แสงแดดแผดเผา ดวงอาทิตย์สาดแสงแรงกล้า ใบหน้าของทุกคนในตระกูลหลินล้วนปวดแสบปวดร้อน
ไม่มีใครคิดถึงว่า ‘ของขวัญชิ้นใหญ่’ ที่ถังเฉาพูดถึงจะเป็นโลงศพสีแดงสด!
โลงศพหนักอึ้ง ว่างเปล่า สีแดงสด กระตุ้นหัวใจของทุกคนอย่างล้ำลึก
“รังแกกันเกินไปแล้ว… รังแกกันเกินไป!”
หลินอิ่นโมโหจนลูกตาแทบแตกออกมา ในดวงตามีสีแดงของโลหิต โกรธจนสั่นไปทั้งร่าง
ตั้งแต่ตระกูลหลินตั้งตระหง่านมั่นคงดุจขุนเขาอยู่บนเซี่ยกั๋วมานับครึ่งศตวรรษเป็นต้นมา ก็ไม่เคยถูกใครทำให้อับอายขายหน้าเช่นนี้มาก่อนเลย ทั้งยังส่งโลงศพสีแดงสดมาอีก ไม่เห็นพวกเขาอยู่ในสายตาจริง ๆ
หลินโป๋หลายก็ยิ่งหวาดกลัว ทั้งยังเดือดดาล ดูไม่ออกเช่นนี้ โลกศพที่ถังเฉาเตรียมมา คือของที่มอบให้กับเขา?
“นี่คือของที่จะให้ฉันงั้นเหรอ?”
เขาหรี่ตาลง พูดด้วยรังสีสังหารเข้มข้น
สายตาของถังเฉาค่อย ๆ หนาวเย็นลงทีละน้อย ๆ “เป็นลูกพี่ลูกน้องของชิงเสว่ กลับเรียกคนข้างถนนไปลักพาตัวเธอมา คุณว่า คุณสมควรตายไหมล่ะครับ?”
หลินโป๋หลายเดือดดาลจนกลับหัวเราะออกมา “ทำไมฉันถึงทำอย่างนี้ แกไม่รู้จริง ๆ เหรอ?”
ถังเฉาไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่มองเขาอย่างเย็นชา
“ถังเฉา ต่อให้แกเป็นประธานของบริษัทแห่งหนึ่งที่เป็นบริษัทมหาชนจำกัดแล้ว แต่ก็ยังไม่คู่ควรกับน้องสาวของฉัน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงที่แกเป็นแค่สวะที่ไม่มีงานทำ แกมีคุณสมบัติอะไรจะมาอยู่กับน้องสาวของฉัน?”
หลินโป๋หลายก้าวยาว ๆ มาอยู่ตรงหน้าของถังเฉา มองเขาด้วยสายตามืดครึ้ม “เธอกับแกสองคนไม่ใช่คนที่อยู่บนโลกเดียวกันตั้งแต่แรก ความแตกต่างนี้ ไม่ใช่สิ่งที่แกพยายามแล้วก็จะสามารถชดเชยเอาได้”
“คนระดับล่างก็ควรจะมีจิตสำนึกของคนระดับล่าง หาผู้หญิงธรรมดา ๆ สักคน ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายธรรมดาไม่ดีหรือ?”
ในคฤหาสน์ที่ใหญ่โตมโหฬารสะท้อนเสียงที่เต็มไปด้วยความหยิ่งยโสของหลินโป๋หลาย
ความหยิ่งยโสเช่นนี้ ไม่ใช่สิ่งที่สามารถแสร้งทำออกมาได้ แต่มันเป็นมาตั้งแต่เกิด สิ่งที่ซึมเข้าไปในกระดูก
“คนระดับล่าง?”
ถังเฉาถูกคำพูดนี้ยั่วให้โมโหเข้าให้แล้ว ดวงตาหรี่ลงน้อย ๆ สาดประกายอันตรายผ่านไป “คุณมันก็แค่คนที่เกิดมาดีหน่อย ก็สามารถเรียกตัวเองว่าเป็น ‘คนระดับบน’ ได้แล้วเหรอ? จะว่าไปอีกอย่าง คุณรู้ได้ยังไงว่าผมไม่มีอำนาจบารมี ไม่แน่นะ… ฐานะของผมอาจจะสูงศักดิ์ยิ่งกว่าคุณ หรือแม้กระทั่งหลินรั่วหวีด้วยซ้ำ?”
“บังอาจ!”
หลินโป๋หลายเบิกตาโตด้วยความโกรธจัด “แกนับเป็นตัวอะไร กล้ามาเรียกชื่อของผู้นำโดยตรง?”
เขาหยุดอยู่สักพักแล้วก็เก็บพลังกลับมา มองถังเฉาแล้วเอ่ยว่า “ฉันรู้ว่านายชอบน้องสาวของฉันจากใจจริง แต่ว่า ถ้านายยังทำแบบนี้ต่อไปจะเป็นการดึงเอาความตายเข้ามาหาตัว แม้แต่พวกเรายังแยกพวกนายออกจากกัน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงผู้นำ พ่อของน้องสาวอีกล่ะ?”
ถังเฉาคิ้วกระตุก “คุณอยากจะพูดอะไร?”
เห็นเพียงหลินโป๋หลายเอ่ยเสียงเรียบ “ตระกูลหลวงในเยี่ยนตูของฉันไม่ใช่คนไม่มีเหตุผล ในเมื่อนายมาถึงเยี่ยนจิงแล้ว ก็เพียงพอที่จะพิสูจน์จิตใจของนายได้ ฉันก็จะปล่อยนายไปเป็นเรื่องหนึ่ง…”
ว่าแล้วเขาก็ล้วงปากกากับกระดาษออกมาจากอก เขียนเช็คสิบล้านหยวนออกมาหนึ่งใบ โยนไปที่ด้านหน้าของถังเฉา “นี่คือเช็คสิบล้านหยวน เพียงพอที่จะให้นายใช้ชีวิตกับลูกสาวของนายได้ไปทั้งชาติ รับมันไป แล้วหย่ากับน้องสาวฉันซะ จากนั้นก็ไสหัวออกไปจากเยี่ยนจิง แล้วไม่ต้องเหยียบย่างเข้ามาอีกแม้แต่ก้าวเดียวตลอดไป!”
ไม่เพียงแค่หลินโป๋หลาย แต่คนในตระกูลหลินทุกคนก็มองถังเฉาด้วยสายตาเย็นชา
คนพวกนี้มีคุณป้าใหญ่ คุณป้ารองของหลินชิงเสว่ แล้วก็มีคุณลุงกับคุณอาของหลินชิงเสว่ แต่ว่าไม่มีใครเลยสักคนที่จะพิจารณาปัญหาจากจุดยืนของหลินชิงเสว่เลยสักคน มองเห็นแต่ตัวเองเท่านั้น
“นี่คือเป้าหมายที่แท้จริงที่พวกคุณให้ฉันเรียกพี่สาวกลับมาบ้านสินะ!”
หลินจ้าวหยูนที่ท้ายที่สุดก็เหมือนจะเข้าใจอะไรขึ้นมาได้สองตาแดงก่ำ น้ำตาไหลพรากลงมา “พวกคุณไม่ได้อยากให้พี่กลับมาจริง ๆ แต่กลับ… ใช้ประโยชน์จากเธอ!”
“จ้าวหยูน เธอไม่เข้าใจ!”
หลินโป๋หลายตะโกนเสียงดังออกมาด้วยสีหน้ามืดครึ้ม “ที่จริงแล้วพี่สาวของเธอคือ…”
“โป๋หลาย!”
ในตอนที่หลินโป๋หลายจะพูดอะไรออกมานั่นเอง หลินอิ่นก็ตวาดออกมาด้วยความโกรธ ร้องห้ามเขาไว้เสียงดัง
“ครับ พ่อ”
หลินโป๋หลายถึงได้หยุดปาก ไม่พูดอะไรออกมาอีก
“พี่สาวของฉันทำไม พวกคุณรีบบอกฉันมานะ!”
สีหน้าของหลินจ้าวหยูนยิ่งร้อนรนยิ่งขึ้น คว้ามือของทุกคนเอาไว้
แต่ทว่า… ไม่มีใครบอกเธอเลยสักคน
ลั่วเยนอวิ๋นที่อยู่ข้าง ๆ มองเห็นอยู่ในสายตา เธอถอนใจเบา ๆ ในใจ เธอน่าจะยังไม่รู้ว่าเธอกับหลินชิงเสว่ความจริงไม่ใช่พี่น้องแท้ ๆ ของกันและกัน
“คุณพ่อคะ หนูจะไม่ได้เจอคุณแม่แล้วใช่ไหมคะ?”
ในตอนนี้ถังเสี่ยวลี้เองก็เหมือนจะรู้อะไรขึ้นมา เธอดึงมือของถังเฉาเบา ๆ
เจ้าหนูน้อยตาแดงก่ำ บึนปากน้อย ๆ ราวกับใกล้จะร้องไห้ออกมาแล้ว
ถังเฉาเห็นท่าทางอย่างนั้น ในใจก็ไม่สบายใจขึ้นมาอย่างรุนแรง
ถึงแม้ว่าเสี่ยวลี้จะอายุยังน้อย แต่ว่าเธอฉลาดมาก ต่อให้ไม่มีปัญญาจะมาเข้าใจบทสนทนาของพวกเขา แต่ยังรู้สึกได้อย่างคลุมเครือว่ายากที่จะได้พบกับแม่อีกครั้ง
“ไม่หรอกค่ะ อีกแป๊บเดียวพวกเราก็จะได้เจอคุณแม่แล้วนะคะ พ่อรับรองเลยค่ะ!”
ถังเฉาย่อตัวลง เช็ดคราบน้ำตาบนใบหน้าของเธอเบา ๆ อย่างระมัดระวัง จากนั้นก็เก็บเช็คสิบล้านหยวนบนพื้นขึ้นมา
พอเห็นฉากนี้ สายตาของหลินโป๋หลายก็กลายเป็นหยิ่งยโส หัวเราะเสียงเย็นออกมาครั้งหนึ่ง “ดูเหมือนความรู้สึกที่นายมีต่อน้องสาวของฉันก็ไม่เท่าไหร่นะ ยังคงเลือกเงินสิบล้าน เธอรู้แล้วจะต้องเสียใจมากแน่ ๆ…”
“พี่เขย คุณทำอะไรน่ะ?!”
หลินจ้าวหยูนเองก็มองถังเฉาอย่างไม่อยากจะเชื่อ ไม่ว่าอย่างไรก็คิดไม่ถึงว่าพี่เขยของเธอจะเก็บเช็คใบนั้นขึ้นมา
อย่างไรก็ตาม ถังเฉาไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่พับครึ่งใบแคชเชียร์เช็ค พับครึ่ง และพับครึ่งอีก จากนั้นก็ฉีกเบา ๆ ภายใต้การจับจ้องมองของทุกคน
แควก…
เช็คมูลค่าสิบล้านหยวนถูกถังเฉาฉีกเป็นชิ้นเล็ก ๆ อย่างละเอียดในพริบตา ลอยกระจายเต็มท้องฟ้า
อารมณ์บนใบหน้าของหลินโป๋หลายเปลี่ยนเป็นเย็นยะเยือกในทันที เอ่ยอย่างน่าสะพรึงกลัวว่า “ดูเหมือนนายจะเลือกไปตายนะ…”
ถังเฉากลับจูงมือถังเสี่ยวลี้ สายตากวาดมองทุกคนรอบ ๆ
สายตาที่ล้ำลึกสั่นสะเทือนจิตใจราวกับมังกรผงาดง้ำ พยัคฆ์หวนพงไพร
“ชาตินี้ของฉัน ถังเฉา ไม่ละอายต่อฟ้า ไม่ละอายต่อดิน ไม่ละอายต่อต้าเซี่ยที่เกรียงไกร สรรพสัตว์ทั้งปวง เพียงสิ่งเดียวที่ละอายใจ มีเพียงคนคนเดียวเท่านั้น”
น้ำเสียงของเขาทุ้มต่ำ นำพาความเดือดดาลที่มิอาจเอื้อนเอ่ย และยิ่งนำพาความสะอึกสะอื้น
“เธอช่วยชีวิตผม แต่ตอนที่เธอตั้งครรภ์สิบเดือน ในตอนที่ลำบากที่สุด ตอนที่เธอปราศจากความช่วยเหลือนั้น ผมกลับไม่ได้อยู่ข้าง ๆ เธอ จนกระทั่งตอนนี้ ผมสาบานอยู่ในใจว่าจะภักดีต่อเธอ ปกป้องเธอ รักเธอไปตลอดชีวิต แม้ตายก็จะไม่เปลี่ยนแปลง!”
“ชาตินี้ทั้งชาติของผม จะมีเธอเป็นภรรยาเพียงคนเดียวเท่านั้น”
“เธอบาดเจ็บ ทุกคนต้องตาย!”
สิ้นประโยคสุดท้าย รังสีสังหารที่น่าสะพรึงกลัวฟุ้งตลบไปทั่วทั้งสี่ทิศ
เฟิ่งหวงตามอยู่ด้านหลังโดยไม่ได้พูดอะไรแม้แต่คำเดียว ในมือมีกริชที่คมกริบเย็นวาบเพิ่มขึ้นมาหนึ่งเล่ม
ไอพวกไม่ชอบไม้อ่อน ชอบเอาไม้แข็ง…”
ทันใดนั้นบนใบหน้าของหลินโป๋หลายก็ปรากฏความดุร้ายขึ้นมา ตวาดด้วยความเดือดดาลว่า “ลุยกันให้หมด ให้มันได้รู้ว่าล่วงเกินตระกูลหลวงในเยี่ยนตูของฉันแล้วจะมีจุดจบอย่างไร!”
“ฆ่า!”
หน่วยคุ้มกันพิเศษทั้งหมดพุ่งเข้ามาหาถังเฉาพร้อมกัน
เสียงร้องว่าฆ่าสะเทือนฟ้าดังไปทั่วทั้งคฤหาสน์
ถังเฉากลับจูงถังเสี่ยวลี้ เดินต่อไปทางปราสาท
หนูน้อยประหลาดใจ คิดจะหันกลับไป ถังเฉากลับกดบ่าของเธอเอาไว้ “อย่าหันกลับไป”
ถังเสี่ยวลี้ร้องอ้อออกมาหนึ่งคำ แต่ก็ยังคงไม่หันกลับไปอย่างฉลาดเฉลียว
ในตอนนี้เฟิ่งหวงได้ยืนอยู่ด้านหน้าของผู้คุ้มกันทุกคนแล้ว นัยน์ตาสีแดงก่ำเต็มไปด้วยความปรารถนาที่จะสังหาร
“ผู้ที่รุกรานรองหัวหน้า ฆ่าโดยไม่ลดโทษ!”