หนานจิ่นไม่ทำตามอย่างที่เธอหวังอยู่แล้ว ดังนั้นสองคนต่อสู้กันทั้งแบบเปิดเผยและลับๆ
ในที่สุดพระราชินีจะเสียชีวิตแล้ว แต่ก่อนที่จะเสียชีวิต กลับสั่งคนไปหาเจอน้องสาวที่แยกกันตั้งแต่เด็กของเธอในหมู่คน
น้องสาวคนนั้นหายตัวไปในหมู่คนตอนที่พระราชินีรุ่นที่แล้วยังมีชีวิตอยู่
เขาเพิ่งมารู้ว่าพระราชินีแอบเก็บอีกวิธีหนึ่งไว้ เธอเอาอำนาจส่งต่อให้น้องสาวคนนั้นทั้งหมด เพื่อวันหนึ่งสามารถใช้การตายของตัวเองให้น้องสาวกลับมาฆ่าราชครูใหญ่สำเร็จ จากนั้นเก็บอำนาจกลับมาทั้งหมด
คืนนั้นหลังจากเขาถูกเรียกเข้าไปในพระราชวัง พระราชินีก็เสียชีวิตลงแล้วจริงๆ
ทุกคนล้วนคิดว่าเขาเป็นคนวางยาพิษฆ่าพระราชินี แต่มีแค่เขาคนเดียวที่รู้ว่าพระราชินีเป็นคนทานยาพิษเองจนเสียชีวิต
เขาไม่มีวันลืมได้ ดวงตาคู่นั้นที่จ้องเขาไม่ปล่อยก่อนที่จะตายของผู้หญิงคนนั้น
เธอยิ้มอยู่ สำลักฟองเลือดเต็มปาก แต่ยังคงพูดอย่างยืนหยัด: “หนานจิ่น นายเก่งมากไม่ใช่เหรอ วันนี้นายออกไปจากที่นี่ นายก็คือขุนนางนักโทษที่ฆ่าราชา ฉันจะรอดูว่านายจะเก่งไปถึงไหน! ถึงตอนนั้นทุกคนก็จะประณามนาย ด่าว่านาย น้องสาวของฉันจะเข้าวังแทนที่ฉัน ลงโทษนายแทนฉัน”
“แม้อำนาจของราชครูใหญ่จะใหญ่แค่ไหน ฐานะจะสูงแค่ไหน ไม่มีใครสามารถทำอะไรให้ได้แค่ไหน แต่การกบฏและการฆ่าราชาวางอยู่ตรงหน้า ยังไงก็สามารถทำให้นายล้มเหลวได้แล้วมั้ง ฮาๆๆๆๆๆ จากนี้ไป ราชวงศ์นี้ก็ไม่มีฐานะของราชครูใหญ่อีกต่อไปแล้ว เวลาที่พระราชวงศ์กลับมาถืออำนาจใหม่อยู่ไม่ไกลแล้ว ถึงฉันจะตาย แต่ก็ไม่เสียดายอะไรแล้ว! รอนายมารายงานตัวกับฉัน ฮาๆๆๆ”
พระราชินีพูดจบก็เสียชีวิตลงแล้ว
ตอนนั้นเขาโกรธและโมโหมาก แม้จะรู้ดีว่านี่คือการใส่ร้ายป้ายสี แต่ก็ไม่มีวิธีทางแก้ปัญหาได้
ยังดีที่คนที่เขาส่งออกไปตอนนั้นจับน้องสาวของพระราชินีไว้ได้ เขาขังหญิงสาวคนนั้นเอาไว้ จากนั้นติดต่อขุนนางที่อยู่ในพรรคของตนเอง ปล่อยข่าวอื้อฉาวที่พระราชินีสำส่อนวังหลังบนท้องพระโรง จากนั้นเปลี่ยนโทษการฆ่าพระราชินีไปที่นายบำเรออีกคนหนึ่ง
ในที่สุดเขาก็หลุดพ้นออกมาได้ กลับเข้าไปในวัง แต่นี่ยังไม่พอ
ทุกคนต่างรู้กันว่าพระราชินีมีน้องสาวหนึ่งคน ขณะนี้ น้องสาวคนนี้กำลังอยู่ในระหว่างทางเข้ามาในเมือง เตรียมรับตำแหน่งแห่งพระราชินี
ถ้าตอนนี้น้องสาวคนนี้ปรากฏตัวออกมาต่อหน้าชาวโลกอีก อย่างนั้นการเป็นที่สงสัยที่เขากว่าจะคลายจนสะอาดก่อนหน้านี้ก็จะกลับมาอยู่ที่ตัวเขาอีกครั้ง
เพราะฉะนั้นน้องสาวต้องปรากฏตัว ส่วนตำแหน่งแห่งพระราชินีนี้ก็ต้องมีคนมาอยู่เช่นกัน
แต่ถ้าปล่อยน้องสาวของพระราชินีคนนั้นออกไปจริงๆ เธอรู้อยู่แล้วว่าเขาเป็นคนฆ่าพี่สาวของเธอ เธอต้องไม่ปล่อยผ่านง่ายๆ แน่นอน
ดังนั้นวิธีเดียวที่สามารถทำได้ในตอนนี้ก็มีแค่ฆ่าเธอให้ตาย เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาในอนาคต
แต่ควรฆ่าเธอด้วยวิธีไหน และไม่ส่งผลกระทบต่อการสืบราชบัลลังก์ และไม่ทำให้ทุกคนสงสัยตัวเองล่ะ
หนานจิ่นตกอยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
และในขณะที่เขาอยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกนี้ เขาได้รู้ความลับของหญิงสาวคนนั้นโดยไม่ได้ตั้งใจ
คืนนั้นดึกสงัดเงียบสงบ เนื่องจากในวังไม่ค่อยมีผู้หญิงเท่าไหร่ ส่วนเรื่องที่ขังน้องสาวของพระราชินีไว้ก็เป็นเรื่องที่ลี้ลับมากด้วย เขาไม่ไว้ใจให้คนอื่นทำ
ดังนั้น เขาให้เฉียนเฉียนรับผิดชอบอาหารทั้งสามมื้อในหนึ่งวันของผู้หญิงคนนั้น
เฉียนเฉียน ก็คือผู้หญิงที่เขาพากลับมาจากทะเลทรายคนนั้น
วันนั้นเขาเดินผ่านห้องที่ขังน้องสาวของพระราชินีไว้โดยไม่ได้ตั้งใจ เห็นมีแสงส่องออกมาจากข้างใน ตอนนั้นสงสัยจึงดูเข้าไปจากช่องประตูแวบหนึ่ง
พอดูแล้วก็ตกใจจนจ้องตาโตขึ้นมาทันทีเลย
เห็นแต่ข้างในน้องสาวของพระราชินีกำลังนั่งอยู่บนเตียง ทั้งตัวถูกมัดเอาไว้ ส่วนเฉียนเฉียนของเขายืนอยู่ในห้อง ในมือกำลังทำท่าแปลกประหลาดอยู่ ต่อมา ใบหน้าอันสดใสและสวยงามในตอนแรกนั้นก็กลายเปลี่ยนเป็นหน้าของเขาแล้ว
ตอนนั้นเขาตกใจมาก ยิ่งกว่านั้นยังถอยหลังแล้วสองก้าว ต่อมาก็ส่องเข้าไปในช่องประตูต่อ เห็นแต่เธอเปลี่ยนหน้ากลับมาเหมือนเดิมอีกแล้ว จากนั้นพูดอะไรสักอย่างกับน้องสาวของพระราชินี ก็ได้เปลี่ยนหน้าเป็นน้องสาวของพระราชินีต่อ
เขาไม่เคยเห็น…ไสยศาสตร์แบบนี้
สมัยนั้นมีหน้ากากหนังคนแล้ว
แต่ถึงอย่างไรหน้ากากหนังคนก็เป็นของตาย ระยะเวลาที่สามารถใส่ไว้บนหน้าไม่แน่นอน และไม่ใช่วิธีระยะยาวอีกด้วย
ดังนั้นเขาไม่เคยเห็นมีคนไหนสามารถเปลี่ยนหน้าตัวเองเป็นผู้หญิงอีกคนโดยที่ไม่มีเครื่องมืออุปกรณ์ใดๆ ช่วยเหลืออย่างไม่เสียแรงอะไรเลย
ตกลงนี่คือไสยศาสตร์อะไร
เห็นแต่ในห้องเฉียนเฉียนเปลี่ยนใบหน้าให้ผู้หญิงคนนั้นดูแล้วสักพัก จากนั้นผู้หญิงคนนั้นถึงยกถ้วยข้าวขึ้นมากินสอง สามคำ
เฉียนเฉียนมองเธอ มีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้า รอเธอทานข้าวเสร็จแล้วถึงออกมา
เมื่อเธอออกมาก็เห็นเขาที่ยืนอยู่ตรงไม่ไกล
รอยยิ้มบนหน้าหายไปในพริบตา กลายเป็นสีหน้าตื่นตกใจ
เพราะเธอฉลาดมาก พอเธอเห็นจุดที่เขายืนอยู่ก็เข้าใจทันทีเลยว่าเขาเห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้นในห้องนั้นเมื่อกี้แล้ว
หนานจิ่นไม่เยิ่นเย้ออืดอาด ในใจของเขาโมโหมาก และก็กลัวมากด้วย เขาไม่เคยรู้เลยว่าผู้หญิงที่อยู่ข้างตัวตนเองจะมีความสามารถแบบนี้
เขาพาเธอเข้าไปที่ห้องหนึ่ง บังคับเธอบอกทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อกี้
เฉียนเฉียนก้มหน้าลง เม้มปากไว้แน่นๆ ไม่พูดไม่จา
จนในที่สุดเขาแสดงอารมณ์โกรธ เธอคงตกใจมาก น้ำตาไหลลงมาเป็นหยดใหญ่ๆ นี่ถึงยอมบอกความจริงออกมา
นั่นคือความจริงที่เขาไม่เคยกล้าเชื่อมาตลอดเลย
เธอบอกว่าสถานที่ที่พวกเขาอาศัยไม่ใช่หนึ่งแผ่นดินใหญ่ แต่เป็นแต่เป็นดาวทรงกลมหนึ่ง ในจักรวาลนี้ยังมีดาวอีกหลายดวงจนนับไม่ถ้วน ดาวทุกดวงล้วนมีสิ่งมีชีวิตที่เป็นเอกลักษณ์ของดาวดวงนั้น แค่รูปแบบการใช้ชีวิตต่างกันเท่านั้นเอง
ส่วนเธอก็คือสิ่งมีชีวิตของดาวอีกดวงหนึ่งที่ห่างจากที่นี่ไกลแสนไกล คนแบบนี้อย่างพวกเธอ ร่างกายจะเปลี่ยนแปลงไปตามสิ่งแวดล้อมในตอนนั้น พวกเธออายุยืนยาว ตายยากมาก และป่วยไม่เป็นด้วย แต่พวกเธอขาดความรู้สึกต่างๆ ของมนุษย์
จริงๆ แล้วร่างกายของพวกเธอไม่ได้ประกอบด้วยเลือดกับเนื้อ แต่เป็นองค์ประกอบที่ละเอียดและแม่นยำอย่างหนึ่ง องค์ประกอบนี้จะเปลี่ยนไปตามความต้องการของเจ้าของร่างกายกลายเป็นรูปร่างต่างๆ
ก็เหมือนกับคนเราปั้นดินน้ำมัน อยากทำเป็นแบบไหนก็สามารถกลายเป็นแบบนั้นได้
ดังนั้นตอนที่เธอเห็นเขา สัญชาตญาณแรกก็คือหน้าตาที่เขาจะชอบเธอ เพราะฉะนั้นเธอก็กลายเป็นหน้าตาอย่างปัจจุบันแล้ว
ส่วนเมื่อกี้ที่เธอเปลี่ยนอีกครั้ง ก็เพราะว่าน้องสาวของพระราชินีไม่ยอมกินข้าวเลย เนื่องจากได้รับรู้ว่าเสด็จพี่ของตัวเองตายแล้ว ส่วนตัวเองแบกรับหน้าที่อันสำคัญไว้ กลับถูกขังไว้อยู่ที่นี่ ไม่เห็นอนาคต ฉะนั้นเธอจึงประท้วงโดยการอดอาหารอยู่ตลอด
ถึงแม้เฉียนเฉียนจะไม่ใช่สิ่งมีชีวิตของดวงดาวนี้ แต่กลับมีจิตใจดีกว่าใครคนไหนอีก เธอรู้สึกว่าอีกฝ่ายน่าสงสารมาก
คนในครอบตรัวเสียชีวิตแล้ว ตัวเองยังถูกขังไว้อีก ถ้ากลายเป็นตัวเองเจอเรื่องแบบนี้ ตัวเองก็คงไม่มีอารมณ์ทานอาหารเช่นกัน แม้จะเป็นขนมวอลนัทที่ตัวเองชอบกินที่สุดก็ไม่อยากกิน