ฝั่งนี้หรงเยว่จิตใจกระสับกระส่าย อีกฝั่งหนึ่งผู้หญิงกับผู้ชายต่างก็นั่งกันคนละโต๊ะ แต่ห่างกันไม่มากนัก สามารถได้ยินเสียงพูดคุยของกันและกัน
งานเลี้ยงในวันนี้แม้หยู่เหวินเห้าจะพูดว่าจัดเพื่อรับรองท่านชายสี่เหลิ่ง แต่ในใจเขานั้นมีแผนการ ดังนั้นในการสนทนา เขาพยายามหาโอกาสเพื่อพูดเรื่องสถานฝูโย่ว
อย่างไรก็ตาม ผู้ชายหลายคนมานั่งดื่มสังสรรค์กัน เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะพูดเรื่องผู้หญิง โดยเฉพาะซาวโถ๋จุ้ยที่ท่านชายสี่เหลิ่งเปิดซึ่งเป็นหอนางโลมที่อยู่ในความดูแลของเป่ยถัง ก็ต้องมีการวิเคราะห์กันบ้างละ
อยู่ในหัวข้อนี้ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่สามารถที่จะแทรกเรื่องของสถานฝูโย่วเข้าไปได้เลย หยู่เหวินเห้าร้อนใจมาก แต่ก็ไม่สามารถที่จะเสียมารยาทกับแขก ทำได้เพียงคุยไปกับแขก
อันที่จริงคุยเรื่องพวกนี้ ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่น่าจะเป็นเพราะท่านชายสี่เหลิ่งอารมณ์ดี จึงได้กล่าวเชิญอย่างจริงใจ “พรุ่งนี้เรียนเชิญทุกคนไปเที่ยวที่ซาวโถ๋จุ้ย ซาวโถ๋จุ้ยในเมืองหลวงแม้จะสู้ที่จื๋อลี่ไม่ได้ แต่ผู้หญิงและสุราต่างก็เป็นของชั้นเลิศ”
เมื่อคำพูดนี้พูดออกมา คนโสดอย่างเหลิ่งจิ้งเหยียน หลู่หม่าง เจ้าหวาง พี่ซูหลงต่างก็ตกลงทันที ท่าทางเหมือนอยากจะไปสักตอนนี้เลย
อ๋องฉีลังเลไปครู่หนึ่ง ก็รู้สึกว่าบัดนี้ก็ไม่มีอะไรให้เป็นห่วงแล้ว “ดี ข้าก็อยากจะไปเปิดหูเปิดตาเหมือนกัน”
อ๋องซุนนั่งนิ่งเหมือนพระพุทธรูป คางสามชั้นที่อิ่มเอิบแสดงให้เห็นถึงการกินอย่างตามใจชอบของเขาในช่วงนี้ หนังตาที่หย่อนอยู่ค่อยๆลืมขึ้นมาครู่หนึ่ง เหลือบมองไปทางพระชายาซุนอย่างไม่ให้เห็นพิรุธ พระชายาซุนก็ได้ยินคำพูดนี้แล้ว ก็มองมาด้วยสายตาที่เย็นชา ทำเอาอ๋องซุนสะดุ้ง หนังตาก็ค่อยๆหย่อนลงไปอีกครั้ง พูดอย่างอ่ำๆอึ้งๆ “พรุ่งนี้ข้ามีธุระ ไปด้วยไม่ได้แล้ว”
“องค์รัชทายาทล่ะ?” ท่านชายสี่เหลิ่งมองไปทางรัชทายาท แล้วถาม
การเชิญของเขา ก็เพื่อจะกันรัชทายาทออกไป พรุ่งนี้จะได้ลงมือกับพระชายารัชทายาทสะดวก ดังนั้นแววตากระตือรือร้น เต็มไปด้วยความคาดหวัง
สายตาสิบกว่าคู่ มองมาทางหยู่เหวินเห้าอย่างพร้อมเพรียงกัน
“องค์รัชทายาทจะไม่ให้เกียรติ?” ท่านชายสี่เหลิ่งเห็นเขาลังเล อดไม่ได้ที่จะผิดหวังเล็กน้อย คนที่หน้าตาดี อารมณ์ความรู้สึกที่เปลี่ยนไปเพียงเล็กน้อยก็จะสะท้อนออกมาในแววตาที่สดใส เห็นความผิดหวังในแววตาของท่านชายสี่เหลิ่ง ทุกคนกลับรู้สึกว่าหยู่เหวินเห้ามีความผิดอย่างมาก
หยู่เหวินเห้ากำลังจะหาวิธีในการปฏิเสธ คิดไม่ถึงหยวนชิงหลิงที่นั่งอยู่อีกโต๊ะหนึ่งก็ได้พูดขึ้นมา “องค์รัชทายาท ท่านชายสี่เหลิ่งมีใจในการเชิญ ไม่สู้ไปดูหน่อย?”
หยู่เหวินเห้าถลึงตาใส่หยวนชิงหลิงอย่างเคืองๆ เขามีเวลาที่ไหนกันล่ะ? พรุ่งนี้ก็ไม่ใช่วันหยุดเสียหน่อย ยุ่งจะตายอยู่แล้ว
ดังนั้น เขาไม่สนใจความผิดหวังของท่านชายสี่เหลิ่ง กล่าวอย่างขออภัย “พรุ่งนี้ข้ายังมีงานต้องทำ ก็ไม่ไปกับพวกท่านแล้ว”
“ไม่เป็นไร ซาวโถ๋จุ้ยเปิดช่วงค่ำ ไม่รบการทำงานหรอก” แม่ทัพหลู่หม่างอยากให้เขาไปด้วย ดังนั้นจึงได้พยายามโน้มน้าว
“ใช่ ไปเที่ยวเล่นกับทุกคนเถอะ” หยวนชิงหลิงก็โน้มน้าวด้วย
ท่านชายสี่เหลิ่งได้ยินว่าพรุ่งนี้เขาไม่อยู่ในจวน ก็ไม่ได้สนใจว่าเขาจะไปหรือไม่ อย่างไรก็ตาม แม้แต่หยวนชิงหลิงก็พยายามโน้มน้าวให้หยู่เหวินเห้าไป มันกลับทำให้ท่านชายสี่เหลิ่งขมวดคิ้ว
หรือว่า เขาสัมพันธ์ของพวกเขาไม่ดีอยู่แล้ว? ถ้าเป็นอย่างนี้ก็ง่ายขึ้นเยอะเลย
หยู่เหวินเห้ายากที่จะปฏิเสธการเชื้อเชิญ “ทำได้เพียงกล่าว งั้นก็ได้ เราก็ไปดื่มชากัน”
ไปดื่มชาที่ซาวโถ๋จุ้ย หลอกใครกัน?
“ใช่แล้ว อ๋องหวย พรุ่งนี้ท่านจะไปหรือไม่?” พี่ซูหลงถาม
อ๋องหวยกำลังยิ้มดื่มชา ได้ยินพี่ซูหลงถาม ยังไม่ทันจะตอบ หรงเยว่ก็เดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว กล่าวอย่างเฉียบขาด “เขาไม่ไป!”
หรงเยว่ที่ตะโกนอย่างโกรธเคือง น้ำเสียงที่มีพลัง ทำให้ทุกคนตกตะลึง และมองนางด้วยความประหลาดใจ
แม้แต่อ๋องหวยยังแปลกใจเล็กน้อย แม่นางท่านนี้ทำไมถึงมาตัดสินใจแทนเขา?
ดวงตาที่สว่างของเขามองอยู่บนใบหน้าของหรงเยว่ เมื่อเห็นผิวพรรณผ่องหยิ่งกว่าหิมะอยู่ๆก็แดงขึ้นมา แดงไปจนถึงด้านหลังใบหู เขารู้สึกแปลกใจ
หรงเยว่ที่ฝ่าเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง ก็สงบนิ่งในไม่ช้า แล้วกล่าว “เมื่อกี้ข้าได้ยินแม่นางอะซี่พูดว่าอ๋องหวยเพิ่งจะหายป่วยได้ไม่นาน ดื่มสุราไม่ได้ และนอนดึกไม่ได้ มิเช่นนั้นจะมีผลต่อสุขภาพ”
หยวนชิงหลิงพยักหน้ากล่าว “ใช่ น้องหกไปไม่ได้”
ทุกคนจึงได้โล่งใจ พี่ซูหลงกล่าว “ก็ได้ เอาไว้อ๋องหวยแข็งแรงกว่านี้ ถึงเวลาค่อยไปด้วยกัน”
อ๋องหวยก็ไม่ได้มีความสนใจในหอนางโลมอยู่แล้ว เพียงแต่ ทุกคนพูดเช่นนี้ทำให้เหมือนว่าสุขภาพของเขานั้นแย่มาก อย่างไรก็ตามเขาที่มีนิสัยอ่อนโยนมาโดยตลอด ก็กล่าว “ได้ ข้าไม่ไป”
ตอนที่เขาพูดคำพูดนี้ ก็เหลือบมองหรงเยว่อย่างเงียบๆ แล้วพยักหน้าให้นาง หมายความว่าขอบคุณความห่วงใยของนาง
หัวใจของหรงเยว่เต้นแรง ใบหน้ายิ่งอยู่ยิ่งแดงมากขึ้น เกือบจะหลงใหลอยู่ในสายตาที่อ่อนโยนนั้น
สุราของซาวโถ๋จุ้ยนั้นดีจริง ตลอดเวลาในงานเลี้ยง ดื่มจนทุกเมาไปเจ็ดแปดส่วน
ท่านชายสี่ก็ดื่มอย่างไม่คำนึงถึงบาดแผลแล้ว ชนแก้วกับหยู่เหวินเห้าไปหลายครั้ง จนสามารถเห็นความสุขในดวงตาของเขา
ทั้งงานเลี้ยง สวีอีเอาแต่มองท่านชายสี่ด้วยสายตาที่เย็นชา ในใจยิ่งอยู่ยิ่งรู้สึกว่าต้องมีปัญหา ต้องจับตาอีนางแรดคนนี้ให้ดี
ผู้ชายกำลังดื่มสุรา ส่วนผู้หญิงกำลังคุยกัน จากเรื่องในจวนจนถึงเรื่องการค้า พระชายาซุนทั้งรังเกียจและสงสัยเกี่ยวกับหอนางโลม เอาแต่ถามเรื่องซาวโถ๋จุ้ยกับหรงเยว่ หรงเยว่รู้ดีว่าสตรีที่ถูกเลี้ยงดูมาอย่างดีมีความคิดอย่างไรกับหอนางโลม ด้วยเหตุนี้จึงไม่ได้พูดมาก แค่พูดคุยเกี่ยวกับการค้าอื่นๆ หยวนชิงหลิงรู้ข่าวจากปากของหรงเยว่ว่าท่านชายสี่ยังทำการค้าเกี่ยวกับสมุนไพรด้วย อีกทั้งยังรู้จักหมอชื่อดังมากมาย
หยวนชิงหลิงฟังมาถึงตรงนี้ เลือดในตัวก็เดือดพลุ่งพล่านขึ้นมาทั้งร่างกาย
เมื่องานเลี้ยงสิ้นสุดลง หลังจากส่งแขก ทั้งคู่ก็กลับไปที่ห้อง หยู่เหวินเห้าได้ผลักหยวนชิงหลิงไปขังไว้ที่กำแพงห้อง หรี่ตาด้วยแสงที่อันตราย “เจ้าพูดมา ทำไมเจ้าถึงอยากให้ข้าไปที่ซาวโถ๋จุ้ยนัก? นี่มันไม่สอดคล้องกับนิสัยของเจ้าเลย”
หยวนชิงหลิงยิ้มแหย๋ๆ “ยากที่จะปฏิเสธการเชื้อเชิญไง หากปฏิเสธตลอดมันเหมือนเราวางมีอำนาจมาก แพร่งพรายออกไปมันไม่ดี”
“พูดความจริง!” หยู่เหวินเห้าเคล้นเข้าไปอีก มีความคิดที่จะกัดคน
หยวนชิงหลิงกอดคอของเขาอย่างสบายอารมณ์ แล้วถาม “ท่านรู้สึกหรือเปล่าว่าท่านชายสี่เหมือนจะคิดอะไรกับท่าน?”
“ไม่รู้สึก!”
หยวนชิงหลิงยิ้มจนตาหยีแล้วกล่าว “ทุกคนล้วนรู้สึกกันหมด ตอนที่เขามองเจ้า แววตาเต็มไปด้วยความชื่นชมและชื่นชอบ สวีอีพูดว่าเขาชอบผู้ชาย ไม่รู้ว่าจะใช่เรื่องจริงหรือเปล่า?”
หยู่เหวินเห้าขมวดคิ้ว “ไม่รู้ว่าจริงหรือเท็จ ด้านนอกมีคนพูดเช่นนี้ แต่ว่า คนที่พูดเช่นอาจจะเป็นเพราะเห็นเขาที่อายุจะสามสิบยังไม่แต่งงาน อย่างไรก็แล้วแต่ ข่าวลือตามท้องตลาดไม่มีน้ำหนักเพียงพอที่จะให้เชื่อถือ”
อย่างไรก็ตาม….หยู่เหวินเห้าคิดถึงท่าทีที่ท่านชายสี่เหลิ่งมีต่อเขาไปครู่หนึ่ง รู้สึกมีความคลุมเครือจริง โดยเฉพาะมักจะมองเขาโดยไม่มีเหตุผล แววตาเต็มไปด้วยความเศร้า เหมือนกับชีวิตของเขานั้นรันทดนัก
หรือว่า มันจะเป็นเหมือนที่สวีอีพูดจริง? ทันใดนั้นร่างกายของหยู่เหวินเห้าก็สั่นสะท้าน
“งั้นข้าก็ยิ่งไปไม่ได้แล้ว” หยู่เหวินเห้าพูดอย่างมั่นใจ
“ไป ต้องไป มันเป็นเรื่องยากที่ท่านชายสี่จะชอบท่าน หยวนชิงหลิงชูนิ้วชี้กดลงไปที่ริมฝีปากของเขาครู่หนึ่ง พูดด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความรัก ข้าเชื่อท่าน ท่านไปอย่างสบายใจได้เลย ไปสร้างไมตรีที่ดีกับท่านชายสี่”
หยู่เหวินเห้ามองนาง ก็รู้สึกไม่เหมาะในทันที “ไม่ใช่สิ ยายแก่หยวน ข้าฟังแล้วเหมือนเจ้ากำลังจะใช้แผนชายหล่อยังไงอย่างนั้นเลย? อีกอย่างคนที่เจ้าใช้ยังเป็นสามีของเจ้า หยวนชิงหลิงกล่าวอย่างจริงจัง “ท่านคิดแบบนี้ได้ยังไง ข้าเป็นคนแบบนั้นรึ?”
หยู่เหวินเห้าก็กล่าวอย่างจริงจัง “ใช่ ตอนนี้ข้าเห็นเจ้าเป็นคนแบบนั้น”