รอยยิ้มของช่ายเหลียนยังไม่ทันยิ้มออกมา ใบหน้าเขาก็ถูกเยือกแข็งสิ้นเชิง
ต่อมาเขามีสีหน้าที่เหมือนได้ยินอะไรที่น่าตกใจ จนทำให้หน้าเขาชักอย่างรุนแรง
ที่เธอพูดว่าเปลี่ยน ก็คือการเปลี่ยนคนจริงๆ แต่คนที่จะต้องเปลี่ยนคือผู้กำกับ ไม่ใช่นักแสดง
เปลี่ยนผู้กำกับหรือ นี่มันเรื่องอะไรกัน?
ช่ายเหลียนโมโหจนสีหน้าเขาซีดเผือดและตัวสั่นไม่หยุด สีหน้าเขาเขินอายมาก สีหน้ากลับไปเป็นเหมือนเดินไม่ได้แล้ว
ในขณะเดียวกันที่เขาโกรธ ใจของเขาก็มีความน้อยใจอยู่เล็กน้อย อย่างไรก็ตามเขาก็เป็นผู้กำกับที่มีชื่อเสียง จะทำแบบนี้กับเขาได้อย่างไร?
เมื่อดูในวงการบันเทิงทั้งหมด ไม่เคยเกิดเหตุที่ผู้กำกับถูกเปลี่ยนตัวโดยผู้สร้างเลยนะ
ช่ายเหลียนโมโหจนจะตายให้ได้ เขาเป็นผู้กำกับ เขาก็มีอารมณ์เหมือนกันเขาอยากที่จะฮื้อออกมาดังๆ และเดินจากไปด้วยดื้อด้าน แต่คิดดูแล้วถ้าตัวเองถูกเปลี่ยนตัวแบบนี้ จะไม่ทำให้ตัวเองขายหน้าหรือ?
ต่อมาเขาก็เลยเปลี่ยนความคิด
คนในกองถ่าย รวมไปถึงถังชิงเหอ มองหลินชิงเสว่ด้วยสีหน้าที่ตกใจ ไม่มีใครเคยคิดเลยว่า ที่หลินชิงเสว่บอกว่าให้เปลี่ยนคน คือหมายถึงเปลี่ยนผู้กำกับ
ขณะนี้ทุกคนได้มองไปหาถังเฉาด้านความสงสัย และเดาในใจว่าเขาเป็นใครนะ ทำไมผู้สร้างภาพยนตร์ถึงต้องเอาใจเขาแบบนี้ด้วย
ถังเฉาไม่คิดเลยว่าหลินชิงเสว่จะอารมณ์ร้อนแบบนี้ และไม่พูดอะไรเลยแล้วไปเปลี่ยนตัวผู้กำกับเลย เขาเลยไปพูดกับหลินชิงเสว่ว่า: “ทำแบบนี้ไม่ดีมั้ย? ฉันแค่เสนอคำแนะนำ ไม่มีเจตนาอื่น”
ช่ายเหลียนมองถังเฉาด้วยสีหน้าที่ขอบคุณทันที ไม่คิดเลยว่า คนที่ช่วยพูดให้ตัวเขา จะเป็นถังเฉาที่เขาดูถูกมาตลอด
แต่หลินชิงเสว่ก็ไม่ได้สนใจอะไร สีหน้าก็ยังเฉยเมยเหมือนเดิม: “คุณคิดว่าคุณเป็นผู้กำกับที่มีฝีมือในวงการบันเทิง แล้วคุณจะมีศักดิ์สูงกว่าคนทั่วไป?”
คำพูดเมื่อออกจากปาก ทำให้ช่ายเหลียนตกใจจนหน้าซีดไปหมดและไม่พูดอะไรต่อเลย
หลินชิงเสว่แสดงจุดยืนของตัวเองชัดเจน ถึงผู้กำกับจะใหญ่ แต่จะใหญ่ว่าผู้สร้างได้อย่างไร?
เธอใช้แววตาที่แหลมคมมองไปที่ช่ายเหลียนและพูดว่า: “นักแสดงไม่ดี เปลี่ยนได้ ผู้กำกับไม่ดี ก็เปลี่ยนได้เช่นกัน ไม่มีใครดูถูกใครได้หรอก เข้าใจมั้ย?”
“เข้าใจแล้วครับ เข้าใจแล้วครับ!”
ความหยิ่งผยองของช่ายเหลียนที่เป็นผู้กำกับชื่อดังได้หายไป ตอนนี้เขารีบพยักหน้าเหมือนลูกไก่ที่กำลังกินเมล็ดข้าวอยู่
“นอกจากนี้ ฉันคิดว่าความคิดของเขาดีนะ ก็ถ่ายตามแบบความคิดเขาก็แล้วกัน ถึงคุณจะไม่ยอมถ่าย แต่ก็ต้องถ่าย!”
หลินชิงเสว่ใช้น้ำเสียงที่เยือกเย็นพูดออกมา กิริยาที่แข็งกร้าวแบบนี้ ทำให้คนที่อยู่ในจุดๆนั้นรู้สึกถึงแรงกดดันที่ยิ่งใหญ่
“ฉันจะบอกอะไรนะ น้ำหอมAngelนี้ ต้นแบบก็คือลูกสาวฉัน ถังเฉาเขาพูดสิ่งที่อยู่ในใจฉันออกมาหมดแล้ว”
“อะไรนะ? !”
ประโยคนี้ถูกพูดออกมา ทุกคนมีสีหน้าที่ตกใจ และมองถังเฉาด้วยสีหน้าที่อึ้ง
ผู้กำกับยังไม่รู้เลย แต่คนนอกกลับเข้าใจ?
“ภารกิจการถ่ายทำขั้นต่อไป ทุกอย่างทำตามเนื้อหาที่ถังเฉาได้พูดไว้ คุณแค่ดูมุมกล้องให้ภาพออกมาดีก็พอแล้ว” สุดท้ายหลินชิงเสว่ก็ไม่ได้เปลี่ยนผู้กำกับ
“แต่ถ้าทำแบบนี้ จะทำให้บทบาทของถังชิงเหอลดลงไปมากเลยนะ” ช่ายเหลียนยังมีข้อโต้แย้งสุดท้าย
“ฉันไม่เป็นไร”
ถังชิงเหอยิ้มอย่างอบอุ่น: “ขอแค่ผลงานออกมาดี บทบาทจะเยอะจะน้อย ก็ไม่เป็นไร”
“งั้นก็ได้”
ถ้าถังชิงเหอไม่ถือสา ช่ายเหลียนก็พูดอะไรไม่ได้
เงียบอยู่พักหนึ่ง เขาพูดกับถังเฉาว่า: “งั้นคุณก็เป็นคนคิดบทก็แล้วกัน”
ระหว่างที่พูด มุมปากของเขาปรากฏรอยยิ้มที่เยือกเย็น
เขาไม่เชื่อว่า คนนอกอย่างถังเฉา จะคิดอะไรดีๆ ออกมาได้
ถังเฉาก็ตกอยู่ในความเงียบ งานด้านการเขียนบท เขายังเป็นเด็กฝึกหัด
หนึ่งนาที ห้านาที สิบนาที…….
สิบห้านาทีเต็มๆผ่านไป ถังเฉายังคิดบทที่เหมาะสมออกมาไม่ได้
ถังชิงเหอยิ้ม: “ค่อยๆคิดก็ได้ ไม่ต้องรีบ บทละครคิดง่าย แต่ถ้าจะให้เนื้อหาดี ก็อาจจะใช้เวลาหน่อย”
ถังเฉายิ้มและมองไปหาเธอ ก็จริงนะ การคิดบทละครไม่ยาก เมื่อกี้ฉันคิดบทชั่วคราวมาสองสามบท แต่ฉันคิดว่าไม่เหมาะสมเท่าไหร่
เวลาผ่านไปนาน คนในกองถ่ายเริ่มไม่พอใจกับถังเฉาแล้ว แต่เห็นสายตาของหลินชิงเสว่แล้ว พวกเขาก็ต้องทน
คนบางคนก็เป็นแบบนี้ เพียงแค่สายตา และคำพูดก็ทำให้คนอื่นรู้สึกถึงแรงกดดันได้แล้ว
“คุณพ่อ หนูหิวแล้ว!”
ขณะนี้ถังเสี่ยวลี้เล่นจนเหนื่อยและกระโดดโลดเต้นมาหาถังเฉา
ถังเฉาอุ้มลูกมานั่งที่ขาตัวเอง: “ได้เลย เดียวคุณพ่อจะหาของกินที่อร่อยๆให้นะ”
ท่านั่งของเขาในตอนนี้ ทำให้ถังเฉาอึ้งไปสักพัก
ต่อมาเขามองไปหาทุกคน: “ผมคิดออกแล้ว”
“คุณคิดอะไรออกหรือ?”
ถังชิงเหอมองถังเฉาด้วยความสงสัยและถามไป
ช่ายเหลียนและคนอื่นกลับมองถังเฉาด้ายสีหน้าที่ไม่เชื่อใจ: “ในเวลาอันสั้นนี้ จะคิดอะไรที่ดีๆ ออกมาได้?”
ถังเฉาพูดอย่างจริงจังว่า: “ผมคิดว่า พวกเราความจำกันที่มากเกินไป ไม่ต้องการบทใช้เพียงแค่สายตา ถ้าสายตรงกัน อาจจะเห็นผลกว่าใช้บทอีก”
“จะทำแบบนี้ได้ไง?”
ได้ยินแบบนี้ ช่ายเหลียนมีสีหน้าที่มืดมนอีกครั้ง: “โฆษณาไหนที่จะไม่มีบทละ?”
“แล้วทำไมถึงต้องหารบท?”
ถังเฉาตอบกลับ: “พวกเราต้องแสดงความรักออกมา บทถึงจะสะสวยแค่ไหน จะอธิบายความรักออกมาได้หรือ?”
“คือ…….”
แค่คำถามที่ง่ายแบบนี้ ก็ทำให้ช่ายเหลียนตอบไม่ได้แล้วหรือ
“ใช้คำพูดในการอธิบายความรัก มันดูว่างเปล่า และไม่ครบรสไปหน่อย”
ถังเฉาส่ายหัวแล้วพูดว่า: “น้ำหอมแบรนด์เนมของบริษัทลี่จิงกรุ๊ปนั้นจะรับความนิยมในผู้หญิงช่วงอายุยี่สิบห้าถึงสามสิบห้าปี พวกเธอเข้าใจและกระหายความรักที่เป็นผู้ใหญ่มากที่สุด ในยุคที่การหย่าร้างเหมือนดั่งการกินน้ำนี้ รักแท้ยังมีจริงอยู่มั้ย?”
ถังชิงเหอฟังแล้วใจเต้นเร็วมาก หลินชิงเสว่วางแก้วชาในมือลง และมองถังเฉาด้วยความแปลกใจ
ถังเฉาเหมือนรู้สึกอะไรได้ หันกลับไปมองแววตาของหลินชิงเสว่ พูดด้วยความรู้สึกที่ตัวเองมี: “ความรักหลากหลายมาก สองคนก็คือความรัก สามคนก็เป็นความรักเหมือนกัน”
“โฆษณานี้มีความยาวสี่สิบวินาที และเห็นของผู้หญิงครึ่งเช้าในสี่สิบวินาที ผมคิดว่าผู้หญิงทุกคนต้องยอมรับแน่ๆ เพราะถ้าดัดแปลงความรักแล้ว ก็จะกลายเป็นความผูกพัน พวกคุณคิดอย่างไง?”
ไม่มีใครให้คำตอบเลย ทุกคนมีสีหน้าที่ตะลึง มองอยู่สักพัก ผู้หญิงในกองถ่ายยิ้มแหยออกมา
“ดี! ดีมาก!”
ช่ายเหลียนเป็นคนแรกที่รู้สึกตัว และตื่นเต้นจนหน้าแดงไปหมด ความสงสัยและการดูถูกเมื่อกี้ได้หายไป: “งั้นก็ถ่ายตามคุณถังบอก ผมมีรางว่า โฆษณานี้จะต้องดังแน่ๆ!”
ขณะเดียวกัน รองผู้กำกับได้ถือโทรศัพท์ที่สั่นเดินมา: “ผู้กำกับ สายจากต่งวี่ซู่ เขาถามว่าพวกเราถ่ายกันถึงไหนแล้ว ถ้าการถ่ายทำไม่ราบรื่น เขามาแทนที่ได้เสมอ”
“ให้เขาไปตายเถอะ”
ยังไม่รอให้รองผู้กำกับพูดจบ ช่ายเหลียนแย่งโทรศัพท์มา และตัดสายไปแลัวโยนโทรศัพท์ทิ้งไป: “บทละครตัวนี้ ต้องเป็นของถังเฉาเท่านั้น ความคิดนี้เขาเป็นคนคิด และเขาจะแสดงได้ดีที่สุด!