สีหน้าสนมซูเปลี่ยนไปเล็กน้อย ริมฝีปากก็สั่น มองท่านหญิงเต๋อเฟยอย่างตื่นตระหนก “สับเป็นหมื่นๆชิ้น?”
เต๋อเฟยมองนาง สีหน้าจึงค่อยๆอ่อนโยนลงมา ถอนหายใจกล่าว “ข้าเป็นผู้หญิง รู้ว่าใจของเจ้านั้นคิดยังไง ข้าจะพาเจ้าไปเฝ้าฮ่องเต้ ความจริงเป็นเช่นไร เจ้าก็รายงานฮ่องเต้ด้วยตัวเอง จะประหารหรือจะสับ ก็เป็นสิ่งที่เจ้าต้องยอมรับ”
สนมซูอ่อนปวกเปียกอยู่บนพื้น ทันใดนั้นก็กลอกตาไปมา เอาแน่เอานอนไม่ได้
เต๋อเฟยสั่งการ “เด็กๆ มาพยุงสนมซูขึ้นมา ไปเฝ้าฮ่องเต้ที่ห้องทรงพระอักษร!”
ห้องทรงพระอักษร ฮ่องเต้หมิงหยวนจ้องมองคนที่คุกเข่าอยู่บนพื้น กล้ามเนื้อบนใบหน้ากระตุกเล็กน้อย
“สิ่งที่เจ้าพูดคือเรื่องจริงรึ?” น้ำเสียงของฮ่องเต้หมิงหยวนเหมือนถูกส่งมาจากขุมนรก ทุ้มและเยือกเย็น
อู๋ซูฮั่วโขกหัว “ทูลฝ่าบาท กระหม่อมพูดความจริงทุกคำ กระหม่อมมีความผิด ที่ปิดบังถึงวันนี้เพิ่งจะมารายงานฮ่องเต้ มันเป็นเรื่องที่มันใหญ่หลวงเกินไป กระหม่อมกลัวจะกระทบชื่อเสียงของฝ่าบาท ก็เลยพิจารณาตลอดว่าควรจะพูดยังไง กระหม่อมสมควรตาย!”
มู่หรงกงกงที่อยู่ด้านข้าง ฟังอย่างอกสั่นขวัญแขวน ไม่กล้าที่จะหายใจเสียงดัง
“เจ้าแน่ใจว่าคนที่เจ้าเห็นคืออ๋องฉู่?” ฮ่องเต้หมิงหยวนถามอีกครั้ง
อู๋ซูฮั่วกล่าวเสียงสั่น กระหม่อมเห็นกับตา ตอนที่อ๋องฉู่สังหารขันที พอดีกระหม่อมกำลังลาดตระเวนอยู่บนหอทงเทียน เห็นสถานการณ์ของตำหนักหมิงหัวอย่างชัดเจน หลังจากที่อ๋องฉู่สังหารขันทีแล้ว ก็ได้ลงมือทำร้ายองค์ชายแปด เขาเผชิญหน้ากับองค์ชายแปดโดยตรง ผลักฝ่ามือออกไป จากนั้นก็ใช้กระบี่แทงไปหนึ่งที และใต้เท้ากู้ก็เห็นมันกับตา เขายืนมองดูอยู่ข้างๆ หลังจากที่อ๋องฉู่ลงมือแล้ว ก็พาพระสนมซูกระโดดกำแพงหนีไป กระหม่อมมองเห็นอย่างชัดเจน หลังจากหนีไปทางกำแพงแล้ว แขนเสื้อของพระสนมซูยังถูกโขดหินบนกำแพงเกี่ยวจนขาด ตอนนั้นใต้เท้ากู้ก็คิดจะหนี แต่ว่าตอนที่เขาเก็บกระบี่ขึ้นมานั้น กองทหารรักษาพระองค์ก็มาถึงพอดี เพียงแต่ ในเวลานั้น อ๋องฉู่ก็ได้ย้อนกลับมาอีกครั้ง เข้ามาจากประตูหลักของตำหนัก อุ้มองค์ชายแปดขึ้นมา และกู้ซือก็ถูกกองทหารรักษาพระองค์คุมตัวเอาไว้ กู้ซือยอมรับผิดว่าฆ่าคน เป็นเพราะเขารู้ว่า ฆาตกร ก็คืออ๋องฉู่
หยู่เหวินเห้าก็ยืนอยู่นอกตำหนัก ตั้งแต่เขารู้ว่าอู๋ซูฮั่วจะเข้าเฝ้าฮ่องเต้ เขาก็ยืนอยู่ด้านนอก รอให้ฮ่องเต้เรียกหา
เขารู้ว่าท่านหญิงเต๋อเฟยต้องทำตามคำพูดของเขา ดังนั้น ก็ยังรอท่านหญิงเต๋อเฟยมารายงานข่าวการตายของสนมซู
มู่หรงกงกงเดินออกมา กระซิบกล่าว “ท่านอ๋อง ฮ่องเต้เรียกท่านเข้าเฝ้า”
หยู่เหวินเห้าพยักหน้า “ได้!”
เขาหันหลังมองไปแวบหนึ่ง ก็เห็นท่านหญิงเต๋อเฟยเสด็จมา เพียงแต่ เมื่อมองอย่างชัดเจนแล้ว ใจเขาก็จมดิ่งลงไปทันที นางกับพาสนมซูมาด้วย
ใจของเขา ตกตะลึงไปชั่วขณะ ท่านแม่เต๋อไม่ได้ทำอย่างที่เขาพูด? ไม่ สนมซูจะเจอเสด็จพ่อไม่ได้ สนมซูนอกจากยอมรับผิดแล้ว ไม่มีทางที่จะพูดอย่างอื่นแม้แต่คำเดียว
“ท่านอ๋อง เชิญ!” มู่หรงกงกงกล่าวเร่ง
แววตาของหยู่เหวินเห้ามืดมนไปทันที ทำได้เพียงเดินเข้าไป
สมองของเขาวุ่นวายไปหมด การเปลี่ยนแปลงนั้นเกิดขึ้นเร็วมาก เพียงระยะเวลาสั่นๆเขาไม่รู้ว่าจะต้องรับมือยังไง
เขาคุกเข่าข้างเดียว “กระหม่อมคำนับเสด็จพ่อ!”
แววตาของฮ่องเต้หมิงหยวน เหมือนดั่งใบมีดเย็นกรีดผ่านใบหน้าของเขา จากนั้น ก็จ้องมองเขา “กล่าวด้วยน้ำเสียงที่เย็นเยือก เรื่องของน้องแปดเจ้าสืบไปถึงไหนแล้ว?”
หยู่เหวินเห้าทำได้เพียงกล่าว “กระหม่อมรู้ตัวคนร้ายแล้ว”
มู่หรงกงกงก้าวเดินมาอย่างรวดเร็ว กล่าวด้วยเสียงต่ำ “ฝ่าบาท ท่านหญิงเต๋อเฟยพาสนมซูมา”
ฮ่องเต้หมิงหยวนกล่าวอย่างไร้ความรู้สึก “ให้เข้ามา!”
หยู่เหวินเห้ารู้สึกหมดหนทาง กวาดมองอู๋ซูฮั่วไปแวบหนึ่ง อู๋ซูฮั่วคุกเข่าอยู่บนพื้น ไม่พูดไม่จา แต่ว่าลูกตานั้นหมุนอย่างรวดเร็วไปหนึ่งที
ท่านหญิงเต๋อเฟยพาสนมซูเข้ามา ได้คุกเข่าลงก่อน กล่าวด้วยน้ำเสียงที่หนักใจ “ฝ่าบาท หม่อมฉันดูแลได้ไม่ดี หม่อมฉันมีความผิด!”
สนมซูเห็นอู๋ซูฮั่วคุกเข่าอยู่บนพื้น ร่างกายก็อ่อนไปครึ่งหนึ่งแล้ว นางก็คุกเข่าลงไปทันที ร้องไห้กล่าว “ฝ่าบาท หม่อมฉันถูกรังแก หม่อมฉันสมควรตาย………”
สมองของเต๋อเฟยดังขึ้นด้วยเสียงโวง แทบไม่กล้าเชื่อหูของตัวเอง มองไปที่สนมซูอย่างตกตะลึง
อู๋ซูฮั่วได้ยินคำพูดนี้ ก็สกัดกั้นคำพูดของสนมซู ฝ่าบาท พระสนมซูถูกอ๋องฉู่รังแกหรือไม่ กระหม่อมมองเห็นไม่ชัดเจน เมื่อกี้ข้าอาจจะเล่าผิดไป อย่างไรเสีย ตอนที่กระหม่อมมองไปนั้นไม่สามารถแยกแยะได้ว่าพระสนมซูเต็มใจหรือถูกบีบบังคับ
หัวของสนมซูโขกอยู่บนพื้น ได้ฟังคำพูดของอู๋ซูฮั่ว ใจของนางก็สะดุ้งอย่างแรงไปหนึ่งที กล่าวด้วยน้ำเสียงที่โศกเศร้า “ฝ่าบาท หม่อมฉันไม่ได้เต็มใจ อ๋องฉู่ขืนใจหม่อมฉัน หม่อมฉันไม่มีแรงในการขัดขืน ฝ่าบาทได้โปรดตรอจสอบด้วย!”
เต๋อเฟยรีบกล่าว “ฝ่าบาท ไม่ใช่แบบนั้น ไม่ใช่อ๋องฉู่ ชายชู้คนนั้นก็คืออู๋ซูฮั่ว พวกมันทั้งสองใส่ร้ายอ๋องฉู่ เดิมทีมันก็คือหลุมพรางอันหนึ่ง………”
หยู่เหวินเห้าถอนหายใจในใจ นี่มันยิ่งพูดยิ่งผิดไปกันใหญ่ ยังบอกว่าเป็นหลุมพราง คำพูดนี้ไม่ควรที่จะพูดออกมาเลย
ฮ่องเต้หมิงหยวนเกรี้ยวมาก ทุบโต๊ะไปหนึ่งที “หุบปากให้หมดทุกคน!”
สนมซูกับเต๋อเฟยเห็นฮ่องเต้โกรธ ก็เงียบไปทันที
ฮ่องเต้หมิงหยวนมองไปที่หยู่เหวินเห้า “สิ่งที่พวกเขาพูดเป็นความจริง?”
หยู่เหวินเห้ารู้ว่าตอนนี้ไม่ว่าจะพูดอะไรออกไปยากที่เสด็จพ่อจะเชื่อ ทำได้เพียงกล่าว “เรียนเสด็จพ่อ ไม่ใช่ความจริง วันนั้นกระหม่อมไม่เคยเจอสนมซู”
ฮ่องเต้ทำเสียงฮึ่มไปหนึ่งที แล้วถามเต๋อเฟย เจ้าพานางมายอมรับผิด แล้วเจ้านั้นรู้เรื่องได้อย่างไร? แล้วเจ้าใช้หลักอะไรในการตัดสินว่าอู๋ซูฮั่วก็คือชายชู้ของนาง
เต๋อเฟยไม่รู้จะพูดยังไง คงไม่สามารถที่จะพูดว่าลูกห้าเป็นคนบอก
บัดนี้ถึงจะรู้ว่าสิ่งที่ลูกห้าพูดนั้นถึงจะเป็นสิ่งที่ถูกต้อง สนมซูสมควรตาย นางเป็นคนเห็นแก่ตัว
เต๋อเฟยตอบไม่ได้ แต่สนมซูกลับตอบได้ นางร้องไห้กล่าว “เรียนฝ่าบาท เป็นเพราะหม่อมฉันหวาดกลัวกระวนกระวาย จึงได้บอกเรื่องนี้กับท่านหญิงเต๋อเฟย ท่านหญิงเต๋อเฟยจึงได้พาหม่อมฉันมารับผิด”
ริมฝีปากของเต๋อเฟยสั่น สุดท้ายก็ทนไม่ได้ที่จะช่วยหยู่เหวินเห้าแก้ต่าง “ฝ่าบาท หม่อมฉันเชื่อว่าอ๋องฉู่ไม่มีทางทำเรื่องแบบนั้นได้”
“แล้วกู้ซือรับโทษแทนใคร?” ฮ่องเต้หมิงหยวนถามด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นมาก
เต๋อเฟยตื่นตกใจ “กู้ซือ…….กู้ซือไม่ได้รับโทษแทนใคร……..”
หยู่เหวินเห้าขัดจังหวะพูดของเต๋อเฟย แล้วกล่าว “เรียนเสด็จพ่อ หม่อมฉันรับราชโองการให้ตรวจสอบเรื่องนี้ เป็นอย่างที่อู๋ซูฮั่วพูดจริง ในตำหนักหมิงหัวขันทีถูกฆ่า น้องแปดบาดเจ็บสาหัส เป็นเพราะว่าพวกเขาเห็นในสิ่งที่ไม่ควรเห็น คนผู้นี้ก็ได้ลงมือกับน้องแปดอย่างโหดเหี้ยม ทำร้ายด้วยฝ่ามือแล้วยังแทงด้วยกระบี่ กู้ซือนั้นเข้ามาในเวลานี้พอดี อันที่จริงไม่ใช่ว่ากู้ซือไม่พูด ตอนที่เขาเข้ามานั้น ก็นึกว่าเป็นกระหม่อม แผ่นหลังและใบหน้าด้านข้างของคนผู้นั้น มีความคล้ายกระหม่อม เขาเข้าใจผิดว่าเป็นกระหม่อม ด้วยเหตุนี้ จึงรับผิดทั้งหมด เพียงแต่สนมซูกับอู๋ซูฮั่วบอกว่าฆาตกรเป็นกระหม่อม กระหม่อมไม่ยอมรับ สมมติว่ากระหม่อมพาสนมซูกระโดดหนีไปทางกำแพง มันเป็นไปไม่ได้ที่จะย้อนกลับมาที่ประตูตำหนักได้ทัน นอกเสียจากใช้วิชาตัวเบา”
กล่าวอย่างรีบร้อน “ไม่ผิด ท่านอ๋องนั้นใช้วิชาตัวเบา”
หยู่เหวินเห้ามองไปที่เขา กล่าวอย่างเรียบเฉย “กองทหารรักษาพระองค์มาถึงที่เกิดเหตุแล้ว หากข้าใช้วิชาตัวเบาบินเข้ามา พวกเขาต้องมีคนเห็นอย่างแน่นอน ขอให้เสด็จพ่อเรียกพวกเขาเข้ามา มาสอบถามก็จะทราบผล”
อู๋ซูฮั่วกล่าว “ฝ่าบาท กระหม่อมเห็นด้วยตาตัวเอง สำหรับกองทหารรักษาพระองค์จะเห็นหรือไม่นั้น กระหม่อมไม่แน่ใจ แต่กระหม่อมคิดว่า เรื่องนี้ไม่ควรที่จะโจ่งแจ้ง เมื่อกี้ท่านอ๋องก็พูดว่าใต้เท้ากู้นั้นเข้าใจว่าคนผู้นั้นคือท่านอ๋อง ใต้เท้ากู้กับท่านอ๋องเป็นเพื่อนกันมาหลายปี ระยะใกล้ขนาดนั้นทำไมถึงแยกแยะไม่ออกว่าเป็นท่านอ๋องแล้วจึงรับโทษแทน? นี่มันคือโทษฆ่าคนตายเชียวนะ”