ถังเสี่ยวลี้ไม่รู้เรื่องที่ตัวเองถูกลักพาตัวเลย ระหว่างทางเธอคุยไม่หยุด และเล่าเรื่องที่เธอกับหลินจ้าวหยูนไปเล่นที่สวนสนุก
เห็นลูกสาวตัวเองที่ไม่ได้รับผลกระทบอะไร ถังเฉาถึงได้โล่งใจ สิ่งที่เขากลัวที่สุดก็คือการลักพาตัวครั้งนี้ จะทำให้เสี่ยวลี้มีความทรงจำที่ไม่มีวันลืม
เฟิ่งหวงขับรถ ไม่นานก็ได้มาถึงที่คฤหาสน์จื่อหยวน
หลินชิงเสว่และหลินจ้าวหยูนนั่งอยู่บนโซฟาและไม่ได้คุยอะไรกัน สีหน้าพวกนางดูลุกลี้ลุกลน
“ชิงเสว่ ฉันกลับมาแล้ว” ถังเฉาเปิดประตูและพูดออกมา
ได้ยินคำพูดของถังเฉา หลินชิงเสว่และหลินจ้าวหยูนลุกขึ้นเป็นไปตามที่คาด แล้วถามไปอย่างรีบร้อน: “เสี่ยวลี้อยู่ไหน? เสี่ยวลี้เป็นอะไรมั้ย? !”
ถังเฉาโบกมือ ถังเสี่ยวลี้ที่ยังไม่หายอยากได้กระโดดและวิ่งออกมา สีหน้าของเธอดูหวานหวานแหวว : “คุณแม่ คุณน้า ”
“เสี่ยวลี้”
เห็นเสี่ยวกลับมาอย่างปลอดภัยและไม่ได้บาดเจ็บอะไร หลินชิงเสว่และหลินจ้าวหยูนตื่นเต้นจนรีบวิ่งไปหาถังเสี่ยวลี้ และอุ้มถังเสี่ยวลี้ขึ้นมา ใช้สายตามองไปตามร่างกายเธอ: “เสี่ยวลี้ ลูกไม่เป็นอะไรใช่มั้ย ไม่ได้บาดเจ็บใช่มั้ย?”
ถังเสี่ยวลี้มีสีหน้าที่มึนงง: “คุณแม่ คุณแม่เป็นอะไร? หนูไม่ได้บาดเจ็บ”
เมื่อมั่นใจว่าร่างกายของถังเสี่ยวลี้ไม่ได้รับบาดเจ็บ แถมไม่ได้รับผลกระทบทางจิตใจด้วย หลินชิงเสว่ถึงได้โล่งใจ และกอดถังเสี่ยวลี้ไว้แน่น แล้วหลับตา: “แม่ดีใจมาก ที่ลูกไม่เป็นอะไร แม่เป็นห่วงจะตายอยู่แล้ว”
หลินจ้าวหยูนที่เห็นถังเสี่ยวลี้ไม่เป็นอะไร ก็ได้ดีใจจนร้องไห้ออกมา แต่เมื่อมองไปที่ถังเฉา เธอกลับรู้สึกผิดในใจมาก
“พี่เขย ฉันขอโทษ ฉัน”
ถังเฉากลับโบกมือ: “ไม่ต้องพูดแล้ว เรื่องมันผ่านไปแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือเสี่ยวลี้ปลอดภัย”
หลินจ้าวหยูนอ้าปากค้าง เหมือนจะพูดอะไรแต่ก็พูดไม่ออก ไม่รู้เป็นเพราะตื่นเต้นหรือเป็นเพราะความรู้สึกผิด ดวงตาของเธอเริ่มแดง และน้ำตาก็ได้ไหลออกมา
หลินชิงเสว่เห็นแบบนี้ ได้เข้าไปกอดเธอเบาๆ และเช็ดน้ำตาให้เธอ: “ไม่เป็นไรแล้วนะเรื่องนี้ไม่โทษเธอ เธอไม่ได้โทษตัวเอง”
“ขอบคุณนะพี่ พี่เขย……”
หลินจ้าวหยูนพูดด้วยความซาบซึ้งใจ แต่เสียงร้องไห้กลับดังขึ้น ในใจของเธอโทษตัวเองอยู่เสมอ
ที่ถังเสี่ยวลี้ถูกลักพาตัวไป ก็เป็นเพราะตัวเธอที่ดูแลเสี่ยวลี้ไม่ดี ถ้าไม่มีพี่เขย ชาตินี้เธอคงก่อบาปที่ไม่อาจจะให้อภัยได้แล้ว
แต่ไม่ว่าจะเป็นพี่สาวหรือพี่เขย ก็ไม่ได้ว่าโทษเธอมากเกินไป
แต่ตัวเธอกลับมีความคิดที่จะแย่งพี่เขยไปจากพี่สาวตัวเอง ทำให้ใจของหลินจ้าวหยูนรู้สึกผิดมาก
เล่นมาทั้งวันแล้ว ถังเสี่ยวลี้นอนหลับไปเร็วมาก และรอให้ลูกสาวหลับสนิท หลินชิงเสว่มองถังเฉาด้วยแววตาที่ขอบคุณและพูดว่า: “วันนี้ ขอบคุณนายมากนะ ถ้าไม่มีนาย ฉันไม่รู้จะใช้ชีวิตต่อไปอย่างไรจริงๆ …….”
ยังไม่รอให้หลินชิงเสว่พูดจบ ถังเฉาเอามือไปปิดปากเธอไว้ และส่ายหัว: “พวกเธอทั้งสองคน คนหนึ่งเป็นภรรยาฉัน และอีกคนเป็นลูกฉัน ทั้งสองคนเป็นคนที่สำคัญที่สุดของฉัน ฉันยอมที่จะทำทุกอย่างเพื่อพวกเธอ”
หลินชิงเสว่ตาแดงพร้อมอ้าปากค้าง แต่พูดอะไรไม่ออกเลย
เธอเป็นคนที่ไม่ค่อยแสดงความรู้สึกตัวเอง ใจเธอรู้สึกขอบคุณถังเฉามาก แต่กลับไม่สามารถส่งต่อความรู้สึกนั้นไปให้เขาได้ เธอถึงได้วิ่งเข้าห้องน้ำไปเพื่อล้างหน้า
ตอนที่หลินชิงเสว่เข้าห้องน้ำ ถังเสี่ยวลี้ที่หลับอยู่ลืมตาอย่างซุกซน และทำหน้าทำตาให้ถังเฉาเห็น
ทันใดนั้นถังเฉาตกใจ: “ลูกไม่ได้นอนหลับหรือ?”
ถังเสี่ยวลี้ส่ายหัว และพูดอย่างน่ารักว่า: “คุณพ่อคุณแม่ไม่นอน หนูก็นอนไม่หลับ”
ถังเฉาดีใจ และอุ้มถังเสี่ยวลี้ที่ตัวเล็กขึ้นมา และมานั่งบนขาอ่อนตัวเอง
เจ้าเด็กน้อยคนนี้สายตามองไปที่ห้องน้ำไม่หยุด และใช้น้ำเสียงที่ขี้อ้อนบอกกับถังเฉาว่า: “ตอนนี้คุณแม่กำลังตกใจอยู่ คุณพ่อ ตัองทำให้คุณแม่ยิ้มนะ”
ถังเฉาอึ้ง และยิ้มอย่างลำบากใจและพูดว่า: “พ่อทำให้ให้คุณแม่ยิ้มด้วยวิธีไหนดีละ?”
“ง่ายมาก แค่คุณพ่อดึกมือของคุณแม่และตะโกนออกไปหาคุณแม่ว่าที่รักก็ได้แล้ว”
“……..”
ถังเฉามองถังเสี่ยวด้วยดวงตาที่ถลน ในใจคิดว่าลูกสาวอายุแค่ห้าขวบ ทำไมถึงเข้าในเรื่องในด้านนี้มากขนาดนี้?
ขณะนี้ เขานึกถึงหลินจ้าวหยูนขึ้นมา รู้สึกตกใจ หรือว่าเป็นการถ่ายทอดทางพันธุกรรม?
ตอนนี้หลินชิงเสว่ได้ออกมา แต่ยังหยุดคิดถึงเรื่องที่ถังเสี่ยวลี้จะเกิดเรื่องไม่ได้ ดวงตาของเธอเลยยังแดง
“ที่รัก”
ถังเฉาเดินไปหน้าหลินชิงเสว่ และพูดด้วยความเกรงใจว่า: “ที่รัก”
การเรียกที่อ่อนหวานแบบนี้ ถังเฉายังรู้สึกถึงความไม่ธรรมชาติเลย แถมยังลังเลด้วย
หลินชิงเสว่ตกใจตาถลน อึ้งไปสักพัก ถึงได้ด่ากลับมาด้ายสีหน้าที่เขินอาย: “นายตะโกนบ้าอะไรออกมา ถ้าเสี่ยวลี้ได้ยินจะทำอย่างไง?”
ถังเสี่ยวลี้เอาผ้าห่มปิดหัวเอาไว้ และหลับตาพูดว่า: “เสี่ยวลี้หลับไปแล้ว ไม่ได้ยินอะไรเลย”
หลินชิงเสว่มองถังเสี่ยวลี้ที่ซ่อนอยู่ในผ้าห่มด้วยความงง เธอถึงได้รู้สึกตัว ที่จริงแล้วนี่เป็นแผนการของถังเสี่ยวลี้ หลินชิงเสว่ทำเป็นโกรธ: “ดีจังนะ ดึกขนาดนี้แล้ว ยังไม่ยอมหลับยอมนอน เดียวแม่จะตีก้นลูกนะ……”
ถังเสี่ยวลี้เอาผ้าห่มพันตัวและกลิ้งมาหลังถังเฉา หัวเราะออกมา: “หนูไม่กลัว หนูมีคุณพ่อ คุณพ่อจะปกป้องหนูเอง”
ทันใดนั้นหลินชิงเสว่ได้หัวเราะออกมาเสียงดัง และขึ้นไปบนเตียง กอดเสี่ยวลี้ไว้ ไปทำให้เสี่ยวลี้
จั๊กจี้
เห็นแม่ลูกที่กำลังเล่นกันอย่างมีความสุข ถังเฉาก็ได้ยิ้มในใจ ทำให้ใจของเขายิ่งเข้มแข็งกว่าเดิม
แม้ว่าจะเสียสละทุกอย่าง แม้ว่าจะเป็นศัตรู กับคนทั่วโลก ฉันจะค่อยปกป้องรอยยิ้มของพวกเธอ
เมื่อเล่นกันจนเสร็จ หลินขิงเสว่และถังเสี่ยวลี้กำลังที่จะนอน ถังเฉาก็กำลังที่จะเอนตัวลงไป
ขณะที่ล้างหน้าแปรงฟันเสร็จ มีเสียงกระดิ่งติ๊งต่องดังมาจากชั้นล่าง
ถังเฉามีสีหน้าที่แปลกใจ ดึกแบบนี้แล้ว ใครจะมาหาอีกนะ?
หลินชิงเสว่เป็นคนที่ไม่ค่อยคบใคร และที่สำคัญคฤหาสน์จื่อหยวนอยู่ห่างจากคฤหาสน์หลังอื่นมาก เป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นเพื่อนข้างบ้านมาทักทาย
หลินชิงเสว่กำลังที่จะลงไป ถังเฉาได้เรียกเธอไว้: “เดียวฉันไปเอง”
พูดจบ เขาค่อยๆ ลงบันไดไป
เขาไม่ได้ไปเปิดประตูทันที แต่มองผ่านกล้องวงจรปิด
หน้าประตูไม่มีคนเลย
เห็นแบบนี้ ถังเฉาหรี่ตาทันที คืนนี้ที่เจอเรื่องที่น่าตกใจไม่น้อย เขาถึงต้องระมัดระวังตัวมากขึ้น
เขาปรากฏแววตาที่ดุดัน ตัวของแข็งทื่อ และหายใจเข้าลึกๆ และเปิดประตูออกไป
ระหว่างที่เปิดประตู มีเงาร่างสีดำพุ่งเข้าหาเขา
“รนหาที่ตาย!”
ถังเฉาคิดว่าเป็นนักฆ่าที่จะมาทำร้ายครอบครัวตัวเอง เขาเลยเกิดความอาฆาต กำลังที่จะลงมือ จมูกของเขาได้กลิ่นหอมอ่อนๆที่คุ้นเคย
และต่อมา มีผู้หญิงที่ใส่ชุดกระชับส่วนเข้ามากอดตัวเขา
เธอหลับตาอยู่ และกอดถังเฉาอย่างหมดเรี่ยวแรง เหมือนคิดว่าจิตสุดท้ายของตัวเธอคงอยู่ที่ถังเฉาแล้ว
ทันใดนั้น ถังเฉารู้สึกตะลึงมาก สิ่งที่ทำให้เขาตะลึงไม่ใช่ผู้หญิงที่เข้ามาโอบกอด แต่เป็นเพราะว่าผู้หญิงที่ใส่ชุดกระชับส่วนสีดำคนนี้ตัวของเธอเต็มไปด้วยเลือด
บนร่างกายเธอ มีบาดแผลที่เกิดจากมีดอยู่หลายแผล และเลือดยังไหลออกมาอยู่
ถังเฉาพลิกตัวผู้หญิงคนนี้ขึ้นมา เมื่อเห็นใบหน้าเธอ เหมือนฟ้าผ่าต้นเอง เขาตกตะลึงมาก
“ไป๋เสว่?!”