บัลลังก์หมอยาเซียน – บทที่ 1729 ไปเที่ยวดีหรือไม่

บทที่ 1729 ไปเที่ยวดีหรือไม่

หลังจากตรวจสอบคดีแล้ว คนที่ควรถูกตัดหัวก็ถูกตัดหัว คนที่ควรจะส่งตัวเข้าคุกก็ถูกส่งตัวเข้าคุก ส่วนเงินที่หัวหน้าคนงานหวูรวบรวมมาติดสินบนนั้น เงินทั้งหมดจะนำไปจ่ายชดเชยให้กับครอบครัวของผู้เคราะห์ร้าย

หยู่เหวินเห้าแสดงอาการโกรธเกรี้ยว ประดุจสายฟ้าผ่าฟาดกลางโถงว่าราชการจนสะท้านสะเทือน

มีคำสั่งลงไปเด็ดขาด ห้ามมิให้มีการฉ้อฉลทุจริตและส่งเสริมคุณธรรม จัดตั้งกรมปกครองพิเศษที่มีหน้าที่สอบสวนการทุจริตโดยเฉพาะ ให้ดำเนินการสอบสวนทั่วประเทศ

เขาเน้นย้ำไม่หยุดว่าต้องปราบปรามการทุจริตให้ได้ ประชาชนถึงจะมีชีวิตที่ดี

ในเวลาเดียวกัน เขายังเสนอให้มีการขึ้นเงินเดือนข้าราชการด้วย

ก่อนนี้บ้านเมืองไม่ได้ร่ำรวย ดังนั้นเงินเดือนข้าราชการจึงนับว่าอยู่ในเกณฑ์ต่ำ แต่ตอนนี้บ้านเมือง รุ่งเรืองเฟื่องฟูขึ้นมาก ทุกสาขาอาชีพล้วนมีเงินคล่องมือ ถึงเวลาแล้วที่ทุกคนจะมีชีวิตที่ดีร่วมกัน

และการให้เงินเดือนสูง อาจจะยับยั้งการทุจริตได้ในระดับหนึ่ง เพราะค่าตอบแทนของการทุจริตนั้นสูงเกินไป ในขณะที่เงินเดือนที่ได้ก็หนักมากขนาดนี้ ก่อนคิดโลภรับสินบน คนทำก็อาจคิดชั่งน้ำหนักผลได้ผลเสียดูก่อน

หลังจากเลิกประชุมราชสำนักในวันนั้นแล้ว หยู่เหวินเห้าก็เรียกโสวฝู่กับบรรดาท่านอ๋องเข้ามา แล้วพูดสิ่งที่เขาอยากทำมาโดยตลอด

เป็นการทิ้งคำพูดลอย ๆ เพียงสี่คำเท่านั้น  ข้าอยากไปเที่ยว! 

ตอนนี้บ้านเมืองสงบสุข แต่ก็มักจะมีสถานที่ที่พระเมตตาของฮ่องเต้ไม่อาจเข้าถึงได้อยู่เสมอ

นอกจากนี้เขายังต้องการออกไปเห็นแผ่นดินที่เขาปกครอง พัฒนา และปรับเปลี่ยนมาเนิ่นนาน

หลายปีนี้เสียหน่อย ว่าสรุปแล้วมันไม่เหมือนกับแผ่นดินที่บันทึกในหนังสืออย่างไรบ้าง

เมื่อครั้งที่ยังเป็นอ๋องฉู่ เป็นรัชทายาท เขาก็พอจะรู้ถึงความทุกข์ยากของราษฎร แต่หลังจากหลายปี ผ่านไป เขากลับค่อย ๆ ห่างไกลจากราษฎรออกไปทุกที เขาจำเป็นต้องตั้งหลักให้มั่น จำเป็นต้องออกไปดูการใช้ชีวิตของผู้คนในใต้หล้า ต้องทำความเข้าใจราษฎรอย่างถ่องแท้ว่า ราษฎรเหล่านี้ นอกจากมีกินอิ่มท้องมีที่อยู่อาศัยให้พักพิงแล้ว ยังควรได้รับอะไรอีก

นอกจากนี้ เขายังต้องการใช้ประโยชน์จากข้ออ้างของการไปเที่ยว พาเจ้าหยวนไปวิ่งวนให้รอบเป่ยถังสักครั้ง

เหลิ่งจิ้งเหยียนเห็นดีเห็นงามกับการออกไปเที่ยวครั้งนี้มาก

เขาพูดว่า  การใช้ชีวิตของผู้คนในวันนี้เป็นอย่างไร ข้าเคยได้เห็นแค่จากในหนังสือ แต่แท้ที่จริงเป็นอย่างไรกันแน่กลับไม่เคยรู้ ยังมีการปิดบังอำพรางอะไรหรือไม่ ? มีคดีที่ตัดสินอย่างไม่ยุติธรรมหรือไม่ ? มีคนที่ทุกข์ยากลำบากหรือไม่ ? ทั้งหมดนี้จำเป็นต้องตรวจสอบจริง ๆ  

 อื้ม เจ้าพูดได้ถูกต้องแล้ว!  หยู่เหวินเห้ายิ่งนับวัน ก็ยิ่งรู้สึกว่าท่านเหลิ่งดูเข้าตาขึ้นทุกที พูดจาอะไรก็ไพเราะน่าฟังไปหมด

 แต่…  เหลิ่งจิ้งเหยียนเปลี่ยนประเด็นทันควัน  ถึงแม้บ้านเมืองจะเจริญรุ่งเรือง ผู้คนก็ปลอดภัย แต่ก็ยังมีโจรลักเล็กขโมยน้อยเดินเตร็ดเตร่อยู่ ท่านเป็นราชาของประเทศ เป็นร่างมังกรจำแลงที่เป็น

รากฐานอันมั่นคงของประเทศ ย่อมไม่เหมาะที่จะออกไปเที่ยวตระเวนดูชาวบ้านร้านตลาด ไม่สู้

ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของกระหม่อมจะดีกว่า  

หยู่เหวินเห้ายิ้มละไมพลางพูดว่า  โสวฝู่พูดได้ดีจริง ๆ ฟังดูไร้ยางอายมาก! 

เขายกราชโองการฉบับหนึ่งขึ้นมา เอ่ยว่า  นำรายชื่อคนที่จะร่วมคณะไปกับข้า ประกาศออกไปเร็วเข้าเถอะ! 

เหลิ่งจิ้งเหยียนรับมา ไม่จำเป็นต้องบอกก็รู้ ว่าจะต้องไม่มีชื่อเขาแน่ ถ้าฝ่าบาทไป เขาจะต้องอยู่ เขาเป็นคนไป ฝ่าบาทจะต้องอยู่

แต่หลังจากรับมาอ่านดูรอบหนึ่ง กลับเห็นว่ามีชื่อของเขาอยู่ในรายชื่อคณะติดตามด้วย เขาจึงรู้สึกตื่นเต้นระคนประหลาดใจมาก  กระหม่อมก็ไปได้ด้วยหรือ? 

หยู่เหวินเห้ายิ้มพลางพูดว่า  ไปเถอะ ในประเทศตอนนี้ไม่ได้มีปัญหาใหญ่อะไร เน่ย์เก๋อล้วนสามารถจัดการได้ ไม่ใช่ว่าเจ้าส่งเสริมปลุกปั้นผู้ใต้บังคับบัญชารุ่นสองไว้หลายคนแล้วหรอกหรือ?

ถึงเวลาทดสอบความสามารถของพวกเขาแล้ว 

 พวกเขาสามารถรับมือได้จริง ๆ มีหลายคนที่เพิ่งเลื่อนตำแหน่งขึ้นมา กระหม่อมจะทูลฝ่าบาทว่าหนึ่งในนั้นคือฉางซานหมิง ว่าตามจริงเป็นคนที่มีลักษณะคล้ายท่านเมื่อสมัยหนุ่ม ๆ มาก เป็นคนที่ทำอะไรเด็ดขาดไม่มีลังเล มือเท้าแข็งแกร่งว่องไว แต่กลับรู้วิธีการปลอบประโลมใจประชาชน ข้ามีเจตนาจะเลื่อนตำแหน่งให้เป็นรองเจ้ากรม ยังมีใต้เท้าฉินเตี่ยน เวลาที่เขาร่วมมือกับฉางซานหมิง…… 

หยู่เหวินเห้ายื่นมือออกไปกด ๆ เจ้าตัวไว้  เอาล่ะ ๆ คำพูดคำเหล่านี้เจ้าพูดมันซ้ำ ๆ ไม่ต่ำกว่าร้อยครั้งแล้ว ข้าก็เคยเรียกให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบมาเหมือนกัน กำเนิดจากครอบครัวยากจน แต่มีหัวใจที่ซื่อสัตย์ ทั้งยังมีอุดมการณ์อันดีที่จะรับใช้ประเทศชาติ ข้าเชื่อคำพูดของเจ้า 

คณะเดินทางในครั้งนี้ คนที่จะพาไปด้วยมีสวีอี ทังหยาง เหลิ่งจิ้งเหยียน หงเย่ อ๋องหวย เนื่องจากฮองเฮาย่อมได้ตามไปด้วย ดังนั้น บรรดาผู้ร่วมเดินทางจึงสามารถพาสมาชิกในครอบครัวของตนไปด้วยได้

อ๋องซุนเงยหน้าขึ้น  ทำไมไม่พาข้าไปด้วย? 

หยู่เหวินเห้าหันไปมองเขา  พี่รอง การเดินทางครั้งนี้ ไม่ใช่รูปแบบการเดินทางที่ราชวงศ์ไปกับกองทัพหลวง แต่เป็นการเยี่ยมชมแบบส่วนตัวขนาดเล็ก บ่อยครั้งที่อาจต้องกินแบบกินแค่มื้อนี้ แต่ไม่มีมื้อหน้า …  

 ข้าไม่ไป!  อ๋องซุนไม่รอให้เขาพูดจบ ก็รีบตัดบททันที

อ๋องฉีก็อยากไปเช่นกัน แต่เมื่อคิดถึงคดีต่าง ๆ ที่กองสุมกันอยู่ในกรมการพระนครที่ตัวเองดูแล หัวของเขาก็แทบจะปวดบวมขึ้นมาแล้ว

 

บัลลังก์หมอยาเซียน

บัลลังก์หมอยาเซียน

Status: Ongoing

ด็อกเตอร์แพทย์หญิงอัจฉริยะข้ามภพกลายเป็นพระชายาของอ๋องฉู่ เพิ่งมาถึงก็เจอผู้ที่บาดเจ็บสาหัส นางยึดถือจรรยาแพทย์ไปทำการช่วยเหลือ กลับเกือบถูกคนให้ร้ายไท่ซ่างหวง(เสด็จพ่อของฮ่องเต้)ป่วยวิกฤต นางไม่มีวิธีรักษา ถูกอ๋องอำมหิตผู้น่าเกลียดเข้าใจผิดตำหนิเอา หรือว่าเป็นคนดีมันยากนัก? ชายผู้นี้เอาแต่ใส่ร้ายป้ายสีนางไม่ว่า ที่อดไม่ได้คือเขายังกล้าแต่งชายารองทำให้นางสะอิดสะเอียนอีกอ๋องอำมหิตพูดอย่างเย็นชาว่า: “เจ้ามีดีอะไรให้ข้าแค้นเจ้า ข้าเพียงแค่เกลียดเจ้า? แค่เห็นเจ้าแวบแรกก็รู้สึกขยะแขยง”หยวนชิงหลิงใบหน้ายิ้มรับพร้อมกล่าวว่า: “ไฉนข้าไม่รังเกียจท่านอ๋องเพคะ? เพียงแค่ทุกคนล้วนเป็นสุภาพชน ไม่อยากไม่ไว้หน้าก็เท่านั้น”อ๋องอำมหิตพูดเย้ยหยันว่า: “เจ้าอย่านึกว่าตั้งท้องลูกของข้าแล้วข้าจะนับว่าเจ้าเป็นพระชายา ดื่มยาถ้วยนี้ ข้ากับเจ้าขาดกัน อย่ามาขัดขวางการแต่งงานของข้ากับคุณหนูสองตระกูลฉู่” หยวนชิงหลิงยิ่มแฉ่งพร้อมกล่าวต่อว่า: “ท่านอ๋อง นี่ชอบพูดเล่นเสียจริงเพคะ ท่านอยากแต่งก็แต่งเลยเพคะ ข้ามีลูกให้ดูแล ค่อยแต่งงานใหม่ ไม่มีใครเป็นก้างขวางคอใคร ถึงเวลานั้นมีการจัดเหล้าครบเดือน ขอเชิญท่านอ๋องมาร่วมงานด้วยเพคะ”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท