บัลลังก์หมอยาเซียน – บทที่ 1644 ฮองเต้ที่ขี้งก

บทที่ 1644 ฮองเต้ที่ขี้งก

นกพิราบสื่อสารส่งจดหมายไปถึงหนานเจียงเช่นเดียวกัน

แม้ว่าความรู้สึกที่หมันเอ๋อมีต่อฮูหยินเหยาจะไม่ลึกซึ้งมากนัก แต่การเป็นสะใภ้ร่วมราชวงศ์ นางรู้สึกว่าเวลานี้สมควรที่นางจะกลับไปช่วยเหลืออีกแรงหนึ่ง อีกทั้ง ไปเยี่ยมเยียนฮองเฮากับแม่นมสี่และอะซี่ด้วย

นางอยากจะหาโอกาสกลับไปอยู่เสมอ วันเวลาที่อยู่ในจวนอ๋องฉู่ ปรากฏขึ้นในฝันของนางอยู่เสมอ อีกทั้ง แม้นางจะเป็นผู้ครองแคว้นหนานเจียง แต่ที่จริงแล้วเรื่องของหนานเจียงไม่จำเป็นต้องให้นางดูแลเลยแม้แต่น้อย

นางจากไปสิบเดือน ก็ไม่ใช่ปัญหา

หลังจากหมันเอ๋อแต่งงานกับเจ้าเก้า ให้กำเนิดลูกหนึ่งชายหนึ่งหญิง ตอนนี้สามารถปล่อยเด็กๆได้แล้ว นางอยากจะกลับไป

แทนที่จะบอกว่าหมันเอ๋อกลับไปเพื่อเป็นเพื่อนฮูหยินเหยา ไม่สู้บอกว่ากลับไปนัดรวมตัวกันระหว่างสะใภ้ร่วมราชวงศ์

นางคิดถึงคนในเมืองหลวงมากจริงๆ

เจ้าเก้ามีน้ำใจมาก รู้ว่าหลายปีมานี้นางคิดถึงเมืองหลวงอยู่ตลอดเวลา ตอนนี้ฮูหยินเหยาตั้งครรภ์แล้ว เป็นโอกาสที่ดี นางสามารถกลับไปเที่ยวเล่นได้ระยะหนึ่ง ผ่อนคลายได้หลายเดือน

ไม่ว่าอย่างไรหมันเอ๋อก็เคยติดตามหยวนชิงหลิงมาระยะเวลาหนึ่ง ฉะนั้นนางจึงรู้ทัศนคติใหม่ๆ ตัวอย่างเช่น หลังจากผู้หญิงแต่งงานแล้ว ก็ต้องการช่องว่างและเวลาของตนเอง

ก่อนหน้านี้ไม่เคยทำได้ แต่ว่าตอนนี้นางอยากจะทำเช่นนี้

ฉะนั้น นางเก็บข้าวของเรียบร้อยแล้ว บอกลาท่านแม่และสามีกับลูก ก้าวเข้าสู่เส้นทางกลับเมืองหลวง

อ๋องอันคิดหน้าคิดหลัง รู้สึกว่าปล่อยนางกลับไปคนเดียวไม่ค่อยไว้วางใจ จึงไปยุพี่สามให้กลับไปเที่ยวเล่นเมืองหลวงด้วยกัน

อ๋องเว่ยถลึงตา เที่ยวเล่น ราชสำนักให้เงินเดือนเจ้า เพื่อให้เจ้าไปเที่ยวเล่นอย่างนั้นหรือ 

 ข้าถูกหักเงินเดือนแล้ว อ๋องอันพูดเสียงขึ้นจมูก

อ๋องเว่ยตำหนิอย่างจริงจังเข้มงวดว่า แล้วทำไมเจ้าไม่รีบสร้างผลงาน อยากให้หักตลอดไปหรืออย่างไร เรื่องของหญิงคลอดลูก เจ้าจะกลับไปทำไม ตอนนี้หัวเมืองรอบๆเจริญขึ้นมาแล้ว เมืองเจียงเป่ยจะล้าหลังได้อย่างไร งานหลักสำคัญ รอให้นางให้กำเนิดลูกแล้ว พวกเราค่อยกลับไปอวยพรก็ไม่สาย  

อ๋องอันไม่กล้าตอบโต้ เมื่อก่อนคิดว่าเงินไม่ใช่สิ่งสำคัญ ตอนนี้เงินสำคัญมาก ตอนนี้เขาอาศัยเงินเดือนในการประทังชีวิต ส่วนที่ดินที่ได้รับการจัดสรรให้ อย่าได้พูดถึงเรื่องเงินทองเลย

เมืองเจียงเป่ยต้องพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วจริงจะดี

ตอนนี้จิตใจของอ๋องเว่ยจดจ่ออยู่กับเรื่องการพัฒนาเท่านั้น เขาตัดสินใจจะก้าวไปพร้อมกับราชสำนัก

เขาคิดว่า ชีวิตของคนเรา หากสามารถทำเรื่องดีๆได้สักเรื่องหนึ่ง ก็นับว่าไม่ละอายใจตนเองแล้ว

ตอนนี้เขาไม่คิดเรื่องอื่น หวังเพียงให้เป่ยถังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง มั่งคั่งอุดมสมบูรณ์ เกิดเป็นลูกหลานของตระกูลหยู่เหวิน นั่นเท่ากับว่าเขาได้ทำหน้าที่ในส่วนของตนเองสำเร็จแล้ว

เขาต้องบังคับให้อ๋องอันเดินไปข้างหน้าด้วยกัน

อ๋องอันก็ปล่อยมือ ให้คนไปส่งพระชายาอันกลับเมืองหลวง

ก่อนจะเดินทาง อ๋องเว่ยได้มอบเงินทั้งหมดที่ตัวเองเก็บหอมรอมริบเอาไว้มอบให้กับพระชายาอัน เอากลับไปมอบให้นาง 

 พี่สาม ท่านไม่เก็บไว้สักหน่อยหรือ พระชายาอันถามขึ้น

 ข้าอยู่ที่นี่ ไม่เดือดร้อนเรื่องกินเรื่องอยู่ ยังสามารถประคองไปได้ ไม่จำเป็นต้องเก็บไว้ อ๋องเว่ยพูดเสียงเรียบ

 แต่ว่า ข้าคิดว่าที่จริงจวิ้นจู่จิ้งเหอก็ไม่น่าจะขัดสนเรื่องเงินทองมากนัก พระชายาอันพูด เพราะว่า ก่อนหน้านี้เขาได้มอบสมบัติทั้งบ้านให้กับจิ้งเหอแล้ว

อ๋องเว่ยพูดว่า เด็กๆเยอะ ต้องคิดเผื่ออนาคต เงินมากหน่อย ก็สบายใจ ไม่ต้องไปขอร้องคนอื่น เอาอย่างนี้นั่นแหละ เอากลับไปเถอะ  

พระชายาอันได้แต่ทำการนับจำนวน พูดว่า ทั้งหมดเป็นเงินสามพันห้าร้อยเจ็ดสิบตำลึง 

 อืม ข้าเชื่อใจเจ้า อ๋องเว่ยพูดจบ กำชับให้นางเดินทางอย่างระวัง แล้วก็จากไป

พระชายาอันนำเอาตั๋วเงินและเงินจำนวนหนึ่งไปไว้ในกล่องที่จะเอาเดินทางไปด้วย อ๋องอันช่วยนางยัดเข้าไปใต้ที่นั่งของนาง ระหว่างทางอย่าเอาออกมา และอย่าเข้าไปยังจุดพักม้า ให้พักที่พักคนเดินทางก็พอ 

 รู้แล้ว พระชายาอันตอบรับ มองไปยังสามี และเต็มไปด้วยความอาลัยอาวรณ์ ระหว่างที่ข้ากลับไป ท่านก็ต้องดูแลสุขภาพให้ดี  

 พอข้ายุ่งขึ้นมา ก็ไม่สนใจจะกินข้าวอยู่เสมอ ถ้าหากเจ้าเป็นห่วงก็ให้รีบกลับมา 

พระชายาอันหัวเราะ ท่านไม่กินข้าวคนที่หิวก็คือท่าน ข้าไม่สนใจท่านหรอกนะ รอให้ฮูหยินเหยาคลอดลูกแล้ว ข้าย่อมกลับมาแน่นอน 

อ๋องอันหน้าบึ้ง  เจ้าช่างใจดำจริงๆ 

พระชายาอันหมุนตัว อ๋องอันยื่นมือประคองนาง มองสีหน้าชอบใจของนาง รู้สึกน้อยใจแต่ก็ทนเอาไว้ ยากมากที่จะได้เห็นนางดีใจเช่นนี้

รถม้าออกเดินทางไปแล้ว พระชายาอันไม่แม้แต่จะเลิกผ้าม่านขึ้นมามองเขา เห็นได้ชัดว่าหัวใจที่จะกลับบ้านนั้นเร็วดั่งธนูจริงๆ

ในวังหลวง หยวนชิงหลิงได้พูดเรื่องที่หมันเอ๋อกับพระชายาอันจะกลับเมืองหลวง

 เจ้าดีใจมากหรือ เจ้าห้าถาม

 อืม เพราะว่าไม่รวมตัวกันนานมากแล้ว หยวนชิงหลิงย่อมดีใจเป็นธรรมดา

 ดีใจก็ดีแล้ว เจ้าห้าไม่ได้รู้สึกดีใจหรือไม่ดีใจ ในเมื่อ เรื่องของผู้หญิงเขาไม่สนใจมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว

แต่คิดๆดูแล้ว รู้สึกไม่ค่อยจะดีใจอยู่บ้างเล็กน้อย เพราะว่า ถ้าพวกนางกลับมา ต้องกินเวลาของยายหยวนไปมากแน่ๆ เวลาของยายหยวนนั้นกำหนดไว้ตายตัวแล้ว พวกนางแย่งไปมากๆ เขาก็จะได้เวลาน้อยลง

 กลับมาเที่ยวกี่วัน เจ้าห้าถาม

 บอกว่าจะกลับมาอยู่เป็นเพื่อนฮูหยินเหยา รอให้ฮูหยินเหยาคลอดแล้วค่อยกลับไป 

เจ้าห้าเบิกตากว้าง  อยู่นานขนาดนี้เชียว ไม่ต้องสนใจลูกกับสามีตนเองแล้วหรือ 

 ลูกๆก็โตกันแล้ว ส่วนสามี ให้พวกเขาอยู่ตามยถากรรมไปเถอะ 

เจ้าห้าไม่พอใจ สามารถให้ภรรยาตัวเองหนีออกมาได้สิบเดือน ผู้ชายเช่นนี้ไร้ประโยชน์เสียจริง  

นั่นเท่ากับว่าสิบเดือนต่อจากนี้ ต้องแย่งชิงภรรยาของตัวเองกับผู้หญิงกลุ่มหนึ่งอย่างนั้นหรือ

ฮูหยินเหยาก็จริงเชียว อายุปูนนี้แล้ว ยังจะคลอดลูกอีก ทำเหมือนจิ้งเหอที่รับเลี้ยงสักโหลไม่ดีกว่าหรือ

ในใจรู้สึกไม่พอใจ ตอนค่ำจึงไปบ่นและฟ้องพวกลูกๆ

พวกลูกๆต่างก็ส่งกระแสจิตให้หยวนชิงหลิงมาช่วย ท่านพ่อขุ่นเคืองหนักจริงๆ

หยวนชิงหลิงจึงพูดกับหยู่เหวินเห้าว่า ใช่แล้ว ข้ามีเรื่องเล็กน้อย ต้องส่งท่านชายสี่เหลิ่ง โสวฝู่เหลิ่งและท่านชายหงเย่พวกเขาออกไปทำงาน คาดว่าไปประมาณหนึ่งถึงสองเดือน ได้หรือไม่ 

 ไปที่ไหน ทำเรื่องอะไร ต้องไปนานขนาดนั้นเชียวหรือ หยู่เหวินเห้ารีบถามขึ้น

หยวนชิงหลิงหน้าตึง นับว่าเป็นเรื่องค่อนข้างสำคัญ และจำเป็นต้องไป ท่านไม่เห็นด้วยหรือ 

หยู่เหวินเห้ามองสีหน้าของภรรยา จึงรู้ว่าเป็นเรื่องอะไร จึงนั่งลงทันที พูดยิ้มๆว่า ข้าไม่ได้โมโหที่เจ้าจะไปอยู่เป็นเพื่อนพวกนางสักหน่อย ก็แค่พูดคุยกับลูกๆเท่านั้น ให้พวกเขาดีใจแทนฮูหยินเหยาสักหน่อย 

 ทำไม เสียดายเพื่อนที่ดีของท่านอย่างนั้นหรือ หยวนชิงหลิงพูดอย่างไม่พอใจ

หยู่เหวินเห้าอ่อนลงทันที  ทำไมต้องรู้สึกเสียดายด้วย จะไปสนใจพวกเขาทำไม ที่สำคัญที่สุดคือมีภรรยาอยู่ข้างกายต่างหากเล่า 

 ก็เสียดายอยู่ดี ตอนนี้ท่านไม่เจอพวกเขาแค่วันเดียว ในใจก็คิดถึงมากแล้ว หยวนชิงหลิงพูด

 นั่นก็เพราะเรื่องของราชสำนัก ถ้าหากไม่มีเรื่องสำคัญ ใครจะยินดีพบพวกเขากัน น่ารำคาญมาก 

หยวนชิงหลิงจ้องเขา  จริงหรือ เช่นนั้นข้าจะส่งพวกเขาออกไปทำงาน 

หยู่เหวินเห้าลำบากใจ งานในราชสำนักไม่มีคนคุมน่ะซิ 

 ท่านก็คุมเองซิ ฮ่องเต้อย่างท่านคุมไม่ได้หรือ 

หยู่เหวินเห้ารีบร้องขอชีวิตทันที เป็นความผิดข้าเอง เพราะข้าใจแคบเกินไป พวกนางกลับมาข้ารู้สึกดีใจมาก  

หยวนชิงหลิงเอ่ยขึ้นอย่างไม่พอใจว่า  อนุญาตให้ท่านมีเพื่อนได้ แต่ไม่อนุญาตให้ข้ารวมตัวกับสะใภ้ร่วมตระกูลอย่างนั้นหรือ เป็นสามีภรรยากันก็ต้องการช่องว่างเช่นกัน 

หยู่เหวินเห้ายิ้มแห้งๆ  ใช่ ข้าผิดไปแล้ว ข้าผิดไปแล้ว รอให้พวกนางกลับมากันหมดแล้ว ข้าจะเชิญกินข้าว เพื่อไถ่โทษให้กับเจ้า ดีหรือไม่ 

 นั่นไม่จำเป็น ขอแค่อย่างอนก็พอแล้ว หยวนชิงหลิงคิดว่าเขาเชิญกินข้าวก็แค่กับข้าวธรรมดาเช่นผักกับเต้าหู้เท่านั้น ยังไม่อนุญาตให้ดื่มเหล้าอีก ยังไม่สู้สะใภ้ร่วมตระกูลอย่างพวกนางที่รวมตัวกันเอง หรงเยว่ใจกว้างมาก

 ไม่กล้าแล้ว ไม่กล้าแล้ว หยู่เหวินเห้ารีบพูดขึ้น

 

บัลลังก์หมอยาเซียน

บัลลังก์หมอยาเซียน

Status: Ongoing

ด็อกเตอร์แพทย์หญิงอัจฉริยะข้ามภพกลายเป็นพระชายาของอ๋องฉู่ เพิ่งมาถึงก็เจอผู้ที่บาดเจ็บสาหัส นางยึดถือจรรยาแพทย์ไปทำการช่วยเหลือ กลับเกือบถูกคนให้ร้ายไท่ซ่างหวง(เสด็จพ่อของฮ่องเต้)ป่วยวิกฤต นางไม่มีวิธีรักษา ถูกอ๋องอำมหิตผู้น่าเกลียดเข้าใจผิดตำหนิเอา หรือว่าเป็นคนดีมันยากนัก? ชายผู้นี้เอาแต่ใส่ร้ายป้ายสีนางไม่ว่า ที่อดไม่ได้คือเขายังกล้าแต่งชายารองทำให้นางสะอิดสะเอียนอีกอ๋องอำมหิตพูดอย่างเย็นชาว่า: “เจ้ามีดีอะไรให้ข้าแค้นเจ้า ข้าเพียงแค่เกลียดเจ้า? แค่เห็นเจ้าแวบแรกก็รู้สึกขยะแขยง”หยวนชิงหลิงใบหน้ายิ้มรับพร้อมกล่าวว่า: “ไฉนข้าไม่รังเกียจท่านอ๋องเพคะ? เพียงแค่ทุกคนล้วนเป็นสุภาพชน ไม่อยากไม่ไว้หน้าก็เท่านั้น”อ๋องอำมหิตพูดเย้ยหยันว่า: “เจ้าอย่านึกว่าตั้งท้องลูกของข้าแล้วข้าจะนับว่าเจ้าเป็นพระชายา ดื่มยาถ้วยนี้ ข้ากับเจ้าขาดกัน อย่ามาขัดขวางการแต่งงานของข้ากับคุณหนูสองตระกูลฉู่” หยวนชิงหลิงยิ่มแฉ่งพร้อมกล่าวต่อว่า: “ท่านอ๋อง นี่ชอบพูดเล่นเสียจริงเพคะ ท่านอยากแต่งก็แต่งเลยเพคะ ข้ามีลูกให้ดูแล ค่อยแต่งงานใหม่ ไม่มีใครเป็นก้างขวางคอใคร ถึงเวลานั้นมีการจัดเหล้าครบเดือน ขอเชิญท่านอ๋องมาร่วมงานด้วยเพคะ”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท