้ แสงไฟ เหลืองนวลส่องมายังร่างกายของเขา ผิวขาวเนียนและ ใบหน้าอันเกลี้ยงเกลาของเขาเต็มไปด้วยความประหลาด

ใจ อีกทั้ง ทำตัวไม่ถูก

สีหน้าของจิงหนิงตกใจเสียจนหน้าซีด

“ปั่นเจ๋อ ใครคะ? ”

“ไม่มีอะไรครับ คนมาส่งของครับ”

มู่ยั่นเจ๋อรีบพูดขึ้นก่อนที่จิ่งหนิงจะเอ่ยอะไรออกมาจาก นั้นรีบหยิบเงินจากกระเป๋ายัดใส่มือเธอและหยิบของไป อย่างรวดเร็ว

เสียงประตูปิดลงดัง “ปัง?

จึงหนิงยังคงยืนอยู่ที่หน้าประตู มือของเธอเริ่มสั่น สีหน้า

เหนิงซีดเผือดลงทันที

เธอหัวเราะออกมาเบาๆ

และมองไปยังธนบัตรที่เขายัดเข้ามาไว้ในมือ นี่มันเรื่อง ตลกบ้าบออะไรกัน? เธอหัวเราะเยาะในความโง่เขลาของ ตัวเองจริงๆ

เสียงชายหนุ่มและหญิงสาวเล็ดลอดออกมานอกห้อง เธอก็ถอนหายใจยาวๆออกมา และกลั้นน้ำตาที่คลอเบ้าเอา

ไว้

เธอหันหลังกลับและเดินตรงไปยังลิฟต์และหยิบมือถือ

ออกมา

“สวัสดีค่ะ สถานีตำรวจใช่ไหมคะ? ฉันจะขอแจ้งความ ว่ามีชายหญิงค้าประเวณี ห้องพักเลขที่.”

ต่อมา20นาที

รถตำรวจคันหนึ่งจอดลงที่หน้าโรงแรมลี่หัว ข้างๆยังมีนัก ข่าวและช่างกล้องเดินตามมา เมื่อเห็นคนที่ถูกจับตัวออกมา นักข่าวก็พากันแห่เข้าไป

“นายมู่ มีคนแจ้งความว่าคุณเสพยาและซื้อบริการทาง เพศ จริงหรือไม่คะ? ”

“นายมู ในฐานะผู้สืบทอดมู่ชื่อกรุ๊ป คุณคิดว่าการกระทำ เช่นนี้เหมาะสมหรือไม่คะ?

“นายมู่ครับ ผู้หญิงคนที่อยู่กับคุณเป็นใครกันครับ? มี

ข่าวลือว่าเป็นดาราในวงการ จริงหรือไม่ครับ? ” “นายมู..”

มู่ยั่นเจ่อถูกนักข่าวล้อมไว้ แม้แต่ตำรวจก็ห้ามไว้ไม่ได้ เขากัดฟันกรอดๆและตะโกนออกมาว่า “ไปให้พ้น? ” นักข่าวพากันตกอกตกใจและถอยหลังออกไป

มู่ยั่นเจ๋อมองไปยังฝูงชน เขาพบเข้ากับจิ่งหนิง สายตา ของเขาแฝงไปด้วยความอาฆาตแค้น

นี่คือสิ่งที่คุณต้องการใช่ไหม?”

จึ่งหนิงเผยอยิ้ม สายตาแฝงไปด้วยการดูถูก

“คุณทำแบบนี้อย่าหวังว่าจะได้ผมไปครอง”

จิ่งหนิงเดินหน้าขึ้นไปแล้วเงื้อมือขึ้นต่อหน้านักข่าวและ

ตำรวจ

11 เพียะ!”

ฝ่ามือของเธอตบลงไปที่หน้าเขาอย่างจัง มู่ยั่นเจ่อถูกตบ เสียจนหน้าหัน

บรรยากาศรอบด้านเงียบลงทันใด

ทางตำรวจตกตะลึงอ้าปากค้าง ” คุณผู้หญิงคนนี้คือ.

%3D

%3D ขอโทษนะคะ มือลั่นไปเอง!”

เธอยิ้มด้วยแววตาเยือกเย็นแล้วทำท่าทางนวดข้อมือ แล้วมองไปยังมู่ยั่นเจ่อด้วยสายตาอาฆาต จากนั้นพูดด้วย น้ำเสียงเยือกเย็นว่า

กระดาษชำระที่ตกลงไปในชักโครก คุณคิดว่าใครยังจะต้องการอีกกัน?ตบเมื่อสักครู่เป็นแค่ดอกเบี้ยเท่านั้น ทุน ที่เหลือฉันจะให้คุณชดเชยภายในสามวัน!”

แววตาของมู่ยั่นเจ่อตื่นตระหนก อะไร! ทุนอะไร !!” จึ่งหนิงขมวดคิ้วขึ้น ” คุณแน่ใจนะว่าจะให้ฉันกระตุ้น

ความจำคุณ

มู่ยั่นเจ๋อก้มหน้าลงทันที

เธอหัวเราะหีๆ เป็นเสียงหัวเราะที่แฝงไปด้วยความดูถูก เหยียดหยาม

ทางตำรวจเห็นเช่นนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา เขาโบกมือ เป็นสัญญาณว่าให้คุมตัวขึ้นรถไปได้ เมื่อเขาเดินทางจากไป บรรดานักข่าวก็ไม่ได้รีรอ รีบตาม

ไปทันที

เดิมทีที่จากประตูทางเข้าโรงแรมเต็มไปด้วยผู้คน ตอนนี้ กลับว่างเปล่าไม่เหลือใคร

จึงหนิงยังยืนอยู่ที่นั่นจนกระทั่งควบคุมอารมณ์ได้ เธอจึง ได้เตรียมตัวจากไป

แต่เธอคาดไม่ถึงว่าเมื่อหันหลังกลับไปจะพบเข้ากับแวว ตาคู่หนึ่งที่จับจ้องเธออยู่

ชายหนุ่มในชุดสูทสีดำ ร่างกายกำยำสูงใหญ่ ผมสั้นจัด ทรงเป็นระเบียบ แววตาแหลมคมนั้นทำให้ผู้พบเห็น หลงใหล

ใบหน้าอันหล่อเหลาภายใต้แสงยามค่ำคืนแบบนี้ เผยให้เห็นออร่าที่กลมกลืนไปกับบรรยากาศรอบข้าง จิ่งหนิงรู้สึกว่าเธอเคยเห็นชายคนนี้มาก่อน

จากนั้นเธอหันไปเห็นเลขาของเขาที่ยืนอยู่ด้านหลัง อีก ทั้งรถปอร์เช่สีเงินที่อยู่ข้างๆ เธอก็คิดได้ว่าจะไปรู้จักบุคคล ที่โดดเด่นแบบนี้ได้ยังไงกัน?

เธอสลัดความคิดออกจากหัว หันหลังแล้วเดินจากไป จนกระทั่งร่างเล็กๆของเธอเข้าสู่รถยนต์ ลู่จิ่งเซินจึงได้

ละสายตามาจากเธอและถามขึ้นว่า “คนเมื่อกี้นี้คือใคร?

ซูมู่ที่ยืนอยู่ด้านหลังรีบตอบขึ้นว่า ท่านหมายถึงคนที่ถูก ตำรวจจับไปเมื่อกี้หรือครับ? เหมือนว่าจะเป็นคุณชายขอ งมู่ชื่อกรุ๊ปที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศเมื่อหลายวันก่อน”

ลู่จิ่งเซินขมวดคิ้วแล้วบอกว่า “ผมหมายถึงคนผู้หญิงคน เมื่อกี้”

“ครับ? ” ซูมู่งุนงงเล็กน้อย “ผู้หญิงคนไหนกัน? ”

เมื่อเห็นแววตาอันไม่พอใจของลู่จิ่งเซิน ซูมู่ก็รีบพูดขึ้นมา ว่า “ท่านประธานครับ ต้องขออภัยด้วยผมจะไปตรวจสอบ เดี๋ยวนี้”

“ช่างมันเถอะ”

สายตาของเขามองไปตามทางที่ผู้หญิงคนนั้นขับรถออก ไปแล้วยิ้มขึ้น เขาคล้ายกับนึกอะไรออกมาได้

จากนั้นเขารีบก้าวเดินเข้าไปด้านใน ในฐานะผู้แจ้งความ จิ่งหนิงจึงต้องเดินทางไปที่สถานี ตำรวจด้วย

เมื่อทำการบันทึกข้อความเสร็จแล้ว ผู้คนจากด้านนอกก็ พากันแห่กรูเข้ามา

คนที่เดินเข้ามาเป็นคนแรกก็คือคุณย่าจิ่งหวังเสว่เหมย เมื่อเธอเดินเข้ามาถึงก็ตบเข้าให้ที่หน้าของจิ่งหนิงอย่างจัง

“นังคนทรยศ? ”

หวังเสว่เหมยตัวสั่นสะท้านแล้วพูดว่า “แกรู้อยู่แก่ใจว่านั่น คือน้องสาวแท้ๆของแก ยังกล้าแจ้งตำรวจจับอีกอย่างนั้น เหรอ? แกต้องการจะยั่วให้ฉันโมโหตายยังไง? ”

จิงหนิงเช็ดโชคเลือดที่มุมปาก จากนั้นเงยดูหญิงชราที่ อยู่ตรงหน้า

“น้องสาวอย่างนั้นเหรอ? คุณหมายถึงจิ่งเสี่ยวหย่า? ”

“ไม่ต้องทำมาเป็นเสแสร้ง สื่อต่างๆพากันพูดกันให้แซ่ด บอกว่าคุณหนูจิงรองให้ท่าคู่หมั้นของคนอื่น แกไม่รู้เรื่อง หรือไง? ”

จึงหนิงก้มหน้าลงและยิ้มออกมาเบาๆ

“ผู้หญิงคนนั้นเป็นเธอนั่นเอง….ฉันก็คิดว่ากะหรี่ที่ไหน รีบร้อนจะหาเงินซะอีก ที่แท้ก็เป็นน้องสาวของฉันเอง? “

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท