วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – บทที่ 1037 ต่อสู้กันทั้งแบบเปิดเผยและลับๆ

บทที่ 1037 ต่อสู้กันทั้งแบบเปิดเผยและลับๆ

หนานจิ่นไม่ทำตามอย่างที่เธอหวังอยู่แล้ว ดังนั้นสองคนต่อสู้กันทั้งแบบเปิดเผยและลับๆ

ในที่สุดพระราชินีจะเสียชีวิตแล้ว แต่ก่อนที่จะเสียชีวิต กลับสั่งคนไปหาเจอน้องสาวที่แยกกันตั้งแต่เด็กของเธอในหมู่คน

น้องสาวคนนั้นหายตัวไปในหมู่คนตอนที่พระราชินีรุ่นที่แล้วยังมีชีวิตอยู่

เขาเพิ่งมารู้ว่าพระราชินีแอบเก็บอีกวิธีหนึ่งไว้ เธอเอาอำนาจส่งต่อให้น้องสาวคนนั้นทั้งหมด เพื่อวันหนึ่งสามารถใช้การตายของตัวเองให้น้องสาวกลับมาฆ่าราชครูใหญ่สำเร็จ จากนั้นเก็บอำนาจกลับมาทั้งหมด

คืนนั้นหลังจากเขาถูกเรียกเข้าไปในพระราชวัง พระราชินีก็เสียชีวิตลงแล้วจริงๆ

ทุกคนล้วนคิดว่าเขาเป็นคนวางยาพิษฆ่าพระราชินี แต่มีแค่เขาคนเดียวที่รู้ว่าพระราชินีเป็นคนทานยาพิษเองจนเสียชีวิต

เขาไม่มีวันลืมได้ ดวงตาคู่นั้นที่จ้องเขาไม่ปล่อยก่อนที่จะตายของผู้หญิงคนนั้น

เธอยิ้มอยู่ สำลักฟองเลือดเต็มปาก แต่ยังคงพูดอย่างยืนหยัด: “หนานจิ่น นายเก่งมากไม่ใช่เหรอ วันนี้นายออกไปจากที่นี่ นายก็คือขุนนางนักโทษที่ฆ่าราชา ฉันจะรอดูว่านายจะเก่งไปถึงไหน! ถึงตอนนั้นทุกคนก็จะประณามนาย ด่าว่านาย น้องสาวของฉันจะเข้าวังแทนที่ฉัน ลงโทษนายแทนฉัน”

“แม้อำนาจของราชครูใหญ่จะใหญ่แค่ไหน ฐานะจะสูงแค่ไหน ไม่มีใครสามารถทำอะไรให้ได้แค่ไหน แต่การกบฏและการฆ่าราชาวางอยู่ตรงหน้า ยังไงก็สามารถทำให้นายล้มเหลวได้แล้วมั้ง ฮาๆๆๆๆๆ จากนี้ไป ราชวงศ์นี้ก็ไม่มีฐานะของราชครูใหญ่อีกต่อไปแล้ว เวลาที่พระราชวงศ์กลับมาถืออำนาจใหม่อยู่ไม่ไกลแล้ว ถึงฉันจะตาย แต่ก็ไม่เสียดายอะไรแล้ว! รอนายมารายงานตัวกับฉัน ฮาๆๆๆ”

พระราชินีพูดจบก็เสียชีวิตลงแล้ว

ตอนนั้นเขาโกรธและโมโหมาก แม้จะรู้ดีว่านี่คือการใส่ร้ายป้ายสี แต่ก็ไม่มีวิธีทางแก้ปัญหาได้

ยังดีที่คนที่เขาส่งออกไปตอนนั้นจับน้องสาวของพระราชินีไว้ได้ เขาขังหญิงสาวคนนั้นเอาไว้ จากนั้นติดต่อขุนนางที่อยู่ในพรรคของตนเอง ปล่อยข่าวอื้อฉาวที่พระราชินีสำส่อนวังหลังบนท้องพระโรง จากนั้นเปลี่ยนโทษการฆ่าพระราชินีไปที่นายบำเรออีกคนหนึ่ง

ในที่สุดเขาก็หลุดพ้นออกมาได้ กลับเข้าไปในวัง แต่นี่ยังไม่พอ

ทุกคนต่างรู้กันว่าพระราชินีมีน้องสาวหนึ่งคน ขณะนี้ น้องสาวคนนี้กำลังอยู่ในระหว่างทางเข้ามาในเมือง เตรียมรับตำแหน่งแห่งพระราชินี

ถ้าตอนนี้น้องสาวคนนี้ปรากฏตัวออกมาต่อหน้าชาวโลกอีก อย่างนั้นการเป็นที่สงสัยที่เขากว่าจะคลายจนสะอาดก่อนหน้านี้ก็จะกลับมาอยู่ที่ตัวเขาอีกครั้ง

เพราะฉะนั้นน้องสาวต้องปรากฏตัว ส่วนตำแหน่งแห่งพระราชินีนี้ก็ต้องมีคนมาอยู่เช่นกัน

แต่ถ้าปล่อยน้องสาวของพระราชินีคนนั้นออกไปจริงๆ เธอรู้อยู่แล้วว่าเขาเป็นคนฆ่าพี่สาวของเธอ เธอต้องไม่ปล่อยผ่านง่ายๆ แน่นอน

ดังนั้นวิธีเดียวที่สามารถทำได้ในตอนนี้ก็มีแค่ฆ่าเธอให้ตาย เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาในอนาคต

แต่ควรฆ่าเธอด้วยวิธีไหน และไม่ส่งผลกระทบต่อการสืบราชบัลลังก์ และไม่ทำให้ทุกคนสงสัยตัวเองล่ะ

หนานจิ่นตกอยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก

และในขณะที่เขาอยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกนี้ เขาได้รู้ความลับของหญิงสาวคนนั้นโดยไม่ได้ตั้งใจ

คืนนั้นดึกสงัดเงียบสงบ เนื่องจากในวังไม่ค่อยมีผู้หญิงเท่าไหร่ ส่วนเรื่องที่ขังน้องสาวของพระราชินีไว้ก็เป็นเรื่องที่ลี้ลับมากด้วย เขาไม่ไว้ใจให้คนอื่นทำ

ดังนั้น เขาให้เฉียนเฉียนรับผิดชอบอาหารทั้งสามมื้อในหนึ่งวันของผู้หญิงคนนั้น

เฉียนเฉียน ก็คือผู้หญิงที่เขาพากลับมาจากทะเลทรายคนนั้น

วันนั้นเขาเดินผ่านห้องที่ขังน้องสาวของพระราชินีไว้โดยไม่ได้ตั้งใจ เห็นมีแสงส่องออกมาจากข้างใน ตอนนั้นสงสัยจึงดูเข้าไปจากช่องประตูแวบหนึ่ง

พอดูแล้วก็ตกใจจนจ้องตาโตขึ้นมาทันทีเลย

เห็นแต่ข้างในน้องสาวของพระราชินีกำลังนั่งอยู่บนเตียง ทั้งตัวถูกมัดเอาไว้ ส่วนเฉียนเฉียนของเขายืนอยู่ในห้อง ในมือกำลังทำท่าแปลกประหลาดอยู่ ต่อมา ใบหน้าอันสดใสและสวยงามในตอนแรกนั้นก็กลายเปลี่ยนเป็นหน้าของเขาแล้ว

ตอนนั้นเขาตกใจมาก ยิ่งกว่านั้นยังถอยหลังแล้วสองก้าว ต่อมาก็ส่องเข้าไปในช่องประตูต่อ เห็นแต่เธอเปลี่ยนหน้ากลับมาเหมือนเดิมอีกแล้ว จากนั้นพูดอะไรสักอย่างกับน้องสาวของพระราชินี ก็ได้เปลี่ยนหน้าเป็นน้องสาวของพระราชินีต่อ

เขาไม่เคยเห็น…ไสยศาสตร์แบบนี้

สมัยนั้นมีหน้ากากหนังคนแล้ว

แต่ถึงอย่างไรหน้ากากหนังคนก็เป็นของตาย ระยะเวลาที่สามารถใส่ไว้บนหน้าไม่แน่นอน และไม่ใช่วิธีระยะยาวอีกด้วย

ดังนั้นเขาไม่เคยเห็นมีคนไหนสามารถเปลี่ยนหน้าตัวเองเป็นผู้หญิงอีกคนโดยที่ไม่มีเครื่องมืออุปกรณ์ใดๆ ช่วยเหลืออย่างไม่เสียแรงอะไรเลย

ตกลงนี่คือไสยศาสตร์อะไร

เห็นแต่ในห้องเฉียนเฉียนเปลี่ยนใบหน้าให้ผู้หญิงคนนั้นดูแล้วสักพัก จากนั้นผู้หญิงคนนั้นถึงยกถ้วยข้าวขึ้นมากินสอง สามคำ

เฉียนเฉียนมองเธอ มีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้า รอเธอทานข้าวเสร็จแล้วถึงออกมา

เมื่อเธอออกมาก็เห็นเขาที่ยืนอยู่ตรงไม่ไกล

รอยยิ้มบนหน้าหายไปในพริบตา กลายเป็นสีหน้าตื่นตกใจ

เพราะเธอฉลาดมาก พอเธอเห็นจุดที่เขายืนอยู่ก็เข้าใจทันทีเลยว่าเขาเห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้นในห้องนั้นเมื่อกี้แล้ว

หนานจิ่นไม่เยิ่นเย้ออืดอาด ในใจของเขาโมโหมาก และก็กลัวมากด้วย เขาไม่เคยรู้เลยว่าผู้หญิงที่อยู่ข้างตัวตนเองจะมีความสามารถแบบนี้

เขาพาเธอเข้าไปที่ห้องหนึ่ง บังคับเธอบอกทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อกี้

เฉียนเฉียนก้มหน้าลง เม้มปากไว้แน่นๆ ไม่พูดไม่จา

จนในที่สุดเขาแสดงอารมณ์โกรธ เธอคงตกใจมาก น้ำตาไหลลงมาเป็นหยดใหญ่ๆ นี่ถึงยอมบอกความจริงออกมา

นั่นคือความจริงที่เขาไม่เคยกล้าเชื่อมาตลอดเลย

เธอบอกว่าสถานที่ที่พวกเขาอาศัยไม่ใช่หนึ่งแผ่นดินใหญ่ แต่เป็นแต่เป็นดาวทรงกลมหนึ่ง ในจักรวาลนี้ยังมีดาวอีกหลายดวงจนนับไม่ถ้วน ดาวทุกดวงล้วนมีสิ่งมีชีวิตที่เป็นเอกลักษณ์ของดาวดวงนั้น แค่รูปแบบการใช้ชีวิตต่างกันเท่านั้นเอง

ส่วนเธอก็คือสิ่งมีชีวิตของดาวอีกดวงหนึ่งที่ห่างจากที่นี่ไกลแสนไกล คนแบบนี้อย่างพวกเธอ ร่างกายจะเปลี่ยนแปลงไปตามสิ่งแวดล้อมในตอนนั้น พวกเธออายุยืนยาว ตายยากมาก และป่วยไม่เป็นด้วย แต่พวกเธอขาดความรู้สึกต่างๆ ของมนุษย์

จริงๆ แล้วร่างกายของพวกเธอไม่ได้ประกอบด้วยเลือดกับเนื้อ แต่เป็นองค์ประกอบที่ละเอียดและแม่นยำอย่างหนึ่ง องค์ประกอบนี้จะเปลี่ยนไปตามความต้องการของเจ้าของร่างกายกลายเป็นรูปร่างต่างๆ

ก็เหมือนกับคนเราปั้นดินน้ำมัน อยากทำเป็นแบบไหนก็สามารถกลายเป็นแบบนั้นได้

ดังนั้นตอนที่เธอเห็นเขา สัญชาตญาณแรกก็คือหน้าตาที่เขาจะชอบเธอ เพราะฉะนั้นเธอก็กลายเป็นหน้าตาอย่างปัจจุบันแล้ว

ส่วนเมื่อกี้ที่เธอเปลี่ยนอีกครั้ง ก็เพราะว่าน้องสาวของพระราชินีไม่ยอมกินข้าวเลย เนื่องจากได้รับรู้ว่าเสด็จพี่ของตัวเองตายแล้ว ส่วนตัวเองแบกรับหน้าที่อันสำคัญไว้ กลับถูกขังไว้อยู่ที่นี่ ไม่เห็นอนาคต ฉะนั้นเธอจึงประท้วงโดยการอดอาหารอยู่ตลอด

ถึงแม้เฉียนเฉียนจะไม่ใช่สิ่งมีชีวิตของดวงดาวนี้ แต่กลับมีจิตใจดีกว่าใครคนไหนอีก เธอรู้สึกว่าอีกฝ่ายน่าสงสารมาก

คนในครอบตรัวเสียชีวิตแล้ว ตัวเองยังถูกขังไว้อีก ถ้ากลายเป็นตัวเองเจอเรื่องแบบนี้ ตัวเองก็คงไม่มีอารมณ์ทานอาหารเช่นกัน แม้จะเป็นขนมวอลนัทที่ตัวเองชอบกินที่สุดก็ไม่อยากกิน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Status: Ongoing

บทที่ 1 จับชู้คาเตียง

“มีถุงยางดูเร็กซ์ ดูอัล เพลย์เชอร์ไซซ์กลางไหม? ”

“มีค่ะ”

“แล้วก็ไวเบรเตอร์กับชุดนางแมวสวาทชุดหนึ่งด้วย”

“ได้ค่ะ จัดส่งที่ไหนคะ? ”

“โรงแรมลี่หัว ห้อง2202”

“ค่ะ ขอบคุณค่ะ”

เมื่อจิ่งหนิงมาถึงโรงแรมลี่หัวก็เป็นเวลาห้าทุ่มแล้ว

เวลาดึกดื่นขนาดนี้ สำหรับคนที่ทำธุรกิจสินค้าผู้ใหญ่ แบบนี้ การนำส่งสินค้าด้วยตนเองไม่ค่อยปลอดภัยเท่าไหร่

นัก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหญิงสาวหน้าตาสะสวยอย่างเธอ

แต่จะทำยังไงได้ล่ะ ชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ทุก สิ่งทุกอย่างต้องแลกมาด้วยเงิน อีกอย่างมู่ยั่นเจ๋อกำลังจะ กลับมาอีกไม่กี่วันนี้

คบกันมาตั้งหกปี แต่เวลากว่าครึ่งเป็นรักระยะไกล เขา ต้องดูแลธุรกิจทั้งในและนอกประเทศ เธอจะทำตัววุ่นวาย ส่งผลต่อการทำงานของเขาไม่ได้

ดีที่ความรักของทั้งสองคนนั้นค่อนข้างหวานชื่นนอกจากงานในแต่ละวันแล้ว เธอยังมีธุรกิจเล็กๆของตัวเอง ด้วย อีกไม่กี่วันเป็นวันเกิดของเขา เธอตั้งใจจะมอบของ ขวัญให้เขาอย่างเซอร์ไพรซ์

เมื่อคิดได้ดังนั้น จึงหนิงก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข

เธอขยับหมวกสีดำที่ใส่มาให้ปิดลงมาบังหน้าไว้ จากนั้น เดินถือกล่องสินค้าเข้าไปด้านใน

โรงแรมลี่หัว เป็นสถานที่ราคาแพงขึ้นชื่อของเมืองจิ้น ผู้คนที่เดินทางมาเข้าพักล้วนเป็นระดับมหาเศรษฐี

ความโอ่อ่างดงามที่ห้องโถงไม่ต้องพูดถึง แม้แต่ลิฟต์ก็ ถูกประดับตกแต่งด้วยเงินและทองคำ คนที่ยืนอยู่ด้านใน ถูกแสงไฟส่องสว่างไสว

จิ่งหนิงเดินถือกล่องเข้าไปแล้วมองหาจุดหมาย

ใบหน้าอันงดงามถูกปิดอยู่ครึ่งหนึ่ง มองเห็นเพียงดวงตา เป็นประกายคู่นั้น แฝงไปด้วยความมั่นใจ

ลิฟต์ขึ้นสู่ชั้น22 “ตั้ง” ประตูเปิดออก เธอเดินออกไป กระทั่งถึงห้อง2202และกดกริ่งที่ประตู

ประตูยังไม่เปิดออก ก็มีเสียงหนุ่มสาวดังขึ้น

“อาเจ๋อ อุ๊ย? อย่าค่ะ….ของน่าจะมาส่งแล้ว”

“รอผมนะ เดี๋ยวมา”

จึงหนิงยืนยิ้มอยู่ที่ปากประตูอย่างอดไม่ได้ ของยังมาส่งไม่ถึงก็เริ่มกันแล้วเหรอเนี่ย? รีบร้อนกันจริงๆ?

ประตูถูกเปิดออกในไม่ช้า ชายผู้ออกมารับของสวมผ้า ขนหนูเพียงผืนเดียว บนร่างกายของเขายังคงมีไอน้ำอยู่

จิ่งหนิงไม่ได้มองหน้าเขา เธอยื่นกล่องใส่ของออกไป “843หยวนค่ะ? จ่ายเงินสดหรือว่าโอนคะ? ”

ชายผู้อยู่ตรงหน้าไม่ตอบ

ผ่านไปสองวินาที เสียงของชายผู้นั้นเอ่ยขึ้นว่า “.

หนิง?

จิ่งหนิงตกตะลึง เธอเงยหน้าขึ้นมอง

เมื่อเห็นชายที่ยืนอยู่ด้านหน้า ร่างกายกำยำ ผมเผ้าเปียก ปอน เขามีเพียงผ้าขนหนูสีขาวปิดบังร่างกายไว้ แสงไฟ เหลืองนวลส่องมายังร่างกายของเขา ผิวขาวเนียนและ ใบหน้าอันเกลี้ยงเกลาของเขาเต็มไปด้วยความประหลาด

ใจ อีกทั้ง ทำตัวไม่ถูก

สีหน้าของจิงหนิงตกใจเสียจนหน้าซีด

“ปั่นเจ๋อ ใครคะ? ”

“ไม่มีอะไรครับ คนมาส่งของครับ”

มู่ยั่นเจ๋อรีบพูดขึ้นก่อนที่จิ่งหนิงจะเอ่ยอะไรออกมาจาก นั้นรีบหยิบเงินจากกระเป๋ายัดใส่มือเธอและหยิบของไป อย่างรวดเร็ว

เสียงประตูปิดลงดัง “ปัง?

จึงหนิงยังคงยืนอยู่ที่หน้าประตู มือของเธอเริ่มสั่น สีหน้า

เหนิงซีดเผือดลงทันที

เธอหัวเราะออกมาเบาๆ

และมองไปยังธนบัตรที่เขายัดเข้ามาไว้ในมือ นี่มันเรื่อง ตลกบ้าบออะไรกัน? เธอหัวเราะเยาะในความโง่เขลาของ ตัวเองจริงๆ

เสียงชายหนุ่มและหญิงสาวเล็ดลอดออกมานอกห้อง เธอก็ถอนหายใจยาวๆออกมา และกลั้นน้ำตาที่คลอเบ้าเอา

ไว้

เธอหันหลังกลับและเดินตรงไปยังลิฟต์และหยิบมือถือ

ออกมา

“สวัสดีค่ะ สถานีตำรวจใช่ไหมคะ? ฉันจะขอแจ้งความ ว่ามีชายหญิงค้าประเวณี ห้องพักเลขที่.”

ต่อมา20นาที

รถตำรวจคันหนึ่งจอดลงที่หน้าโรงแรมลี่หัว ข้างๆยังมีนัก ข่าวและช่างกล้องเดินตามมา เมื่อเห็นคนที่ถูกจับตัวออกมา นักข่าวก็พากันแห่เข้าไป

“นายมู่ มีคนแจ้งความว่าคุณเสพยาและซื้อบริการทาง เพศ จริงหรือไม่คะ? ”

“นายมู ในฐานะผู้สืบทอดมู่ชื่อกรุ๊ป คุณคิดว่าการกระทำ เช่นนี้เหมาะสมหรือไม่คะ?

“นายมู่ครับ ผู้หญิงคนที่อยู่กับคุณเป็นใครกันครับ? มี

ข่าวลือว่าเป็นดาราในวงการ จริงหรือไม่ครับ? ” “นายมู..”

มู่ยั่นเจ่อถูกนักข่าวล้อมไว้ แม้แต่ตำรวจก็ห้ามไว้ไม่ได้ เขากัดฟันกรอดๆและตะโกนออกมาว่า “ไปให้พ้น? ” นักข่าวพากันตกอกตกใจและถอยหลังออกไป

มู่ยั่นเจ๋อมองไปยังฝูงชน เขาพบเข้ากับจิ่งหนิง สายตา ของเขาแฝงไปด้วยความอาฆาตแค้น

นี่คือสิ่งที่คุณต้องการใช่ไหม?”

จึ่งหนิงเผยอยิ้ม สายตาแฝงไปด้วยการดูถูก

“คุณทำแบบนี้อย่าหวังว่าจะได้ผมไปครอง”

จิ่งหนิงเดินหน้าขึ้นไปแล้วเงื้อมือขึ้นต่อหน้านักข่าวและ

ตำรวจ

11 เพียะ!”

ฝ่ามือของเธอตบลงไปที่หน้าเขาอย่างจัง มู่ยั่นเจ่อถูกตบ เสียจนหน้าหัน

บรรยากาศรอบด้านเงียบลงทันใด

ทางตำรวจตกตะลึงอ้าปากค้าง ” คุณผู้หญิงคนนี้คือ.

%3D

%3D ขอโทษนะคะ มือลั่นไปเอง!”

เธอยิ้มด้วยแววตาเยือกเย็นแล้วทำท่าทางนวดข้อมือ แล้วมองไปยังมู่ยั่นเจ่อด้วยสายตาอาฆาต จากนั้นพูดด้วย น้ำเสียงเยือกเย็นว่า

กระดาษชำระที่ตกลงไปในชักโครก คุณคิดว่าใครยังจะต้องการอีกกัน?ตบเมื่อสักครู่เป็นแค่ดอกเบี้ยเท่านั้น ทุน ที่เหลือฉันจะให้คุณชดเชยภายในสามวัน!”

แววตาของมู่ยั่นเจ่อตื่นตระหนก อะไร! ทุนอะไร !!” จึ่งหนิงขมวดคิ้วขึ้น ” คุณแน่ใจนะว่าจะให้ฉันกระตุ้น

ความจำคุณ

มู่ยั่นเจ๋อก้มหน้าลงทันที

เธอหัวเราะหีๆ เป็นเสียงหัวเราะที่แฝงไปด้วยความดูถูก เหยียดหยาม

ทางตำรวจเห็นเช่นนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา เขาโบกมือ เป็นสัญญาณว่าให้คุมตัวขึ้นรถไปได้ เมื่อเขาเดินทางจากไป บรรดานักข่าวก็ไม่ได้รีรอ รีบตาม

ไปทันที

เดิมทีที่จากประตูทางเข้าโรงแรมเต็มไปด้วยผู้คน ตอนนี้ กลับว่างเปล่าไม่เหลือใคร

จึงหนิงยังยืนอยู่ที่นั่นจนกระทั่งควบคุมอารมณ์ได้ เธอจึง ได้เตรียมตัวจากไป

แต่เธอคาดไม่ถึงว่าเมื่อหันหลังกลับไปจะพบเข้ากับแวว ตาคู่หนึ่งที่จับจ้องเธออยู่

ชายหนุ่มในชุดสูทสีดำ ร่างกายกำยำสูงใหญ่ ผมสั้นจัด ทรงเป็นระเบียบ แววตาแหลมคมนั้นทำให้ผู้พบเห็น หลงใหล

ใบหน้าอันหล่อเหลาภายใต้แสงยามค่ำคืนแบบนี้ เผยให้เห็นออร่าที่กลมกลืนไปกับบรรยากาศรอบข้าง จิ่งหนิงรู้สึกว่าเธอเคยเห็นชายคนนี้มาก่อน

จากนั้นเธอหันไปเห็นเลขาของเขาที่ยืนอยู่ด้านหลัง อีก ทั้งรถปอร์เช่สีเงินที่อยู่ข้างๆ เธอก็คิดได้ว่าจะไปรู้จักบุคคล ที่โดดเด่นแบบนี้ได้ยังไงกัน?

เธอสลัดความคิดออกจากหัว หันหลังแล้วเดินจากไป จนกระทั่งร่างเล็กๆของเธอเข้าสู่รถยนต์ ลู่จิ่งเซินจึงได้

ละสายตามาจากเธอและถามขึ้นว่า “คนเมื่อกี้นี้คือใคร?

ซูมู่ที่ยืนอยู่ด้านหลังรีบตอบขึ้นว่า ท่านหมายถึงคนที่ถูก ตำรวจจับไปเมื่อกี้หรือครับ? เหมือนว่าจะเป็นคุณชายขอ งมู่ชื่อกรุ๊ปที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศเมื่อหลายวันก่อน”

ลู่จิ่งเซินขมวดคิ้วแล้วบอกว่า “ผมหมายถึงคนผู้หญิงคน เมื่อกี้”

“ครับ? ” ซูมู่งุนงงเล็กน้อย “ผู้หญิงคนไหนกัน? ”

เมื่อเห็นแววตาอันไม่พอใจของลู่จิ่งเซิน ซูมู่ก็รีบพูดขึ้นมา ว่า “ท่านประธานครับ ต้องขออภัยด้วยผมจะไปตรวจสอบ เดี๋ยวนี้”

“ช่างมันเถอะ”

สายตาของเขามองไปตามทางที่ผู้หญิงคนนั้นขับรถออก ไปแล้วยิ้มขึ้น เขาคล้ายกับนึกอะไรออกมาได้

จากนั้นเขารีบก้าวเดินเข้าไปด้านใน ในฐานะผู้แจ้งความ จิ่งหนิงจึงต้องเดินทางไปที่สถานี ตำรวจด้วย

เมื่อทำการบันทึกข้อความเสร็จแล้ว ผู้คนจากด้านนอกก็ พากันแห่กรูเข้ามา

คนที่เดินเข้ามาเป็นคนแรกก็คือคุณย่าจิ่งหวังเสว่เหมย เมื่อเธอเดินเข้ามาถึงก็ตบเข้าให้ที่หน้าของจิ่งหนิงอย่างจัง

“นังคนทรยศ? ”

หวังเสว่เหมยตัวสั่นสะท้านแล้วพูดว่า “แกรู้อยู่แก่ใจว่านั่น คือน้องสาวแท้ๆของแก ยังกล้าแจ้งตำรวจจับอีกอย่างนั้น เหรอ? แกต้องการจะยั่วให้ฉันโมโหตายยังไง? ”

จิงหนิงเช็ดโชคเลือดที่มุมปาก จากนั้นเงยดูหญิงชราที่ อยู่ตรงหน้า

“น้องสาวอย่างนั้นเหรอ? คุณหมายถึงจิ่งเสี่ยวหย่า? ”

“ไม่ต้องทำมาเป็นเสแสร้ง สื่อต่างๆพากันพูดกันให้แซ่ด บอกว่าคุณหนูจิงรองให้ท่าคู่หมั้นของคนอื่น แกไม่รู้เรื่อง หรือไง? ”

จึงหนิงก้มหน้าลงและยิ้มออกมาเบาๆ

“ผู้หญิงคนนั้นเป็นเธอนั่นเอง….ฉันก็คิดว่ากะหรี่ที่ไหน รีบร้อนจะหาเงินซะอีก ที่แท้ก็เป็นน้องสาวของฉันเอง? “

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท