บทที่122 โครงการของสำนักงานการก่อสร้าง
ที่บริษัทหลงเถิง อาคารกั๋วจี้
ภายในห้องทำงานของประธานกรรมการ ซ่งเทียนซานเดินไปมาอย่างกระวนกระวายใจ และตรวจสอบเวลาในมือเป็นครั้งคราว ราวกับกำลังรอใครบางคนอยู่
ในขณะนี้ ประตูเปิดก็ออก เขามองไปที่ประตูโดยอัตโนมัติ ทันใดนั้นใบหน้าของซ่งเทียนซานก็ร่าเริงข้น
แต่เมื่อเขาเห็นว่าคนที่เข้ามาคือหลินฉ่ายเวย เขาก็รู้สึกผิดหวังทันที
“คุณมาที่นี่ทำไม?” ซ่งเทียนซานเหล่มองหลินฉ่ายเวย และถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจ
หลินฉ่ายเวยไม่พอใจเล็กน้อยกับน้ำเสียงของซ่งเทียนซาน นับตั้งแต่ที่เธอกลายเป็นผู้หญิงของเหวินเหวยเฉิน เธอรู้สึกว่าสถานะของตัวเองเพิ่มขึ้นอย่างมาก และแม้แต่ซ่งเทียนซาน ก็ควรสุภาพกับเธอเช่นกัน
แต่เธอก็ไม่ใด้อาละวาดใส่เขา เธอแค่อธิบายจุดประสงค์ของเธอว่า: “ประธานซ่งฉันมาที่นี่เพื่อถามว่า ฉันช่วยบริษัทหลงเถิงชนะโครงการของสำนักงานการก่อสร้าง ถึงเวลาฉันจะได้รับกำไรส่วนแบ่งเท่าไหร่”
ซ่งเทียนซานขมวดคิ้ว และในใจยิ่งไม่พอใจหลินฉ่ายเวยมากขึ้น เขาไม่เต็มใจที่จะแบ่งผลกำไรให้กับคนอื่น
เมื่อเขาพูดเช่นนี้ เขาก็แค่วาดภาพเค้กก้อนโตให้หลินฉ่ายเวยดูเท่านั้น เขาไม่คิดว่าหลินฉ่ายเวยจะชนะโครงการของสำนักงานการก่อสร้างได้จริง ใครจะรู้ว่า หลินฉ่ายเวยกลายเป็นผู้หญิงของคุณชายเหวินจริงๆ ซึ่งมันทำให้ซ่งเทียนซานลำบากใจอย่างมาก
เขาครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง และกล่าวว่า: “หากโครงการของสำนักงานการก่อสร้างทำกำไรได้ แน่นอนฉันจะไม่ปฏิบัติต่อคุณอย่างเลวร้าย ฉันจะแบ่งผลกำไรให้คุณสองเปอร์เซ็นต์”
ในสายตาของเขากำไรสองเปอร์เซ็นต์ก็เพียงพอแล้ว
โครงการของสำนักงานการก่อสร้าง ได้รับการอนุมัติจากโครงสร้างส่วนบนของเมืองหมิงจู ซึ่งถือว่าเป็นการสนับสนุนเมืองหมิงจู และมันเป็นโอกาสดีๆที่หายาก ไม่เพียงแต่สร้างรายได้ แต่ยังได้รับชื่อเสียงที่ดีอีกด้วย
อย่ามองว่าผลกำไรเพียงสองเปอร์เซ็นต์เท่านั้น หากทำได้จริงหลินฉ่ายเวยจะกลายเป็นเศรษฐีทันที
แต่ว่า หลินฉ่ายเวยเลิกคิ้ว และเสียงของเธอก็เพิ่มขึ้นแปดองศาทันที: “เพียงสองเปอร์เซ็นต์เท่านั้นเหรอ? น้อยเกินไปหรือเปล่า?”
“คุณอยากได้เท่าไหร่?”
สีหน้าของซ่งเทียนซานบูดบึ้งทันที
การที่แบ่งให้เธอสองเปอร์เซ็นต์นั้น ถือเป็นสัมปทานที่ใหญ่สุดแล้ว เขาไม่คาดว่าหลินฉ่ายเวยจะไม่รู้ชั่วดีเช่นนี้!
“อย่างน้อยสิบเปอร์เซ็นต์!”
หลินฉ่ายเวยพูดกับซ่งเทียนซานอย่างมั่นใจ: “ตอนนี้เหวินเหวยเฉินเป็นแฟนของฉัน ถ้าไม่มีฉัน คุณคิดว่าคุณจะได้โครงการของสำนักงานการก่อสร้างตามที่คุณต้องการเหรอ?
“เป็นไปไม่ได้!”
สีหน้าของซ่งเทียนซานบูดลงทันที: “คุณคิดว่าหาแฟนดีๆได้แล้ว ก็สามารถขึ้นมาขี่หัวฉันได้ใช่ไหม?”
ออร่าแห่งการสังหารที่แข็งแกร่ง ถูกปลดปล่อยออกมาจากซ่งเทียนซาน ทำให้หลินฉ่ายเวยตกใจจนถอยหลังไปเล็กน้อย
เขากำลังจะพูด ทันใดนั้นเลขาก็รีบเข้ามา: “ประธานค่ะ คุณเหวินมาแล้วค่ะ”
ทันใดนั้นเอง ความบูดบึ้งบนใบหน้าของซ่งเทียนซานก็หายไปอย่างสิ้นเชิง และเขากล่าวด้วยความดีใจ: “ในที่สุดเขาก็มาสักที รีบไปเชิญเขาเข้ามา!”
เลขาพยักหน้าและจากไปในไม่ช้า
เมื่อรู้ว่าแฟนของเธออยู่ที่นี่ หลินฉ่ายเวยก็ไม่กลัวอีกต่อไป และพูดอย่างดุเดือดว่า: “เราจะพูดเรื่องนี้ในภายหลัง ฉันสามารถขอให้แฟนฉันมอบโครงการของสำนักงานการก่อสร้างให้กับคุณ หรือให้เขานำโครงการของสำนักงานการก่อสร้างกลับคืนมาก็ได้ ”
ซ่งเทียนซานเหลือบมองหลินฉ่ายเวยด้วยสายตาเย็นชา และไม่พูดสักคำ เพียงแต่รอให้เหวินเหวยเฉินเข้ามาอย่างเงียบๆ
ในไม่นาน ภายใต้การนำของเลขา เหวินเหวยเฉินในชุดสูทเดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้ม
“พี่เหวยเฉินค่ะ”
หลินฉ่ายเวยยิ้มอย่างอ่อนหวาน และกอดแขนของเหวินเหวยเฉินอย่างรักใคร่
เหวินเหวยเฉินมองไปที่หลินฉ่ายเวยด้วยสายตารังเกียจ แต่สุดท้ายเขาก็ไม่ผลักเธอออกไป ทันใดนั้น หลินฉ่ายเวยมองไปที่ซ่งเทียนซานด้วยสายตาประท้วงและมันบ่บอกถึงการเตือน
ซ่งเทียนซานเหลือบมองเธออย่างสงบ และเลือกที่จะเพิกเฉยเธอ จากนั้นก็ฝืนยิ้ม และถามว่า: “คุณเหวินครับ เตรียมสัญญามาแล้วใช่ไหมครับ?”
“แน่นอน ฉันจะลืมเรื่องสำคัญแบบนี้ไปได้อย่างไร”
เหวินเหวยเฉินหัวเราะสามครั้ง แล้วยื่นโฟลเดอร์ให้ซ่งเทียนซาน: “น้องเทียนซาน นายดูว่ามีปัญหากับเงื่อนไขของสัญญาหรือไม่ ถ้าไม่มีปัญหาให้เซ็นชื่อด้านล่างได้เลย”
“และมีอีกเรื่องหนึ่ง ไม่ทราบว่าน้องเทียนซานช่วยฉันถามหรือยังว่า คุณซ่ง จะมีเวลาว่างเมื่อไหร่?”
ซ่งเทียนซานรับเงื่อนไขของสัญญามาเหมือนได้รับสมบัติอันล้ำค่า และหัวใจที่ห้อยอยู่ของเขาก็วางลงโดยสิ้นเชิง ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น: “แน่นอนว่าผมถามแล้วครับ แต่ช่วงนี้เธอค่อนข้างยุ่งนิดหน่อย หากเธอว่างเมื่อไหร่ ผมจะรีบแจ้งให้คุณเหวินทราบเป็นคนแรกอย่างแน่นอนครับ—- ”
“งั้นก็ขอบคุณน้องเทียนซานด้วยนะครับ”
เหวินเหวยเฉินยิ้มอย่างสงบ แต่มีแววเย็นชาอยู่ในดวงตาของเขา เขารู้ดีว่า ซ่งเทียนซานไม่ได้พูดเรื่องตัวเองกับซ่งหรูอี้เลย สิ่งที่เขาพูดมันเป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้น
วิธีที่เร็วที่สุดสำหรับตระกูลเหวินในการเปิดตลาดในเมืองหมิงจู คือการร่วมมือกับซ่งหรูอี้แห่งตระกูลซ่ง เหวินเหวยเฉินไม่สามารถทำให้ซ่งหรูอี้ยอมพบเขาด้วยตัวเองอยู่แล้ว มีเพียงซ่งเทียนซานซึ่งเป็นคนในตระกูลซ่งเท่านั้นที่สามารถแนะนำเขารู้จักกับเธอได้ ไม่อย่างนั้นเขาเตะซ่งเทียนซานออกไปตั้งนานแล้ว
อย่างไรก็ตาม มันคุ้มค่าที่จะแลกเปลี่ยนความไว้วางใจของซ่งเทียนซาน โดยการใช้โครงการเล็กๆสองสามโครงการของตระกูลเหวิน
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ รอยยิ้มบนใบหน้าของเหวินเหวยเฉินก็ดูสดใสขึ้นเล็กน้อย และดวงตาของเขาก็มีความดูถูกเพิ่มขึ้นเช่นกัน
ซ่งเทียนซานเปิดสัญญาออกมาอ่าน หลินฉ่ายเวยตั้งหน้าตั้งตารอลายเซ็นของซ่งเทียนซาน อย่างไรก็ตามเอาโครงการของสำนักงานการก่อสร้างมาให้ได้ก่อน เพื่อที่เธอจะได้เงินแบ่ง
แต่ว่า หลังจากดูสัญญาแล้ว รอยยิ้มบนใบหน้าของซ่งซ่งเทียนซานก็แข็งตัวขึ้นเล็กน้อย จนในที่สุดรอยยิ้มก็ถูกยับยั้ง และเปลี่ยนเป็นสีหน้าที่เศร้าหมองโดยสิ้นเชิง
มุมตาของเขากระตุกอย่างรุนแรง ใบหน้าของเขาเดี๋ยวแดงเดี๋ยวขาว และแม้แต่ข้อมือที่จับสัญญาก็เริ่มสั่นเล็กน้อย ส่งผลให้กระดาษย่อยยับตาม
“มีอะไรเหรอ น้องเทียนซาน?” เหวินเหวยเฉินถามด้วยความกังวล
หลินฉ่ายเวยมองไปที่ซ่งเทียนซานอย่างสงสัย ใบหน้าของเขาดูเหมือนจะมีบางอย่างผิดปกติ
ซ่งเทียนซานปิดสัญญาโดยที่ยังอ่านไม่จบ เขาหายใจเข้าลึกๆ และมองไปที่เหวินเหวยเฉินด้วยรอยยิ้ม และพูดว่า: “คุณเหวิน คุณกำลังล้อเล่นกับฉันอยู่เหรอ?”
ทันทีที่คำเหล่านี้ออกมา เหวินเหวยเฉินก็สับสนทันที: “น้องเทียนซาน หมายความว่าไง?”
“อะไร หมายความว่าไง?!”
ซ่งเทียนซานโกรธจัดทันที และตบสัญญาต่อหน้าเหวินเหวยเฉิน และพูดด้วยความโกรธว่า: “นี่ไม่ใช่สัญญาสำหรับโครงการของสำนักงานการก่อสร้างเลย แต่เป็นแค่โครงการที่มีกำไรเพียงเล็กน้อยเท่านั้น! แกกล้าเอาสัญญาพวกนี้มา หลอกกูเหรอ?”
“อะไร?!”
หลังจากได้ยินคำพูดของซ่งเทียนซาน สีหน้าของหลินฉ่ายเวยก็เปลี่ยนไปอย่างมากเช่นกัน และเธอก็หยิบสัญญาที่ยับยู่ยี่ขึ้นมา และอ่านดูอย่างละเอียด
อ่านไปอ่านมา ใบหน้าของหลินฉ่ายเวยก็กระตุกอย่างรุนแรง และทั้งตัวของเธอก็สั่นเล็กน้อย: “นี่มัน…ไม่ใช่โครงการของสำนักงานการก่อสร้างที่ได้รับการอนุมัติจากด้านบนเลย!”
หลังจากหยุดไปชั่วขณะ เธอดูเหมือนจะคิดอะไรบางอย่างได้ จึงคลี่ยิ้มแล้วหันกลับมามองเหวินเหวยเฉิน: “พี่เหวยเฉินค่ะ หยุดแกล้งพวกเราได้แล้ว ฉันรู้ว่าคุณต้องการจะเซอร์ไพรส์เรา รีบเอาสัญญาตัวจริงของโครงการของสำนักงานการก่อสร้างออกมาได้แล้ว”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เหวินเหวยเฉินก็ลุกขึ้นยืนอย่างเร่งรีบ เขามองไปที่ซ่งเทียนซานและหลินฉ่ายเวยด้วยสีหน้าแปลกๆ: “พวกคุณต้องการโครงการเล็กๆของตระกูลเหวินไม่ใช่เหรอ ฉันเลยนำมาให้พวกคุณไง … ”
“โครงการเล็กป้ามึงสิ!”
ก่อนทีเหวินเหวยเฉินพูดจบ ซ่งเทียนซานก็คำรามออกมาจนขัดจังหวะคำพูดของเหวินเหวยเฉิน
จากนั้นตบหน้าของหลินฉ่ายเวยอย่างแรง และความโกรธที่ค้างอยู่ก็ระเบิดออกมาอย่างสิ้นเชิง: “เธอไปคุยกับเขายังไงกันแน่ ฉันต้องการโครงการของสำนักงานการก่อสร้าง คือโครงการของสำนักงานการก่อสร้างที่ได้รับการอนุมัติจากเอกสารอย่างเป็นทางการ ไม่ใช่โครงการเล็กเท่าขี้หมาเหล่านี้! ”