บทที่52 โลกของสัตว์
คนของตระกูลหลินทั้งหมดมองหน้ากัน และสายตาพวกเขาหันไปมองที่หลินฉ่ายเวย
เมื่อไม่พูดถึงเรื่องนี้ไม่เป็นไร แต่เมื่อพูดแล้ว ทำให้พวกเขานึกขึ้นได้ว่า มีเรื่องนี้เกิดขึ้นจริงๆ
ตอนนั้นหลินฉ่ายเวยไม่คิดว่าถังเฉาทำสามารถทำสามสิ่งที่ไม่สามารถทำสำเร็จภายในอาทิตย์เดียวได้ ก็เคยไม่ได้กล้าอะไร เอาตัวเองลงไปพนัน ถ้าเธอแพ้ ไม่เพียงต้องคอยเสิร์ฟชาและน้ำให้ถังเฉา และขอโทษถังเฉา ยังต้องเป็นคนรับใช้ของถังเฉาหนึ่งวันด้วย
ในที่สุด ถังเฉาทำสำเร็จ บริษัทลี่จิงกรุ๊ปไม่ได้ยกเลิกสัญญาความร่วมมือกับตระกูลหลิน ตระกูลหวางและตระกูลจ้าวไม่เพียงให้อภัยตระกูลหลิน แถมยังมาขอโทษ และมอบเงินจำนวนยี่สิบล้าน
ตอนนี้หลินฉ่ายเวยหันหลังกลับไม่ได้แล้ว
ทุกคนจ้องไปที่เธอ สีหน้าของเธอตอนนี้ขาวซีด และเลือดได้สูบฉีดอย่างรวดเร็ว ทำให้ใบหน้ากลายเป็นสีแดง
ใช่ ตอนนั้นเคยพูดแบบนี้ก็จริง แต่เพราะขณะนั้นเธอโกรธอยู่ เป็นคำพูดที่พูดเล่นๆ ไม่ใช่หรือ?
ถ้ามาค่อยเสริฟชาเสริฟน้ำให้ถังเฉา และเป็นคนรับใช้ของถังเฉาหนึ่งวันต่อไปหน้าของเธอจะเอาไปไว้ที่ไหน?
ที่สำคัญ เธอถูกเลี้ยงดูอย่างคุณหนูมาตั้งแต่เด็ก จะทำอะไรเป็น?
“ถังเฉา นาย นายอย่ามาบังอาจนะ! ”
ใบหน้าของหลินฉ่ายเวยแดงไปหมด พูดออกมาอย่างติดๆ ขัดๆ
“นี่เธอพูดเองไม่ใช่หรือ ถ้าเธอแพ้เธอจะมาค่อยเสริฟชาและน้ำให้ฉัน และมาเป็นคนรับใช้ฉันหนึ่งวัน หรือเธอจะคืนคำ?”
“ฉัน”
หลินฉ่ายเวยโมโห ตอนนี้เธอขี่หลังเสือคงจะลงยากแล้ว เธอกระทืบเท้าอย่างแรง หันไปมองที่โจวเหม่ยหยูน “คุณแม่ เขารังแกคนมากเกินไปแล้ว! ”
สีหน้าของโจวเหม่ยหยูนตอนนี้ดูแย่มากและพูดว่า“ถังเฉา นายอย่าทำเกินไปนะ พวกเราให้นายอยู่ในตระกูลหลินต่อไป ก็เป็นบุญของนายแล้ว ในเมื่อเราให้โอกาสนายก็อย่าทิ้งโอกาสนั้น! ”
หลินฉ่ายเวยเป็นลูกสาวแท้ๆของเธอ ถ้าลูกสาวของเธอไปเป็นคนรับใช้ของคนไร้ค่าอย่างถังเฉา หน้าของคนเป็นแม่ก็ไม่เหลืออะไรแล้วน่ะสิ
“แค่กแค่ก ถังเฉา ไม่ว่าอย่างไรก็ตามฉ่ายเวยก็เป็นน้องสาวนายนะ”
ตอนนี้คุณลุงหลินจ้องพูดออกมาพร้อมเสียงไอที่แห้ง“พวกเธอเป็นเล่นกันมาตั้งแต่เด็กจนโต และเธอก็ได้รู้สึกผิดแล้ว การพนันนี้ถือเป็นโมฆะนะ และห้ามพูดถึงอีก”
“ก็ใช่สิ นายมันคนไร้ความรู้สึกและโหดเหี้ยม จะให้น้องสาวของตัวเองมาเป็นคนรับใช้หรือ?” น้าโจวซูหัวพูดออกมา
ได้ยินที่ทุกคนค่อยพูดช่วยตัวเอง หลินฉ่ายเวยถึงโล่งใจ และเงยหน้าอย่างหยิ่งผยองและใช้สายตาที่ไม่เป็นมิตรมองไปที่ถังเฉาและหลินเจิ้นสง และพูดด้วยความไม่พอใจ“คุณพ่อ หนูเป็นลูกคุณพ่อนะ คุณพ่อจะไม่พูดอะไรหน่อยหรือ?”
หลินเจิ้นสง ถึงได้หน้าด้านพูดว่า“เสี่ยวเฉา เรื่องนี้ถือว่าลูกผมไม่ได้พูดนะได้มั้ย?”
ตั้งแต่ต้นจนจบ ถังเฉามองพวกเขาคุยกันด้วยสีหน้าที่เฉยชา ไม่ได้พูดอะไรออกมา
และไม่นาน มีคนหยุดพูด และค่อยๆ หยุดพูดทีละสองคนสามคน……จนทุกคนเงียบ!
เพราะพวกเขารู้สึกได้ถึงแววตาที่เย็นเยือกของถังเฉา เหมือนกับแววตาครั้งก่อนที่ถังเฉาออกจากตระกูลหลิน
“พวกเธอเข้าใจอะไรยากหรือ?”
ถังเฉามองไปหาคนของตระกูลหลินทั้งหมด และหัวเราะอย่างไร้ความรู้สึก“ในสายตาพวกคุณ นี่เป็นเรื่องที่เล็กและไม่มีค่าอะไร มีก็ได้ไม่มีก็ได้ ผมจะมาพนันเพื่ออะไร ที่สำคัญ ยังมีคุณลุงใหญ่ และคุณลุงรอง และพ่อมาช่วยพูด พวกคุณคิดว่าผมควรจะทำให้เรื่องใหญ่เป็นเรื่องเล็ก และทำเรื่องเล็กหายไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น”
“ผมก็อยากทำแบบนี้ แต่พวกเราจะทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยได้หรือ?”
สีหน้าที่เย็นชา แววตาที่แหลมคมของถังเฉา เขาเว้นระยะการพูดและพูดต่อว่า“ทุกอย่างกลับไปไม่ได้แล้ว”
เป็นเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว
เมื่อประโยคนี้ถูกพูดออกมา ทุกคนหัวใจเต้นแรงมาก ปรากฏสีหน้าที่ไม่ธรรมชาติ
“ถังเฉานายพูดว่าอะไรนะ?” สีหน้าที่แดงปนขาวซีดของหลินฉ่ายเวย
“ตอนเธอเสนอจะพนันกับฉัน เธอไม่คิดเลยหรือว่า เธอจะมีโอกาสแพ้?”
สายตาที่แหลมคมของถังเฉา ไปบาดใจของหลินฉ่ายเวย“ฉ่ายเวย เธอเคยคิดคำถามที่ว่า ถ้าฉันแพ้แล้ว เธอจะทำอะไรกับฉันมั้ย? พวกคุณจะทำอะไรกับผม?”
“พวกคุณจะไล่ผมออกไปรับบาปอย่างไม่ลังเล เพื่อความปลอดภัยของพวกคุณเอง สละเรือเพื่อฮ่องเต้ ผมก็เป็นคนที่ต้องเสียสละคนนั้น พวกคุณก็เหมือนฮ่องเต้ เป็นลูกที่เกิดจากแม่บุญธรรม ไม่มีใครสมควรตายไปมากกว่ากันหรอก”
แต่ยังดีที่ผมทำสำเร็จ ในสามสิ่งที่ไม่สามารถทำสำเร็จได้ภายในหนึ่งอาทิตย์สำหรับพวกคุณ แต่สิ่งที่ผมควรได้รับคืออะไร? คือความเย็นชา หรือความไม่พอใจ หรือเป็นเรื่องที่ผมควรจะทำ”
“ความเย็นชาก็เหมือนมีด และการไร้ความรู้สึกเหมือนดาบ พวกคุณก็กระทำต่อคนที่ไม่มีผลประโยชน์แล้วแบบนี้แหละ ถ้าไม่ใช่ผม แต่เป็นคนอื่นที่ไม่มีอำนาจไม่มีอิทธิพลอะไรละ? ชีวิตเขาไม่พังพินาศเลยหรือ? เขายังมีวันที่ยืนขึ้นมาได้หรือ?”
“สำหรับพวกคุณ นี่อาจจะเป็นแค่การพนันที่มีหรือไม่มีก็ได้ แต่สำหรับผมแล้ว นี่เป็นดาบแห่งการล้างแค้น พวกคุณว่า ผมจะให้อภัยเธอได้มั้ย?”
“……”
ลานกว้างของตระกูลหลินเงียบเชียบ เหมือนไม่มีสิ่งมีชีวิต มีแค่เพียงเสียงพูดที่อึดทึกของถังเฉา
หลินเจิ้นสงสีหน้าซีดและคล้ำ พูดอะไรไม่ออกและหลบหน้าไป เขาที่เป็นถึงเจ้าบ้านของตระกูลหลิน เขาจะดูไม่ออกได้อย่างไรว่าความสัมพันธ์ เครือญาติของบ้านนี้ไม่ได้แน่นแฟ้น
หลินฉ่ายเวยถูกว่าจนหน้าขาวซีด และตัวสั่นอย่างรุนแรง
คำพูดของถังเฉาเหมือนกรรไกรที่แหลมคม และตัดไปที่เนื้อหนังของเธออย่างไม่ปรานีแยกร่างกายและวิญญาณของเธอออกจากกัน
เธอเหมือนตัวตลกที่คืนร่างเดิม และตัวเต็มไปด้วยเลือดยืนอยู่หน้าถังเฉา ความอัปลักษณ์ ความสกปรก ความน่ารังเกียจ
โจวเหม่ยหยูน หลินจ้อง โจวซูหัวและลูกหลานของตระกูลหลินขณะนี้ก็ไม่ได้พูดอะไร พวกเขาละลายแก่ใจและหันหน้าไปทางอื่น
ความหมายของถังเฉาก็ชัดเจนมาก สำหรับชาวันนี้ ไม่อยากจะเสิร์ฟก็ต้องเสริฟ
“เสริฟชา! ” ถังเฉาตะโกน
หลินฉ่ายเวยตกใจ ตอนได้สติ ตัวของเธอสั่น และแข็งทื่อ อยู่สักพัก ถึงได้หันไป และเดินเข้าไปที่ห้องครัว
ไม่มีใครเห็นตอนที่เธอหันหลัง แววตาของหลินฉ่ายเวยเต็มไปด้วยความเคียดแค้น
ไม่นานเธอได้ถือชาหนึ่งถ้วยออกมา และส่งให้ถังเฉา
ถังเฉามองดูแล้ว ไม่ได้ไปรับชา กลับถามไปว่า“ฉันนั่งอยู่ เธอกล้ายืนหรือ”
หลินฉ่ายเวยตัวสั่น และสูบหายใจเข้าลึกๆ และค่อยๆ คุกเข่า และก้มหัวแล้วยื่นชาด้วยมือทั้งสองมือ
“เชิญดื่มชาค่ะ” น้ำเสียงของหลินฉ่ายเวยสั่นเครืออย่างเห็นได้ชัด
ถังเฉาถึงได้รับชามา ละดื่มไปลงไป ถังเฉาขมวดคิ้ว“นี่เป็นชาที่เธอชงหรือ ดื่มไม่ได้เลย ไปชงมาใหม่! ”
หลินฉ่ายเวยสีหน้าแข็งทื่อ ตัวของเธอสั่นยิ่งกว่าเดิม
เธอกัดไปที่ริมฝีปาก กัดจนเลือดออก ใบหน้าที่ดูผิดรูป ดวงตาที่แฝงไปด้วยความแค้นที่ไม่มีจุดจบ
แต่เธอไม่ได้พูดอะไรออกมา และเดินเข้าไปที่ห้องครัวอย่างเงียบๆ และชงชาใหม่อีกครั้ง
และคุกเข่าและถวายชาเหมือนเดิม“เชิญดื่มชาค่ะ”
“ไม่อร่อยเลย ชงใหม่”
“……”
หลินฉ่ายเวยกลับไปชงน้ำชาใหม่ และคุกเข่าถวายเหมือนเดิม“เชิญดื่มชาค่ะ”
“ชงใหม่”
ไปๆ มาๆ ทำแบบนี้อยู่ห้าหกครั้ง ถังเฉาถึงดื่มชาจนหมดแก้ว
“พวกเราไปกันเถอะ” ถังเฉากำลังจะพาเฟิ่งหวงกลับ
ก่อนจากไปถังเฉามองไปที่หลินฉ่ายเวยที่คุกเข่าอยู่ แววตาที่ไร้ความรู้สึก
เมื่อขึ้นรถ เฟิ่งหวงขับรถไป ถังเฉานั่งอยู่เบาะหลังรถไม่ได้พูดอะไรออกมา และจ้องมองบรรยากาศนอกรถ
ดูออกว่าตอนนี้รองหัวหน้าอารมณ์ไม่ค่อยดี
ถังเฉาถอนหายใจเบาๆ หลังจากเรื่องนี่ผ่านไป ตระกูลหลินต้องเกลียดตัวเองยิ่งกว่านี้แน่ๆ
แต่ถังเฉาก็ไม่เสียใจที่ทำแบบนี้ ถ้าเกิดเรื่องแบบนี้อีกครั้ง เขาก็จะแบบเหมือนเดิม
เพราะว่านี่เป็นโลกของสัตว์ที่คนกินคน ไม่มีความดีหรือความปรานี มีเพียงแค่ใครจะดุร้ายกว่ากัน